บทที่ 207 กล้าจะเสี่ยงไหม?

ณ ภายนอกเมืองน้ำแข็ง เหนือผิวน้ำทะเล

“มันถูกเจาะเข้าไปจริงๆ”

ธันเดอร์มั่นใจแล้วว่าใต้ผิวน้ำทะเลลึกลงไปประมาณ 50 เมตร มีใครบางคนสามารถเจาะช่องทะลุกำแพงน้ำแข็งเข้าไปได้ แถมความสามารถในการฟื้นฟูตัวเองของกำแพงน้ำแข็งก็ไม่ทำงานอีกด้วย!

พูดอีกอย่างก็คือ ในที่สุดตอนนี้ พวกเขาก็สามารถเข้าไปในเกาะภูเขาน้ำแข็งอย่างง่ายดายผ่านช่องนี้แล้ว

จะมีสิ่งใดอยู่ภายในเกาะนี้กัน?

ความอยากรู้ของธันเดอร์พุ่งสูงเสียดฟ้า ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ พวกเขาต้องเตรียมตัวให้ดีเพื่อให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้สำเร็จ

เย่เฟิงเป็นคนทำงั้นรึ?

ธันเดอร์ลอบเดาอยู่ในใจ แต่เขาไม่อยากจะเชื่อสมมติฐานนี้เลย

ในเวลานี้ ทุกคนในทีมของธันเดอร์ล้วนแล้วแต่มีความประหลาดใจอยู่บนใบหน้า แม้แต่ขีปนาวุธพิสัยไกลก่อนหน้านี้ยังไม่อาจเจาะทะลวงกำแพงน้ำแข็งนี้เข้าไป แล้วใครกันที่สามารถแอบเจาะช่องน้ำแข็งนี้ได้?

ดวงอาทิตย์ได้ลอยสูงอยู่ในทิศตะวันออกแล้ว ภายใต้ความอบอุ่นที่กระจายไปทั่วแถบทะเลจีนตะวันออกอันเงียบสงบ เกาะภูเขาน้ำแข็งนี้ยังคงแพร่กระจายความหนาวเย็นที่แสบกระดูกออกมาอย่างต่อเนื่อง

ทั่วทั้งชายฝั่งทางทิศตะวันออก ได้ถูกหน่วย NSA และกองทัพ รวมมือกันกับตำรวจท้องถิ่นขวางกั้นทางเข้าออกไว้เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีประชาชนคนใดค้นพบเกาะภูเขาน้ำแข็งแห่งนี้

แต่ทันใดนั้น เรือสปีดโบทอีกสองลำก็ได้มุ่งหน้าจากชายฝั่งทะเลมายังที่ซึ่งทีมของธันเดอร์อยู่อย่างรวดเร็ว

พวกเขาคือสมาชิกของหน่วย NSA เช่นเดียวกัน

“หนิวเหมิ่ง คุณมาที่นี่ทำไม?”

ธันเดอร์เงยหน้าขึ้นและขมวดคิ้ว ขณะจ้องมองร่างอันคุ้นเคยที่อยู่บนเรือสปีดโบท

“ฮ่า ฮ่า เพราะว่าผมได้รับคำสั่งจากหัวหน้าหลี่เฟิงให้มาที่นี้เพื่อทำภารกิจให้สำเร็จยังไงล่ะ!”

น้ำเสียงแข็งกร้าวตอบกลับเสียงดัง!

สมาชิกในทีมธันเดอร์มองไปยังเรือสปีดโบททั้งสองลำที่มีอาวุธครบมือ ซึ่งนำโดยชายที่มีดวงตาเทียม รูปลักษณ์ของเขาดูดุร้ายราวกับคนขายเนื้อ

นั้นคือหนิวเหมิ่ง!

รูปร่างของหนิวเหมิ่งนั้นดูแข็งแรงและสูงพอควร ลักษณะเด่นของเขาคือใบหน้าที่ดูดุร้าย อาจบอกได้เลยว่าขณะที่ชายคนนี้ปฏิบัติภารกิจ แค่ได้เห็นใบหน้าของเขาก็ทำให้ศัตรูถึงกับกลัวจนฉี่ราดแล้ว เขาจึงมีชื่อเสียงในหน่วย NSA พอตัวทีเดียว

ด้านหนึ่งของใบหน้าหนิวเมิ่ง มันมีรอยบากของใบมีดที่ดูน่าเกลียดน่ากลัวซึ่งเขาปล่อยไว้อย่างจงใจ ขณะที่อีกด้านหนึ่ง ดวงตาอิเล็กทรอนิกส์เทียมถูกฝังไว้ในดวงตาแทนลูกตาเดิม

ด้วยเหตุนี้เอง ความสามารถของเขาจึงสูงกว่าสมาชิกหน่วย NSA คนอื่นๆ ดวงตาอิเล็กทรอนิกส์เทียมนี้เปรียบเสมือนเรดาร์ที่ตรวจสอบได้ทุกทิศทุกทาง นอกจากนี้ มันยังมีสัมผัสที่ไวต่อการรับรู้สิ่งต่างๆโดยรอบอีกด้วย!

พ่อของหนิวเหมิ่งถูกคนของโลกยุทธภพสังหารเมื่อครั้งที่ยังเป็นเด็ก ซึ่งนี้คือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงได้เกลียดชังเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ทั้งหลาย และกลายเป็นเจ้าหน้าที่ชั้นยอดภายใต้การบังคับบัญชาของหลี่เฟิง

“ต้องขอโทษด้วย แต่ผมคือผู้รับผิดชอบภารกิจนี้แต่เพียงผู้เดียว และมีอำนาจในการจัดการได้เต็มที่”

ธันเดอร์ตอบกลับไปเมื่อพบว่าอีกฝ่ายต้องการเข้ามามีส่วนร่วมกับภารกิจนี้ เขาไม่ได้รู้สึกกดดันอะไร

“ผมรู้แล้ว แต่เดี๋ยวจดหมายแต่งตั้งก็คงมาถึงในไม่ช้า หัวหน้าเฟิงได้อนุมัติเรื่องนี้เพราะการทำงานที่ไร้ประสิทธิภาพของคุณ และอีกอย่าง คุณยังใช้ขีปนาวุธระยะไกลไปโดยเสียเปล่าด้วย เพราะงั้นตอนนี้ ผมจึงมีหน้าที่รับผิดชอบภารกิจนี้โดยสมบูรณ์”

ร่องรอยของความแข็งกร้าวปรากฏอยู่ในสายตาและน้ำเสียงของหนิวเหมิ่ง เขากล่าวต่อไปด้วยความพึ่งพอใจ “หัวหน้าธันเดอร์ ขอโทษด้วยแต่ตอนนี้ทีมของคุณต้องร่วมมือกับทีมของผม ทุกคน! เตรียมตัวสำหรับดำลงไปในน้ำ!””

หนิวเหมิ่งออกคำส่งต่อหน่วย NSA ที่อยู่บนเรือสปีดโบทให้รีบเตรียมพร้อม

ชุดดำน้ำ, ปืนไรเฟิล, อุปกรณ์ตรวจจับ, อุปกรณ์ให้ความร้อน ฯลฯ

อุปกรณ์ชั้นเยี่ยมทั้งหลายได้ถูกแขวนอยู่ทั่วร่างของพวกเขา ทำให้แต่ละคนกลายเป็นทหารอาวุธครบมือ!

สำหรับเรื่องเกาะภูเขาน้ำแข็ง และช่องน้ำแข็งที่ถูกเปิดออกมา หนิวเหมิ่งรับรู้เรื่องราวเหล่านี้หมดแล้ว แววตาอันเย็นเยียบได้ฉายออกมาในดวงตาอันดุร้าย ยามที่ดวงตาอิเล็กทรอนิกส์เทียมสะท้อนกับแสงของดวงอาทิตย์ มันทำให้ผู้คนที่มองเห็นต้องรู้สึกเกรงกลัวจนตัวสั่น

หลังจากตัดแขนของหัวหน้าหลี่แล้ว เจ้าเด็กนั่นก็คงเข้าไปในนี้สินะ……

แต่ว่าวัตถุประสงค์ของมันคืออะไรกันแน่…….

ตามข้อมูลที่ได้รู้มาทั้งหมด หนิวเหมิ่งแทบจะมั่นใจว่าคนที่เจาะทะลวงกำแพงน้ำแข็งนี้เข้าไปก็คือเย่เฟิง ถึงแม้จะเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ แต่เขาย่อมไม่ใส่ใจในเรื่องนี้

หนิวเหมิ่งเลียริมฝีปาก พร้อมกับจัดเตรียมคนของเขาสำหรับแผนการอันยอดเยี่ยมของหัวหน้าหลี่

รายละเอียดของแผนการที่หลี่เฟิงได้อธิบายออกมานั้น ทำให้หนิวเหมิ่งรู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่งจนแทบทนรอไม่ไหวที่จะได้เห็นฉากตอนเจ้าเด็กเวรนั่นตาย และเขาตั้งใจจะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วย!

อาจบอกได้เลยว่าทั้งรูปลักษณ์และนิสัยของหนิวเหมิ่งนั้นเต็มไปด้วยความป่าเถื่อน ทั้งยังมีความรู้สึกเกลียดชังต่อโลกยุทธภพอย่างยิ่ง เขาได้บรรจุเป็นทหารในหน่วยพิเศษโดยใช้เวลาไม่นาน และความสามารถในการบังคับบัญชาของเขายังถือว่ายอดเยี่ยม

แต่ด้วยที่หนิวเหมิ่งไม่ได้เข้าเรียนในโรงเรียนเตรียมทหารทั่วไป เขาจึงไม่อาจเลื่อนขั้นขึ้นไปอยู่ในระดับเดียวกันกับหลี่เฟิงได้ และทำได้เพียงอยู่ในตำแหน่งใต้การบังคับบัฐชาของหลี่เฟิง แน่นอนว่าว่าหลี่เฟิงชื่นชอบเขาเป็นอย่างยิ่ง

การอาศัยสถานะและอาวุธในมือเพื่อทำให้ผู้ฝึกยุทธ์ต้องยอมจำนนแต่โดยดี สิ่งนี้ทำให้หนิวเหมิ่งรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจยิ่ง!

ส่วนเรื่องจะได้มีตำแหน่งสูงแค่ไหนนั้น เขาย่อมไม่ใส่ใจ

ทันทีที่หนิวเหมิ่งพูดจบนั้น ธันเดอร์ก็ได้รับจดหมายแต่งตั้งจากเบื้องบน ด้วยที่หลี่เฟิงยังอยู่ในระหว่างการรักษาตัว หนิวเหมิ่งจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าชั่วคราวและมีอำนาจสั่งการเต็มที่ในภารกิจทั่วแถบทะเลจีนตะวันออก ส่วนธันเดอร์นั้นให้ให้ถือว่าเป็นผู้ช่วย นอกจากนี้ เขายังต้องตรวจสอบความลับของเกาะภูเขาน้ำแข็งพร้อมกับคอยระวังการลอบเคลื่อนไหวของพวกอเมริกาด้วย

มันมีจดหมายแต่งตั้งมาจริงๆ!

สีหน้าของธันเดอร์พลันเปลี่ยนไปทันที เขาจ้องมองหนิวเหมิ่งแต่ก็ไม่กล่าวอะไรออกมาอีก

พูดถึงเรื่องตำแหน่งในหน่วย NSA ทั้งหลี่เฟิงและธันเดอร์ถือว่าเป็นหัวหน้าหน่วยเหมือนกันแต่ตำแหน่งของพวกเขาไม่ใช่ว่าอยู่ในระดับสูงสุด หลี่เฟิงนั้นอยู่ภายใต้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วย NSA ขณะที่ธันเดอร์นั้นอยู่ใต้อำนาจโดยตรงของหลินเต๋อเทียน

เมื่อเป็นเรื่องสำคัญอย่างเช่นความลับของเกาะภูเขาน้ำแข็ง แม้แต่หลินเต๋อเทียนก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าธันเดอร์จะมีอำนาจรับผิดชอบเรื่องนี้ได้เต็มที่

พูดกันตามตรง หนิวเหมิ่งและทีมของหลี่เฟิงนั้นปฏิบัติภารกิจได้สำเร็จและดีเยี่ยมแทบจะทุกครั้ง ซึ่งมันดียิ่งกว่าธันเดอร์อีกด้วย ทุกๆคนก็ล้วนรู้เรื่องนี้ แต่การกระทำของพวกเขานั้นล้วนไม่คำนึงถึงวิธีการ ตราบใดที่สามารถขัดขวางเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ได้ วิธีการของทีมหลี่เฟิงก็ถือว่าถูกต้อง

ต่อให้มีผู้ฝึกยุทธ์บริสุทธิ์ต้องตาย คนพวกนี้ก็ล้วนไม่ใส่ใจ

ตูม! ตูม!

หนิวเหมิ่งนำสมาชิกสิบคนพร้อมอาวุธครบมือกระโดดจากเรือสปีดโบทลงไปในทะเล จากนั้น พวกเขาก็รีบมุ่งหน้าเข้าไปยังช่องน้ำแข็งที่ถูกเจาะลงไปลึกกว่า 50 เมตรใต้ผิวทะเลทันที

……………

ขณะเดียวกันในเวลานี้ เย่เฟิงและหลงหวางเอ๋อยังคงว่ายน้ำไปมาอยู่ในเมืองน้ำแข็ง

ช่องน้ำแข็งเหล่านี้ดูคล้ายกับรังผึ้งซึ่งอัดแน่นและทอดยาวออกไปทุกทิศทุกทาง ทั้งสองคนได้ว่ายน้ำตามทางไปเรื่อยๆซึ่งไม่นานก็พบทางตัน ทำให้ไม่สามารถมุ่งหน้าต่อไปได้อีก

“แบบนี้แย่จริงๆ”

เย่เฟิงเอ่ยขึ้นมาเมื่อจ้องมองชั้นผนังของน้ำแข็ง คิ้วของเขาหมวดติดกันแน่น

ในช่วงเวลาครึ่งชั่วโมงนี้ ทั้งสองคนยังคงติดอยู่ในชั้นนอกสุดของช่องน้ำแข็ง โดยจากจุดที่พวกเขาลอยอยู่จนถึงร่างอันงดงามของซูเฟยหยิ่งที่อยู่ใจกลางเมืองน้ำแข็ง มันยังคงมีชั้นน้ำแข็งประมาณ 7-8 ชั้นมาขวางกั้นไว้

หากเป็นแบบนี้ต่อไป ต่อให้ใช้เวลาไปอีกหลายวันหลายคืน พวกเขาก็ยังไม่อาจหาทางเข้าไปยังใจกลางของเมืองน้ำแข็งได้!

แต่เย่เฟิงไม่อยากจะเสียเวลาอีกแล้ว

เขาเชื่อว่าหลังจากพบช่องน้ำแข็งที่ถูกเจาะจากภายนอก หน่วย NSA ต้องส่งคนเข้ามาภายในนี้ และด้วยที่มีสมาชิกในหน่วยอยู่หลายคน พวกเขาต้องหาทางเข้าไปสู่ใจกลางได้แน่ ซึ่งในกรณีที่อีกฝ่ายสามารถเข้าไปยังใจกลางได้จริง พวกเขาย่อมไม่แบ่งปันสิ่งใดให้แก่เย่เฟิง

ถ้าเขาปล่อยให้หน่วย NSA เข้าไปยังใจกลางของเมืองน้ำแข็งได้ ก็มีโอกาสสูงมากที่อีกฝ่ายจะพาร่างที่ถูกแช่แข็งของซูเฟยหยิ่งกลับไปโดยที่เย่เฟิงไม่อาจทำอะไรได้

“มันยังมีทางอื่นอยู่”

เย่เฟิงเอ่ยขึ้นมาเมื่อรับรู้ถึงอะไรบางอย่างขณะจ้องมองไปยังร่างอันเลือนรางของซูเฟยหยิ่ง

ในตอนนี้ เย่เฟิงคิดว่าหากดูดซับพลังวิญญาณในเมืองน้ำแข็งนี้เพื่อเพิ่มวรยุทธ์ขึ้นเป็นระดับ 15 ปี เขาก็จะสามารถร่วมมือกับหลงหวางเอ๋อและใช้ทักษะศรดาราอีกครั้งเพื่อเจาะทะลวงชั้นน้ำแข็งที่เหลือ

การโจมตีแบบผสานอาจทำให้พวกเขาสามารถเข้าใกล้ซูเฟยหยิ่งได้มาขึ้น

อย่างไรก็ตาม เส้นลมปราณของเย่เฟิงในตอนนี้รองรับระดวรยุทธ์ได้เพียง 13 ปี หากเขาพยายามดูดซับพลังวิญญาณเกินกว่านี้ มันก็มีโอกาสสูงมากที่เส้นลมปราณจะระเบิดและทำให้เขาตายในทันที!

แล้วแบบนี้ เขาจะกล้าเสี่ยงไหม?

…………………

แปลโดย Solar Spark

Solar Spark: ไม่ได้เข้ามาดูแป๊ปเดียว Eng ไปถึงตอนที่209ล่ะครับ ไวแท้ เดี๋ยวจะรีบแปลให้นะฮะ