บทที่ 237 ทักษะควบคุมวิญญาณ

แม้ซูเฟยหยิ่งจะยังไม่เข้าใจสถานการณ์ของเย่เฟิงในตอนนี้ชัดเจน แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะหญิงสาวมีวิธีของเธอเอง

“ชายชุดคลุมสีขาวที่เธอเพิ่งสังหารไป สถานะของมันในสิ่งที่เรียกว่าโลกยุทธภพเป็นอย่างไรบ้าง?”

ซูเฟยหยิ่งเอ่ยถามเสียงเย็น เธอรู้สึกไม่พอใจเท่าไหร่กับคนของโลกยุทธภพเหล่านั้น

“อืมมม ถือว่าดีทีเดียวครับ เป็นผู้นำของหนึ่งในสามตระกูลที่มีอิทธิพลมากที่สุด”

เย่เฟิงครุ่นคิดก่อนจะกล่าวออกมา

“งั้นก็ดี”

ซูเฟยหยิ่งพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นจึงชูมือและเรียกน้ำแข็งพันปีออกมาอีกครั้ง

สำหรับผู้ฝึกเซียนนั้น เมื่อมีวรยุทธ์ระดับ 10 ปี พวกเขาจะสามารถแพร่กระจายวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ออกไปสำรวจโดยรอบได้ ซึ่งเป็นที่มาของทักษะสัมผัสวิญญาณ แต่หากมีวรยุทธ์ระดับ 100 ปี พวกเขาจะสามารถควบแน่นวิญญาณศักดิ์สิทธิจนก่อกำเนิดเป็นรูปร่างได้

ในไม่ช้า ร่างที่งดงามของซูเฟยหยิ่งอีกร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมา ร่างนี้ดูแล้วเหมือนกับหญิงสาวทุกระเบียบนิ้ว ซึ่งมันก่อกำเนิดมาจากวิญญาณศักดิ์สิทธิ์

แต่ทันใดนั้น ซูเฟยหยิ่งก็โบกมือเบาๆ แล้วรูปลักษณ์ของร่างวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ก็เปลี่ยนไปทันที

ชุดกระโปรงยาวสีขาวพลันเปลี่ยนไปเป็นชุดคลุมยาวสีขาว พร้อมกับร่างบางที่ละเอียดอ่อน กลายเป็นร่างที่กำยำขึ้น ร่างวิญญาณของซูเฟยหยิ่งในตอนนี้ กลายเป็นร่างของหลงโม่หรันไปแล้ว

นอกจากนั้น มันยังสามารถปลอมแปลงระดับวรยุทธ์ได้ด้วย นั่นหมายความว่าผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไปจะแยกไม่ออกเลยว่านี่คือหลงโม่หรันตัวจริงหรือว่าตัวปลอม!

“มันใช้กระบี่สินะ?”

ซูเฟยหยิ่งกล่าว จากนั้นก็ล้วงเอากระบี่เล่มหนึ่งออกมาจากแหวนมิติ “ให้มันพกกระบี่เหยี่ยวฟ้าไว้กับตัว”

นี่มัน อุปกรณ์วิญญาณ!

ตั้งแต่ที่เกิดใหม่บนโลกใบนี้ เย่เฟิงเคยเห็นอุปกรณ์วิญญาณเพียงชิ้นเดียวเท่านั้นคือไห่วิญญาณ มันเป็นอุปกรณ์ที่สามารถใช้ควบคุมศพได้ ซึ่งไม่ได้มีไว้ต่อสู้โดยตรง แต่สำหรับกระบี่เหยี่ยวฟ้านี้ มันเป็นอาวุธที่ใช้ต่อสู้โดยเฉพาะ

ไม่ใช่แค่โลกเทวะ แต่บางทีโลกใบนี้ก็มีอุปกรณ์ล้ำค่าอยู่มากมาย

“เธอบอกว่าหวางเอ๋อเป็นลูกสาวของมันใช่ไหม ถ้างั้นเรื่องนี้ก็ง่ายแล้ว”

ซูเฟยหยิ่งกล่าว จากนั้นจึงมองมายังเย่เฟิง

“กางมือออก”

ได้ยินดังนั้น เย่เฟิงยื่นมือออกมาทันที

ซูเฟยหยิ่งถอนแหวนมิติออกมา และสวมมันลงไปในนิ้วของเย่เฟิง คู่กับแหวนกระบี่มังกรโบราณ เมื่อปลายนิ้วของซูเฟยหยิ่งมาสัมผัสกับผิวเย่เฟิง ชายหนุ่มก็รับรู้ได้ถึงความร้อนในตัวเธอ

“ร้อนมาก”

เย่เฟิงไม่กล่าวอะไรออกมาขณะขบคิดอยู่ในใจ อาการบาดเจ็บของซูเฟยหยิ่ง คงต้องใช้เวลาอีกนานมากกว่าจะพักฟื้นให้หายขาด ในเมื่อหัวหยุนเหยามีวรยุทธ์ระดับเดียวกันกับเธอ มันก็คงต้องใช้เวลาพักฟื้นอีกนานเช่นกัน

“หัวหยุนเหยาต้องใช้เวลาพักฟื้นอีกนานเท่าไหร่ครับ?”

เย่เฟิงกล่าวขณะถอนมือกลับมา

“ไม่เกินหนึ่งปี”

ในเวลานี้ ซูเฟยหยิ่งยืนอยู่อย่างสง่างาม เรือนผมที่ยาวถึงสะโพกโบกสะบัดพริ้วไหวไปตามสายลม หญิงสาวหันหลังกลับ จากนั้นจึงก้าวเท้ากลับไปยังถ้ำริมทะเล

ตอนนี้ พวกเขาต้องรีบเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแล้ว

ซูเฟยหยิ่งกลับไปยังถ้ำริมทะเลเพื่อตั้งใจจะปรึกษากับหลงหวางเอ๋อในเรื่องต่างๆของตระกูลหลง ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้ร่างวิญญาณสามารถแสดงละครได้อย่างแนบเนียน ด้วยอิทธิพลที่หลงโม่หรันมี คนของโลกยุทธภพก็จะไม่กล้าตามล่าเย่เฟิงอีก

ในเวลานี้ เย่เฟิงยืนอยู่คนเดียวที่ริมชายหาด เขามองไปยังเรือสปีดโบทลำสีขาวที่จอดอยู่ไม่ไกล ซึ่งมีร่างไร้สติของหลงจื่อและหลงชิงอยู่ในนั้น กว่าพวกเขาจะตื่นก็คงต้องพ้นคืนนี้ไปก่อน

ก่อนหน้านั้น เย่เฟิงและซูเฟยหยิ่งก็จะเตรียมทุกอย่างให้เรียบร้อย

เย่เฟิงเริ่มค้นหาสิ่งของในแหวนมิติของซูเฟยหยิ่ง

เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่เขา ซูเฟยหยิ่งจึงมอบแหวนมิติไว้ให้ชั่วคราว ในขณะที่เย่เฟิงสวมแหวนอยู่นี่ เขาสามารถรับรู้ได้ถึงความร้อนของแหวนซึ่งมันสะสมในช่วงที่ซูเฟยหยิ่งสวมแหวนวงนี้ไว้อยู่

ย้อนกลับไปตอนที่อยู่ในโลกเทวะ เย่เฟิงนั้นใกล้ชิดกับซูเฟยหยิ่งอยู่ตลอดเวลา และเขาก็รู้ว่าร่างกายของหญิงสาวนั้นมักมีอุณหภูมิที่เย็นเยียบอยู่เสมอ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นร้อนขึ้นมาก ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันเป็นเพราะฝีมือของหัวหยุนเหยา

น่าเสียดายที่ในตอนนี้ เย่เฟิงไม่อาจช่วยอะไรเธอได้เลย

“เจอแล้ว”

ไม่นาน เย่เฟิงก็พบของที่ต้องการ เขายิ้มอย่างดีใจขณะหยิบหนังสือออกมาเล่มหนึ่ง

ตำราการควบคุมวิญญาณ!

ซูเฟยหยิ่งเก็บตำราการควบคุมวิญญาณไว้จริงๆด้วย นี่เป็นเรื่องดีมากสำหรับเย่เฟิง

ในยามค่ำคืน เขาเสกบอลไฟขึ้นมาเพื่อให้แสงสว่าง ขณะตั้งหน้าตั้งตาอ่านตำราการควบคุมวิญญาณเล่มนี้อย่างใคร่รู้

หลังจากคนธรรมดาที่ไม่ไช่ผู้ฝึกเซียนเสียชีวิตแล้ว วิญญาณของพวกเขาจะล่องลอยอยู่ในโลกใบนี้ไปอีกพักหนึ่ง ในเวลานี้ หากได้เรียนรู้ทักษะการควบคุมวิญญาณ และคนๆนั้นมีพรสวรรค์มากพอ เขาก็จะกลายเป็นผู้ฝึกวิญญาณได้

หลังจากที่ฝึกทักษะควบคุมวิญญาณแล้ว ผู้ฝึกวิญญาณก็จะสามารถควบแน่นวิญญาณตัวเองให้ไม่กระจัดกระจายไปตามเวลาได้ ซึ่งมันจะทำให้วิญญาณของคนๆนั้นอาศัยอยู่ในโลกนี้ได้นานขึ้นไปอีก

พูดอีกอย่างก็คือ สำหรับคนที่ตายไปแล้วและกลายเป็นวิญญาณล่องลอย หากได้ฝึกทักษะควบคุมวิญญาณ และมีพรสวรรค์กับดวงมากพอ วิญญาณของคนๆนั้นก็จะไม่สลายไปและกลายเป็นผู้ฝึกวิญญาณในที่สุด

กระบวนการการฝึกขั้นพื้นฐานของผู้ฝึกวิญญาณนั้นคล้ายกับผู้ฝึกเซียน ขั้นแรกคือการได้มาซึ่งแก่นวิญญาณ จากนั้นจึงเรียนรู้วิถีการโคจรซึ่งอาจจะเป็นวิถีโคจรสุสารดาราที่เย่เฟิงใช้อยู่ หรือวิถีโคจรอื่นๆก็ได้

แต่เมื่อกลายเป็นผู้ฝึกวิญญาณแล้ว การเพิ่มระดับวรยุทธ์ขึ้นหนึ่งปี จะช่วยยืดอายุให้ผู้ฝึกวิญญาณได้ 6 เดือน นั่นหมายความว่า ถ้าไม่ต้องการให้ดวงวิญญาณของตัวเองสลายไป ผู้ฝึกวิญญาณต้องเพิ่มระดับวรยุทธ์ให้เร็วว่าเวลาที่ใช้ 2 เท่า!

สำหรับเรื่องนี้ มันไม่เป็นปัญหาสำหรับเย่เฟิง เพราะในแหวนมิติที่ซูเฟยหยิ่งให้มานั้น มีสมบัติสวรรค์เหลืออยู่มากมาย แต่หลังจากที่ดูดซับสมบัติสวรรค์ที่มีไปครบทุกชนิดแล้ว การจะหาสมบัติสวรรค์ชนิดใหม่มาเพื่อยืดอายุชีวิตคงไม่ใช่เรื่องง่าย

เย่เฟิงสายหัว และคิดว่าเรื่องนั้นช่างมันก่อน

สำหรับจ้าวอี้เป่ยที่ตายไปแล้ว หากเขากลายเป็นผู้ฝึกวิญญาณ อย่างน้อยก็คงใช้ชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ไปได้อีกหลายปี ส่วนจะอยู่ได้นานเท่าไหร่นั้น คงต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของเขาแล้ว

ส่วนเด็กหนุ่มวังไท่จี๋ เย่เฟิงไม่มั่นใจว่าเขาจะสามารถกลายเป็นผู้ฝึกวิญญาณได้หรือไม่ เพราะเด็กหนุ่มคนนั้นกลายเป็นผู้ฝึกวรยุทธ์แล้วในตอนยังมีชีวิตอยู่

“จงกลับมาจากความตาย!”

ทันทีที่เย่เฟิงกล่าว ดวงวิญญาณของจ้าวอี้เป่ยและเด็กหนุ่มวังไท่จี๋ก็ถูกอัญเชิญออกมาจากแหวนกระบี่มังกรโบราณพร้อมกัน

ในยามค่ำคืนนี้ สายลมหนาวโบกพัดในบริเวณนี้อย่างไม่สม่ำเสมอ ทันใดนั้น ร่างจางๆสองร่างก็ปรากฏออกมาจากแหวนกระบี่มังกรโบราณ พวกเขาไม่เข้าใจว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่เมื่อมองเห็นเย่เฟิง ทั้งสองคนก็ถึงกับผงะ

มองไปยังจ้าวอี้เป่ย เย่เฟิงก็รู้สึกเศร้าใจ ชายหนุ่มคนนี้ตายก็เพราะเข้ามาบังกระสุนจากสไนเปอร์ให้เขา หลังจากปิดผนึกวิญญาณเอาไว้นาน ในที่สุดก็ถึงเวลาปล่อยวิญญาณของเขาให้เป็นอิสระได้เสียที

แต่ต่อจากนี้ไป จ้าวอี้เป่ยจะไม่ใช่คนธรรมดาอีก!

กองกำลังวิญญาณของเย่เฟิง กำลังเริ่มต้นขึ้น ณ บัดนี้แล้ว

……………………..

แปลโดย Solar Spark

(แปลจากเว็บ lnmtl.com และ Raw จีนโดยใช้โปรแกรมแปลภาษาช่วย)