บทที่ 259 ผงทลายใจ

เย่เฟิงรีบเอ่ยถามทันที “เกิดอะไรขึ้น? หวางเอ๋อมีเครื่องรางคุ้มกันอยู่ไม่ใช่หรอ?”

“พวกมันมีมากเกินไป หน่วย NSA กับคุณปู่ช่วยกันต้านไว้แล้วแต่ก็ต้านไว้ได้ไม่หมด”

ซูเหมิงหานกล่าวด้วยความกังวล “กำไลที่นายให้หวางเอ๋อไว้ เธอไม่มีเวลาพอจะใช้มัน”

เย่เฟิงได้ยินดังนั้นก็คิดว่าเป็นไปได้ ขั้นตอนการใช้เครื่องรางคุ้มกันนั้นสลับซับซ้อนและยุ่งยาก หลงหวางเอ๋อเพิ่งเคยใช้มันครั้งแรก การที่ไม่สามารถใช้ได้ในช่วงเวลาเร่งรีบถือเป็นเรื่องปกติ

“เธอบาดเจ็บหนักไหม?”

เย่เฟิงรีบเอ่ยถาม

“น้าชูชูบอกว่าบาดเจ็บไม่หนัก แต่ฉันดูแล้วหลงหวางเอ๋อได้รับความเจ็บปวดมาก มีดบินที่พวกนักฆ่าปาเข้าใส่ มีพิษที่ชื่อว่าผงทลายใจอยู่ ถ้าไม่ได้ยาแก้พิษ หวางเอ๋ออาจจะทนได้ไม่เกินสองวัน….”

ซูเหมิงหานรู้สึกปวดใจและไม่อาจพูดต่อไปได้อีก แต่เย่เฟิงก็เข้าใจคำพูดของเธอ

ทันใดนั้น แววตาของเขาก็เย็นเยียบลง

ซูเหมิงหานรีบกล่าวต่อไปอย่างร้อนใจ “ตอนนี้พวกนักฆ่าถูกคุณปู่กับหน่วย NSA จับไว้หมดแล้ว แต่พวกมันข่มขู่ว่าถ้าไม่ส่งตำราวรยุทธ์มา การลอบโจมตีแบบนี้จะมีต่อไปเรื่อยๆ”

เมื่อเย่เฟิงได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกว่าคิดถูกแล้วที่เขามาที่นี่ หากยังอยู่ที่เหยียนจิง สถานการณ์คงวิกฤตแน่ แต่ตอนนี้ตัวเขามาถึงนอกประตูสำนักเซียนเร้นลับแล้ว

เรื่องโง่ๆอย่างการส่งมอบตำราวรยุทธ์เพื่อทำให้ศัตรูแข็งแกร่งขึ้น แน่นอนว่าเย่เฟิงไม่มีทำเด็ดขาด

ตอนนี้หลงหวางเอ๋อถูกพิษร้ายแรง เขาต้องไปเอายาถอนพิษมาจากพวกมันให้ได้!

ถ้าอีกฝ่ายยังคงลอบโจมตีต่อไป เขาก็จะล้างผลาญพวกมันที่นี่เช่นกัน!

ความแข็งแกร่งของสำนักเซียนเร้นลับนั้น เย่เฟิงเข้าใจดี อาศัยความได้เปรียบจากเครื่องรางคุ้มกันที่มีในแหวนมิติ อย่างน้อยมันก็รับประกันความปลอดภัยของเขาได้

เมื่อไร้กำลังเสริม พวกนักฆ่าก็ย่อมง่ายที่จะจัดการ และจะอย่างไรกำลังคนของสำนักเซียนเร้นลับนั้นก็ไม่แข็งแกร่งมาก

เพื่อต้องการนำตำราวรยุทธ์มีดบินปีศาจคำรามกลับมา สำนักเซียนเร้นลับส่งศิษย์สำนักออกมาลอบโจมตีอย่างบ้าคลั่ง แต่พวกมันล้วนถูกหน่วย NSA และเย่เวิ่นเทียนจับกุมไว้

“ไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องยาแก้พิษฉันจัดการเอง”

เย่เฟิงปลอบใจเด็กสาว จากนั้นจึงกล่าวว่า “เธอช่วยโทรไปหาหลินชื่อฉิง หรือไม่ก็บอกให้ธันเดอร์เพิ่มกำลังคุ้มกันให้หนาแน่นขึ้น จับกุมพวกสำนักเซียนเร้นลับให้หมด อย่าให้มันหนีไปได้สักคนเดียว!”

“อืม”

ซูเหมิงหานตอบรับอย่างจริงจัง

“เธอก็ระวังตัวด้วยละ พยายามอยู่ใกล้ปู่เข้าไว้ เข้าใจไหม?”

เย่เฟิงกล่าว “ถ้างั้นฉันจะปิดมือถือนะ บอกให้ทุกคนสบายใจได้ว่าฉันจะเอายาแก้พิษกลับมาได้แน่นอน”

หลังจากได้ยินเสียงตอบรับจากซูเหมิงหาน เย่เฟิงก็วางสาย จากนั้นจึงปิดมือถือและโยนมันเข้าไปในแหวนมิติ

ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นด้วยแววตาเย็นเยียบและมองไปยังศิษย์สำนักเซียนเร้นลับทั้งสามที่เขาจักกุมไว้ได้

“ผงทลายใจคืออะไร?”

ประกายของกระบี่สีเขียวเข้มฉายวาบขึ้นมา ห่างจากลำคอของศิษย์สำนักชาย หลานเย่อยู่ไม่ถึงครึ่งนิ้ว เย่เฟิงเอ่ยปากข่มขู่อีกฝ่าย

“มันคือยาพิษร้ายแรงของสำนักเรา ที่ใช้เคลือบมีดบินหรืออาวุธลับ เมื่อโดนเข้าไป ถ้าไม่ได้รับยาแก้พิษจะตายในสองวัน”

หลานเย่ยังไม่ทันได้เปล่งเสียงพูดอะไร ตู้เจวียนที่อยู่ใกล้ๆก็ตอบคำถามออกมาจนหมดเปลือก

เมื่อหญิงสาวมองดูดีๆ ชายชุดดำคนนี้มันคนที่เธอเคยพบตอนอยู่ที่เขาฉางไป่ไม่ใช่หรอ? ชายคนนี้เองที่เป็นคนใช้กระบี่กุดหัวหลี่จวิ้นหลงจนกระเด็น! นี่ทำให้ตู้เจวียนมองชายหนุ่มราวกับปีศาจ และรีบตอบคำถามของเขาอย่างเกรงกลัว

“แล้วยาแก้พิษอยู่ที่ไหน?”

เย่เฟิงเค้นเสียง

“ยาแก้พิษ มีแต่ผู้นำสำนักที่ครอบครองไว้เท่านั้น”

เสียงนุ้มแต่อ่อนแรงดังขึ้นด้านหลังของเย่เฟิง ซึ่งเจ้าของเสียงนี้ก็คือสาวสวยชุดม่วง จื่อเจี้ยนหลาน

หญิงสาวซ่อนตัวอย่างด้านหนึ่ง ฟังบทสนทนาของเย่เฟิงและซูเหมิงหานทางโทรศัพท์ จึงรับรู้ถึงสถานะของเขา รวมถึงความขัดแย้งระหว่างชายหนุ่มกับสำนักเซียนเร้นลับ ซึ่งตอนนี้ เขาและเธอมีความต้องการเหมือนกันคือยาแก้พิษผงทลายใจ

เมื่อได้ยินน้ำเสียงนี้ หลานเย่ ยิงเฉ่า และตู้เจวียนก็พลันตัวสั่นสะท้าน พร้อมกับคิดในใจว่าทำไมจื่อเจี้ยนหลานถึงมาอยู่ที่นี่ได้?

“นังสารเลว!”

เสียงก่นด่าดังมาจากยิงเฉ่า ดวงตาเรียวเล็กเผยร่องรอยของความอิจฉาและริษยาในรูปลักษณ์ของอีกฝ่าย

“หุบปาก!”

เย่เฟิงไม่ลังเลที่ใช้ทักษะเพลิงสุดขั้วทันที

เปลวไฟสีขาวส่องประกายขึ้นมา เผาไหม้ชุดท่องราตรีไปพร้อมกับร่างของยิงเฉ่าจนเหลือเพียงขี้เถ้าไปในทันใด ไม่แม้แต่จะเปิดโอกาสให้หญิงสาวได้กรีดร้อง

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ทั้งสามคนที่เหลือต้องตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว

ชายชุดดำคนนี้ถึงกับสามารถเสกเปลวเพลิงขึ้นมาได้! นั่นก็หมายความว่าข่าวลือเกี่ยวกับเย่เฟิงในโลกยุทธภพไม่ใช่เรื่องโกหก สำนักเซียนเร้นลับต้องพบกับภัยพิบัติครั้งใหญ่เข้าแล้ว!

หลานเย่ตระหนักได้ถึงเรื่องนี้ จึงผิวปากส่งข่าวให้ศิษย์ร่วมสำนักได้รู้แทบจะทันที

ตู้ม! ตู้ม!

เย่เฟิงรับรู้ได้ดังนั้นก็ปาบอลไฟเข้าใส่ทั้งสองคนอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้ หลานเย่และตู้เจวียนจึงกลายเป็นเถ้าถ่านไปพร้อมๆกัน เพื่อเห็นแก่หน้าจูไป่เหนี่ยว ครั้งก่อนเย่เฟิงจึงไว้ชีวิตตู้เจวียน แต่ครั้งนี้เขาไม่ปล่อยอีกฝ่ายไว้ให้เป็นปัญหาแน่

“ผู้นำสำนักรู้ตัวแน่”

จื่อเจี้ยนหลานได้ยินเสียงผิวปากก็รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ต้องรู้ถึงหูผู้นำสำนักในอีกไม่นานแน่ ใบหน้านวลปรากฏร่องรอยของความกังวล “เราต้องรีบหนีแล้ว!”

“หนี? หนีอะไร”

เย่เฟิงกระซิบถาม การส่งข่าวของคนพวกนั้น ง่ายดายเพียงผิวปากแบบนี้เลย?

ทันใดนั้น ทักษะสัมผัสวิญญาณของเขาพบว่านกสีเทาตัวหนึ่ง เมื่อได้ยินเสียงผิวปากมันก็โผบินออกไปยังยอดเขาที่ห่างไกลทันที เย่เฟิงจึงรีบปาบอลเพลิงสุดขั้วเข้าใส่มันจนกลายเป็นขี้เถ้าไปในที่สุด

จื่อเจี้ยนหลานอ้าปากค้าง สำนักเซียนเร้นลับนั้นเลี้ยงนกส่งข่าวเอาไว้ มันมักปรากฏตัวและหายไปอย่างลึกลับราวกับภูติผีเสมอ แม้แต่คนของสำนักเองก็ยากที่จะหาร่องรอยของมันพบ แต่เย่เฟิงสามารถใช้ทักษะสัมผัสวิญญาณหาตัวมันได้อย่างง่ายดายแล้วจัดการมันด้วยบอลไฟ

“นอกจากไปเอายาแก้พิษมา ยังมีทางอื่นที่สามารถถอนพิษของผงทลายใจได้อีกไหม?”

เย่เฟิงจัดการร่องรอยขี้เถ้าของทั้งสาม พร้อมกับเอ่ยปากถาม

ตอนนี้ เขารู้ว่าจื่อเจี้ยนหลานคนนี้เป็นปฏิปักษ์กับสำนักเซียนเร้นลับ แต่สิ่งเขาไม่รู้ตอนนี้คือ ความสัมพันธ์ของเธอกับวังไท่จี๋และสำนักเซียนเร้นลับ

“กระจกสุริยันของวังไท่จี๋ มันสามารถถอนพิษบนโลกใบนี้ได้นับหมื่นชนิด”

จื่อเจี้ยนหลานกล่าว

เย่เฟิงได้ยินดังนั้นก็เริ่มมุ่งหน้าต่อ แบกจื่อเจี้ยนหลานเดินทางผ่านหุบเขา ขณะถามเกี่ยวกับเรื่องราวของหญิงสาว

หลังจากรับฟังอยู่ครู่หนึ่ง เย่เฟิงก็เข้าใจ

เดิมที จื่อเจี้ยนหลานเป็นเด็กที่ถูกรับเลี้ยงโดยผู้นำสำนักเซียนเร้นลับ ฉีหลินจื่อ วันหนึ่งขณะที่เธอเดินเที่ยวเตร่อยู่ ก็บังเอิญพบกับชายหนุ่มจากวังไท่จี๋ เฉินฮุย ทั้งคู่ได้พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ทำให้จื่อเจี้ยนหลานรู้สึกว่าได้เจอกับคนที่เข้าใจซึ่งกันและกัน

หลังจากที่หญิงสาวกลับมา ฉีหลินจื่อซึ่งปิดด่านฝึกตนอยู่หลายปีก็ออกมาจากห้องฝีกตน ในตอนนี้ ฉีหลินจื่อมีวรยุทธ์ถึงระดับ 70 ปี ถือเป็นการประสบความสำเร็จอย่างงดงาม!

เมื่อฉีหลินจื่อเห็นจื่อเจี้ยนหลานที่เติบโตขึ้นเป็นสาวงาม ก็พลันเกิดความคิดมิดีมิร้าย บังคับให้เธอแต่งงานกับเขา แน่นอนว่าจื่อเจี้ยนหลานย่อมขัดขืน และพยายามส่งข่าวให้เฉินฮุยจากวังไท่จี๋มาช่วย

เมื่อรู้แผนของจื่อเจี้ยนหลาน ฉีหลินจื่อจึงป่าวประกาศออกไปทั่วทั้งโลกยุทธภพ บอกว่าจื่อเจี้ยนหลานคือผู้หญิงของเขา ใครที่กล้าพาตัวเธอไป จะถือว่าเป็นศัตรูของสำนักเซียนเร้นลับ

เดิมที จื่อเจี้ยนหลานคิอว่าเฉินฮุยซึ่งเป็นถึงอันดับหนึ่งในกลุ่มรุ่นเยาว์จะไม่เกรงกลัวฉีหลินจื่อ แต่เมื่อได้ยินบทสนทนาระหว่างหลานเย่และยิงเฉ่า หญิงสาวก็พบว่าตัวเองนั้นไร้เดียงสาเกินไป

เฉินฮุยไม่มีทางเสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อช่วยเธอ!

…………………………

แปลโดย Solar Spark