บทที่ 274 เพชรจักรพรรดิ

ตลอดเส้นทางระหว่างที่เย่เฟิงเดินกลับมาที่บ้าน จากทักษะสัมผัสวิญญาณก็ตรวจพบว่าที่รอบๆต่างเต็มไปด้วยคนของหน่วย NSA ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย

และเมื่อมาอยู่ในบ้านตอนนี้แล้ว ก็พบซูเหมิงหานอยู่ห้องนอนชั้นบนกำลังดูแลหลงหวางเอ๋อ ส่วนชูชูกำลังเตรียมอาหารเย็นอยู่ เมื่อเย่เฟิงได้นำยาถอนพิษกลับมาถึงแล้ว พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลมากนัก

“พี่เย่เป็นยังไงบ้าง?”

หนานฟางต้อนรับด้วยรอยยิ้มพลางกล่าวถามแต่สายตาจับจ้องอยู่แต่ใบหน้าจื่อเจี้ยนหลานอยู่ตลอดเวลา

“ทุกอย่างราบรื่นดี ต้องขอบคุณที่มีจื่อเจี้ยนหลาน”

เย่เฟิงก็ยิ้มให้พร้อมมองไปยังไหล่เปราะบางของจื่อเจี้ยนหลานและได้แนะนำตัวให้กับเธอ “คนนี้คือหนานฟาง เธอเรียกเขาว่าพี่หนานก็ได้นะ”

“หวัดดีค่ะพี่หนาน”

จื่อเจี้ยนหลานพูดทักทายอย่างเขินอาย

“หวัดดี”

หนานฟางโบกมือให้ดูเหมือนกับว่าไม่ต้องเกรงใจไป แต่ภายในใจกลับรู้สึกพอใจอย่างยิ่งกับคำว่า ‘หวัดดีค่ะพี่หนาน’ ที่เธอทักทายเมื่อครู่นี้

มันเป็นได้ยังไงกันที่น้องสาวคนเล็กคนนี้ถึงไม่ได้เป็นผู้หญิงของเย่เฟิงกัน?

ในกรณีนี้หานฟางรู้สึกเศร้าใจยิ่งนัก

เย่เฟิงไม่ได้พูดอะไรกับเขาอีกก็พาจื่อเจี้ยนหลานกลับไปยังบ้านเดี่ยวของเขาอีกหลังหนึ่ง เขาก็รู้สึกกังวลเกี่ยวกับหลงหวางเอ๋อที่ถูกพิษนอนอยู่บนเตียงเช่นกัน

เมื่อกำลังตรงขึ้นไปยังชั้นบน จื่อเจี้ยนหลานกลับไม่กล้าที่จะเข้าประตูห้องมา แต่เย่เฟิงก็ไม่ได้บังคับอะไรเธอปล่อยให้เธอนั่งอยู่ที่ระเบียงชั้นสองไปสักพักก่อนในตอนนี้ แต่เมื่อเขาเข้ามาในห้องนอนแล้วก็พบเห็นว่าหลงหวางเอ๋อนั่งผิงอยู่หัวเตียงพูดคุยกับซูเหมิงหานอย่างร่าเริง

มันดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นสินะ?

“เธอเป็นยังไงบ้าง หวางเอ๋อ?”

เย่เฟิงที่ผ่านประตูเข้ามาก็ตรงเข้าไปถามอย่างห่วงใยและรีบเร่งบึ่งไปยังด้านข้างเตียงอย่างกระวนกระวาย

“โชคดีจริง เพิ่งจะรู้ว่าพิษผงทลายใจมันทำอะไรผู้ฝึกเซียนไม่ค่อยได้เท่าไหร่”

หลงหวางเอ๋อยิ้มให้ เรื่องที่จื่อเจี้ยนหลานกลับมาพร้อมกับเย่เฟิง เธอก็รู้เรื่องแล้วแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่นัก เธอรู้อยู่แล้วว่าเย่เฟิงจะต้องมีคำอธิบายให้กับพวกเธออย่างแน่นอน

“จะต้องกินยาถอนพิษก่อน มาเถอะ”

เย่เฟิงหยิบเอายาถอนพิษผงทลายใจออกมาและยื่นป้อนให้กับหลงหวางเอ๋อสองเม็ดด้วยตัวเอง เมื่อตอนนั้นเขาเห็นจื่อเจี้ยนหลานก็กินมันไปสองเม็ด และสำหรับหลงหวางเอ๋อก็คงจะสองเม็ดเหมือนกัน

ขณะที่กำลังป้อนยาให้ หลงหวางเอ๋อก็ดึงรั้งเย่เฟิงเข้ามาอย่างรุนแรง จากนั้นก็หอมแก้มเขาไปฟอดใหญ่

เย่เฟิงแทบอดใจไม่อยู่ สาวสวยคนนี้ช่างยั่วยวนใจเหลือเกิน

หลงหวางเอ๋อฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว จากนั้นเย่เฟิงก็พาทุกคนไปยังห้องนั่งเล่นชั้นล่างเพื่อจะพูดคุยเรื่องจื่อเจี้ยนหลาน และก็เพื่อแนะนำตัวจื่อเจี้ยนหลานให้กับทุกคนได้รู้จัก

เธอรู้อยู่แล้วว่าเย่เฟิงมีผู้หญิงถึงสองคน เมื่อเห็นซูเหมิงหานที่น่าหลงใหลเช่นเดียวกับใบหน้าน่ารักของหลงหวางเอ๋ออย่างชัดเจนแล้ว เธอก็รู้สึกไม่เชื่อสายตาอยู่เล็กน้อยที่ผู้หญิงทั้งสองคนกับอยู่ร่วมกันอย่างสงบปกติดี

แต่หนานฟางมองออกว่าเย่เฟิงคิดกับจื่อเจี้ยนหลานเป็นแค่น้องสาวอย่างบริสุทธิ์ใจ และนอกเหนือจากนี้จื่อเจี้ยนหลานก็จะต้องอยู่ที่นี้ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป

“ก็ให้อยู่กับแกไปสิ”

เย่เหวินเทียนพูดไม่กี่คำบอกประกาศให้จื่อเจี้ยนหลานไปอยู่ที่บ้านของเย่เฟิง

เย่เฟิงแทบจะร้องไห้ ใครจะรู้กันว่าตาเฒ่าคนนี้จะพูดแบบนี้ออกมา คนอื่นก็สังเกตเห็นว่าน้องสาวสวยคนนี้ต้องการที่จะเลือกด้วยตัวเอง แต่ตาเฒ่าคนนี้ก็กลับเห็นเช่นเดียวกันว่าน้องสาวสวยคนนี้ก็อยากที่จะมาเป็นหลานสะใภ้เช่นกันด้วย

ชูชูก็เตรียมห้องให้จื่อเจี่ยนหลานอย่างรวดเร็ว เมื่อสาวน้อยคนนี้จะต้องอยู่ที่นี้

หลังจากที่กินอาหารเย็นเสร็จกันไป เย่เฟิงก็ได้รับสายจากหลินชื่อฉิง เธอก็แจ้งเตือนนัดเขาออกไปข้างนอก

ที่ร้านกาแฟด้านนอกหมู่บ้านชิงเฟิง เย่เฟิงเห็นพี่สาวหลินชื่อฉิงที่สุดเซ็กซี่ก็ลงไปนั่งฝั่งตรงข้ามเธอพลางยิ้มถามว่า “ทำไมไม่ไปหาผมที่บ้านโดยตรงเลยล่ะ?”

“ที่บ้านเธอมันมีสาวสวยเยอะแยะเกินไปน่ะสิ พี่ไปที่นั่นแล้วรู้สึกกดดันมาก”

หลินชื่อฉิงพลันกระพริบตาและยิ้มอย่างมีเลศนัย “ได้ยินมาว่าเธอสาวสวยอีกคนกลับมาในวันนี้ด้วยงั้นหรอ?”

“นั่นเป็นน้องสาวคนเล็กของผม”

เย่เฟิงกระอักกระอ่วนเล็กน้อยก็แสร้งไอออกมา

“อืม น้องสาวคนเล็กของเธอ”

หลินชื่อฉิงปิดปากหัวเราะคิกคัก

เย่เฟิงไม่ได้เล่นไปตามเกมของเธอ เขาคิดว่าหลินชื่อฉิงเรียกเขามาอย่างมีจุดประสงค์ ดังนั้นเขาจึงหยิบเอาแหวนเพชรเม็ดใหญ่ในแหวนมิติออกมาและวางบนโต๊ะกาแฟ

แหวนเพชรใหญ่ขนาดสิบกะรัตเมื่ออยู่ภายใต้แสงมันก็พลันเปล่งประกลายแทบทำให้นัยน์ตาคู่งามของหลินชื่อฉิงพร่ามัว

“นี่คือ?”

ใจของหลินชื่อฉิงเต้นแรง

“ก่อนที่จะเอาไปพี่ต้องบอกผมก่อนว่าสิ่งนี้ถ้าใช้ในการโฆษณามันจะมีผลกระทบอะไรเกิดขึ้นหรือไม่”

เย่เฟิงเห็นใบหน้าของหลินชื่อฉิงแดงก่ำ มันน่าตกใจถึงขนาดจะต้องผวาเช่นนั้นเชียวหรือ

“ราคา”

หลินชื่อฉิงตระหนักได้ว่าเธอได้ทำขายหน้าตัวเองไปแล้วใบหน้าก็ยิ่งแดงขึ้นกว่าเดิม

ความจริงตอนนี้ที่เธอเรียกเย่เฟิงออกมาหามันไม่ใช่เรื่องโฆษณาสิ้นค้า เพียงแต่ว่าเธอดันเห็นเย่เฟิงหยิบแหวนเพชรขนาดใหญ่ขึ้นมากะทันหัน แต่แล้วก็คิดว่าเย่เฟิงจะให้มันกับเธอ

เธอก็หยิบแหวนเพชรขึ้นมาจากโต๊ะอย่างระวัง มองดูมันสองรอบ รู้สึกว่าของชิ้นนี้ดูคุ้นตาอยู่เล็กน้อย เมื่อขบคิดอย่างรอบคอบก็โพล่งออกด้วยความสงสัย “เพชรจักรพรรดิ?”

“เพชรจักรพรรดิ?”

เมื่อเย่เฟิงได้ยินชื่อเรียกที่แปลกประหลาดเล็กน้อยของมันก็อธิบายขึ้นว่า “นี่คือสิ่งของที่อยู่ภายในสำนักเซียนเร้นลับ ผมก็เอามันมาด้วย”

“…”

เรื่องแบบนี้เย่เฟิงช่างคล่องแคล่วนัก หลินชื่อฉิงถึงกลับไร้คำพูด

“เพชรจักรพรรดิเมื่อหลายปีก่อนมีการผลิตชุดเครื่องเพชรระดับสูงที่อังกฤษ มีจำนวนที่น้อยนิดแต่ละชิ้นก็มีลักษณะพิเศษของตัวมันเอง”

หลินชื่อฉิงสำรวจไปยังแหวนเพชรเม็ดใหญ่ภายในมือของเธอ ช่างรู้สึกชื่นชมกับวิธีการของเย่เฟิงจริงๆ “สิ่งนี้มันหายไปเหมือนหายปีก่อนแล้ว ไม่คาดคิดเลยว่ามันจะตกไปอยู่ในมือของเจ้าสำนักเซียนเร้นลับ”

“ของชิ้นนี้มีค่าเท่าไหร่กัน?”

เย่เฟิงถามถึงปัญหาที่เขากังวล

“คาดว่าประมาณ 20 ล้าน แต่เมื่อนำมันมาใช้ในการโฆษณาการตลาดแล้วล่ะก็ ราคาของมันน่าจะเกินกว่า 20 ล้านเสียอีก”

หลินชื่อฉิงครุ่นคิดและพูดด้วยรอยยิ้ม “ชื่อเสียงของเพชรจักรพรรดิมีน้อยคนที่รู้จักอยู่ในแวดวง ถ้าใช้มันเพื่อโฆษณาดึงดูดเหล่าเศรษฐีให้มาร่วมงานและผลลัพธ์ที่ได้ก็เห็นได้อย่างชัดเจนแน่แล้ว”

“แล้วเมื่อเทียบกับการลงทุนของบริษัทหยกฟ้าล่ะใช้ได้หรือไม่?”

เรื่องการค้าหลายอย่างที่เย่เฟิงไม่ได้เข้าใจเลย แต่ตราบเท่าที่เขาได้รับชี้แจงเรื่องนี้ก็จะกระจ่าง

“มันแทบที่จะเหมือนกันเลย แต่มันก็มีความแตกต่างกันอยู่”

หลิยชื่อฉิงส่ายหัวของเธอ “ภายในบริษัทหยกฟ้ามีฐานลูกค้าที่ค่อนข้างมากมาย การโฆษณาด้วยเพชรจักรพรรรดิควรจะสามารถที่จะพลิกกลับงานแสดงออกได้มากมายพอตัวอยู่”

ตระกูลหลินมอบให้เธอเป็นผู้ดำเนินการเรื่องการแสดงนี้ ซึ่งมันทำให้เธอมีอำนาจและความรับผิดชอบที่เต็มที่และด้วยงบประมาณที่กำหนดมาตั้งแต่ต้นแล้ว

บริษัทหยกฟ้าที่แยกตัวออกมาทำให้หลินชื่อฉิงต้องแข่งขันอย่างหนัก แต่เมื่อมีเพชรจักรพรรดินี้ก็ทำให้มีโอกาสที่ดี ทำให้เธอมีกลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง แม้ว่างานแสดงจะมีเพียงลูกค้าธรรมดาและไม่ค่อยเป็นที่นิยมมาก แต่เป้าหมายของงานแสดงก็คือการทำเงิน ตราบเท่าที่สามารถดึงดูดผู้คนให้เข้ามาในสถานที่ได้ก็จะทำให้เงินได้ไม่มากก็น้อยแล้ว

“งั้นก็ดีแล้วครับ”

เย่เฟิงพยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้ม “มอบให้พี่สาวแล้ว”

“จะมอบให้กันได้ยังไง”

แม้ว่าหลินชื่อฉิงจะเอ่ยปากเช่นนั้นก็แต่เก็บแหวนเพชนเอาไว้ไม่ได้วางลงพลางยิ้มอย่างงดงาม “ถ้าเพชรจักรพรรดิเม็ดนี้สามารถขายได้ที่งานแสดง พี่สาวคนนี้จะแบ่งให้เธอครึ่งหนึ่งแล้วกัน เป็นยังไง?”

“อย่าได้ถือตัวนักเลย”

ข้อเสนอนี้แน่นอนว่าเย่เฟิงไม่คิดจะปฏิเสธทำได้แต่หัวเราะและยิ้มรับ เขาแค่ต้องการที่จะมอบเพชรให้ไปและให้อีกฝ่ายแบ่งเงินกลับมาให้เขามันเป็นวิธีที่ดีอยู่แล้ว

“อีกเพียงสามวันก่อนที่จะถึงงานแสดง เมื่อถึงเวลาแล้วความปลอดภัยก็ขึ้นอยู่กับเธอแล้วนะ”

หลินชื่อฉิงพูดจบพลางยิ้ม

“ได้สัญญากับพี่สาวไว้แล้ว ผมจะต้องทำให้อย่างแน่นอน ถ้าหากหมดเรื่องแล้วผมขอตัวกลับก่อนแล้วกัน”

เมื่อเย่เฟิงพูดเสร็จก็ลุกขึ้น เขารู้สึกต้องการที่จะกลับไปนอนหลับกอดสาวสวยแล้ว แม้ว่าหลินชื่อฉิงที่อยู่เบื้องหน้าเขาจะรูปร่างเซ็กซี่ที่ดึงดูดแค่ไหนแต่ก็ทำได้แค่เพียงมองแต่แตะต้องไม่ได้!

“เดี๋ยวก่อนสิ อา… จะรีบกลับไปทำอะไรกันนะ?”

หลินชื่อฉิงค่อนข้างที่จะรู้สึกกระวนกระวายใจเล็กน้อย เธอที่นัดเย่เฟิงมาหาไม่ใช่เพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียว แต่มันยังมีเรื่องอื่นอยู่อีกด้วย

……………………………..

แปลโดย คั่นหนังสือ GSI