บทที่ 216 เวทเคลื่อนย้าย

เย่เฟิงหันมองไปรอบๆในบริเวณนี้

มันไม่มีน้ำทะเลอยู่เลยแม้แต่หยดเดียวทั่วทั้งโดม แต่ในช่องน้ำแข็งที่เชื่อมต่อมาถึงโดมนี้ทั้งสองช่องกลับเต็มไปด้วยน้ำทะเล แน่นอนว่านี่เป็นผลจากพลังงานลึกลับของน้ำแข็งพันปีนั่นเอง

ร่างของซูเฟยหยิ่งถูกแช่ไว้ในปฏิมากรรมน้ำแข็งก็ก่อกำเนิดมาจากน้ำแข็งพันปีชิ้นนี้

มันมีรูปลักษณ์โปร่งใสคล้ายดั่งคริสตัลที่มีขนาดเท่าแขนของคนทั่วไป แต่ครึ่งหนึ่งของมันถูกฝังอยู่ในพื้นน้ำแข็ง ขณะที่อีกครึ่งหนึ่งโผล่พ้นออกมาพร้อมกับเปล่งประกายที่ดูสวยงาม

ในโลกเทวะนั้น เขาเคยได้ยินเพียงแค่ชื่อของน้ำแข็งพันปีเท่านั้นและรับรู้ว่ามีสำนักแห่งหนึ่งที่ครอบครองมันอยู่ สำนักนั้นถือว่าเป็นสำนักที่มีอิทธิพลระดับต้นๆของโลกเทวะ

“น่าแปลกจริงๆที่โลกใบนี้กลับมีสมบัติสวรรค์อยู่มากมายเช่นนี้ บางที โลกใบนี้กับโลกเทวะอาจเป็นโลกที่คล้ายคลึงกันสินะ?”

ชายหนุ่มเริ่มคาดเดา

ตั้งแต่ที่เกิดใหม่ในโลกใบนี้ เขาก็ได้พบทั้งหญ้าใบทอง หินวิญญาณ หญ้าวิญญาณประดับฟ้า ลูกปัดสวรรค์ ปะการังราชันย์ และในตอนนี้ เขาก็ได้พบกับน้ำแข็งพันปีชิ้นนี้อีก

ในโลกเทวะนั้น ด้วยความต้องการที่จะมุ่งสู่วรยุทธ์ระดับ 100 ปี เหล่าผู้ฝึกเซียนชั้นสูงทั้งหลายต่างต่อสู้แย่งชิงกันอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อสมบัติสวรรค์เหล่านี้ แต่สำหรับโลกใบนี้ มันกลับมีสมบัติสวรรค์อยู่มากมายจนสามารถพบเห็นได้ทั่วไป

และสิ่งเดียวที่ใช้อธิบายเรื่องนี้ได้ก็คือ

ถึงแม้สมบัติสวรรค์จะมีอยู่ทั้งในโลกใบนี้และโลกเทวะ แต่ในเมื่อโลกใบนี้ไม่มีผู้ฝึกเซียน สมบัติสวรรค์ทั้งหลายที่ซ่อนอยู่จึงยากจะถูกค้นพบ ผู้ฝึกเซียนนั้นมีสัมผัสที่ว่องไวต่อพลังวิญญาณ แต่ผู้ฝึกยุทธ์ทั้งหลายบนโลกใบนี้กลับไม่รู้สึกถึงมัน การค้นหาสมบัติสวรรค์ที่มีอยู่มากมายบนโลกจึงเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขา

นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของโลกใบนี้ สมบัติสวรรค์ทั้งหลายต่างยังคงถูกซ่อนไว้อยู่ทั่วทุกมุมโลก

เย่เฟิงรีบส่ายหัวและคิดว่านี่ไม่ใช่เวลามาคิดถึงเรื่องเหล่านี้ ไม่ว่าอย่างไร สมบัติสวรรค์เหล่านั้นก็ไม่อาจเทียบได้กับซูเฟยหยิ่ง ตอนนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการช่วยอาจารย์ของเขาออกมาก่อน!

ชายหนุ่มพบว่าปฏิมากรรมน้ำแข็งที่แช่ซูเฟยหยิ่งถูกอิงไว้อยู่กับกลุ่มก้อนปะการัง ขณะที่พลังลึกลับของน้ำแข็งพันปียังคงเชื่อมต่ออยู่ที่เท้าของเธอ มันเป็นไปได้อย่างมากว่า ซูเฟยหยิ่งต้องการจะได้น้ำแข็งพันปีนี้มา แต่สุดท้าย เธอถูกมันปฏิเสธและถูกแช่แข็งอยู่ภายในนี้

ครั้งหนึ่ง หญิงสาวบอกแก่เขาไว้ว่า น้ำแข็งพันปีนั้นมีจิตวิญญาณเป็นของตัวเอง หากใครต้องการจะครอบครองมัน ก็ต้องถูกยอมรับจากจิตวิญญาณภายในน้ำแข็งเสียก่อน

โชคไม่ดีที่สุดท้าย ซูเฟยหยิ่งถูกจิตวิญญาณนี้ปฏิเสธ

เย่เฟิงไม่คิดจะเคลื่อนย้ายน้ำแข็งพันปีนี้ เขาเพียงจ้องมองกระแสอากาศอันหนาวเย็นที่มันปลดปล่อยออกมา ซึ่งมีความสามารถมากพอจะทำให้ผู้คนทั้งหลายหนาวตาย แต่จุดสำคัญคือ ชายหนุ่มกลัวว่าหากเคลื่อนย้ายมันแล้ว เขาถูกแช่แข็งไปด้วยอีกคน

หากเป็นเช่นนั้นแล้ว สุดท้าย เขาและอาจารย์คงถูกหน่วย NSA จับตัวไปตรวจสอบทั้งคู่ และพบกับชะตากรรมที่น่าอนาถ

เย่เฟิงคอยๆเดินอ้อมน้ำแข็งพันปีชิ้นนี้ไปอย่างรอบคอบ และมาหยุดอยู่หน้าประติมากรรมน้ำแข็งของซูเฟยหยิ่ง

ประติมากรรมน้ำแข็งนี้เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก หากคนธรรมดาทั่วไปถูกแช่แข็งอยู่ในนี้เป็นเวลานานแล้วละก็ พวกเขาคงเสียชีวิตไปแล้ว แต่เย่เฟิงเชื่อว่าซูเฟยหยิ่งไม่มีทางตายง่ายๆ

ยามที่อยู่ในโลกเทวะ ผู้หญิงคนนี้ได้เผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่เลวร้ายยิ่งกว่านี้มาแล้วมากมาย แต่ก็สามารถรอดชีวิตมาได้ทุกครั้ง

ชุดกระโปรงยาวสีขาว ปกปิดเรือนร่างที่สมบูรณ์แบบเอาไว้ภายใน ตลอดจนเรือนผมสีดำเงางามได้กระจายไปทั่วไหล่เหมือนดั่งน้ำตก สิ่งเหล่านี้ทำให้รูปลักษณ์ของเธอดูสูงส่งจนคนทั่วไปไม่อาจเอื้อม

เย่เฟิงมองไปยังดวงตาคู่สวยที่หลับอยู่ มันทำให้เขาอดคิดถึงตอนที่อยู่ในโลกเทวะไม่ได้ เวลานั้น ทุกๆครั้งที่เห็นดวงตาคู่นี้ แม้จะรู้สึกถึงความหนาวเย็นอยู่ในใจ แต่ก็ทำให้เกิดความรู้สึกหลงใหลจนแทบจะถอนตัวไม่ขึ้น

ซูเฟยหยิ่งนั้นเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างเย็นชาและไม่มีทางปล่อยให้คนแปลกหน้าได้เข้ามาใกล้ตัวเธอ

ยกเว้นในครั้งนั้นที่หญิงสาวได้ค้นพบพรสวรรค์ในตัวเขา เย่เฟิงก็ไม่เคยได้เห็นรอยยิ้มของเธออีกเลย สำหรับผู้ฝึกเซียนคนอื่นในโลกเทวะ ซูเฟยหยิ่งมักจะพูดกับพวกเขาด้วยคำพูดที่แข็งทื่อ และไร้ซึ่งความแยแสใดๆ

ไม่นานนัก เย่เฟิงก็รีบฟื้นคืนสติมาอย่างรวดเร็ว

เขาก้าวไปข้างหน้าสองก้าว และยื่นมือออกไปสัมผัสกับปฏิมากรรมน้ำแข็ง ทันใดนั้น ความหนาวเย็นจนแสบกระดูกก็ทำให้เขาผงะไปในทันที

เย็นมาก!

หากซูเฟยหยิ่งไม่มีวรยุทธ์ในระดับ 100 ปีแล้วละก็ เธอคงไม่มีทางจะรอดชีวิตอยู่ในความหนาวเย็นระดับนี้ได้แน่

แล้วเขาจะช่วยเธอออกมาได้อย่างไร?

ด้วยทักษะเพลิงสีแดงงั้นหรือ?

เย่เฟิงขบคิดอยู่ในใจ ไม่ว่าอย่างไรก็คงต้องลองดู แต่ปฏิมากรรมน้ำแข็งนี้ได้รับพลังที่น้ำแข็งพันปีปลดปล่อยออกมาอยู่ตลอดเวลา กับตัวเขาที่มีเพียงทักษะเพลิงสีแดงขั้นแรก นี่ช่างเป็นเรื่องยากจริงๆ

ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าไปลึกๆ หลังจากนั้นจึงเริ่มไหลเวียนเจินชี่ไปที่มือทั้งสองข้าง และในเวลาต่อไป บอลไฟก็ปรากฏออกมาบนฝ่ามือ

อุณหภูมิที่โชติช่วงพลันเขาห้อมล้อมไปทั่วปฏิมากรรมน้ำแข็ง แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหน มันก็ไม่เกิดการละลายขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย

“ไม่เกิดอะไรขึ้นเลย?”

เย่เฟิงแทบไม่อยากเชื่อสายตาขณะที่ยังคงพยายามหลอมละลายน้ำแข็งอยู่ หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เขาพบว่ามันเป็นเรื่องยากอย่างยิ่งที่จะเอาชนะความเย็นนี้ด้วยเปลวไฟที่อยู่ในขั้นแรก

น้ำแข็งพันปียังคงปลดปล่อยความหนาวเย็นออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ในเวลานี้ ดูเหมือนว่ามันจะรับรู้การคงอยู่ของเย่เฟิง และเริ่มปลดปล่อยกระแสที่หนาวเย็นยิ่งขึ้นไปอีก ราวกับจะเยาะเย้ยความสามารถของเขา

“แย่แล้ว”

เย่เฟิงไม่คิดมากอีก เขารีบคว้าเอาปฏิมากรรมน้ำแข็งไปไว้ในตำแหน่งที่ห่างไกลจากน้ำแข็งพันปีเพื่อจะลองใช้เพลิงสีแดงหลอมละลายอีกครั้ง

ความหนาวเย็นที่แสบกระดูกไหลเวียนเข้าหาชายหนุ่มทันที แต่เขาไม่สนใจ เขารีบพาปฏิมากรรมน้ำแข็งออกจากบริเวณนี้ไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อเย่เฟิงหันกลับมา ช่างน่าตกใจที่ดูเหมือนว่าน้ำแข็งพันปีจะเริ่มไม่พอใจ มันเริ่มควบแน่นแท่งน้ำแข็งมากมายเพื่อหมายจะยิงใส่เขา แต่แท่งน้ำแข็งเหล่านั้นไม่นานก็จางหายไปราวกับหมดพลัง

“อาจเป็นเพราะว่าการคงสภาพเมืองน้ำแข็งแห่งนี้ไว้ มันคงใช้พลังที่มีไปแทบทั้งหมดแล้วสินะ?”

เย่เฟิงคาดเดาแต่ก็ยังไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม

แต่ในชั่วขณะที่กำลังจะหันกลับไปหลอมละลายปฏิมากรรมน้ำแข็งอีกครั้งหนึ่ง ทันใดนั้น ดวงตาของเขาก็หรี่ลงเมื่อมองไปยังอีกทิศทางหนึ่ง

นั่นมันอะไรกัน?

หลังจากที่เคลื่อนย้ายปฏิมากรรมน้ำแข็งของซูเฟยหยิ่งออกมา ชายหนุ่มก็มองเห็นสิ่งที่ดูน่าประหลาดด้านหลังของแนวปะการัง

เวทเคลื่อนย้าย?!

เย่เฟิงมีสีหน้าตกใจทันที

แผ่นหินที่ดูเก่าแก่ถูกฝังอยู่ของแน่นหนากับแนวปะการังในตำแหน่งนั้น ขณะที่บนแผ่นหิน มีอักษรโบราณถูกเขียนเอาไว้ นี่มันเป็นเวทเคลื่อนย้ายที่เขาเคยเห็นในโลกเทวะไม่ผิดแน่!

แต่แผ่นหินชิ้นนี้ได้แตกออกเป็นสองส่วน มันจึงสูญเสียความสามารถไปหมดแล้ว

โลกใบนี้ก็กลับมีเวทเคลื่อนย้ายอยู่เช่นกัน แม้จะไม่มั่นใจ 100% แต่เขาคิดว่ามันต้องพาไปสู่โลกเทวะได้แน่!

แต่ในเวลานี้ เย่เฟิงกลับไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นมากนัก สำหรับเขาแล้ว ตราบใดที่มีซูเฟยหยิ่งอยู่ข้างๆ ไม่ว่าจะเป็นโลกใบนี้หรือโลกเทวะก็ล้วนมีค่าไม่ต่างกัน และยิ่งในตอนนี้ เขามีผู้หญิงอีกสองคนที่ต้องรับผิดชอบอยู่แล้วด้วย ซูเหมิงหานและหลงหวางเอ๋อ……..

ต่อให้มีทางกลับไปได้ เย่เฟิงก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเขาไม่ต้องการจะกลับไปเสียแล้ว

…………………

แปลโดย Solar Spark