บทที่ 58: การล่ามัจฉาภัยพิบัติ (3)

 

 

 

 

คามิลลียังคงมองไปยังกยีซูด้วยสีหน้าเย็นชา

“หาเขาเอาเอง ยังไงนายก็อาจจะมาพร้อมกับลูกน้องอยู่แล้ว แล้วลักษณะพิเศษของนายจะมีไว้เพื่ออะไรถ้าไม่ใช้สำหรับเรื่องนี้”

กยีซูยักไหล่เมื่อได้ยินเช่นนั้น

‘เอาเถอะ มันเป็นเรื่องปกติที่เธอจะไม่บอกฉัน’

เธออาจจะสงสัยว่าเขาจะทำอะไร

และฮันซูนั้นน่ายินดีสำหรับคามิลลีมากเท่าใด

เธอได้ค้นพบคนที่จะไปกับเธอในที่สุดหลังจากที่ผ่านมาอย่างยาวนาน

อีกฝ่ายอาจจะทำตัวเหมือนสงบเยือกเย็นจากภายนอก แต่เธออาจจะตื่นเต้นอยู่ภายใน

เมื่อการกระทำของคามิลลีที่เขาได้เห็นมาตลอดเวลา 3 ปีที่ผ่านมานั้นคือความน่าสงสารและโดดเดี่ยว

‘ชิ นั่นมันน่าละอายชะมัด ถ้าเธอบอกฉัน เราก็จะสามารถประหยัดเวลาในการหาตัวหมอนั่นได้’

กยีซูส่ายศีรษะ

เขามาที่นี่ด้วยความต้องการสองอย่าง

หนึ่งคือธุรกิจท่องเที่ยว

อีกอย่างคือการสำรวจ

เขากำลังเตรียมความพร้อมธุรกิจท่องเที่ยวอยู่ เพราะกระแสตอบรับนั้นดีกว่าที่เขาคาด

เขาจะสามารถหาตัวหมอนั่นเจอได้อย่างรวดเร็วถ้าเขาหา แต่คนที่เขานำมาด้วยนั้นมาเพื่อเตรียมการสำหรับธุรกิจท่องเที่ยว ดังนั้นแล้วช่องว่างจะเกิดขึ้นถ้าเขานำใครสักคนออกไป

การสำรวจนั้นเป็นสิ่งที่เขาทำทุกที่พร้อมกับการทำธุรกิจท่องเที่ยวของเขา ทำไมเขาต้องเสียกำลังคนไปกับเรื่องเช่นนั้นด้วย?

‘มันไม่มีทางอื่น ดูเหมือนว่าฉันคงต้องวิ่งไปรอบๆ สักหน่อย’

ลักษณะพิเศษของเขา <การค้นหา> ทำให้เขาสามารถหาร่องรอยที่เชื่อมโยงไปถึงคนคนหนึ่งได้

เขาสามารถหาตัวคามิลลีได้เพราะแบบนี้ และจะสามารถหาฮันซูได้พบเช่นกัน

มันอาจต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่ไม่ได้ยากเย็นอะไร

“เอาเถอะ งั้นฉันก็ควรจะเดินเล่นรอบๆ นี้สักหน่อย แล้วเจอกันคราวหลัง ฉันหวังว่าคราวนี้เธอจะทำสำเร็จ”

กยีซูที่ได้เอ่ยอวยพรเมื่อเขารู้ว่าอย่างไรอีกฝ่ายก็ต้องล้มเหลวได้หายตัวไปหลังจากนั้น

คามิลลีมองไปยังทางที่ฮันซูได้หายตัวไปและครุ่นคิด

‘ฉันควรจะบอกฮันซูไหม?’

กยีซูเป็นนักผจญภัยปีสามเช่นเดียวกับเธอ แค่แข็งแกร่งกว่าเธอ

เมื่อหมอนั่นให้ความสนใจกับการแข็งแกร่งขึ้นไม่เหมือนเธอ และกระทั่งมีอาร์ติแฟค

และจำนวนของลูกน้องของหมอนั่นก็ไม่น้อยเช่นกัน

ทว่าคามิลลีส่ายศีรษะ

‘ไอ้เวรบัดซบ อย่างน้อยนายก็ควรจะบอกถึงจุดหมายของนายกับฉัน’

เธอไม่มีวิธีในการหาตัวหมอนั่น และหากอีกฝ่ายไม่อาจแม้แต่จะรับมือเรื่องแบบนี้ได้ หมอนั่นก็ไม่มีคุณสมบัติในการเข้าไปในมัจฉาภัยพิบัติ

และมันเป็นเรื่องลำบากสำหรับเธออย่างมากในการรวบรวมวัสดุทุกอย่างที่อีกฝ่ายบอกให้เธอหาภายในเวลาที่จำกัด

ซึ่งหมายความว่าเธอไม่มีแม้แต่เวลาที่จะยุ่งกับเรื่องแบบนั้น

ในเวลาที่เธอทะเลาะกับพวกควาดราทัส เธอก็จะไม่สามารถรวบรวมวัสดุได้

และหมอนั่นได้บอกเธอไว้

<ได้โปรดอย่ากังวลเกี่ยวกับฉันและสนใจแต่กับเรื่องที่ฉันบอกให้ทำ>

‘ฉันเชื่อในตัวนาย’

คามิลลีรีบเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะรวบรวมวัสดุที่ใกล้กับตัวเธอที่สุด ของเหลวของอาพอน

 

 

ฮันซูคำนวณสิ่งที่เขาต้องรวบรวม จากนั้นจึงผงกศีรษะ

‘สิ่งแรกที่ฉันต้องไปเอาคือ… <หัวใจของคุคูลจา> ที่เป็นวัตถุดิบหลักในการสร้าง <น้ำยาหิน>’

น้ำยาหินนั้นต้องใช้วัตถุดิบทั้งหมด 28 อย่างมาผสมกันในสัดส่วนที่พอเหมาะ

9 จาก 28 อย่างได้ถูกเตรียมโดยคามิลลีแล้ว และเขาได้ให้อีกฝ่ายไปหาอีก 17 อย่างมา

แต่เขาต้องรวบรวมอีกสองอย่างที่เหลือ

<น้ำเกลือแร่> และ <หัวใจของคุคูลจา>

วัตถุดิบอีก 26 อย่างนั้นเป็นเหมือนตัวกระตุ้น ดังนั้นแล้วพวกมันจึงไม่ต้องใช้เป็นจำนวนมาก แต่สองอย่างนี้เป็นสิ่งที่เป็นวัตถุดิบหลัก

มันต้องใช้จำนวนมากแม้ว่าพวกเขาจะเทมันลงไปแค่ที่จุดตายของมัจฉาภัยพิบัติ เมื่อขนาดตัวของมันใหญ่โตเพียงนั้น

ฮันซูรีบมุ่งหน้าตรงไปยังสถานที่ที่ห่างไกลออกไป

หัวใจของคุคูลจา

วัตถุดิบที่สามารถหาได้จาก <สระน้ำของคุคูลจา> รอบๆ เขตกลางของปลายราก

เหล่านักวิจัยได้คำนวณถึงเวลาที่มีไม่มากและได้สร้างน้ำยาหินขึ้นจากสิ่งที่สามารถหาได้ใกล้ๆ ปลายราก สถานที่ที่มัจฉาภัยพิบัติจะปรากฏตัว แต่สำหรับการที่เขาต้องมาหาอะไรแบบนี้…

ความยากของสถานที่แห่งนี้สูงมากเมื่อคิดว่ามันอยู่ที่ปลายราก

หลังจากวิ่งมานาน ทะเลสาบขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นในสายตา

ทะเลสาบยักษ์ที่สามารถแยกขาดปลายรากสองอันได้

น่าประหลาดใจที่ทะเลสาบยักษ์นี้เป็นสิ่งที่คุคูลจาขุดขึ้น

ทะเลสาบที่คุคูลจาที่อาศัยอยู่ในทะเลพิษได้ขุดขึ้นจากด้านล่างเพื่อที่จะผสมพันธุ์นั้นเคยเป็นพื้นดินมาก่อน

ฮันซุคิดถึงบทสนทนาของเขากับเคลเดียน

<คุคูลจาเป็นสิ่งมีชิวิตที่อยู่ส่วนใดส่วนหนึ่งของด้านบนสุดของห่วงโซ่อาหารภายในทะเลพิษ แต่แม้จะเป็นแบบนั้น พวกมันก็อาจจะกลายเป็นขนมให้กับมัจฉาภัยพิบัติได้ถ้าหากมันโชคร้าย ถึงไอ้พัฒนาจนมีพิษที่ต่อต้านมัจฉาภัยพิบัติอยู่ภายในหัวใจ แต่… มันก็เป็นแค่เรื่องตลกถ้าคิดถึงขนาดของไอ้ตัวนั้น>

พิษที่ไม่ส่งผลใดๆ ต่อมนุษย์ แต่จะทำให้ร่างของมัจฉาภัยพิบัติกลายเป็นหิน

และเพราะแบบนี้ หัวใจของคุคูลจาที่มีพิษชนิดนี้จำนวนมากจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างน้ำยาหิน

<… มันใช้ได้แม้ว่าจะส่งผลน้อยนิดขนาดนี้?>

<นั่นเป็นสาเหตุให้นายต้องรวบรวมพวกมันจำนวนมาก เปลี่ยนพวกมันให้กลายเป็นสารสกัด เพิ่มประสิทธิภาพด้วยวัตถุดิบอีก 27 ชนิดและราดมันลงไปที่จุดตายของมัจฉาภัยพิบัติ อย่างไรไอ้ตัวพวกนี้ก็หวาดกลัวมัจฉาภัยพิบัติจนขุดรากต้นไม้โลกสร้างทะเลสาบไว้อาศัยอยู่และผสมพันธุ์ ถ้านายต้องการที่จะรวบรวมสารสกัดให้เพียงพอ มันคงจะไม่ใกล้เคียงคำว่าพอถ้าไปหาในทะเล ไปที่ทะเลสาบนั่น และทะเลสาบนั่นคือเส้นเตือนว่ามัจฉาภัยพิบัติจะกินไปเท่าไหร่ สัญชาตญาณของคุคูลจายอดเยี่ยมมาก พวกมันสร้างทะเลสาบไว้เหนือจุดที่มัจฉาภัยพิบัติจะกินพอดี>

<ทำไมพวกมันไม่ขึ้นไปสูงกว่านี้แล้วค่อยสร้าง?>

มันจะปลอดภัยกว่าในการที่พวกมันขึ้นไปยังรากที่สูงกว่าถ้าพวกมันหวาดกลัวมัจฉาภัยพิบัติขนาดนั้น ดังนั้นแล้วทำไมพวกมันจึงสร้างทะเลสาบไว้แถวปลายรากที่จะเป็นอันตราย

<นายก็รู้ว่าทำไม มันมีภัยพิบัติอีก 4 อย่างอยู่ใต้กลางรากและต้นราก กระทั่งคุคูลจาก็ไม่อาจไปที่นั่นได้>

ฮันซูหยุดความคิดของเขา จากนั้นจึงมองไปยังทะเลสาบที่กระเพื่อมไหว

มันใหญ่เสียจนทุกตัวนั้นมีขนาดมากกว่า 2 เมตร

แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจคือตัวที่เขามองอยู่เป็นเพียงตัวอ่อน

พวกมันจะเติบโตขึ้นจนมีขนาด 5 เมตรเมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์

‘ฉันจะจัดการพวกมันทีล่ะตัว’

ฮันซูที่เห็นคุคูลจานับพันว่ายไปรอบๆ ได้ส่งพลังสนับสนุนมักรปีศาจไปยังเคียวขนาดเหมาะมือที่เขาพบระหว่างทาง จากนั้นจึงเดินไปยังทะเลสาบพิษอย่างเชื่องช้า

ซ่า

ทันทีที่ฮันซูเข้าไปภายในทะเลสาบ คุคูลจาภายในทะเลสาบทุกตัวต่างยกใบหูที่เหมือนวัวของพวกมันขึ้น

<!!!!!>

จากนั้นพวกมันจึงเริ่มพุ่งมาทางจุดกำเนิดเสียงและแรงสั่นสะเทือนอย่างรวดเร็ว

แม้ว่าอาหารนั้นจะยังอยู่ในเขตตื้นอยู่มันก็ไม่ใช่ปัญหา

เมื่อพวกมันสามารถไปข้างหน้าได้โดยการกัดกินราก

กร๊อบ กร๊อบ กร๊อบ

ฟันแหลมคมของปลานับพันได้กัดกินใต้ทะเลสาบขณะที่พวกมันพุ่งเข้าไปหาร่างของชายหนุ่ม

ฮันซูอาบเคียวในมือด้วยพลังสนับสนุนมังกรปีศาจ จากนั้นจึงฟาดมันลงไปที่กลางศีรษะของวัว

กร๊อบ

กะโหลกของคุคูลจาส่งเสียงแตกร้าวออกมาก่อนจะแตกออกเป็นสองเสี่ยง ทว่าชายหนุ่มกลับแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา

‘ชิ อย่างที่คิด มันไม่สามารถรองรับพลังได้ดี’

ถ้าอาร์ติแฟคแย่ มันก็จะไม่สามารถรองรับพลังของสกิลสนับสนุนได้และสูญเสียความทนทานไปอย่างรวดเร็ว

แม้ว่ามันจะเป็นอาวุธที่พอใช้ได้ที่เขาได้รับมาจากการจัดการสัตว์อสูรบางตัวระหว่างทางมาที่นี่ มันก็ยังคงไม่ดีพอ

เมื่อปลายรากนั้นเป็นบริเวณสำหรับผู้เริ่มต้นและไม่มีสิ่งใดซ่อนไว้

‘อย่างน้อยฉันก็ควรใช้มันในระหว่างที่ยังใช้ได้’

ชายหนุ่มออกแรงกระชากเคียวและเหวี่ยงร่างของคุคูลจาขึ้นไปบนพื้นทั้งตัว

ถ้าเขาปล่อยมันไว้ในทะเลสาบแบบนั้น เช่นนั้นทุกสิ่งรวมทั้งหัวใจก็จะถูกกัดกินโดยตัวที่เหลือ

สร้างสารสกัดจากหัวใจคืองานหลังจากการล่า

กร๊อบบ!

โผล๊ะ!

และไม่ช้าปลานับพันที่กัดฟันของพวกมันก็ได้ถูกระตุ้นโดยเลือดขณะที่พวกมันพุ่งเข้าไปหาร่างของชายหนุ่มอย่างบ้าคลั่ง

กร๊อบบ

ฮันซูส่งพลังสนับสนุนมังกรปีศาจลงไปยังเคียวก่อนที่จะเหวี่ยงมันอย่างบ้าคลั่งไปรอบๆ และเหวี่ยงร่างของปลาจำนวนมากขึ้นไปบนฝั่ง

ซ่า

ปลานับพันได้พุ่งเข้าไปพร้อมกันด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ จากนั้นจึงใช้แรงนั้นในการกระแทกเข้ากับร่างของมนุษย์เพียงหนึ่งเดียวก่อนจะกัดอีกฝ่ายด้วยฟันของพวกมัน

ศพของคุคูลจาจำนวนมากกองพะเนินอยู่นอกทะเลสาบ ทว่าร่างของชายหนุ่มเองก็ได้รับบาดเจ็บไม่แพ้กัน

และในเวลาเดียวกัน เคียวก็ได้พังลงราวกับว่ามันไม่อาจที่จะรองรับพลังของชายหนุ่มได้อีกต่อไป

ตึก ตึก ตึก

ซูมมมม

เสียงดังลั่นได้มุ่งตรงมายังร่างของชายหนุ่มขณะที่เขาพยายามรักษาไม่ให้เคียวพังลงด้วยการปรับพลังของพลังสนับสนุนมังกรปีศาจ

ฉัวะ

การโจมตีนั้นได้ตัดต้นไม้ทั้งหมดที่อยู่ใกล้ทะเลสาบพร้อมส่งพวกมันกระเด็นลอยออกไป

‘… สกิล?’

ฮันซูแสดงสีหน้าเย็นชาขณะที่เขายกเคียวขึ้นป้องกันการโจมตีที่มุ่งตรงมายังร่างของเขา

เพล้งงง

เคียวที่เต็มไปด้วยพลังสนับสนุนมังกรปีศาจได้ป้องกันการโจมตีที่มุ่งตรงมา ทว่าได้แตกสลายไปเป็นการแลกเปลี่ยน

ชายหนุ่มป้องกันการโจมตีหนึ่งครั้ง กระโดดออกจากทะเลสาบ จากนั้นจึงมองไปยังทิศทางที่การโจมตีนั้นมุ่งมา

และชายคนหนึ่งกำลังมองมายังเขาพร้อมด้วยรอยยิ้มอยู่ที่สถานที่แห่งนั้น

“โว้ว นายป้องกันมันได้”

ชายคนนั้นได้เก็บดาบที่สั่นสะท้านของเขากลับไปที่เอวก่อนจะส่งยิ้มให้กับฮันซูพร้อมกับเอ่ย

“สวัสดี ฉันชื่อคังกยีซู ใจเย็นหน่อย ฉันไม่ได้มาสู้”

“นายไม่ได้มาเพื่อสู้ หืมม…”

กยีซูยิ้มก่อนจะเอ่ยต่อหลังจากเห็นฮันซูพึมพำขณะมองไปยังเคียวที่ถูกทำลาย

“นั่นมันแค่การทดสอบ ถ้านายไม่แม้แต่จะป้องกันมันได้… นายก็ไร้ประโยชน์ อืม นายผ่าน อย่างแรก นี่นามบัตร”

จากนั้นกยีซูจึงโยนของสีขาวอย่างหนึ่งไปยังอีกฝ่าย

“การมีของแบบนี้ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกจริง มันถูกสร้างขึ้นจากตัวอ่อนพาโดรตากแห้ง ถึงมันจะใช้ได้แค่ครั้งเดียว มันก็เพิ่มความเร็วในการฟื้นตัวในพื้นที่ที่นายแปะมันไว้ ดังนั้นแล้วก็คิดถึงฉันตอนที่นายใช้มันหน่อยแล้วกัน”

ฮันซูส่ายศีรษะขณะมองไปยังชายพูดมากที่ได้ส่งการโจมตีมาด้วยความต้องการฆ่าก่อนจะเอ่ยถาม

“นายมาทำไม?”

เขาได้ใช้ค่าความอดทนไปจำนวนมากจากการต่อสู้กับคุคูลจา

มันมีความจำเป็นในการเล่นตามอีกฝ่ายไปสักพักและเพิ่มพลังชีวิตของเขา

กยีซูเอ่ยต่อ

“ง่ายมาก นายได้เห็นการสำรวจจำนวนมากบนทีวีก่อนหน้าใช่ไหม อย่างพวกแมวมอง?”

“อืมมมม”

“เอาล่ะ พูดสั้นๆ ก็คือฉันทำงานที่ควาดราทัส… กลุ่มที่คล้ายๆ กับศาสนาน่ะ ใช่ไหม?”

“นั่นมันเป็นเส้นทางที่ไม่น่าเชื่อถือเลยจริงๆ”

“ข้ามรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ไป อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายในการติดตามพระเจ้า นายต้องการเงินจำนวนมากในเกาหลีเหมือนกันใช่ไหม? ที่นี่ก็เหมือนกัน และเรามีธุรกิจจำนวนมากในการที่จะเติมเต็มมัน… และหนึ่งในนั้นคือการชักชวนผู้มีพรสวรรค์และเชื่อมโยงพวกเขาเข้ากับกิลด์ด้านบนที่ไม่มีกำลังคนว่างสำหรับสถานที่แบบนี้ และเราได้รับรางวัลจากสิ่งนั้น อ่า และเริ่มจากตอนนี้ เรามีอัตราแลกเปลี่ยน นายรู้ใช่ไหม?”

กยีซูถูนิ้วชีกับนิ้วโป้งเข้าด้วยกัน

เมื่อฮันซูไม่ตอบ กยีซูก็ยักไหล่ก่อนจะเอ่ยต่อ

“มันดีกว่าที่จะไม่ปฏิเสธ คนที่สนใจนายในคราวนี้ค่อนข้างจะ… อันตราย การติดตามเขาจะเป็นเรื่องที่ วิน-วิน สำหรับฉันกับนาย”

จากนั้นกยีซูจึงเริ่มหลั่งเหงื่อเย็นเยียบ

ปัญหาไม่ใช่ผู้ที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเขา

มันเป็นเพราะงานนี้เป็นสิ่งที่เขาได้รับมาจากหนึ่งในหกขั้วอำนาจที่ได้เข้าร่วมการชมวิวที่พวกเขากำลังเตรียมการ

‘ไอ้พวกอันธพาลเวร’

หกขั้วอำนาจ

กิลด์ขนาดใหญ่ทั้งหกที่ต่อสู้อยู่ในลำต้นของต้นไม้โลก ไม่เหมือนพวกเขาที่เดินเล่นไปทั่วราก

และหนึ่งในนั้น <อาคารแสง>

เคาส์ โมเร็น หัวหน้ากองกำลังช็อกที่ถูกทิ้งไว้จากนักผจญภัยคนก่อนหน้า เคลเดียน มากัส ได้บอกเขา

<นายต้องเอาตัวเด็กใหม่นั่นมาให้ได้ ฉันจะจ่ายให้อย่างงาม แต่ถ้านายล้มเหลว… เอาเถอะ อย่าทำให้ฉันต้องลงมือ ฉันมาที่นี่เพื่อพักผ่อน>

‘… ถ้าเราไม่ระวัง เราอาจจะตาย’

แต่ไม่เหมือนที่กยีซูต้องการ ฮันซูทำเพียงแค่ส่ายศีรษะ

“ฉันปฏิเสธ”

และในเวลาเดียวกัน ฮันซูก็ได้แสดงสีหน้าเย็นชาออกไป

‘ชิ ในที่สุดมันก็กลายเป็นแบบนี้’

เป้าหมายของเขาคือมัจฉาภัยพิบัติ

การปะทะกับควาดราทัสนั้นเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับเขา ในเมื่อเส้นทางในการได้รับน้ำยาหินนั้นได้ตัดผ่านกันกับพวกนั้นที่ได้เตรียมการเกี่ยวกับธุรกิจชมวิว แม้ว่าเขาจะต้องการหลบเลี่ยงการปะทะที่ไร้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ก็ตาม

‘ในเมื่อมันกลายเป็นแบบนี้แล้ว จบมันให้เร็วที่สุด’

เขาได้คาดการณ์เรื่องนี้ไว้แล้ว

ขณะที่ฮันซูเตรียมตัวที่จะสู้ สีหน้าของกยีซูได้แข็งค้างไป

“ไอ้เวรบัดซบนี่… จองหองเพราะแกเอาชนะคามิลลีได้?”

คามิลลีนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่เหมือนสัตว์ประหลาดสำหรับพวกเด็กใหม่ แต่ค่อนข้างอ่อนแอสำหรับคนที่เดินทางไปทั่วลำต้นและราก

‘ชิ นี่เป็นความผิดของฉัน หืม’

ไอ้หมอนั่นประเมินตัวเองสูงไปเมื่อเขาได้ยืนข้อเสนอให้กับไก่อ่อน

เขาต้องการที่จะพูดคุยเกี่ยวกับมัน แต่เมื่อเห็นว่ามันไม่ได้ผล เขาจึงรวบรวมพลังทั้งหมดภายในร่าง และส่งมันเข้าไปในรีลิคของเขา <ดาบที่ถูกลืม>

 

 

“หืม ดูไอ้ปัญญาอ่อนนั่นสิ ตรงนั้น กระทั่งพุ่งเข้าไปหาเด็กใหม่ที่ทะเลาะกับเขา”

เคาส์ โมเร็น พึมพำขณะมองไปยังคังกยีซูจากเหนือเรือสำราญที่พวกควาดราทัสได้เตรียมไว้เพื่อการชมวิวด้วย <ตาพันลี้ของชายขี้อิจฉา>

 


TL: โยนมันลงไปเป็นอาหารปลาเลยค่ะปู่!!//ชูป้าย