บทที่ 221 ถูกปิดล้อม

ในเวลาไม่นาน เกาะน้ำแข็งแห่งเดิมก็ทรุดโทรมและจมลงในทะเล ขณะที่เกาะน้ำแข็งแห่งใหม่ได้ผุดขึ้นมาทำให้น้ำทะเลโดยรอบเกิดความปั่นป่วนขึ้นอีกครั้งหนึ่ง แต่เมื่อธันเดอร์ออกคำสั่งลูกทีมให้ล้อมเย่เฟิงไว้ ทุกๆคนที่กระจัดกระจายอยู่ในแต่ละทิศทางจึงลงมือทันที

ณ อีกที่หนึ่งในเวลานี้ หลงโม่หรันพร้อมด้วยฉีเสี่ยวหยูได้นั่งเรือสปีดโบทจากชายฝั่งมุ่งหน้าไปยังเกาะน้ำแข็งแห่งใหม่ที่ปรากฏออกมา แม้พวกเขาจะอยู่ห่างออกไปไกล แต่ก็ยังสามารถได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวของเกาะได้อย่างชัดเจน ทั้งคู่แทบรู้สึกทนไม่ไหวที่จะได้ครอบครองสมบัติสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ในเกาะแห่งนั้น

“โม่หรัน ถ้าพวกหน่วย NSA พยายามเข้ามาแทรกแซง แล้วพวกเราจะทำเช่นไรดี?”

ฉีเสี่ยวหยูเอ่ยปากถามอย่างลังเลราวกับรู้สึกเกรงกลัวหน่วย NSA อยู่ไม่น้อย

บุคคลดังที่รู้จักกันในชื่อ ‘หมัดเทพหนานเต่า’ ปรากฏตัวขึ้นในชุดคลุมสีเท่า ขณะที่เครายาวสีขาวโบกสะบัดไปกับลมทะเล ด้านหลังของเขาคือศิษย์สำนักหมัดเทพทวาราหลายคนที่เตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา

ในเรือลำเดียวกัน หลงโม่หรันทำให้พวกเขารู้สึกราวกับว่าตัวเองเป็นอเล็กซานเดอร์อย่างไรอย่างนั้น……

“ฮืม แค่ฉันคนเดียวก็มากพอที่จะทำให้พวกมันไม่กล้าเข้ามายุ่งแล้ว”

หลงโม่หรันเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าเคร่งขรึม เวลานี้ ตัวเขาอยู่ในชุดคลุมสีขาวพร้อมกับแขนเสื้อข้างขวาที่กวัดแกว่งไปมาตามสายลม

การเดินทางมายังทะเลจีนตะวันออกในครั้งนี้คือสิ่งที่ทำให้เขาได้รับความอัปยศมากที่สุดในชีวิต แต่หากสามารถครอบครองสมบัติสวรรค์ได้ การเดินทางมาในครั้งนี้ก็ไม่ถือว่าสูญเปล่า ซ้ำมันจะช่วยล้างมลทินให้ตัวเขาเองอีกด้วย และถ้าหากได้พบเทพธิดาแห่งทะเลจีนตะวันออกก็ยิ่งเป็นเรื่องดีเข้าไปใหญ่…….

สำหรับหลงโม่หรันแล้ว เขาไม่สนใจที่จะไล่ล่าเย่เฟิงอีกต่อไป เพราะในวินาทีที่ถอดหน้ากากและเผยตัวตนออกมา มันก็กลายเป็นเป้าสังหารของกองกำลังในโลกยุทธภพไปแล้ว

เมื่อได้ยินคำกล่าวอย่างเคร่งขรึมของหลงโม่หรัน ฉีเสี่ยวหยูก็ไม่ได้กล่าวอะไรอีก ชายชราเพียงแค่หันไปมองยังที่ที่ห่างไกล เกาะน้ำแข็งแห่งใหม่ที่ผุดขึ้นมาทำให้เขาเผยรอยยิ้มจางๆเบื้องหลังใบหน้าอันเคร่งขรึม

ดูเหมือนว่าหลงโม่หรันจะทำให้หน่วย NSA ต้องกินแห้วเสียแล้ว

ตราบเท่าที่หลงโม่หรันสามารถทำให้หน่วย NSA ถอนตัวกลับไปได้ ทุกๆสิ่งก็ย่อมราบรื่น ชายคนนี้ไม่ใช่พวกมีความประนีประนอมอยู่แล้ว และหน่วย NSA ก็ไม่กล้าที่จะสังหารเขา เรื่องนี้จึงไม่มีอะไรต้องเป็นกังวล จะมีใครไม่รู้บ้างว่าหลงโม่หรันนั้นเป็นบิดาแห่งโลกยุทธภพ ผู้มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศจีน?

เรือสปีดโบทได้แล่นบนผิวทะเลอย่างรวดเร็วมุ่งหน้าสู่เกาะน้ำแข็ง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พวกเขาไม่รู้จนถึงตอนนี้ก็คือในเวลานี้ เย่เฟิงและร่างของเทพธิดาในข่าวลือก็อยู่บนเกาะน้ำแข็งแห่งนั้นเช่นเดียวกัน

……….

“แค่ก แค่ก”

ณ มุมหนึ่งบนเกาะน้ำแข็ง ในที่สุดหนิวเหมิ่งในสภาพที่น่าอเนจอนาถก็คลานขึ้นมาจากเศษตะกรันของน้ำแข็ง

ในที่สุดก็รอดแล้ว

ดวงตาอิเล็กทรอนิกส์ของเขาเริ่มเก็บข้อมูลสถานการณ์โดยรอบด้วยความเร็วสูง และไม่นาน มุมปากของหนิวเหมิ่งก็เผยรอยยิ้มอันดุร้ายขึ้นมา

มันยังมีชีวิตอยู่!

เหตุการณ์ตอนนี้ก็ดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบทีเดียว ด้วยการช่วยเหลือของหน่วย NSA เจ้าเด็กที่ชื่อเย่เฟิงจึงถูกถ่วงเวลาไว้ เพียงแค่จัดการมันได้ เขาก็จะสามารถนำสมบัติสวรรค์รวมถึงเทพธิดากลับไปยังหน่วย NSA และด้วยเหตุนี้ ภารกิจของเขาก็จะจบลงอย่างสวยงาม

ทันทีที่หนิวเหมิ่งคลานขึ้นมาจะตะกรันน้ำแข็ง เขาก็รีบถอดชุดดำน้ำและปลดถังออกซิเจนออกทันที

ความจริงแล้วก่อนหน้านี้ หนิวเหมิ่งติดอยู่ในเขาวงกตน้ำแข็งจนเกือบเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ แต่ในช่วงเวลานั้นเอง เขาก็ได้พบกับลูกทีมคนหนึ่งโดยบังเอิญ โดยปราศจากการลังเล หนิวเหมิ่งทำให้ลูกทีมคนนั้นหมดสติด้วยมือตัวเองและนำถังออกซิเจนมาเปลี่ยนกับอันเดิมของเขาแทน

และลูกทีมคนนั้น ชัดเจนว่าย่อมขาดอากาศหายใจตาย แต่นอกจากหนิวเหมิ่งแล้ว ก็ไม่มีใครที่ล่วงรู้เรื่องนี้อีก สำหรับหนิวเหมิ่งนั้น เพราะเขาต้องรอดชีวิตไปให้ได้ การเสียสละของลูกทีมคนหนึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องเหมาะสมแล้ว

ในเวลานี้ หนิวเหมิ่งกำลังเดินหน้าทีละก้าวไปยังตำแหน่งที่เย่เฟิงถูกล้อมไว้อยู่

…………

“ทำไมถึงไม่มีร่องรอยของยัยแก่เลย?”

ณ อีกมุมหนึ่งของเกาะน้ำแข็ง ร่างผอมบางปรากฏตัวขึ้นมาด้วยท่าทางที่ดูเหมือนว่ากำลังตามหาใครบางคน เขาคือลิ่วจื่อไกว้ ชายชราคนก่อนหน้านี้ที่มาพร้อมกับแม่เฒ่าเจวี๋ยฉิง

แต่ใบหน้าที่ผอมแห้งกำลังดูระแวงมากในเวลานี้

ถึงแม้ว่าหลังจากลิ่วจื่อไกว้และแม่เฒ่าเจวี๋ยฉิงจะลงจากภูเขาสวรรค์มา และอยู่ด้วยกันมาเป็นเวลามากกว่า 10 ปี แต่ความจริงแล้วทั้งสองฝ่ายต่างไม่ได้เชื่อใจกันร้อยเปอร์เซ็น ดังนั้นเมื่อหาตัวหญิงชราไม่พบ ชายชราจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าเธอคงได้รับของล้ำค่าบางสิ่งและหลบหนีไปจากที่นี่แล้ว

“ไม่สิ ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น”

ไม่นาน ชายชราก็โยนความเป็นไปได้นี้ทิ้งไป พร้อมกับใบหน้าที่เริ่มมืดคล้ำมากขึ้น

ด้วยที่อยู่ด้วยกันมาหลายปี เขาและเจวี๋ยฉิงมีเป้าหมายเดียวกันคือการจัดการกับเย่เฟิงและลงมือช่วงชิงตำราวรยุทธ์ของตระกูลเย่มาให้ได้ ด้วยเหตุนั้นเอง หญิงชราย่อมไม่ควรจะหลบหนีไปคนเดียวเช่นนี้

แต่เมื่อลิ่วจื่อไกว้ตามหาหญิงชราไปทั่วทุกที่แต่ก็ไม่อาจพบตัวได้ นั้นหมายความว่าเธอตายไปแล้วอย่างงั้นหรือ? แน่นอนว่าชายชราย่อมไม่รู้ว่าเจวี๋ยฉิงถูกเย่เฟิงใช้เปลวเพลิงสุดขั้วสังหารและเผาผลาญร่างกายจนไม่เหลือแม้แต่เส้นผมทิ้งไว้

“โชคดี ข้าคนนี้ช่างโชคดีจริงๆ แค่เริ่มออกเดินทางไม่นาน ข้าก็ได้ดูดซับพลังวิญญาณมากมายขนาดนี้แล้ว”

ลิ่วจื่อไกว้กำหมัดแน่น แม้ร่างกายจะมีความชรา แต่ท่าทางของเขายังดูแข็งแรงและกระฉับกระเฉงอย่างไม่น่าเชื่อ!

ในเวลานี้ เขามีวรยุทธ์อยู่ที่ระดับ 55 ปีแล้ว การได้เพิ่มระดับวรยุทธ์ขึ้นอีก 5 ปีในทีเดียวเปรียบเสมอกับเรื่องปาฏิหาริย์ จะมีผู้ฝึกยุทธ์สักกี่คนบนโลกที่จะได้รับโอกาสดีๆแบบนี้?

ขณะที่หัวใจของลิ่วจื่อไกว้กำลังพองโต ทันใดนั้น เสียงตะโกนก้องก็ดังขึ้นมาดึงดูดความสนใจของชราทันที

ลิ่วจื่อไกว้ปืนขึ้นไปยังชันน้ำแข็งและมองไปเห็นเด็กหนุ่มในชุดสีดำคนหนึ่ง ยืนอยู่บนพื้นที่โล่งข้างหน้าขณะกอดชิ้นน้ำแข็งเอาไว้แน่น เมื่อเพ่งพิศดูดีๆ เขาก็พบกับความงามอันน่าตกตะลึงในน้ำแข็งชิ้นนั้น!

ทันทีที่เห็นดังนั้น ชายชรารีบหลบซ่อนตัวไปอีกทางหนึ่ง และเตรียมตัวเพื่อรอโอกาสในการลงมี แต่หลังจากนั้นก็เป็นอีกครั้งที่สายตาของเขาพลันหันไปมองยังใจกลางของพื้นที่โล่งกว้าง

มันมีผลึกน้ำแข็งรูปทรงเหมือนเพชรฝังอยู่ ขณะส่องแสงอันเจิดจรัสภายใต้ดวงอาทิตย์แห่งนี้ ดูแล้วไม่ใช่สิ่งของธรรมดาแน่นอน

หรือว่าจะเป็นสิ่งนั้น? หัวใจของชายชราพองโตด้วยความตื่นเต้นอีกครั้งหนึ่ง

……….

ในเวลานี้ เย่เฟิงยืนอย่างมั่นคงขณะกอดร่างแช่แข็งของซูเฟยหยิ่งเอาไว้อยู่ เขารีบปลดปล่อยทักษะสัมผัสวิญญาณออกไปสำรวจโดยรอบอย่างไม่ลังเล

สมาชิกหน่วย NSA มากกว่า 20 คนได้มุ่งหน้าเข้ามาล้อมเขาไว้ภายใต้คำสั่งของธันเดอร์ และในเวลาเดียวกัน หนิวเหมิ่งก็ปรากฏตัวขึ้นมา ทั้งยังมีลิ่วจื่อไกว้ที่ซ่อนตัวอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ดูเหมือนว่าชายชราจะรอดจากแรงระเบิดก่อนหน้านี้ไปได้

เมื่อศรดาราปะทะเข้ากับน้ำแข็งพันปี แม้ความโกรธเกรี้ยวของมันจะไม่อาจสร้างความเสียหายแก่เย่เฟิงได้ แต่มันก็ยังผลักดันเขาจนมาอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ ถือเป็นเรื่องน่าประหลาดใจไม่น้อย

แม้ตอนนี้จะเป็นโอกาสดีที่จะหลบหนีไปพร้อมกับซูเฟยหยิ่ง แต่ทักษะล่องหนของเขานั้นครอบคลุมเฉพาะตัวเขาคนเดียว ส่วนทักษะอำพรางก็ไม่อาจรอดไปจากการตรวจจับของหน่วย NSA ได้

“ไม่ว่าจะยังไง ใครก็ตามที่กล้าแย่งอาจารย์ไป ฉันสาบานว่าฉันจะบดขยี้กระดูกมันให้เป็นผุยผง!”

เย่เฟิงกำหมัดแน่นและคลายชิ้นน้ำแข็งออก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองตรงไปข้างหน้า

ต่อให้ต้องลงมือสังหารธันเดอร์และหน่วย NSA คนอื่นๆ ชายหนุ่มก็ไม่ยอมให้อีกฝ่ายพาตัวซูเฟยหยิ่งไปได้ เพราะนี่คือขีดจำกัดของเขาแล้ว!

เสียงฝีเท้ามากมายดังขึ้น ตามมาด้วยหน่วย NSA แต่ละคนที่ปรากฏตัวขึ้นมาในระยะการมองเห็นของเย่เฟิงขณะกำลังปิดล้อมเขาไว้ทุกทิศทุกทาง แต่ละคนนั้นมีอาวุธครบมือราวกับกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่แสนอันตราย พวกเขาถือปืนในมือไว้แน่นขณะที่ปากกระบอกปืนทั้งหมด เล็งไปยังจุดๆเดียวกัน

…………………..

แปลโดย Solar Spark