แปลไทย : ZyvX

ห้องอาหาร บนโต๊ะทานข้าว

ซูเสี่ยวเมิ่งเคี้ยวตะเกียบอยู่ มองไป จ้องไปฝั่งตรงข้ามที่กำลังกินข้าวอย่างตะกละตะกลาม ได้แต่สาปแช่งอยู่ภายในใจ เจ้าเด็กน้อยตายด้านนี้ ทำไมยังไม่กินให้ติดคอให้ตายเลยสักทีนะ?

“ ซูชิง ไม่คิดเลยจริงๆ ประธานที่สวยแบบคุณเนี๊ย จะทำกับข้าวได้อร่อยขนาดนี้”

เซียวเฉิงใช้ตะเกียบคีบไปที่อาหาร กล่าวชมเชยไม่หยุด

“ เหอะเหอะ เสี่ยวเมิ่งชื่นชมทานอาหาร ฉันก็ชอบทำให้เธอกิน ดังนั้นจึงได้ทดลองฝึกฝนอยู่รอบหนึ่ง อีกทั้งฉันยังมีไปเรียนทำอาหารอีกด้วยน่ะ”

ซูชิงยิ้มออกมา มองไปยังประกายตาของน้องสาว ที่เป็นดั่งผู้อ่อนแอ

“ มีพี่สาวอย่างคุณเช่นนี้เนี้ย ช่างโชคดีเสียเหลือเกิน นี่ เสี่ยวเมิ่ง เธอทำไมเอาแต่กัดตะเกียบไม่กินข้าวล่ะ? ลองชิมกุ้งดูซักตัวซิ อร่อยมากเลยนะ!” ในตอนนี้เซียวเฉิงพูด ก็ได้คีบไปที่กุ้งอีกหลายชิ้น

เสี่ยวเมิงจ้องเซียวเฉิงเขม็ง เจ้าเด็กน้อยตายด้าน เกือบที่จะถูกนายกินจนหมดแล้ว ให้ฉันกินอะไรอีกเล่า?

ในเวลาเดียวกัน ก็มีอคติอยู่ภายในใจของเธอ เมื่อก่อนพี่สาวทำอาหารให้แต่เธอกินแค่คนเดียว ตอนนี้กลับเพิ่มด้วยเจ้าหนูที่น่าชังอีกคน เหมือนกับความรู้สึกที่ว่าเธอได้ถูกแย่งของรักของหวงไป

“อือ อันนี้ก็ไม่เลว เสี่ยวเมิงเธอกินเยอะหน่อย กำลังอยู่ในวัยเจริญเติบโต” เซียวเฉิงพูดจบ สายตาก็มองไปที่หน้าอกของเสี่ยวเมิ่ง

“กร๊อบ”

ซูเสี่ยวเมิ่งกัดจนตะเกียบหัก เจ้ากระล่อนหน้าตาย มารดา(*หมายถึงตัวเสี่ยวเมิ่งเอง)พรุ่งนี้จะออกไปซื้อยาถ่าย แล้วจะพานายไปทุ่งทานตะวัน ที่ละเลงเลือดอยู่เต็มพื้น ดูว่านายจะกล้าบังอาจอย่างนี้อีกไหม

กินข้าวเสร็จ ซูชิงก็ได้จัดการห้องนอนให้กับเซียวเฉิง ชั้นล่างที่ห้องรับแขก

ถึงแม้ว่าเธอจะเชื่อใจคนอย่างเซียวเฉิง แต่กับระหว่างเพศชายหญิงก็มีเส้นแบ่งกั่น ยังไงก็ต้องมีช่องว่างของความลับต่ออีกฝ่ายถึงจะดีกว่า

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ซูเสี่ยวเมิ่งก็ไม่ได้มีความเห็นเป็นอื่น นั้นก็เพราะว่าเธอก็มีการแผนการเอาไว้อยู่แล้ว แผนการที่จะทำให้เซียวเฉิงพรุ่งนี้ไสหัวออกไป

ดังนั้น จากที่เธอมอง ไม่ว่าเซียวเฉิงจะอยู่ชั้นบนหรือชั้นล่าง ก็เพียงแค่หนึ่งคืน

หลังจากที่ซูชิงจัดการเรียบร้อยแล้ว ก็ได้กลับไปที่ห้องเพื่ออาบน้ำ หลังจากที่ยุ่งมาทั้งวัน เธอก็รู้สึกเมื่อยตามตัว

แก๊ก

เมื่อได้ยินเสียงปิดไฟที่ดังมาจากชั้นบน ซูเสี่ยวเมิ่งที่กำลังดูทีวีอยู่ก็ได้ลุกขึ้นมา เธอชะเง้อมองไปที่ห้องรับแขก หัวเราะเสียงเย็นชา ย่องกลับไปที่ห้องชั้นบน

“คนเล่า?”

เซียวเฉิงออกมาจากห้องรับแขก มองซ้ายมองขวา ทีวียังไม่ปิด คนกลับหายไปแล้ว

ในทีวี กำลังฉายด้วยละครเกาหลี พระเอกจูบไปที่ใบหน้าของนางเอก หลังจากที่สบตามองกัน ก็ได้เริ่มที่จะจูบกันอย่างดูดดื่ม

“ให้ตายเถอะ ลามกจริง ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมถึงไม่เหมือนเด็กทั่วไป คงจะต้องสั่งส่วนกันสักหน่อยแล้ว”

เซียวเฉิงส่ายหน้าไปมา เปลี่ยนไปเป็น “สัตว์โลกน่ารัก” นี้จึงเป็นสิ่งที่สมควรดูสิ

ประมาณสิบนาทีได้ ซูเสี่ยวเมิ่งก็ได้ลงมาจากชั้นบน เธอมองไปที่เซียวเฉิงที่นั่งอยู่บนโซฟาดูทีวี อ้าปากหาว เด็กน้อยนี้ถึงกับเปลี่ยนช่องละครเกาหลีงั้นหรอ?

แต่เมื่อตอนที่เธอได้มองไปที่ทีวี เท้าก็อ่อนยวบลง เกือบที่จะตกลงจากบันไดลงมา

ในทีวี ลิงตัวผู้ได้ทับอยู่บนลิงตัวเมีย กำลังพร้อมที่จะเริ่มการเคลื่อนไหวบางอย่าง — การปฏิสัมพันธ์

ลิงตัวผู้เป็นฝ่ายทำ ทางหนึ่งโอบเข้าไป บางครั้งบางคราวก็ได้อ้าปากกว้างๆเพื่อที่จะงับไปที่หน้าอกของลิงตัวเมีย เห็นได้ชัดว่าใช้แรงเป็นอย่างมาก

“นาย …….. นายมันน่าไม่อาย ถึงกับดูของพวกนี้”

ซูเสี่ยวเมิ่งใบหน้าแดงก่ำ ก่อนหน้านี้แม้จะเคยแอบดูระหว่างคนกับคนมาบ้าง แต่นี้เป็นสัตว์ยังถือว่าไม่เคยเห็นมาก่อน

“หือ? “ เซียวเฉิงงงงันขึ้น” อา เธอกำลังพูดลิงอยู่หรอ ทำไมไร้ยางอายอย่างนี้กัน ? ที่แท้ เธอไม่รู้สึกว่านี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งสวยงามที่อยู่บนโลกนี้หรอกรึไงกัน?”

“สวยงามน้องเธอสิ!” ซูเสี่ยวเมิ่งกัดฟันไปมา เด็กน้อยนี้ที่แท้ก็เป็นเจ้าตัวลามกตัวหนึ่งตลอดมานี้เอง รีบที่จะไล่เขาไปให้เร็วๆดีกว่า ไม่อย่างนั้น ……… พี่สาวคงจะตกอยู่ในอันตราย

เซียวเฉิงส่ายหัว “เหว่ย เด็กสมัยนี้ ถึงกับไม่เข้าใจความสวยงามของสัจธรรม ไม่รู้ว่าถูกเลี้ยงลูกด้วยละครเกาหลีหรือยังไงนะ”

“นาย …….. หญิงสาวที่ดีจะไม่ปะทะคารมกับไอ้คนลามก” ซูเสี่ยวเมิ่งพูดออกมาข้างๆคูๆ

“ผมเป็นไอ้ลามก แต่ผมก็ยังภูมิใจ”

“เชอะ! ไม่คุยกับนายก่อนแล้ว สวิทช์ไฟในห้องฉันเสีย นายขึ้นไปช่วยฉันซ่อมหน่อยสิ”

“จริงหรอ?” เซียวเฉิงใช้สายตามองไปที่ซูเสี่ยวเมิ่งอย่างสงสัย

“จริงแท้แน่นอนอยู่แล้ว จะหลอกนายไปทำไม”

“……”

“นายซ่อมสวิทช์ไฟเป็นหรือเปล่า? แม้แต่สวิทช์ไฟก็ยังซ่อมไม่เป็น เป็นบอร์ดี้การ์ดภาษาอะไรกัน” ซูเสี่ยวเมิ่งมองอย่างเหยียดหยามแล้วพูดออกมา

เซียวเฉิงไร้คำพูด ซ่อมสวิทช์ไฟเกี่ยวอะไรกับการเป็นบอร์ดี้การ์ดกันล่ะนั้น?

“เร็วๆเถอะ ไฟปิดไม่ได้ วันนี้ฉันจะนอนได้ยังไง?” ซูเสี่ยวเมิ่งกล่าวเสริมเข้าไปอีกประโยคเพื่อคะยักคะยอ

“เอาเถอะ เธอกลับไปที่ห้องก่อน ผมจะไปเอาเครื่องมือ”

“อือ กล่องเครื่องมืออยู่ที่นอกบ้าน นายออกไปเอาก่อนเลย”

เซียวเฉิงมองไปที่แผ่นหลังของซูเสี่ยวเมิ่ง คิดไปคิดมา กลับไปที่ห้องรับแขกก่อนสักครู่ จากนั้นค่อยไปเอาเครื่องมือ ขึ้นไปชั้นบน

เมื่อได้เข้ามายังห้อง เซียวเฉิงก็สำรวจรอบห้อง ห้องของซูเสี่ยวเมิ่ง ไม่ได้คาวาอี้อย่างที่คาดคิดเอาไว้เลย มีก็แต่แค่ของเล่นหลายชิ้นวางไว้อยู่บนเตียงนอนใหญ่

“หือ?”

ทันใดนั้น ดวงตาเซียวเฉิงก็ได้ทอเป็นประกายขึ้น ได้มีจีสติงสีดำแขวนเอาไว้อยู่ไว้ด้วย?

“ฉันขอไปล้างหน้าก่อน เป็นสวิทช์ไฟดวงนั้น นายซ่อมให้ดีละ”

ซูเสี่ยวเมิ่งมองไปยังเซียวเฉิงที่กำลังสนใจอยู่กับจีสติงอยู่ แล้วก็ยิ้มอยู่ในใจ เหยื่อล่อปลาก็ได้ใช้ออกไปแล้ว ตอนนี้ก็ดูว่าปลาจะกินเบ็ดหรือเปล่าก็เท่านั้น

“ได้”

ซูเสี่ยวเมิ่งเดินไปที่ห้องน้ำ ปิดประตูลง หูแนบอยู่กับบานประตู ฟังความเคลื่อนไหวด้านนอกอย่างระมัดระวัง

“ไอ้หน้าโง่ คุณหนูอย่างฉันถึงกลับมีจีสติงอยู่ตัวหนึ่ง ดูว่านายจะเบ็ดหรือเปล่า ขอเพียงแค่นายแตะต้อง ถ้าอย่างนั้นนายก็จบสิ้นแล้ว ชิร์ชิร์”

ซูเสี่ยวเมิ่งทอสีหน้ายินดีออกมา ในสมองนึกภาพที่ยังไม่เกิดขึ้นที่ภายนอกขึ้นมา —— เซียวเฉิงอดไม่ได้กับแรงจูงใจ เอาจีสติงของเธอขึ้นมา แล้ววางลงอยู่บนปลายจมูก จากนั้น …….. อาอาอา ความจริงนี้ก็บ้าเกินไปแล้ว อดที่จะไม่มองได้

ไม่ได้ไม่ได้ ถึงแม้จะเป็นแค่จีสติงแค่ตัวเดียว เธอก็ตัดสินใจที่จะไม่เอาแล้ว แต่เธอก็ยังเคยใส่มาก่อน แล้วถ้าหากผู้ชายคนนี้เอาไปดมจริงๆแล้ว อย่างนั้น ……..

คิดจนถึงตรงนี้ เธอก็ไม่รอช้าอีกต่อไป เปิดประตูห้องน้ำออก แล้วก็ได้พุ่งตัวออกไป ร้องออกมาเสียงดัง “ไอ้ลากมก นายกำลังทำอะไรอยู่น่ะ!”

“ฉันกำลังซ่อมสวิทช์ไฟให้เธออยู่ไง” เซียวเฉิงไม่แม้แต่จะเงยหน้า ใช้แรงตอกตะปูยึดกับกล่องสวิทช์ไฟต่อไป

ซูเสี่ยวเมิ่งมองไปที่สิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า ด้วยสายตาโง่งม ทำไมไม่เป็นไปอย่างที่คิดเอาไว้กัน?

เธอหันหน้าไปดูจีสติงที่วางอยู่บนเตียง เหมือนกันเมื่อตอนแรกไม่มีผิด แทบจะเรียกได้ว่าไม่มีการขยับแม้แต่มิลเดียว

“นาย …….. นาย ……..”

ซูเสี่ยวเมิ่งกัดฟันไปมา เธออยากจะตะโกนออกมาดังๆคำหนึ่ง นายเป็นผู้ชายจริงหรือเปล่า?

เซียวเฉิงเงยหน้าขึ้นมา มองไปที่สีหน้าของซูเสี่ยวเมิ่ง อมยิ้มอยู่ในใจ ใช้ใบหน้าตายด้านพูดสวนกลับไป “ ผมทำไมหรอ?”

ซูเสี่ยวเมิ่งถอนหายใจออกคำหนึ่ง ใช้ความพยายามที่จะสงบจิตใจเอาไว้ “ไม่มีอะไร ซ่อมเสร็จหรือยัง?”

“ใกล้แล้ว”

หลังจากนั้นหลายนาที เซียวเฉิงก็ได้เก็บอุปกรณ์ “ซ่อมเสร็จแล้ว”

ซูเสี่ยวเมิ่งกดไปที่สวิทช์ไฟไปมา เผยให้เห็นถึงรอยยิ้ม “ไม่เลวนิ ดูท่าบอดี้การ์ดอย่างนายก็มีประโยชน์อยู่เหมือนกัน”

“แน่นอนอยู่แล้ว”

 

ซูเสี่ยวเมิ่งยื่นแขนทั้งสองข้างออก ยิ้มเบาๆแล้วตอบ “อย่างนั้นก็มีกอดกันอย่างมิตรภาพ วันหน้าก็ช่วยเหลือซึ่งกันและกันด้วย”

“ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน? ดีเลยดีเลย” เซียวเฉิงยินดียิ่ง กอดไปทีซูเสี่ยวเมิ่งอย่างแน่น

“เด็กน้อย ถ้าหากว่าฉันตะโกนขึ้นมา แล้วทำให้นายได้เห็นว่ามีไอ้ลามกกำลังกอดฉันอยู่ นายว่าเธอจะไล่นายออกไปหรือเปล่า?” ซูเสี่ยวเมิ่งเป่าไปที่หูของเซียวเฉิง พูดกล่าวน้ำเสียงสนุกสนาน

“ไอ้ลามก?” เซียวเฉิงประหลาดใจ ส่ายหน้าไปมา “อย่างนั้นก็เป็นการกอดที่ประหลาดยิ่ง เธอในเมื่อบอกว่าเป็นไอ้ลามก? ถ้างั้นผมจะแสดงให้ดูสักหน่อย ………”

ในช่วงเวลาที่ซูเสี่ยวเมิ่งรู้สึกว่าไม่ดีแล้ว ก็ได้ยินเสียง “เพียะ” ดังขึ้นมา มือขวาของเซียวเฉิงก็ได้ตบไปที่ปั้นท้ายของเธอ บีบไปมา “นี้จึงจะเรียกได้ว่าเป็นไอ้ลามกจริงหรือเปล่า ล่ะ?”

“นายอยากตายหรอ!!”

ซูเสี่ยวเมิ่งปะทุความโกรธขึ้น ใช้เท้าขวาประทับไปที่เป้ากางเกงของเซียวเฉิงเข้าไป โตจนปานนี้แล้ว เป็นครั้งแรกเลยที่เธอถูกผู้ชายลูบคลำที่ก้น

เซียวเฉิงถอยหลังไปสองก้าว แล้วก็ได้ถอนหายใจคำหนึ่ง “หนูน้อย ร้ายพอตัวเลยนะ ถึงกับกล้าทำให้ผมไม่อาจมีลูกหลานได้เลยงั้นเหรอเนี้ย?”

“กล้าลูบก้นฉัน ฉันจะหักแขนนาย”

“หยุด ถ้าเธอยังจะลงมือต่อ ผมจะไปบอกกับพี่สาวเธอว่า ผมต้องการที่จะไปโรงเรียนเพื่อเป็นบอดี้การ์ดให้เธอ”

“เชอะ ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะบอกกับเธอเอง ว่าดึกดื่นค่ำคืนนายไม่ยอมนอน มาที่ห้องฉันเพื่อที่จะขืนใจฉัน”

เซียวเฉิงชี้ไปที่กล่องเครื่องมือ ด้วยสีหน้าได้ใจ “ผมขึ้นมาเพื่อที่จะซ่อมไฟให้แค่นั้น เธอคิดว่าพี่สาวเธอจะเชื่อเธองั้นหรอ?”

ซูเสี่ยวเมิ่งขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน “ไสหัวออกไปจากห้องของฉัน ได้แล้ว!”

“เอาเถอะ ถ้างั้นผมไสหัวไปก็ได้ ฝันดีนะ”

ในช่วงเวลาที่เซียวเฉิงเดินไปที่ประตู ก็ได้หยุดเท้าลง “ใช่แล้ว เสี่ยวเมิ่ง ความจริงแล้วผมรู้สึกว่าอายุอย่างเธอนี้ไม่เหมาะที่จะใส่กางเกงในจีตริงสีดำหรอกนะ น่าจะเป็น “ฮะโหล คิดตี้” ไม่ก็ “โดราเอมอนน่าจะเหมาะกว่า ……..” พูดจบ เขาก็ปิดประตูอย่างเร็ว วิ่งลงไปยังชั้นล่าง

ซูเสี่ยวเมิ่งอารมณ์เสียอย่างแรง อีกทั้งยังโกรธเป็นอย่างมาก คว้าไปทีของเล่นข้างเตียง ปาไปทางด้านของประตู

“ไอ้น่าไม่อาย ไปตายซะเถอะ คิดหรือว่าคุณหนูอย่างฉันจะรังแกได้ง่ายๆ? พรุ่งนี้จะให้นายได้ไสหัวออกไปเอง”

ซูเสี่ยวเมิ่งหัวเราะอย่างเย็นชา เอากล้องถ่ายรูปตัวเล็กออกมาจากมุมลึกลับ

ภาพที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ก็ได้ถูกอัดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ขอเพียงแค่เธอเอาวิดีโอนี้ตัดต่อเล็กน้อยก็เพียงพอแล้ว เหลือไว้แค่ตอนที่เซียวเฉิงกอดเธอ ภาพช่วงที่จับไปที่ก้นของเธอ จากนั้นก็เพิ่มเติมอีกหน่อยแล้วก็ส่งไปให้พี่สาว เมื่อถึงเวลานั้น …….. ชิชิ

ต่อมาเธอก็ได้เปิดกล้องถ่ายรูป ดวงตาก็ได้โง่งมขึ้นมา บนกล้องมีแต่เส้นขีดขว้างวุ่นวายไปหมด ไม่ได้บันทึกอะไรเอาไว้เลย ……..

ห้องรับแขกที่ชั้นล่าง เซียวเฉิงก็ได้ล่วงเอามือถือขนาดเท่าฝ่ามือออกมา ยิ้มออกมาที่มุมปาก “ หนูน้อย เธอยังอ่อนต่อโลกนัก ของต่างชาติใช่ว่าจะดีเสมอไปนะ”

นับตั้งแต่ที่ซูเสี่ยวเมิ่งเรียกให้เขาขึ้นไปซ่อมสวิทช์ไฟ เขาก็รู้สึกว่าไม่ถูกต้องแล้ว ในที่สุด เมื่อเข้ามายังห้อง ก็สำรวจไปทีละก้าว

ก่อนอื่นก็จีสติง จากนั้นก็พบว่ามีกล้องถ่ายรูปยี่ห้อตั้งเอาไว้ ……. กระบวนท่าสังหารก็ต้องเจอกระบวนท่าสวนกลับ

ยังดี เขาได้มีการเตรียมการแต่เนิ่นๆ จึงได้เตรียมHERเอาไว้

อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า HERแที่ทันสมัยของต่างประเทศ เมื่อเจอกับเครื่องดักฟังก็ไม่ต่างอะไรจากเศษเหล็กเท่านั้น

เมื่อได้เปิดอุปกรณ์ HER ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกเสียง เครื่องมือถ่ายภาพ ทั้งหมดที่เป็นอุปกรณ์รับส่งบันทึก ก็ไม่มีทางที่จะใช้ได้อย่างปกติได้

ดังนั้น เขาจึงลองใช้HERเพื่อเล่นสนุกเป็นเพื่อนหนูน้อยนี้สักหน่อยก็แล้วกัน

“เหอะ ก็ไม่รู้หรอกนะว่าหนูน้อยนั้น ในตอนนี้จะมีปฏิกิริยายังไง คาดว่าคงอยากจะร้องไห้แล้วละมั่ง ?”

เซียวเฉิงอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ ต่อมาตาของเขาก็ทอเป็นประกายจับไปที่แหวนที่อยู่มือซ้าย HERได้ทอเป็นประกายไปมา

.

.

.

.