บทที่ 236 เขตอำพราง

แม้ยามค่ำคืนจะมาเยือนแล้ว แต่เหล่าทหารทั้งหลายยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขัน

ก่อนหน้านี้พวกได้พบหญิงสาวที่สามารถโบยบินบนท้องฟ้าได้ ปรากฏตัวขึ้นมาแล้วก็หายไป แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ ในช่วงที่หน่วยของหนิวเหมิ่งทำการปิดล้อมใต้น้ำ เย่เฟิงได้ทำให้หญิงสาวคนนั้นลืมตาตื่นขึ้นมา แล้วจากนั้นพวกเขาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยราวกับเทเลพอร์ตไป

จากภาพที่ถ่ายไว้ได้ กัปตันของเรือ Destroyer กับหนิวเหมิ่ง ต่างยืนยันว่าหญิงสาวที่โบยบินบนฟ้า กับหญิงสาวที่ถูกแช่แข็งไว้คือคนๆเดียวกัน

สำหรับเรื่องนี้นั้น มีเพียงคนจำนวนไม่มากที่ได้เห็นกับตา หน่วย NSA จึงตัดสินใจจะเก็บเป็นความลับ ดังนั้น ข้อมูลของหญิงสาวคนนี้จึงถูกหน่วย NSA บันทึกไว้ในหมวดข้อมูลลับสุดยอดไปโดยปริยาย

โชคดีที่พวกเขาไม่ได้เปิดเผยเรื่องนี้แก่คนของกองทัพ ด้วยวินัยที่เข้มงวดของคนในหน่วยงาน มันเป็นไปได้น้อยมากที่ข้อมูลนี้จะรั่วไหลออกไป แต่ต่อให้มีคนรู้เรื่องนี้เข้า พวกเขาก็คงไม่เชื่อว่ามันเป็นความจริงอยู่ดี

ในยามค่ำคืนนี้ เรือ Destroyer พร้อมด้วยเรือคุ้มกันอีกสามลำ ต่างทำการสำรวจค้นหาด้วยอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยไปทั่วทั้งเกาะ และถึงแม้จะใช้ดวงเทียมช่วยค้นหาแล้ว พวกเขาก็ไม่พบร่องรอยแม้แต่น้อย

ถึงแม้จะไม่พบร่องรอยได้ พวกเขาก็มั่นใจว่าหญิงสาวที่บินได้คนนั้นต้องซ่อนตัวอยู่ที่นี่แน่ แต่ไม่ว่าอย่างไร พวกเขาก็ไม่อาจหาตัวพบได้เสียที!

ด้วยเหตุนี้ ภารกิจของหนิวเหมิ่งจึงล้มเหลวไปโดยปริยาย

ไม่เพียงแต่ไม่สามารถสังหารเย่เฟิงได้ แต่ยังไม่ได้ร่างของเทพธิดา รวมถึงผลึกน้ำแข็งที่เป็นสุดยอดสมบัติสวรรค์มา จุดประสงค์ของภารกิจนี้ทั้งหมด ไม่มีสิ่งใดเลยที่ประสบความสำเร็จ

ส่วนเรื่องที่สามารถจับตัวฉีเสี่ยวหยูไว้ได้ ช่างน่าเสียดายที่ชายชราคนนี้ไม่รู้สิ่งใดเลยกับการที่หน่วย NSA สองคนถูกสังหาร ตามกฏแล้ว หนิวเหมิ่งทำได้เพียงสอบปากคำชายชราผู้โชคร้ายคนนี้อย่างเข้มงวดเท่านั้น

ความจริงแล้ว ซูเฟยหยิ่ง เย่เฟิง และหลงหวางเอ๋อ ต่างก็ซ่อนตัวอยู่ในเกาะแห่งนี้จริง

แต่ซูเฟยหยิ่งได้นำหินหลากสี 5 ก้อนจากแหวนมิติมาวางไว้รอบๆเกาะ จนก่อกำเนิดเป็นเขตอำพรางขนาดใหญ่ขึ้นมา นี่จึงเป็นเหตุผลที่คนของกองทัพไม่อาจหาตัวพวกเขาพบ

ในขณะที่อยู่ในเขตอำพรางนี้ ซูเฟยหยิ่งสามารถมองเห็นเหตุการณ์โดยรอบได้ และสามารถควบคุมผู้ที่เข้ามาในเขตอำพรางแห่งนี้ ให้พวกเขามองเห็นทัศนียภาพต่างๆได้ตามที่เธอต้องการ ต่อให้หญิงสาวไปยืนอยู่ตรงข้ามอีกฝ่าย พวกเขาก็ไม่อาจมองเห็นร่างของเธอได้แม้แต่นิดเดียว

ส่วนผู้ที่จะสามารถต่อต้านเขตอำพรางนี้ได้นั้น ก็มีแต่ผู้ที่มีระดับวรยุทธ์สูงกว่าเธอ ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครในโลกใบนี้สามารถทำได้

เกาะแห่งนี้เป็นหนึ่งในหกเกาะร้างในแถบนี้ มันมีถ้ำปรากฏอยู่มากมาย จนสามารถให้ผู้คนมาอาศัยอยู่ได้ สำหรับซูเฟยหยิ่งแล้ว เธอสามารถอาศัยอยู่กลางแจ้งได้อย่างไม่มีปัญหา แต่ด้วยที่ต้องการพักฟื้น ดังนั้นการหาที่ร่มเพื่อหลบแดดหลบฝนจึงดูจะเหมาะสมกว่า

เมื่อมองไปเห็นถ้ำแห่งหนึ่งที่มีการระบายอากาศที่ดี ซูเฟยหยิ่งก็ตัดสินใจจะพักฟื้นในถ้ำแห่งนี้

ในตัวถ้ำนั้นมีทางเข้าออกอยู่สองทาง มันสามารถมองเห็นออกไปเห็นน้ำทะเลนอกเกาะ และสัมผัสได้ถึงลมทะเลที่สดชื่อและน่ารื่นรมย์ใจ นอกจากนี้ มันยังมีต้นหญ้าขึ้นประปราย เหมาะสำหรับใช้รองนั่ง

“หวางเอ๋อ นั่งพักไปก่อนนะ อาจารย์มีเรื่องจะคุยกับเฟิงเอ๋อหน่อย”

หลังจากทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว ซูเฟยหยิ่งจึงกล่าวกับหลงหวางเอ๋อ และพาเย่เฟิงเดินออกไปนอกถ้ำ

เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว หลงหวางเอ๋อจึงเริ่มดูดซับสมบัติสวรรค์อยู่ในถ้ำ ขณะที่ซูเฟยหยิ่งพาเย่เฟิงออกไปข้างนอกเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด

ในเวลานี้ เย่เฟิงได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดตั้งแต่ที่เขาเกิดใหม่ในเมืองเหยียนจิงให้ซูเฟยหยิ่ง

“ดูเหมือนอาจารย์กับเธอจะข้ามมาโลกใบนี้ไม่เหมือนกันสินะ”

ซูเฟยหยิ่งยืนอย่างสง่างามอยู่ริมชายหาด ขณะที่กระโปรงยาวพริวไหวไปตามสายลม คิ้วเรียวงามขมวดลงเล็กน้อย “ฉันและหัวหยุนเหยาได้ข้ามมาโลกใบนี้จากอาณาเขตเคลื่อนย้าย แต่เพราะเธอมีระดับวรยุทธ์ที่ไม่สูงพอ ร่างจริงของเธอจึงรับไม่ไหวแรงกดดันในตอนเคลื่อนย้ายไม่ไหวและตายอยู่ที่โลกเทวะแล้ว”

จากนั้น หญิงสาวจึงอธิบายสาเหตุที่เขาข้ามมาโลกใบ มันเป็นเพราะว่าในช่วงเวลาที่เย่เฟิงตายนั่นเอง แหวนกระบี่มังกรโบราณได้คุ้มครองวิญญาณของเขาไว้ จากนั้นจึงส่งมายังโลกใบนี้ และเข้าไปสิงอยู่ในร่างของเย่เฟิงคนเดิมที่พึ่งเสียชีวิต

“หัวหยุนเหยาก็ข้ามมาโลกใบนี้เหมือนกันหรอครับ?”

เมื่อเย่เฟิงได้ยินคำพูดของซูเฟยหยิ่ง สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที คนๆนั้นก็เหมือนกับซูเฟยหยิ่ง เป็นผู้ฝึกเซียนชั้นสูงที่มีวรยุทธ์ระดับ 100 ปี หากเป็นแบบนั้น โลกใบนี้คงเกิดความวุ่นวายอย่างใหญ่หลวงแน่

“ถูกต้อง”

ใบหน้าเย็นชาของซูเฟยหยิ่งดูจริงจังขึ้น “แต่บาดแผลของมันสาหัสกว่าของอาจารย์ มันคงต้องใช้เวลาพักฟื้นอีกนาน ตอนนี้เธอมีแหวนกระบี่มังกรโบราณอยู่กับตัวแล้ว ให้รีบเพิ่มระดับวรยุทธ์ จากนั้นพวกเราจะไปสังหารมันด้วยกัน”

“ครับ”

เย่เฟิงได้ยินดังนั้นก็รีบตอบรับทันที

“อีกเรื่องหนึ่ง เข็มทิศดาราของอาจารย์ ตรวจพบสมบัติ 3 ชิ้นที่ถูกส่งมายังโลกใบนี้ด้วย”

ซูเฟยหยิ่งชูมือขึ้นมา จากนั้นจึงล้วงเอาเข็มทิศดาราในแหวนมิติออกมา

“นี่มัน ที่เขาฉางไป่ชิ้นหนึ่ง แล้วก็แถบทะเลจีนตะวันออกนี้อีกชิ้นหนึ่ง?”

เย่เฟิงพยักหน้าขณะขมวดคิ้ว

“เขาฉางไป่? หมายถึงชื่อของถ้ำนั้นสินะ อาจารย์ไปเอาสมบัติที่นั่นมาแล้ว”

ซูเฟยหยิ่งไม่รู้ว่าถ้ำแห่งนั้นชื่อว่าอะไร แต่เธอรู้ว่าที่นี่เรียกว่าแถบทะเลจีนตะวันออก

สำหรับการมาที่ทะเลจีนตะวันออกแห่งนี้ ไม่ต้องพูดอะไรเย่เฟิงก็พอเดาได้

ซูเฟยหยิ่งไม่ได้มาที่นี่เพื่อตามหาน้ำแข็งพันปี แต่เธอมาตามทิศทางของเข็มทิศดารา เพื่อตามหาสมบัติที่ถูกส่งมายังโลกใบนี้ แต่โชคไม่ดีที่หญิงสาวไปสัมผัสขิ้นส่วนน้ำแข็งพันปีเข้า จึงถูกมันแช่แข็งไป

“สมบัติชิ้นสุดท้าย อยู่ในรัศมี 5000 กิโลเมตรทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ”

ซูเฟยหยิ่งมองไปยังสถานที่ที่ห่างไกล ขณะเรือนผมยาวสลวยของเธอพริ้วไหวไปตามสายลม จากนั้น หญิงสาวจึงถอดแหวนมิติออกมาแล้วส่งมันให้เย่เฟิง “เก็บไว้ เดี๋ยวเธอดูดซับพลังวิญญาณจากน้ำแข็งพันปีเสร็จเมื่อไหร่ พวกเราจะไปตรวจสอบที่นั่นกัน”

ซูเฟยหยิ่งต้องการไปสำรวจที่นั่น เมื่อเย่เฟิงได้ดูดซับพลังวิญญาณจากจากน้ำแข็งพันปีจนมีวรยุทธ์ระดับ 25 ปีแล้ว การไปสำรวจที่นั่นก็คงไม่มีเรื่องอะไรน่าห่วง

อย่างไรก็ตาม

“อาจารย์ ผมได้ดูดซับกลิ่นอายของน้ำแข็งพันปีไปแล้ว”

เย่เฟิงคิดไปถึงก่อนหน้านี้ ที่เขายอมโยนแตงโมทิ้งไปเพื่อเก็บเมล็ดงา นอกจากนั้นยังมีเรื่องอื่นที่น่ากังวลอีก “ตอนนี้ตัวตนของผมถูกเปิดเผยแล้ว ตอนนี้ผมกำลังถูกคนของโลกยุทธภพตามล่าอยู่”

“อืม เรื่องนี้จัดการไม่ยาก”

ดวงตาของซูเฟยหยิ่งเปล่งประกายเย็นเยียบ คิดจะรังแกลูกศิษย์ของฉันงั้นหรอ? ฝันไปเถอะ!

……………………..

แปลโดย Solar Spark

(แปลจากเว็บ lnmtl.com และ Raw จีนโดยใช้โปรแกรมแปลภาษาช่วย)

ถึงว่าให้หลงโม่หรันตายง่ายจัง เปิดตัวบอสใหม่นี่เอง