Solar Spark : ขอเพิ่มชื่อจาก‘โม่จิ่ว’เป็น‘โม่จิ่วเกอ’นะครับ พอดีตอนนั้นผมเบลอค้นหาชื่อจีนตกไปตัวนึง เลยใช้ผิดมาตลอดเลย และผมขอเปลี่ยน ‘เจินฉี’ เป็น ‘เจินชี่’นะครับ ซึ่งถูกต้องกว่า
บทที่ 64 หญ้าวิญญาณประดับฟ้า
ใต้เนินผาเขาสูงชัน ภายใต้หน้ากากปิดบังใบหน้าของโม่จิ่วเกอ เย่เฟิงกำลังนั่งพิงหินก้อนใหญ่อยู่ข้าง ๆ จูไป๋เหนี่ยวเพื่อพักผ่อน
จูไป๋เหนี่ยวยังคงสวมเสื้อสีน้ำเงินเข้มตัวเดิมก่อนหน้านี้ แต่เวลานี้เสื้อของเขาขาดวิ่นจนจำสภาพเดิมไม่ได้ โดยเฉพาะตรงบริเวณหน้าอกเป็นรูขนาดใหญ่สามารถเห็นรอยสีแดงที่ชุบด้วยเลือดสด ๆ หากดูจากสีหน้าของเขายามนี้จะเห็นว่าสีหน้าเหนื่อยล้าเต็มทนและมีร่องรอยความเจ็บปวดเผยให้เห็นบนสีหน้า ในความคิดของเย่เฟิงตอนนี้ สภาพของจูไป๋เหนี่ยวดูน่าอนาถและทุกข์ทรมานมากกว่านั้นมาก
“สัญญากับฉันเรื่องหนึ่งสิ แล้วฉันจะให้หญ้าสื่อจิตนี่กับนาย”
จูไป๋เหนี่ยวดิ้นรนอย่างมากด้วยการเอามือกดแผลบริเวณหน้าอกที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากพูดจบเขาก็หยิบหญ้าสีฟ้าออกมาอย่างยากลำบาก นั่นเพราะรากของมันมีขนาดใหญ่ราวกับแขนของผู้ใหญ่เลยทีเดียว มันมีใบทั้งสิ้น 78 ใบ และดูหน้าตาประหลาดผิดแปลกธรรมชาติมาก
ทันทีที่สายตาของเย่เฟิงได้เห็นมัน จิตใจของเย่เฟิงเหมือนระเบิดออก นั่นมันไม่ใช่หญ้าวิญญาณประดับฟ้าที่พบได้แค่ในโลกเทวะหรอกรึ? คาดไม่ถึงจริง ๆ ว่าในโลกนี้มันกลับถูกเรียกว่าหญ้าสื่อจิต ถ้าหญ้าวิญญาณฟ้านี้โตขึ้น มันจะสามารถเพิ่มพูนการฝึกฝนวรยุทธ์ด้านใดด้านหนึ่งได้เป็นอย่างดีหลังจากมันอายุครบ 3 ปี ทันทีหลังจากที่ได้ดูดซึมพลังจากจิตวิญญาณนั่น!
ประสิทธิภาพของหญ้าวิญญาณฟ้าจะให้ผลมากกว่า ‘หญ้าใบทอง’ เพราะประสิทธิภาพของหญ้าใบทองนั้นมันต้องมีอายุอย่างน้อย 30 ปีถึงจะสามารถให้ผลลัพธ์ออกมาได้เต็มที่ แต่ในโลกเทวะมันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลยที่จะครอบครองมัน เพราะผู้คนมากมายต่างไล่ล่าแย่งชิงเจ้าหญ้านี้ ทันทีที่อายุมันถึงเกณฑ์ที่ใช้งานได้ มันจะถูกดึงออกไปทันที
พืชดังกล่าวเป็นที่รู้จักซึ่งถูกขนานนามว่าหญ้าวิญญาณ ที่สามารถช่วยในการฝึกฝนวรยุทธ์ และเป็นพืชที่สามารถเพิ่มคุณสมบัติในการฝึกฝนที่ถูกเรียกว่าพืชโอสถ มูลค่าของผลลัพธ์ทั้งสองอย่างที่ได้จากพืชชนิดนี้ก็ทำให้มูลค่าสูงเกินกว่าจะตีค่าได้ ทั้งโลกนี้หญ้าวิญญาณชนิดนี้ไม่ได้มีเหลืออยู่มากมายดังเช่นแต่ก่อนอีกแล้ว แต่หญ้าวิญญาณสามารถนำมาใช้ในการเพิ่มระดับวรยุทธ์ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
นี่คือเหตุผลว่าทำไมเย่เฟิงถึงผงะกับสิ่งที่ได้เห็น ในโลกเทวะเองหญ้าวิญญาณฟ้านี้มีค่ามากเทียบเท่ากับพวกสมบัติสวรรค์ เขาไม่คิดเลยว่าเจ้าหญ้านี่จะมีอยู่บนโลกใบนี้จริงๆ
ในปัจจุบันนี้หญ้าประดับวิญญาณฟ้าเกือบจะใกล้ครบกำหนดเต็มที่แล้ว ถ้าเย่เฟิงได้ดูดซับพลังงานทางวิญญาณของหญ้าต้นนี้แล้วละก็ แน่นอนว่าวรยุทธ์ของเขาจะไปถึงระดับสี่ปีหรือมากกว่านั้น
“อาจจะเกือบถึงระดับ 5 ปี…..”
เย่เฟิงอดจะรู้สึกตื่นเต้นในใจไม่ได้ แต่ใบหน้าของเขายังแสดงออกอย่างเฉยเมย เพราะถึงอย่างไร สิ่งนี้ก็ยังคงอยู่ในมือจูไป๋เหนี่ยว ชายหนุ่มคงรู้สึกดีใจจริงๆหลังจากได้มันมาเสียก่อน
แม้ว่าชายคนนี้จะได้รับบาดเจ็บสาหัสและใกล้ตาย แต่เย่เฟิงก็ไม่อาจลงมือกับคนที่ใกล้จะตายได้ ยิ่งไปกว่านั้น เย่เฟิงไม่มั่นใจว่าจะสามารถหลบหลีกมีดบินของฝ่ายตรงข้ามได้ ถึงแม้ว่าฝ่ายนั้นจะอยู่ในอาหารวิกฤตแล้วก็ตาม
“ถ้านายไม่สามรถทำมันได้ ฉันจะ…..แค่ก แค่ก ทำลายมันทิ้งซะ! ”
เขาไออย่างต่อเนื่อง ขณะกำลังบอกเย่เฟิง ในทางตรงกันข้ามมือของเขากำหญ้าประดับวิญญาณฟ้าไว้แน่นขึ้น
“บอกผมมา คุณต้องการให้ทำอะไร”
เย่เฟิงรู้สึกไม่ชอบมาพากล ถ้าบอกว่าคนๆนี้มีสภาพเช่นนี้เพียงเพราะต้องการหญ้าวิญญาณประดับฟ้า มันก็ดูไม่คุ้มค่าเลยแม้แต่น้อย นี่ทำให้เขานึกถึงตอนที่พบหลงหวางเอ๋อครั้งแรก เวลานั้น เธอก็อยู่ในสภาพเช่นนี้
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าทำไมนายถึงต้องการที่จะไปสุสานนั้น แต่ฉันเพียงอยากจะขอให้นายช่วยฆ่าคนคนหนึ่ง…..”
จูไป่เหนี่ยวพูดขณะนั่งพิงหินและมองขึ้นไปบนฟ้า ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโศกเศร้า และในที่สุด เขาก็ค่อยๆบอกเล่าเรื่องราวต่างๆที่เขาพบเจอมา
10 ปีที่แล้ว จูไป๋เหนี่ยวเป็นแค่นักสำรวจสุสานมือใหม่ เขาบังเอิญได้ช่วยชีวิตผู้อาวุโสคนหนึ่งซึ่งมีทักษะการต่อสู้สูงมาก และผู้อาวุโสคนนั้นได้สอนทักษะการต่อสู้ดังกล่าวเป็นการตอบแทน ซึ่งเป็นทักษะอาวุธลับที่เขาใช้อยู่ ด้วยการใช้ทักษะเหล่านั้น ร่างกายของเขากลับมีสุขภาพดีขึ้นและแข็งแรง ด้วยเหตุนี้การสำรวจของสุสานโบราณกลายเป็นเรื่องค่อนข้างง่าย เวลาหลายปีที่ผ่านมานี้จูไป๋เหนี่ยวได้รับของจำนวนมากและมีความร่ำรวยจากสุสาน แต่โชคร้ายที่เงินหลายสิบล้านนี้ เขากลับใช้ไปอย่างสุรุ่ยสร่ายเพราะผู้หญิงที่เขารัก
ผู้หญิงที่เขารักมีชื่อว่า ตู้เจวียน ซึ่งปัจจุบันเป็นศิษย์ของสำนักฝึกเซียนลึกลับ ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น 1ใน10 สำนักที่ใหญ่ที่สุด สำนักนี้ตั้งอยู่ในถ้ำ‘กั้วซางซาน’ซึ่งเป็น 1ใน10อันดับสถานที่ที่สวยงามและเลิศเล่อมาก เหล่าศิษย์ของสำนักนี้เชี่ยวชาญเป็นที่หนึ่งในทักษะอาวุธลับ ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับทักษะของจูไป่เหนี่ยว
(note:จริงๆแล้วชื่อ ‘ตู้เจวียน’ นี่ทาง ENG เขาใช้ Cuckoo ที่แปลว่านกกาเหว่านะครับ แต่จะใช้ชื่อกาเหว่าก็ยังไงๆอยู่ ผมเลยใช้จีนตามRaw จีนไปเลย)
เมื่อนานมาแล้ว ขณะมีการสำรวจสุสารโบราณของราชวงศ์ชางในเขาฉางไป่ จูไป่เหนี่ยวได้พบเข้ากับหญ้าสื่อจิตที่เกือบจะโตเต็มที่ นั่นทำให้เขาดีใจอย่างมาก จูไป่เหนี่ยวจึงได้ถ่ายรูปต้นหญ้านั้นไว้เป็นหลักฐานและส่งภาพไปให้ตู้เจวียนสุดที่รักของเขา หญ้าสื่อจิตเป็นสิ่งล้ำค่าอย่างมาก ซึ่งหากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป มันอาจทำให้เกิดการนองเลือดในโลกยุทธภพได้เลยทีเดียว
การได้พบกับหญ้าสื่อจิตต้นนี้อาจทำให้ความฝันของเขาเป็นจริง ซึ่งคือการไถ่ตัวตู้เจวียนจากสำนักเทวะซ่อนเร้น
ดังนั้น เมื่อจูไป่เหนี่ยวกลับออกมาจากสุสาร เขาจึงปล่อยข่าวออกไปให้สองอำนาจใหญ่แห่งโลกยุทธภพคือ เทียนเต้าเตี้ยน และตระกูลมังกร ได้รู้ว่าเขาพบเจอหญ้าสื่อจิตต้นนี้ ถึงแม้ว่าทั้งสองตระกูลจะไม่ใช่ตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ก็มีความร่ำรวยอย่างมาก จูไป่เหนี่ยวจึงตั้งใจจะให้ทั้งสองตระกูลประมูลหญ้าต้นนี้ และเมื่อมันเติบโตเต็มที่ เขาจะไปเก็บมันมาขาย
แต่โชคไม่ดี เขาไม่รู้ว่าข่าวเรื่องหญ้าสื่อจิตนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วประเทศได้อย่างไร และด้วยเหตุนี้เอง ผู้คนจากที่ต่างๆมุ่งหน้ามายังเขาฉางไป่เพื่อค้นหาหญ้าต้นนี้ จูไป่เหนี่ยวกลัวว่าจะเกิดอันตรายขึ้นกับตัวเอง เมื่อเห็นสถานการณ์ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจหาเงินให้ได้สิบล้านเพื่อความมั่นคงในอนาคตหากจำเป็นต้องรีบหนี และตัดสินใจเสี่ยงดวงที่เขาฉางไป่นี้ด้วยเช่นกัน
หากเขาไม่สามารถเก็บหญ้าสื่อจิตต้นนั้นมาตอนโตเต็มที่ได้ จูไป่เหนี่ยวก็จะขายมันทั้งอย่างนั้นเลย แต่ถ้าเขาไม่สามารถเก็บมาขายได้ เขาก็จะหอบเงิน 10 ล้าน และพาตู้เจวียนหนีไปอยู่ในที่ๆห่างไกล
อย่างไรก็ตาม เมื่อจูไป่เหนี่ยวมาถึงเมืองหลินเจียง ทันใดนั้นเขาก็ได้รับข้อมูลมาว่า ตู้เจวียนเดินทางมาที่เขาฉางไป่เช่นกัน ซึ่งนั่นทำให้เขาร้อนใจและรีบบอกลาเย่เฟิงเพื่อมุ่งมาที่เขาแห่งนี้ทันที
เพียงไม่นาน จูไป่เหนี่ยวก็ได้พบตู้เจวียน เขาจึงตั้งใจไปเก็บหญ้าสื่อจิตกับเธอ ซึ่งถือเป็นโชคดีที่หญ้าสื่อจิตต้นนี้ยังไม่ถูกใครพบเจอเข้า อย่างไรก็ตาม ขณะนั้นเองจู่ๆก็มีชายรูปหล่อในชุดสีน้ำเงินโผล่ออกมา มันเป็นคนของสำนักเทวะเร้นลับ ซึ่งชายคนนี้พร้อมทั้งตู้เจวียนได้จู่โจมเข้าใส่จูไป่เหนี่ยว
จูไป่เหนี่ยวสับสนกับเหตุการณ์นี้อย่างยิ่ง มันหมายความได้อย่างเดียวว่าเข้าถูกตู้เจวียนหักหลัง หญิงสาวสุดที่รักกลับแทงข้างหลังเขาพร้อมด้วยชายรูปหล่ออีกคนหนึ่ง สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกปวดใจจนเกินจะรับไหว แต่ถึงอย่างนั้น จูไป่เหนี่ยวรีบวิ่งหนีมาพร้อมกับหญ้าสื่อจิตที่อยู่ในมือ ขณะที่ศิษย์สำนักเทวะซ่อนเร้นทั้งคู่ติดตามเขามา และปล่อยอาวุธลับใส่เพื่อหมายจะเอาชีวิต
หลังจากไล่กวดกันอยู่นาน ในที่สุดจูไป่เหนี่ยวก็สามารถสลัดพวกนั้นได้สำเร็จด้วยประสบการณ์ที่มีอยู่มากมาย แต่ระหว่างที่ปะทะกันนั่นเอง อกของเขาถูกจู่โจมอย่างสาหัสโดยอาวุธลับสองอันที่ทำให้เส้นเลือดของหัวใจเขาฉีกขาด ดังนั้นตอนนี้ จูไป่เหนี่ยวจึงเหลือเวลาอยู่บนโลกนี้ไม่ถึงสองชั่วโมงแล้ว
“มัน…….แค่ก แค่ก มีชื่อว่าหลี่จวิ้นหลง มันเป็นศิษย์ของสำนักเทวะซ่อนเร้นเช่นกัน ตอนนี้ มันใช้ทักษะอาวุธลับที่ถูกฝึกมาจากสำนักนั่น……..มันมีพรสวรรค์ในการใช้อาวุธลับที่ไม่ธรรมดา…….แค่ก แค่ก ………ช่วยฉัน……..ฆ่ามัน…..”
จูไป่เหนี่ยวไอและกระอักเลือดออกมา เขาจ้องเขม็งมายังเย่เฟิงพร้อมกับพูดว่า “คุณสามารถสังหารดาบหมาป่าอย่างง่ายๆในดาบเดียว…….ฉะนั้น หากดูดซับหญ้าวิญญาณต้นนี้………หลี่จวิ้นหลงก็ย่อมไม่ใช่คู่มือของคุณอีกต่อไป!”
“แล้วตู้เจวียนละ?”
เย่เฟิงถามเสียงต่ำ
“ปล่อย……เธอไป…..”
จูไป่เหนี่ยวค่อยๆสิ้นแรงลงเรื่อยๆ น้ำเสียงของเขาสั่นและการพูดจาเริ่มไม่ปะติดปะต่อกัน เสื้อบริเวณหน้าอกของเขาถูกย้อมเป็นสีแดงฉาดจากเลือดที่ไหลออกมา รวมทั้งหน้าของเขาที่กลายเป็นขาวซีด
“ผมเข้าใจแล้ว ผมสัญญา”
เย่เฟิงพูดด้วยนิ่มนวลพร้อมกับพยักหน้า
ตามความคิดของเย่เฟิง ความรู้สึกของจูไป่เหนี่ยวต่อตู้เจวียนสุดที่รักของเขายังคงมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าเขาจะถูกเธอทรยศหักหลัง แต่เขาก็ยังไม่ขอให้เย่เฟิงช่วยแก้แค้นให้
“เร็วเข้า รีบหาที่ซ่อนตัวและเริ่มดูดซับหญ้าสื่อจิตนี่…………………ฉันจะช่วยถ่วงเวลาพวกมันไว้เอง”
จูไป่เหนี่ยวมีประสาทสัมผัสที่ไวมาก เมื่อรู้สึกได้ถึงบางอย่าง เขาจึงรีบมอบหญ้าวิญญาณฟ้าให้แก่เย่เฟิง และเร่งให้เขาดูดซับมันทันที
ระดับวรยุทธ์ของเย่เฟิงด่อยกว่าจูไป่เหนี่ยวอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะเขาไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่ามีคนกำลังมา ชายหนุ่มจึงรีบคว้าหญ้าวิญญาณประดับฟ้าในมือจูไป่เหนี่ยวมา
สำเร็จแล้ว!
ในมือมีของสิ่งนี้ในมือ เป้าหมายของเย่เฟิงก็สำเร็จแล้ว หากใครคนหนึ่งได้สิ่งที่ต้องการมาแล้ว เขาอาจเลือกไม่รักษาสัญญาก็เป็นได้ แต่เย่เฟิงไม่ใช่คนแบบนั้น
เขาเป็นลูกผู้ชายพอ และเขายึดถือในคำมั่นสัญญาของเขา!
เมื่อมีหญ้าวิญญาณฟ้าในมือแล้ว เย่เฟิงจึงรีบมองไปรอบๆ และไม่นาน เขาก็พบที่สูงชันมากกว่า 10 เมตร ซึ่งนั่นเป็นที่เหมาะสมอย่างมากในการซ่อนตัว เย่เฟิงจึงรีบวิ่งไปยังด้านนั้นและซ่อนตัวอยู่ด้านหลังของจูไป่เหนี่ยวในที่แห่งนี้
ตอนนี้ ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดถึงเรื่องความรักของคนสองคน เย่เฟิงมีเวลาไม่มากแล้ว ยิ่งกว่านั้น ถึงแม้จูไป่เหนี่ยวจะบาดเจ็บสาหัส แต่เขาก็รู้ว่าไม่อาจจะช่วยอะไรได้อีกแล้ว
ไม่นานนัก เสียงฝีเท้าของผู้ชายและผู้หญิงคู่หนึ่งก็ดังขึ้นเรื่อยๆ พวกมันกำลังใกล้เข้ามาแล้ว!
……………………..
แปลโดยทีมงาน GSI