บทที่ 265 กระบี่เริงระบำ

เย่เฟิงคลายวงแขนออก ทำให้จื่อเจี้ยนหลานใจหายวาบ เย่เฟิงคงไม่ตัดสินใจมอบเธอให้ฉีหลินจื่อหรอกใช่ไหม?

ถึงอย่างนั้น หญิงสาวก็ตระหนักได้ว่าเย่เฟิงต้องไม่ใช่คนแบบนั้นแน่

เย่เฟิงกวาดตามองไปยังสองข้างทาง พร้อมกับกล่าวเสียงดัง “วันนี้ ฉันได้รับคำฝากฝังจากผู้อาวุโสกู้หยิงให้นำมาประกาศแก่ทุกคนที่นี่ได้รับทราบ รวมทั้งนำตำราวรยุทธ์มีดบินปีศาจคำรามมาเพื่อชี้ทางสว่างให้แก่สำนักเซียนเร้นลับ ใครที่กล้าขวางทาง ถือเป็นการล่วงเกินผู้อาวุโสกู้หยิง และไม่ให้ความเคารพแก่บรรพบุรุษของสำนักเซียนเร้นลับ!

ผู้อาวุโสกู้หยิงคือเจ้าสำนักเซียนเร้นลับในอดีต น่าเศร้าที่เขาต้องหลบหนีออกจากสำนักเพราะการแย่งชิงบัลลังก์ แต่ด้วยที่นำตำราวรยุทธ์มีดบินปีศาจคำรามไปซ่อนไว้ เมื่อเขาถูกลอบสังหาร ตำราวรยุทธ์นี้จึงสูญหายไป

และฉีหลินจื่อนั่นเอง คือหนึ่งในกลุ่มคนที่มีส่วนร่วมในการแย่งชิงบัลลังก์!

เมื่อเย่เฟิงกล่าวดังนั้น จื่อเจี้ยนหลานที่อยู่ใกล้ๆก็รู้สึกมึนงงไปหมด ผู้อาวุโสกู้หยิงเป็นใครกัน? แต่เหล่าศิษย์สำนักที่ดักซุ่มอยู่ทางซ้ายและขวานั้น แต่ละคนต่างก็ตัวสั่นสะท้าน ผู้อาวุโสกู้หยิง!

ชื่อนี้คือสิ่งต้องห้ามที่ห้ามพูดขึ้นมาเด็ดขาดในสำนักเซียนเร้นลับ มันจึงไม่น่าแปลกใจที่ศิษย์รุ่นเยาว์มากมายจะไม่รู้จักผู้อาวุโสคนนี้

แต่เหล่าศิษย์ที่ดักซุ่มเพื่อลอบโจมตีเย่เฟิงนั้น ล้วนมีอายุ 30-40 ปี เป็นศิษย์ระดับกลางของสำนัก พวกย่อมรู้จักชื่อนี้เป็นอย่างดี ย้ำเตือนให้แต่ละคนนึกถึงความทรงจำในอดีต

“ฉีหลินจื่อ คือหนึ่งในกลุ่มคนที่ทำการแย่งชิงบัลลังก์ในวันนั้น ความมักใหญ่ใฝ่สูงของมันทำให้สำนักเซียนเร้นลับต้องตกต่ำมาจนถึงทุกวันนี้!”

เย่เฟิงจ้องเขม็งไปยังชายชราหลังค่อมที่ยืนอยู่บนระเบียงชั้นสามของตำหนัก จากนั้นจึงกล่าวต่อไปว่า “ฉันได้รับความไว้วางใจจากผู้อาวุโสกู้หยิงให้มาที่นี่เพื่อเรียกคืนความเป็นธรรมให้แก่เขาและสังหารคนทรยศ! หากไม่สำเร็จ ฉันจะทำให้ตำราวรยุทธ์มีดบินปีศาจคำรามต้องสูญหายไปจากโลกนี้ตลอดการ!”

แต่ละคำที่บอกเล่าออกมาจากปากเย่เฟิงทำให้ศิษย์สำนักเซียนเร้นลับโดยรอบต่างตกตะลึง เย่เฟิงได้รับคำฝากฝังมาจากผู้อาวุโสกุ้หยิงจริงงั้นหรือ?

แน่นอนว่าคำพูดของเย่เฟิงย่อมไม่ใช่เรื่องจริง ก่อนจะมาที่นี่ เย่เวิ่นเทียนได้กล่าวว่าถ้าต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ การสวมบทเป็นผู้สืบทอดจากกู้หยิงจะช่วยแก้ปัญหาเร่งด่วนนี้ได้

เย่เฟิงตอนนี้ไม่เข้าใจคำว่าเรื่องเร่งด่วนคืออะไร แต่เขาต้องการจะสร้างการรบกวนจิตใจของเหล่าศิษย์สำนัก และสร้างความชอบธรรมในการสังหารฉีหลินจื่อเพื่อเข้าควบคุมสำนักเซียนเร้นลับในที่สุด

คำกล่าวของเย่เฟิงสร้างความเดือดดาลให้แก่ฉีหลินจื่อเป็นอย่างยิ่ง ผู้สืบทอดกู้หยิงงั้นรึ? ตอนมันตาย ไอ้เด็กนี่ยังไม่ออกจากท้องแม่มันด้วยซ้ำ! นี่มันไร้สาระทั้งเพ

ร่างของชายชราร่างค่อมสั่นเทาด้วยความโมโห ขณะต้องการจะอ้าปากกล่าวปฏิเสธ เย่เฟิงก็พลันเคลื่อนไหวทันที

ชายหนุ่มจ้องมองฉีหลินจื่ออยู่ตลอดเวลา เมื่อได้โอกาสที่อีกฝ่ายเปิดช่องโหว่ เขาก็ตัดสินใจลงมืออย่างรวดเร็ว

กระบี่ผ่ามิติ!

ร่างของเย่เฟิงหายวับไปขณะที่จื่อเจี้ยนหลานยังคงอยู่ที่เดิม ร่างของเขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งที่ระเบียงชั้นสามของตำหนัก พร้อมกับตวัดกระบี่อย่างรวดเร็ว!

ทักษะกระบี่ผ่ามิติไม่ใช่สามารถเคลื่อนย้ายตัวเองได้ในแนวราบเท่านั้น แต่ยังสามารถเคลื่อนย้ายในแนวดิ่งได้ด้วย แม้ฉีหลินจื่อจะอยู่สูงขึ้นไป 30 เมตร มันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเย่เฟิง

เมื่อฉีหลินจื่อที่อยู่บนระเบียงมองเห็นร่างของเย่เฟิงที่หายวับไป ดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง รีบตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นทันที

Puff!

เย่เฟิงที่เคลื่อนที่ขึ้นมาบนระเบียง ฟาดกระบี่ไปยังลำคอของฉีหลินจื่อ แต่เขาพบว่ามีบางสิ่งบางอย่างมาสะกัดกั้นกระบี่นี้ไว้

ม่านพลังชี่ ได้ควบแน่นโอบล้อมร่างของฉีหลินจื่อไว้ กระบี่อันคมกริบของเย่เฟิง ไม่สามารถฟันผ่านมันเข้าไปได้!

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไอ้หนู แก่คิดว่าฉันคนนี้โง่นักหรือไง?”

ฉีหลินจื่อหัวเราะ รูปแบบการโจมตีที่เย่เฟิงใช้ เขาได้มองดูมันทั้งหมดแล้วก่อนหน้านี้ แน่นอนว่าย่อมเตรียมการรับมือสำหรับการเคลื่อนย้ายตำแหน่งแบบฉับพลันนี้ไว้แล้วเช่นกัน

สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ หลังจากวรยุทธ์ระดับ 50 ปีขึ้นไปแล้ว เมื่อระดับวรยุทธ์เพิ่มขึ้นอีก 10 ปี ความแข็งแกร่งของพลังชี่ภายในจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว นั่นหมายความว่าวรยุทธ์ระดับ 70 ปีของฉีหลินจื่อนี่ มีพลังชี่ภายในที่แข็งแกร่งกว่าหลงโม่หรันถึง 4 เท่า!

ยิ่งกว่านั้น เขายังมีความชำนาญในการเรียกพลังชี่ออกมาใช้นอกร่างกายเป็นอย่างดี ไม่เช่นนั้นคงไม่อาจเป็นผู้นำสำนักเซียนเร้นลับมาได้นานขนาดนี้

การเรียกพลังชี่ออกมาใช้นอกร่างกาย สามารถแปรสภาพมันให้กลายเป็นม่านคุ้มกันตัวเองได้ ซึ่งกระบี่ของเย่เฟิงไม่สามารถทะลุทะลวงผ่านเข้าไป

เย่เฟิงใจสั่นวูบ ด้วยที่ไม่คิดว่าม่านคุ้มกันที่ถูกสร้างด้วยผู้ฝึกยุทธ์จะแข็งแกร่งขนาดนี้ แม้แต่กระบี่เจินชี่ของเขาที่เป็นสีเขียวเข้มแล้วก็ยังไม่อาจทะลวงผ่านเข้าไปได้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าม่านคุ้มกันของฉีหลินจื่อจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเกราะของเรือดำน้ำนิวเคลียร์เสียอีก!

ม่านคุ้มกันแบบนี้ หากมีวรยุทธ์ระดับ 20 ปี เย่เฟิงสามารถใช้มันได้อย่างง่ายดาย มันคือทักษะเซียนของสำนักสุสานดารา – โล่ดารา แต่วรยุทธ์ในระดับ 15 ปีตอนนี้ ต่อให้ปลดปล่อยเจินชี่ออกมาครอบคลุมร่างกายไว้ มันก็คุ้มกันอะไรไม่ได้มาก และบริโภคเจินชี่มหาศาล

“ตาย!”

เมื่อหัวเราะจบ ฉีหลินจื่อก็ระดมโจมตีใส่เย่เฟิงด้วยอาวุธลับอย่างต่อเนื่อง

ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!

เย่เฟิงที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศ ไม่อาจเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วนัก จึงทำได้เพียงใช้กระบี่ในมือปัดป้องอาวุธลับของคู่ต่อสู้ที่โจมตีเข้ามา

อย่างไรก็ตาม ระดับวรยุทธ์ของทั้งคู่นั้นห่างชั้นกันเกินไป

เย่เฟิงใช้กระบี่ป้องกันมีดบินสามเล่ม พลังชี่ภายในอันมหาศาลที่อยู่ในมีดทั้งสามเล่มนั้นทำให้งามนิ้วของเขาชาจนแทบไร้ความรู้สึก หากเป็นแบบนี้ เย่เฟิงคงทนการโจมตีนี้ได้ไม่เกิน 10 เล่มแน่!

“เย่เฟิง!”

จื่อเจี้ยนหลานที่อยู่ด้านล่าง มองเย่เฟิงที่กระโดดหลบไปด้านข้างด้วยความร้อนใจ หญิงสาวคิดว่าเขาบุ่มบ่ามเกินไป

เย่เฟิงปัดป้องมีดบินที่โจมตีเข้ามาแต่ละเล่ม พลังชี่ภายในมีดบินอันมหาศาลทำให้ร่างของเขากระเด็นออกไปกลางอากาศ

สี่! ห้า! หก!

เย่เฟิงปัดป้องมีดบินไปแล้ว 6 เล่ม เจินชี่ในร่างของเขาถูกใช้ไปจนแทบจะหมดสิ้นแล้ว หากต้องตกลงไปจากที่ซึ่งสูงถึง 30 เมตรในตอนนี้ มันอาจทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสจนสู้ต่อไปไม่ไหวแน่

“ทั้งหมดลงมือ!”

ฉีหลินจื่อไม่เปิดโอกาสให้เย่เฟิง เขาตะโกนออกคำสั่งเสียงดังลั่น

เหล่าศิษย์ที่ดักสุ่มอยู่ทั้งสองด้านต่างกระโดดออกมาพร้อมกับปาอาวุธลับเข้าหาเย่เฟิงทันที นี่ทำให้ชายหนุ่มต้องเผชิญสถานการณ์เดียวกับศรห่าฝนอีกครั้ง แต่คราวนี้มันวิกฤตกว่ามาก

แต่แม้จะเป็นเช่นนั้น เย่เฟิงยังคงสงบใจลง

เวลานี้ เขาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของจิตวิญญาณกระบี่เหมือนตอนที่ได้รับทักษะกระบี่ผ่ามิติอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันต่างออกไปเล็กน้อย

ขั้นที่สองของจิตวิญญาณกระบี่ – กระบี่เริงระบำ!

ดวงตาของเย่เฟิงเปล่งประกายวาบ สะท้อนกับแสงจันทร์ เขามองเห็นรูปแบบการโจมตีที่จะสามารถสังหารชายชราหลังค่อมได้ในเพียงอึดใจเดียว ด้วยพรสวรรค์ของชายหนุ่ม ความเข้าใจในรูปแบบการต่อสู้ของเขาเหนือล้ำยิ่งกว่าคนธรรมดาทั่วไป

ด้วยเจตจำนงของการเคลื่อนไหว ร่างเย่เฟิงหายวับไปอีกครั้งขณะที่ลอยอยู่กลางอากาศ ประกายกระบี่สีเขียวเข้มส่องสว่างรอบตัวของฉีหลินจื่ออย่างต่อเนื่อง

“นี่มันอะไรกัน?”

ฉีหลินจื่อมองเห็นร่างของเย่เฟิงที่ลอยอยู่กลางอากาศหายวับไปต่อหน้าต่อตาอีกครั้ง ก็พาให้หัวใจรู้สึกหนาวสั่น ทำไมความสามารถของเจ้าเด็กนี่ถึงได้แปลกประหลาดแบบนี้?

ก่อนที่ชายชราจะตอบสนอง เขาก็สัมผัสได้ถึงกระบี่ที่โจมตีเข้ามาจากทุกทิศทางพร้อมกัน แต่ไม่อาจสัมผัสถึงร่องรอยของเย่เฟิงได้เลย!

………………..

แปลโดย Solar Spark

ประกาศหาคนรับช่วงต่อเรื่องนี้หน่อยครับ แต่ต้องแปลจากจีนหรือไม่ก็เว็บ lnmtl.com นะฮะ เพราะ eng ค้างอยู่ที่ตอน229 พอดีอีกสักสองเดือนข้างหน้า ผมต้องกลับไปทำงานที่บ้านซึ่งน่าจะไม่มีเวลาแปลแล้ว แต่ในระหว่างนี้ก็จะแปลไปเรื่อยๆนะครับ ใครสนใจติดต่อมาที่เพจได้เลย