บทที่ 209 การคุกคามของเรือดำน้ำ

ไม่นาน หนิวเหมิ่งก็พบเงาของคนที่ทำให้เขาต้องหัวใจเต้นรัว

สาเหตุที่เจ้าเด็กเย่เฟิงนั่นเจาะกำแพงเข้ามาในเมืองน้ำแข็งนี้ก็เพราะผู้หญิงคนนั้นสินะ? ก่อนหน้านี้ ข่าวเรื่องธิดาหิมะมาเยือนแถบทะเลจีนตะวันออกได้กระจายไปทั่วประเทศ ข่าวนี้ทำให้หนิวเหมิ่งมั่นใจเป็นอย่างยิ่ง!

ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว แผนของหัวหน้าหลี่ก็คงสำเร็จได้ไม่ยาก

“สำรวจให้ทั่วทุกที่”

หนิวเหมิ่งออกคำสั่ง “ตอนนี้ เป้าหมายของเราคือการหาตัวเจ้าเด็กที่เจาะกำแพงน้ำแข็งเข้ามา มันมีชื่อว่าเย่เฟิง!”

สมาชิกในทีมทุกคนรับคำสั่งอย่างพร้อมเพรียง

หลังจากนั้น แต่ละคนก็เริ่มกระจายตัวออกไป แต่หนิวเหมิ่งและสมาชิกหน่วยอีกสองคนยังคงอยู่ที่เดิม ขณะรอสมาชิกทีมที่เหลือที่อยู่ในระหว่างการค้นหารอบๆ

“หนาวจริงๆ”

หนิวเหมิ่งจับจ้องไปยังร่างอันงดงามของหญิงสาวที่อยู่ใจกลางเมืองน้ำแข็งด้วยดวงตาข้างเดียว ขณะขบคิดว่าหญิงสาวที่ถูกเรียกว่าธิดาแห่งทะเลจีนตะวันออกผู้นี้เป็นใครกัน ช่างน่าประหลาดใจที่เธอทำให้เกิดการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในแถบทะเลจีนตะวันออกนี้

เท่าที่เขารู้ แม้แต่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกยุทธภพก็ยังมุ่งหน้ามาที่นี่ด้วยความสนใจ

สิ่งเดียวที่อธิบายเหตุการณ์นี้ได้คือ ในเกาะน้ำแข็งแห่งนี้ นอกจากผู้หญิงคนนี้แล้ว มันยังมีสิ่งของบางอย่าง อย่างเช่นสมบัติสวรรค์ที่เหล่าผู้ฝึกยุทธ์เคยพูดถึง

“ไม่ว่าธิดาหิมะจะเป็นใคร ฉันคนนี้จะพากลับไปฐานทัพเพื่อการวิจัยแน่ ส่วนสมบัติสวรรค์ที่นี่ ดูแล้วคงไม่ใช่ของกระจอกในโลกยุทธภพ หากมันสามารถสร้างเกาะน้ำแข็งอันแสนน่าทึ่งนี้ขึ้นมาได้ ของสิ่งนั้นย่อมต้องถูกตรวจสอบโดยหน่วย NSA…..”

ในขณะเดียวกัน หนิวเหมิ่งรู้สึกว่าดวงตาอิเล็กทรอนิกส์เทียมดูเหมือนจะไร้ประสิทธิภาพไปในสภาวะแวดล้อมเช่นนี้ นี่ทำให้เขารู้สึกอึดอัดนิดหน่อย แม้แต่สมาชิกหน่วย NSA ทุกคนก็ล้วนงงงวยเมื่อพบว่าพลังงานลึกลับบางอย่างในสถานที่แห่งนี้ทำให้สัญญาณสื่อสารของพวกเขาไม่ชัดเจนเท่าที่ควร

หนิวเหมิ่งรอคอยการสำรวจของสมาชิกหน่วยด้วยความอดทน ไม่นานนัก แต่ละคนก็ทยอยกลับมา

เวลานี้ ในที่สุดเขาก็ได้พบสัญญาณสื่อสารจากด้านหนึ่ง “หัวหน้าครับ พวกเราพบตัวเด็กคนนั้นแล้ว แต่มีหญิงสาวอีกคนอยู่กับเขาด้วย!”

“ที่ไหน?”

หนิวเหมิ่งหัวใจโลดเต้น เขารีบยิงคำถามออกไปในแทบจะทันที

“คุณไม่ต้องหาหรอก ผมอยู่นี่”

น้ำเสียงของเย่เฟิงกระจายไปทั่วช่องน้ำแข็ง และในทันทีหลังจากนั้น ก็มีชายหนุ่มในชุดสีดำพร้อมกับหญิงสาวในชุดเดรสชิ้นเดียวก้าวออกมาจากกลุ่มหมอกด้านหลังของสมาชิกหน่วย NSA และหยุดอยู่หน้าพวกเขา

“เป็นเธอจริงๆ”

หนิวเหมิ่งเค้นเสียงเบา เขาไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะปรากฏตัวออกมาด้วยตัวเองแบบนี้ แต่นี่ก็คือว่าเป็นเรื่องดี เพราะเขาจะได้เจรจากับมันได้โดยตรง

เย่เฟิงดึงร่างหลงหวางเอ๋อเข้ามาใกล้ ขณะจ้องมองไปยังชายตาเดียวที่อยู่ตรงหน้า รูปลักษณ์ของชายคนนี้ดูดุร้ายมากขนาดที่สามารถขู่เด็กให้ร้องไห้จ้าได้ในเวลากลางวัน………

ชายคนนี้คือหัวหน้าหน่วย NSA ที่รับผิดชอบภารกิจนี้งั้นหรอ?

เย่เฟิงคาดเดาอยู่ในใจ

ความจริง ทั้งคู่ก็ไม่ได้อยากจะเปิดเผยตัวต่ออีกฝ่ายอยู่แล้ว แต่น่าเสียดายที่ทักษะล่องหนไม่สามารถแสดงผลในที่แห่งนี้ได้

หลักการพื้นฐานของทักษะล่องหนก็คือการใช้เจินชี่เพื่อหักเหแสงที่ตกกระทบรอบตัว แต่การที่มีแสงสลัวสีขาวอยู่ในที่แห่งนี้ มันทำให้เจินชี่ของพวกเขาไม่อาจหักเหแสงได้ตามที่ควรจะเป็น

ด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาทั้งสองจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมปรากฏตัวออกมา

อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องปกติที่เย่เฟิงไม่คิดจะพูดคุยอะไรกับอีกฝ่าย และรอคอยโอกาสที่จะหลบหนีออกไปจากที่แห่งนี้ ปัจจุบัน เขามีระดับวรยุทธ์อยู่ที่ 15 ปี มันจึงเป็นเรื่องง่ายอย่างยิ่งที่จะใช้ทักษะศรดาราผสานการโจมตีร่วมกันกับหลงหวางเอ๋อ

เมื่อใดที่ความแข็งแกร่งของทั้งคู่ได้ผสานกันเป็นหนึ่งเดียว พลังอำนาจของมันก็มากพอจะเจาะชั้นน้ำแข็งไปได้อย่างน้อย 3-4 ชั้น ด้วยวิธีนี้ พวกเขาต้องช่วยซูเฟยหยิ่งออกมาได้แน่

“เดี๋ยวก่อน”

เมื่อหนิวเหมิ่งเห็นท่าทางของเย่เฟิงและหลงหวางเอ๋อเหมือนกำลังจากจากไป เขาก็อดไม่ได้ที่จะร้องตะโกนออกมาเสียงดัง

“คุณต้องการอะไร?”

เย่เฟิงหยุดเคลื่อนไหว จากนั้นจึงเอ่ยถาม

“ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับเธอหน่อย”

หนิวเหมิ่งรีบงัดไม้เด็ดออกมา เขาเอ่ยด้วยความมั่นใจ “อย่างแรกให้ฉันแนะนำตัวเองก่อน ฉันชื่อว่าหนิวเหมิ่งและเป็นคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบภารกิจนี้ ถ้าเข้าใจไม่ผิด เธอคือเย่เฟิงและเป้าหมายของเธอก็คือผู้หญิงที่ถูกแช่แข็งอยู่ใจกลางนั่นใจไหม?”

ถึงแม้ว่าคำพูดของหนิวเหมิ่งจะดูสุภาพ แต่เย่เฟิงรับรู้ได้แจ่มแจ้งว่าน้ำเสียงของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความรังเกียจต่อตัวเขา

มันคิดจะยุแหย่เขางั้นหรอ?

เย่เฟิงคิดว่าคำถามนี้ดูเหมือนมีนัยแอบแฝงบางอย่าง แน่นอน ชายหนุ่มไม่รู้ว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานี้เป็นพวกหัวรุนแรงเช่นเดียวกันกับหลี่เฟิง

“เปล่า ผมแค่นึกสนุกอย่างลองมาสำรวจที่นี่ดูก็เท่านั้น ตอนนี้พวกเราก็กำลังจะกลับแล้ว”

คำพูดของเย่เฟิงดูราวกับว่าชายหนุ่มสามารถกลั้นหายใจต่อไปได้อีกไม่นาน แน่นอน เขาและหลงหวางเอ๋อสามารถใช้ทักษะกลั้นหายใจในน้ำได้อีกนาน แต่ความลับนี้ไม่ควรเปิดเผยให้อีกฝ่ายได้รู้

“ฮ่าฮ่า”

แล้วก็เป็นไปตามที่คาด หนิวเหมิ่งหลงเชื่ออย่างง่ายดายว่าพวกเขากลั้นหายใจต่อไปได้อีกไม่นาน มันจึงเอ่ยตอบออกมาเสียงดัง “เธอไม่มีอุปกรณ์ดำน้ำแบบของหน่วย NSA สินะ เพราะงั้นตอนนี้ ทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือการร่วมมือกับพวกเราเพื่อประโยชน์ของเธอเอง คนของฉันยังสำรวจอยู่ที่นี่อีกนานและย่อมสามารถช่วยผู้หญิงคนนั้นออกมาให้เธอได้ อีกอย่างหนึ่ง เธอควรจะรู้ไว้ว่า ห่างออกไปจากที่นี่ไม่กี่ไมล์ทะเล พวกเรามั่นใจว่าอีกไม่นาน เรือดำน้ำล่องหนของพวกอเมริกาก็คงมาถึงที่นี่แล้ว………”

เรือดำน้ำอเมริกา?

เย่เฟิงได้ยินดังนั้นก็พลันคิ้วขมวด แต่แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญอะไรสำหรับเขา

“พวกเราสามารถให้เธอยืมชุดดำน้ำได้นะ”

หนิวเหมิ่งกล่าวต่อไปด้วยความมั่นใจ “เทคโนโลยีล่องหนของอีกฝ่ายนั้นมีประสิทธิภาพสูงมาก แม้แต่เรือ Destroyer ของเราก็ไม่สามารถตรวจพบได้ ทำได้เพียงตรวจจับตำแหน่งที่ต้องสงสัยบางแห่งจากสัญญาณรบกวน เพราะงั้นพวกเราจึงต้องการให้เธอออกไปสำรวจรอบๆนี้ ถ้าพบเรือดำน้ำของพวกมันเมื่อไหร่ ก็รีบรายงานให้พวกเราทราบทันที จากนั้นทางกองทัพและหน่วย NSA จะร่วมมือกันจัดการกับพวกมันเอง…ฉันเชื่อว่าเธอคงไม่ต้องการให้พวกมันยิงตอร์ปิโดซี้ซั้วเพื่อทำลายเกาะน้ำแข็งแห่งนี้จริงไหม? เพราะถ้าเป็นแบบนั้น ผู้หญิงที่ถูกแช่แข็งอยู่ด้านในก็ยากจะรอดชีวิตได้……”

สิ่งต่างๆที่หนิวเหมิ่งพูดมาถือว่ามีเหตุผลอย่างยิ่ง!

เรือดำน้ำล่องหนของอเมริกาย่อมไม่กล้าเผยตัวออกมา เพราะงั้นพวกเขาจึงไม่สามารถจะเข้าไปตรวจสอบภายในเกาะน้ำแข็งได้ ในเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว อีกฝ่ายก็คงไม่ปล่อยให้ประเทศจีนได้รับอะไรจากเกาะน้ำแข็งนี้ไปเช่นเดียวกัน

ถ้าหากตอร์ปิโดหลายต่อหลายลูกโจมตีเข้าใส่เกาะน้ำแข็ง นั่นย่อมทำให้ซูเฟยหยิ่งตกอยู่ในอันตราย

“เข้าใจแล้ว แต่พวกเราไม่ต้องการอุปกรณ์ดำน้ำ ยังไงพวกเราจะลองค้นหาเรือดำน้ำของพวกมันดู”

ในตอนนี้ เย่เฟิงถือว่าการคุกคามนี้เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน

เรือดำน้ำอเมริกา!

ถ้าเมืองน้ำแข็งถูกคนพวกนั้นระเบิดทิ้งไปจริง เขาต้องเสียใจไปตลอดชีวิตแน่

“เดี๋ยวก่อน ถ้าเธอไม่ต้องการอุปกรณ์ดำน้ำ งั้นก็ช่วยรับเจ้านี่ไว้ด้วย”

หนิวเหมิ่งล้วนเอาชิ้นส่วนอุปกรณ์ขนาดเล็กจากชุดดำน้ำของเขาออกมา “นี่คืออุปกรณ์สื่อสารขนาดจิ๋ว ถ้าเธอพบร่องรอยเรือดำน้ำของพวกอเมริกาแล้ว ก็ใช้เจ้านี่รายงานมาหาพวกเรา มันมีแผนที่อิเล็กทรอนิกส์ของตำแหน่งที่น่าสงสัยบางแห่งบันทึกไว้ในนี้ด้วย”

เย่เฟิงหลี่ตาลง

เจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้ ถ้าไม่รับไว้ก็คงไม่ใช่เรื่องดีกับเขาเท่าไหร่ในสถานการณ์ตอนนี้…..

“เข้าใจแล้ว”

เย่เฟิงรับอุปกรณ์สื่อสารขนาดจิ๋วมาอย่างว่าง่าย จากนั้นจึงกุมมือหลงหวางเอ๋อและรีบว่ายน้ำออกไปด้านนอกทันที

แน่นอนว่าเย่เฟิงไม่ใช่คนโง่ เขาย่อมรู้ว่าเจ้านี้ไม่ใช่เป็นแค่อุปกรณ์สื่อสารอย่างเดียวแน่ บางทีมันคงจะเป็นเรื่องติดตามตัวด้วย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอีกฝ่ายต้องการจะวางกับดักเขา

แต่เย่เฟิงก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่ากับดักของอีกฝ่ายคืออะไรกันแน่

“อย่างแรก เราออกไปสำรวจรอบๆเกาะนี้กันก่อน เพราะบางทีอาจจะมีเรือดำน้ำอเมริกาอยู่ใกล้ๆ”

เย่เฟิงเอ่ยกับหลงหวางเอ๋อ

ไม่ว่าอย่างไร การคุกคามนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่สามารถมองข้ามได้

ในเวลานี้ หนิวเหมิ่งจ้องมองเย่เฟิงและหลงหวางเอ๋อที่กำลังจากไป พร้อมกับมุมปากของเขาที่ค่อยๆโค้งขึ้น แสดงให้เห็นถึงการเยาะเย้ย

ในที่สุดแผนของหลี่เฟิงก็ดำเนินมาได้ครึ่งทางแล้ว หนิวเหมิ่งเพียงแค่รอให้เย่เฟิงพบเรือดำน้ำของอเมริกา จากนั้น เขาจะสั่งให้เรือ Destroyer ปล่อยตอร์ปิโดออกไป ด้วยวิธีนี้ หนิวเหมิ่งเชื่อว่าเจ้าเด็กเย่เฟิงกับเรือดำน้ำของฝ่ายตรงข้ามจะต้องถูกฝังอยู่ใต้ก้นทะเลไปพร้อมกันแน่

…………………………

แปลโดย Solar Spark