บทที่ 98 มือดีพิศดาร
ในห้องโถงอันโอ่อ่างดงามนั้น เผยให้เห็นสีหน้าของบุคคลทั้งห้าที่ดูไม่ดีนัก

ตู้ปางหลง ชายผิวแทนผู้เป็นหัวหน้าของกลุ่มมังกรดำ และเป็นเจ้าของมืออันหยาบกระด้างที่ประดับด้วยแหวนไพลินบนแม่โป้งที่กำลังเคาะลงบนพื้นโต๊ะอย่างต่อเนื่อง สีหน้าเขาดูมัวหมองถึงที่สุด

บนถนนทางหลวง ทั้งเรื่องที่มือสไนเปอร์ไม่สามารถเก็บเป้าหมายของเขาได้ และการตายของซ่งเทียนยิงที่คาสิโนเทียนหัว เหตุการณ์เหล่านี้นั้นได้ทำให้พวกเขาถึงกับทำอะไรไม่ถูกไปในทันที ดังนั้นในที่สุดพวกเขาได้ส่งคนไปตรวจสอบอย่างละเอียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความล้มเหลวนี้คงไม่อาจตำหนิสายลับของพวกเขาได้ เพราะชายหน้าบากมาพร้อมกับทีมตำรวจกองปราบ มันเหมือนเป็นการรักษาความปลอดภัยอย่างดีเลยทีเดียว

“ถ้าเราจะจัดการเจ้าเด็กสกุลเย่ เราต้องกำจัดมันโดยเร็วที่สุด ไม่งั้นมันจะไปขอความช่วยเหลือจากตระกูลหลินได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง”

เสียงของตู้ปางหลงที่แฝงไปด้วยอำนาจดังก้องกังวาน สมกับที่เป็นหัวหน้าของกลุ่มมังกรดำ ช่างไม่ธรรมดาเสียจริง “ถึงเวลาสินะที่ต้องขอให้ท่านไซ่เชาเรียก‘มือดี’มายังที่นี่”

ทันทีที่ได้ยินคำวา “มือดี” พวกเขาแทบทั้งหมดสั่นสะท้านไปทั่วทั้งร่าง ไม่เว้นแม้แต่ผู้ดูแลความปลอดภัยทางด้านการเงินของกลุ่มอสรพิษสวรรค์ หญิงสาวผู้มีวัย 30 ปีแต่ยังคงเปี่ยมไปด้วยความงดงาม เมื่อเธอได้ยินชื่อนี้ สีหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นซีดขาวราวซากศพ เห็นได้ชัดว่าเธอมีบางสิ่งบางอย่างที่กลัวฝังลึกเข้าไปใจ

“ท่านไซ่เชานั้นไม่ต้องการที่จะสร้างความขัดแย้งใด ๆ กับตระกูลหลินโดยตรง แม้ว่ามือดีจะสามารถจัดการเจ้าเด็กสกุลเย่ได้ ถึงตอนนั้นท่านไซ่เชาจะเห็นด้วยกับเรื่องนี้หรือ?”

ชายหน้าเหลี่ยมซ่งหูพูดออกมา

“หรือเราควรจะจ้างพวกนักฆ่าอีกครั้ง?”

ใบหน้าที่เปี่ยมสเน่ห์ของหญิงสาวขมวดเข้าหากันในขณะที่เธอกล่าว

“นั่นจะไม่ทันการณ์ เรื่องนี้จะต้องดำเนินการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

ตู้ป่างหลงพูดด้วยเสียงอันดังและก้องกังวาน “มีข่าวลือว่า เจ้าเด้กสกุลเย่นั้นมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้ฝึกยุทธ์ฝีมือสูง ทั้งยังหมั้นหมายกับลูกสาวคนโตหลินชื่อฉิงเรียบร้อยแล้วอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ท่านไซ่เชาจึงตัดสินใจแล้วว่าเจ้าเด็กนั่นจะเป็นเป้าหมายที่สำคัญที่สุดของเขา”

หลังจากกล่าวเสร็จ เขาก็ดึงโทรศัพท์ออกมาแล้วเริ่มโทรออกไปยังหมายเลขโทรศัพท์ลึกลับ ทันทีที่สิ้นสุดเสียงเตือน เขาก็ได้ยินเสียงละมุนของสตรีนางหนึ่ง “สวัสดีค่ะ นี่เลขาส่วนตัวของท่านไซ่เชารับสายค่ะ คุณคงเป็นหัวหน้าของสมาคมมังกรดำ ตู้ปางหลงสินะคะ รบกวนแจ้งรหัสดำเนินการด้วยค่ะ”

“4 – 4 – 3 – 9 – 8 – 2”

เมื่อตู้ปางหลงรายงานตัวเลขครบทั้งหกตัว ปลายสายอีกด้านหนึ่งก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง กลายเป็นคู่สายของไซ่เชาโดยตรง

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

จากอีกฝั่งหนึ่ง ก็ปรากฏเสียงผู้ชายที่คล้ายกับหุ่นยนต์ผ่านออกมาทางโทรศัพท์ ซึ่งไม่มีทางที่ใครจะสามารถคาดเดาอายุจากน้ำเสียงได้เลย

“ท่านไซ่เชา ผมตู้ปางหลงจากสมาคมมังกรดำ รหัส 4 – 4 – 3 – 9 – 8 – 2”

ตู้ปางหลงพูดก่อนจะมองไปยังซ่งหู่

“ซ่งหู่จากกลุ่มอสรพิษสวรรค์ รหัส 4 – 4 – 7 – 7 – 1 – 3”

ซ่งหู่กล่าวต่อ

“ถ้าผมจะขออนุมัติมือดีมาจัดการกับเย่เฟิง ท่านไซ่เชามีความเห็นอย่างไรบ้าง?”

ตู้ปางหลงโพล่งจุดประสงค์ของเขาออกไปทันที

ด้านปลายสายไร้ซึ่งการตอบรับ และเงียบเป็นเวลาเนิ่นนาน บ่งบอกว่าเขากำลังวิเคราะห์ถึงผลได้และผลเสียที่จะเกิดขึ้นเป็นอย่างดี ถัดมาสักช่วงใหญ่ ๆ ไซ่เชาก็ตอบกลับมา “รหัส 0 – 5 – 5 ได้ออกประจำการแล้ว เขาจะไปถึงที่พระราชวังภายใน 10นาที สามารถไปพบเขาได้ที่แผนกต้อนรับ และตู้ปางหลงคุณสามารถออกคำสั่งได้โดยตรงทันที”

“ครับ ท่านไซ่เชา”

เมื่อได้ยินเสียงอีกฝั่งวางสายไป เขาก็โล่งใจอย่างที่สุด ทุกครั้งที่เขาโทรหาท่านไซ่เชา เขาจะถือสายไปด้วยความหวาดกลัวและวิตกกังวล เพราะเมื่อปีที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์การพังทลายลงของประตูสวรรค์ทางทิศใต้ ซึ่งเป็นตราบาปที่ลบไม่ออกไปจากใจเขาได้เลย

“อดใจรออีกเพียงแค่สิบนาที ฉันจะสั่งให้มือดีตรงไปหาเจ้าเด็กสกุลเย่นั่น และกำจัดมันทันที”

ตู้ปางหลงกล่าว พร้อมกับสีหน้ามุ่งร้ายที่ค่อย ๆ ปรากฏออกมาบนใบหน้า

อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้น ก็มีเสียงไม่คาดฝันทะลุผ่านประตูเข้ามา “น่าเสียดายนะ เผอิญฉันเกรงว่าแกนั่นแหละที่ต้องเป็นคนที่โดนจัดการก่อน”

“ใครว่ะ!”

ตู้ปางหลงตอบสนองทันที เขารีบเปิดลิ้นชักออกอย่างว่องไวก่อนจะคว้าปืนออกมา!

การประชุมครั้งนี้จัดว่าเป็นความลับสุดยอด เขาได้วางกองกำลังป้องกันอย่างแน่นหนาทั่วทั้งโถงประชุมนี้ มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่จะมีใครสักคนมาแอบฟังการสนทนาผ่านบานประตูเช่นนี้ได้? ทั้งห้องนี้ก็นับว่าเป็นห้องเก็บเสียงที่ดีที่สุด มันสามารถที่จะได้ยินเราคุยกันได้ยังไง แล้วมันส่งเสียงเข้ามาในนี้ได้อย่างไรกัน?

แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะคิดคำตอบใดออกมาได้ทัน ประกายน้ำแข็งสีฟ้าพุ่งเข้ามาเยือนยังเบื้องหน้าเขาแล้ว!

ดาบพลังชี่!

ประกายแสงน้ำแข็งสีฟ้าของดาบทะลุผ่านกำแพง และฉีกผ่านอากาศในหอประชุมเพียงชั่วไม่กี่วินาที ทุกสิ่งเกิดขึ้นเร็วมาก ไม่มีใครที่จะไหวตัวได้ทัน เมื่อมันพุ่งตรงเข้าไปเจาะทะลุผ่านขั้วหัวใจของตู้ปางหลง!

หัวใจของเขาหยุดเต้นในทันที

เวลาเดียวกันกับที่ดาบชี่สีฟ้าน้ำแข็งหายไป เหลือทิ้งเบื้องหลังไว้เป็นร่างปราศจากวิญญานของตู้ปางหลง หน้าอกของเขาแดงฉานไปด้วยเลือด และยังคงไหลออกมาอย่างต่อเนื่องอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ปืนพกในมือของเขาร่วงหล่นลงบนโต๊ะ ก่อนร่างของเขาจะล้มลงไป แหวนไพลินขนาดใหญ่บนนิ้วมือส่องประกายแพรวพราว นัยตาของร่างที่ไร้วิญญาณเบิกกว้าง

เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนลงมือฆ่าเขา!

ทันใดนั้นดาบสีแสดก็แยกกำแพงออกจากกันเป็นรอยขนาดใหญ่  ถ้ามองผ่านไปรอยจะเห็นได้เพียงเงาลางๆ ด้านหลังกำแพง

“อ๊ากกกก!”

ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องของซ่งหูดังไปทั่วห้อง สาวสวยที่แต่งงานแล้วหันไปมองที่มาของเสียงพลันพบซ่งหูที่มีเลือดท่วมทะลักเต็มอก เธอรีบหันหลังวิ่งหนีไปด้านหลังทันที

ใครกัน?

คนที่เหลืออีกสามรีบหันไปมอง สมาชิกระดับสูงสองคนของกลุ่มมังกรดำยกปืนขึ้นมา แต่พวกเขากลับมองเห็นเพียงแค่ภาพติดตาเบลอๆปรากฎและหายไปสลับกันกระจายไปทั่วห้อง ดูเหมือนเป็นเงาของชายสวมหน้ากาก!

แน่นอนว่าบุคคลคนนี้คือเย่เฟิงนั่นเอง ชายหนุ่มหลบซ่อนอยู่ห้องที่ติดกันและใช้ดาบเจินชี่ของเขาเจาะรูบนกำลังเพื่อดักฟังการสนทนาของกลุ่มคนในห้องประชุม ตอนที่ตู้ปางหลงยกหูโทรศัพท์วางลงจากการโทรเขาเลือกใช้เวลานั้นในการโจมดีทันที

ความคมของดาบเจินชี่เขาแม้แต่กำแพงก็ยังไม่สามารถกีดขวางได้

เขาใช้ดาบเจินชี่สีฟ้าน้ำแข็งฆ่าตู้ปางหลงจากนั้นใช้ย่างเก้าไรเงาเพื่อปลิดชีพซ่งหู่ต่อทันที ต่อมาเมื่อเห็นอีกสามคนหยิบปืนพกขึ้นมาเย่รีบเคลื่อตัวหลบอย่างรวดเร็วโดยไม่ลังเล แสงสีแดงวูบวาบไปทั่วห้องประชุมจากนั้นพลันหายไป

ทั้งสามคนที่ยังไม่มีเวลาแม้แต่จะตอบโต้ถูกเย่เฟิงตัดหัวทั้งหมดในการตวัดดาบครั้งเดียว!

“การมาครั้งนี้ถือว่าเหมาะเจาะจริงๆ คิดไม่ออกเลยว่าทำไมไซ่เชาถึงเล็งเราเป็นเป้าหมายกันแน่ หรือเราเคยไปทำอะไรให้มันกัน?”

เย่เฟิงที่ใส่หน้ากากคิดทบทวนเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาเดินออกไปทางประตูโดยทิ้งศพทั้งห้าไว้ในห้องประชุม

เขาต้องไปหลบอยู่ด้านนอกเพราะอีกแค่สิบนาทีเท่านั้น มือดีก็จะมาถึง เย่เฟิงต้องการรอดูสถานการณ์และอยากรู้ว่าไซเชาาจะซ่อนไพ่อะไรไว้ในมือ

ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นศัตรูกับเขาแล้วเย่เฟิงต้องต้องรู้เขารู้เรา ตอนนี้ทั้งสองต่างหลบซ่อนตัวอยู่ในเงามืด หากเย่เฟิงรู้ไพ่บนมืออีกฝ่ายมากเท่าไรชายหนุ่มจะยิ่งได้เปรียบมากขึ้นเท่านั้น

เย่เฟิงเปิดเผยตนเองโดยใช้ฐานะของโม่จิ่วเกอขณะที่ไซ่เชาแสดงตัวเพียงแค่ใช้คนจากโลกใต้ดินของเขา ข้อมูลที่เขาดังฝักจากโทรศัพท์เมื่อกี้ก็มีน้อยเหลือเกินเนื่องจากไซ่เชาสั่งงานอย่างสุขุมรอบคอบมาก

“ถ้าฉันรู้ว่าไซ่เชาเป็นใครเรื่องก็คงจะง่ายขึ้น จะได้ไปจัดการฆ่ามันตรงๆเพื่อจบเรื่องนี้ซะเลย….”

เย่เฟิงส่ายหัว ดูเหมือนว่าเขาต้องคอยระวังตัวทุกๆที่แล้ว

ด้านนอกคลับราชาเย่เฟิงซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้หนากว่าสิบนาที เขารู้สึกได้ว่าบรรยากาศในคลับเป็นไปด้วยความตรึงเครียด ข่าวเรื่องคนที่ถูกฆ่าทั้งห้าคนรวมไปถึงตู้ปางหลงและซ่งหู่เริ่มแพร่ออกไปอย่างเงียบๆ แน่นอนว่าเรื่องที่คอขาดบาดตายขนาดนี้คงไม่สามารถปิดได้นานแน่

ผ่านไปสิบนาทีรูปร่างที่ไม่คุ้นตาปรากฎอยู่ในสายตาของเย่เฟิง มันตรงเข้าไปยังทางเข้าของพระราชวัง

คนแปลกหน้าคนนั้นอยู่ในชุดเสื้อกันลมหนาๆ มีรูปร่างที่สูงและดูแข็งแรง ใบหน้าทั้งหมดถูกปิดบังด้วยหมวกแบบคาวบอย ตั้งแต่หัวจรดเท้าไม่มีส่วนใดที่เปิดเผยออกมาแม้แต่น้อย ดูจากคนๆนี้แล้วเย่เฟิงสัมผัสได้ถึงร่องรอยความอันตรายออกมาบางๆ นี่ไม่ใช่ “มือดี”ที่ว่าหรอกหรือ?

“ผู้ฝึกยุทธ์จากยุทธภพ? ไม่สิ ดูจากความรู้สึกแล้วไม่น่าจะใช่……”

ขณะที่เย่เฟิงลอบสังเกตอีกฝ่ายโดยไม่ไหวตัว ชายแปลกหน้าประหลาดคนนั้นพลันหันมามองทางเย่เฟิง สายตาที่เรืองแสงของมันสบเข้ากับตาของเย่เฟิงแล้ว!

“ตาเรืองแสง? นี่มันอะไรกัน…”

เย่เฟิงอุทานในใจอย่างตื่นตระหนก ทันใดนั้นเขารีบตั้งท่าเตรียมหลบหนีทันที ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งแค่ไหนจึงเลือกที่จะไม่ทำตัวหุนหันพลันแล่น

เมื่อเห็นเช่นนั้นชายประหลาดพุ่งเข้ามาทางเย่เฟิงอย่างฉับพลันและไล่ตามเขาอย่างรวดเร็ว!

………………………….

แปลโดยทีมงาน GSI

Solar Spark: ‘มือดี’ ที่ว่า ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Hidden Pavilion Master ส่วนจีนใช้ 隐阁高手 จริงๆคือผมยังนึกชื่อดีๆไม่ออก ใครมีชื่อที่เข้าท่าๆแนะนำเข้ามาได้นะครับ