บทที่ 177: เขาวงกต (1)

 

 

 

“เฮ้ เพื่อน! รอเดี๋ยวสิ!”

“…”

เอคิดูนิ่งอึ้งไปกับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของน้ำเสียงหลังจากที่เธอปีนออกมาจากร่างของสัตว์อสูรสามสายพันธุ์

‘ฮึ ดูที่เขาเปลี่ยนไปสิ’

แตต่มารูนไม่กระทั่งชายตาไปมองเอคิดูขณะที่เขาเดินไปหาฮันซู

‘ดูเหมือนว่าหมอนี่จะเป็นหัวหน้า’

เขาคิดว่าเอคิดูคือหัวหน้าในตอนแรก

มันมีหลายครั้งที่คนที่ฉลาดหรือว่าใจกว้างเป็นหัวหน้า

แต่มันจะอยู่ได้ไม่นานนัก

ในเมื่อคนที่โหดเหี้ยมที่สามารถจัดการกับปัญหาได้ในช่วงเวลาอันตรายจะเป็นคนที่ตัดสินใจแทนคนที่ทำได้เพียงพูดเกี่ยวกับปัญหาไปเรื่อย

และเขาไม่เคยเห็นใครที่แข็งแกร่งเทียบเท่าเอคิดูมาก่อนแม้ว่าจะย้ายไปอีกหมู่บ้านแล้ว

แต่อย่างที่คนพูดกันว่าโลกมันกว้างใหญ่ กับการที่เขาสามารถพบคนที่แข็งแกร่งกว่านั้นไปอีกได้จริงๆ

คนที่ฆ่าสัตว์อสูรคือเอคิดู แต่ถ้าเจ้าหมอนั่นไม่ได้อยู่ตรงนั้นเพื่อป้องกันลำแสงที่ไม่อาจหยุดได้นั่นเอาไว้ งั้นมันก็คงไม่แม้แต่จะเป็นไปได้

นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เขาพยายามจะคุยกับฮันซูแทน

‘ใช่แล้ว แค่ยืนอยู่นิ่งๆ ข้างหลังฉัน’

มารูนมองไปยังเหล่านักล่าที่ล้วนเฝ้ามองเขาจากเบื้องหลัง เดินไปหาฮันซูแล้วเอ่ยขึ้น

“ในเมื่อมันดูเหมือนว่าจะมีเวลาไม่มาก งั้นก็เข้าเรื่องเลยแล้วกัน ฉันไม่รู้ว่าทำไมพวกนายสามคนถึงเกาะกลุ่มกันแค่สามคน แต่เราไปด้วยกันเถอะ”

กิ้งงงงง!

เสียงร้องของสัตว์อสูรสามสายพันธุ์ดังขึ้นจากรอบๆ

‘ไอ้เจ้าตัวพวกนี้มันโผล่มาจากที่ไหนกันแน่?’

มารูนขมวดคิ้วเมื่อเขาได้ยินเสียงร้องและคำรามที่ดังก้องไปทั่วป่า

ลำแสงห้าเท่าที่ผ่านการบีบอัดแล้วของคาร์ฮาลสามารถทะลวงผ่านผิวหนังของมันเข้าไปได้อย่างยากลำบาก

ถ้าเขาพยายามจะสร้างรูที่ใหญ่กว่านั้นขึ้นอีกหน่อย งั้นมันก็อาจจะล้มเหลวด้วยซ้ำ

เจ้าพวกนี้มีพลังป้องกันเหมือนสัตว์ประหลาด

กระทั่งเขาที่มีไอเทมพิเศษ เส้นทางอรพิษ ก็คงยากที่จะสร้างรูแบบที่คาร์ฮาลสร้างขึ้นได้

แต่กับการที่จู่ๆ ไอ้ตัวพวกนี้ก็โผล่ออกมา

มารูนดูเยือกเย็นที่ภายนอก แต่ภายในเขากำลังร้อนรน

มันไม่มีเวลาให้สร้างภาพลักษณ์ดีๆ แล้ว

เร็วกว่านี้

เขาต้องแสดงให้อีกฝ่ายเห็นว่าทั้งสองฝ่ายต้องการกันและกัน

“อย่างที่นายเห็น พวกเรามีคนเยอะ และทุกคนเป็นนักล่าที่มีประสบการณ์ ก่อนหน้านี้พวกเราถูกลอบโจมตี แต่พวกเราน่าจะกลายเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งได้ถ้าเราร่วมมือกัน ฉันไม่รู้ว่านายมีเป้าหมายคือคิดอะไรอยู่ แต่มันจะดีกว่าในการมุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกันแทนที่จะเป็นศัตรู”

แม้ว่าพวกเขา 30 คนจะตายไป พวกเขาก็ยังมีคนราวๆ 470 คน

มันคงไม่มีกลุ่มไหนที่ใหญ่ไปกว่าพวกเขาแล้วในป่านี้

บางทีมันคงจะมีกลุ่มหนึ่งร้อยคนเป็นอย่างมาก

ถ้ามันไม่มีสัตว์อสูรแบบนั้น งั้นเขาก็มั่นใจว่าจะสามารถทะลวงฝ่าทุกอย่างไปได้จนถึงปลายทางของถนนสีเขียว

ฮันซูหัวเราะกับคำพูดของมารูนที่มีคำข่มขู่ปะปน

“นายไม่รู้ว่าฉันคิดอะไรอยู่ หรือว่าฉันกำลังมุ่งหน้าไปที่ไหน แต่นายยังจะอยากมากับฉันอีก”

“…?”

มารูนแสดงสีหน้างุนงงออกมา

เขาไม่รู้ว่าฮันซูกำลังคิดอะไรอยู่ แต่มันไม่น่าจะหลุดโลกมากนัก

ในเมื่อเป้าหมายของทุกคนที่เดินทางอยู่ในโลกบัดซบนี่มีเพียงอย่างเดียว

มีชีวิตรอด

จากนั้นฮันซูจึงชี้ไปยังศพของสัตว์อสูรสามสายพันธุ์ด้วยปลายคางขณะที่มองไปยังมารูน

“ตอนนี้ฉันกำลังจะไปที่รังของเจ้าพวกนี้”

“… เจ้าพวกนี้?”

คาร์ฮาลกลับกลายเป็นคนที่ตื่นตระหนกไปกับคำพูดของฮันซู

รังหมายความว่ามันคือสถานที่ที่เจ้าพวกนี้อาศัยอยู่ และเต็มไปด้วยเจ้าพวกนี้

ฮันซูผงกศีรษะให้กับการตอบสนองของคาร์ฮาล

สัตว์อสูรสามสายพันธุ์ สัตว์อสูรที่นักปราชญ์สร้างขึ้น

นักปราชญ์ผู้สิ้นหวังได้รวมเอาสามเผ่าพันธุ์เข้าด้วยกันและสร้างสิ่งนี้ขึ้นมา แต่เจ้าสิ่งใหญ่โตเหล่านี้ไม่อาจควบคุมได้และพวกมันไม่อาจควบคุมสัญชาตญาณของพวกมันได้และให้ความสำคัญกับเหยื่อที่อ่อนแอก่อน

สัตว์อสูรที่หลังจากตัดสินแล้วว่าพวกนักปราชญ์อ่อนแอกว่าพวกมัน ได้อาละวาดและฉีกกระชากร่างของเหล่านักปราชญ์ ดังนั้นนักปราชญ์จึงทำได้เพียงขังพวกมันเอาไว้ในเขาวงกตใต้ดิน

<เขาวงกตใต้ดิน>

ส่วนสำคัญของแนวป้องกันสุดท้ายของนักปราชญ์

และตอนนี้ มันคือฐานของภูเขาเหลียง หนึ่งในผู้ที่รับผิดชอบบริเวณปล่อง

‘ตอนนี้ถึงเวลาไปที่ฐานบัญชาการแล้ว’

เขาต้องเข้าไปด้านในให้ได้ก่อนที่ประตูจะปิด

ไปยังเขาวงกตที่สัตว์อสูรสามสายพันธุ์ออกมา

และเขาต้องได้ครอบครองของที่อยู่ด้านในที่แห่งนั้น <มงกุฎของกษัตริย์ผู้พ่ายแพ้>

“การมีคนมากไม่ได้มีประโยชน์มากนักในเขาวงกต นายก็รู้”

เขาวงกตคือสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นให้มีโครงสร้างซับซ้อนเพื่อที่จะต้านทานพวกเผ่าพันธุ์ชั้นสูงที่รุกรานพวกเขา

มันถูกสร้างขึ้นสำหรับคนจำนวนน้อยด้วยเหตุผลอย่างหนึ่ง

มันไม่มีประโยชน์อะไรกับการที่คนกลุ่มใหญ่พยายามอัดกันเข้าไปในทางแคบๆ

ในเมื่อสถานที่ที่จะแสดงพลังของจำนวนได้ดีที่สุดคือทุ่งโล่งกว้าง

การอัดกันเข้าไปในที่เล็กๆ แบบนั้นมีเพียงแค่การถ่วงการโจมตีกันเองเท่านั้น

จากนั้นฮันซูจึงชี้ไปยังด้านหลังของมารูนและเริ่มเลือกคนออกมา

“เขา เขา เขา เขา… ทั้งหมดแปดคน ที่เหลือไปก็เป็นแค่ตัวถ่วง”

“…”

มารูนขมวดคิ้วกับคำพูดของฮันซู

‘… ไอ้เวรนี่ เขามีประสาทสัมผัสที่ยอดเยี่ยมหรืออะไรอย่างอื่นรึไง?’

คนที่ฮันซูเลือกออกมาเมื่อครู่คือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาคนทั้ง 470 คนที่นี่

พวกเขาคือการ์ดของหมู่บ้าน

แน่นอนว่าพวกเขาแข็งแกร่งกว่ามากและมีอุปกรณ์ที่ดีกว่านักล่า

แต่มารูนจงใจทำให้เครื่องแต่งกายของพวกเขาใกล้เคียงกับนักล่า

ในเมื่อศัตรูจะระมัดระวังศัตรูที่ดูพิเศษมากกว่า

มันไม่ควรมีความแตกต่างกันมากในแวบแรก แต่กับการที่เขาสามารถเลือกคนเหล่านั้นออกมาได้อย่างแม่นยำขนาดนั้น

‘และ… เขากำลังจะเข้าไปในรังของพวกมัน?’

มารูนครุ่นคิด

เพื่อที่จะหาว่าไอ้คนเสียสตินี่กำลังคิดบ้าอะไรอยู่

‘ฉันควรจะขู่เขาสักหน่อยไหม?’

มันมีเหตุผลให้คนทำเรื่องบ้าๆ อยู่

มันมักจะมีรางวัลที่เหมาะสมกับการกระทำเสียสติแสนเสี่ยงตายเหล่านั้น

‘อืม… มันก็แค่คำขู่’

ฮันซูคงไม่พยายามสู้กับกลุ่มของพวกเขาหรืออะไรแบบนั้นเพราะจำนวนของพวกเขา

มารูนคิดเช่นนี้ จากนั้นก็ชะงักไปหลังจากเห็นดวงตาของฮันซู

‘ฉิบหาย…’

มันมีสัตว์อสูรในอดีตที่มีดวงตาคล้ายกับดวงตาของฮันซูในตอนนี้

สัตว์อสูรขั้นสอง อีโรน่า

สัตว์อสูรตัวใหญ่สี่เมตรที่ดูเหมือนสิงโตสีแดงและสร้างอาณาเขตของมันด้วยการล้มต้นไม้ลงด้วยขาหน้าของมัน

และไม่เหมือนกับรูปลักษณ์ของมัน มันเป็นสัตว์กินพืชและไม่สนใจสัตว์อสูรตัวอื่นๆ และกินเพียงแค่ต้นไม้ภายในอาณาเขตของมันเท่านั้น

ถ้าพวกคุณไม่ข้ามอาณาเขตของมันไป งั้นมันก็จะไม่ทำอะไรคุณไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตามแม้ว่าคุณจะอยู่ด้านหน้าของมัน

และเด็กใหม่มักจะเข้าใจผิด

ว่ามันเป็นสัตว์อสูรที่ใจเสาะ

และเพื่อที่จะหาไข่ของอีโรน่าที่มีคำบอกเล่าว่ามันหายากและล้ำค่าอย่างมาก พวกเขามักจะข้ามเส้นแบ่งอาณาเขตที่ถูกสร้างเอาไว้อย่างชัดเจนไป

ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา

ในเมื่อไม่มีพวกเขาคนใดเลยที่ได้กลับไปยังหมู่บ้าน

สถานการณ์ตอนนี้ให้ความรู้สึกเหมือนแบบนั้น

เหมือนกับว่าเขาได้เดินไปอยู่ที่ชายขอบของอาณาเขตของฮันซู

ทันทีที่เขาพยายามจะข้ามเส้นนั้นไป หัวของเขาก็จะหาย

เหงื่อเย็นเยียบไหล่โชกแผ่นหลังของเขาเพราะปลายหอกที่บิดเกลียวนั้นให้ความรู้สึกเหมือนมันสามารถทะลวงลำคอของเขาได้ตลอดเวลา

กลุ่มของเขาอาจจะชนะได้ถ้าพวกเขาสู้ แต่มันจะสำคัญตรงไหนถ้าหัวของเขามันหลุดออกจากบ่าไปแล้ว?

ในตอนนั้นเอง

กรรรรร!

เสียงคำรามที่เต็มไปด้วยความอ้างว้างได้ดังขึ้น

จากบริเวณใกล้มากๆ

“ถ้าพวกนายไม่มีอะไรจะพูด งั้นพวกเราก็จะไปก่อนล่ะ”

ฮันซูเอ่ยทิ้งท้ายแล้วจากไป

สัตว์อสูรสามสายพันธุ์จะมาที่นี่ถ้าพวกเขายังอยู่

‘เราจะยิ่งเสียเวลาถ้ามัวมาจัดการคนพวกนั้น’

มันมีเวลาจำกัดในการที่ประตูทางเข้าออกของเขาวงกตจะเปิดอยู่

เขาต้องรีบและเข้าไปด้านในก่อนที่พวกมันมากกว่านี้จะมุ่งมาหาเขา

ในเมื่อมันมีอีกเหตุผลให้เข้าไปในเขาวงกตนอกจากมงกุฎของกษัตริย์ผู้พ่ายแพ้

ตึก ตึก ตึก!

“ฟิ้ว…”

มารูนผ่อนคลายลงในที่สุดหลังจากที่ฮันซู เอคิดู และคาร์ฮาลหายไปก่อนจะถอนหายใจออกมาและพยุงตัวด้วยเส้นทางอสรพิษ

และเมคคิล หนึ่งในการ์ดเก่า เอ่ยถามมารูนขณะที่มองเขา

“เราควรจะตามไปไหม? เราควรจะเอายังไงดี? มันดูแปลกๆ”

พวกเขาตามทันถ้าพวกเขาไล่ตามไป

ในเมื่อความสามารถพิเศษของพวกเขานั้นไปในทางการไล่ล่ามากกว่าการปะทะ

‘หืมม…’

มารูนเริ่มครุ่นคิดหลังจากได้ยินคำพูดของเมคคิล

 

 

 

ตูมมมมมม!

“มาที่ข้างหลังฉัน!”

ทันทีที่ฮันซูตะโกน

คาร์ฮาลและเอคิดูรีบหดร่างของตัวเองให้เล็กลงขณะที่พวกเขาหลบอยู่ด้านหลังฮันซู

จากนั้น

ตูมมมมมม!

ลำแสงเลเซอร์ที่พุ่งตรงมาจากห่างออกไปได้โจมตีไปยังร่างของฮันซู

ชี่

คลื่นความร้อนแพร่กระจายออกไปทุกทิศทาง

แต่ฮันซูยังคงวิ่งต่อไป

ตอนนี้เขาไม่สนใจสัตว์อสูรสามสายพันธุ์และทำเพียงวิ่ง

และเพราะแบบนี้ สัตว์อสูรสามสายพันธุ์ที่กำลังไล่ตามมาจึงสามารถส่งลำแสงทำลายล้างของมันออกมาได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่โจมตีกลับ

‘ฉิบหายเอ้ย…’

คาร์ฮาลกัดฟันกรอดขณะที่รับรู้ได้ถึงความร้อนสูงที่ลามเลียไปทั่วร่างของเขา

เพียงแค่อุณหภูมิของมันก็มากขนาดนี้แล้ว

‘เราต้องมุดเข้าไปในสถานที่ที่เต็มไปด้วยไอ้ตัวพวกนี้เหรอ?’

คาร์ฮาลแสดงสีหน้าสิ้นหวังออกมาจากสถานการณ์ที่อันตรายกว่าที่เขาคาดมาก

มันไม่ใช่ว่าเขาอาสามาด้วยเพราะเขาต้องการจะช่วย

เขาแค่อยากจะเกาะติดอีกฝ่ายเอาไว้เผื่อว่าหมอนั่นจะสามารถหาน้องของเขาที่หายตัวไปเมื่อนานมาแล้วเจอถ้าเขาตามหมอนั่นไป

ถ้าหมอนี่จัดการพวกเผ่าพันธุ์ชั้นสูงทั้งหมดลงได้จริงๆ งั้นการหาน้องของเขาที่ถูกพาตัวไปโดยหยกฟ้าเจอก็ไม่ใช่แค่ฝัน

แต่กับการที่ทุกอย่างกลายเป็นแบบนี้

ในขณะที่คาร์ฮาลกำลังใช้สกิลทุกอย่างที่เขามีไปบนร่างของฮันซู

ตูมมมมม!

ลำแสงอีกเส้นได้เข้าปะทะร่างของฮันซู

มันอาจจะง่ายถ้าพวกเขารับมือกับแค่ตัวเดียวในขณะที่มุ่งหน้าต่อไป แต่เพราะพวกเขาทำเพียงแค่วิ่ง อีกตัวจึงไล่ตามพวกเขามา

ร่างของฮันซูถูกผลักถอยหลังเมื่อถูกโจมตีด้วยลำแสงทำลายล้างสองเส้น

พรึ่บบบ!

เมื่อเอคิดูเห็นเช่นนั้นก็ปกคลุมร่างกายของเธอด้วยวิชามารธาราขาวและกระโดดไปที่ด้านหน้าของฮันซู

ชี่

“อึกก!”

ความเจ็บปวดมหาศาล

มันหลอมละลายวิชามารธาราขาวและทำให้เกราะหยางโลหิตร้อนขึ้น

‘เวรเอ้ย แค่เส้นเดียว!’

เธอรับแค่หนึ่งจากสองเส้นที่โจมตีร่างของฮันซู แต่มันกลับเจ็บปวดมากขนาดนี้

เอคิดูตะโกนออกไปอย่างเร่งรีบ

“ตอนนี้แหละ!”

ในตอนนั้นเอง

ตูมมมมม!

 

 

คาร์ฮาลได้บีบอัดลำแสงห้าเท่าในขณะที่ฮันซูและเอคิดูซื้อเวลาให้เขาก่อนจะยิงมันตรงไปยังสัตว์อสูรสามสายพันธุ์

ตูมมมมม!

กรรร!

สัตว์อสูรสามสายพันธุ์ร่างโซเซและลำแสงเส้นหนึ่งหายไปขณะที่ฮันซู เอคิดู และคาร์ฮาลเริ่มวิ่งหนีไปจากพวกมัน

“บัดซบเอ้ย! ทำไมเราถึงได้รีบขนาดนี้เนี่ย! เราจัดการพวกมันทีล่ะตัวระหว่างทางก็ได้! หรือไม่ก็เข้าไปครั้งหน้า!”

คาร์ฮาลตะโกนไปยังฮันซูที่กำลังวิ่งตรงไปยังทางเข้าของเขาวงกตราวกับวัวคลั่ง

แม้ว่าสัตว์อสูรพวกนั้นจะขอความช่วยเหลือได้ พวกเขาก็ยังมีเวลาอีกมากจนกว่าพวกเขาจะไปถึงเขาวงกต

พวกเขาแค่ต้องจัดการพวกมันทีล่ะตัว แต่ทำไมหมอนั่นถึงรีบวิ่งขนาดนั้น

มันเหมือนกับไอ้ตัวก่อนหน้านั้น

การต่อสู้ซึ่งๆ หน้าอาจจะยาก แต่พวกเขาสามารถจัดการมันได้ถ้าพวกเขาใช้กลยุทธ์ของพวกเขา

ทำไมพวกเขาถึงทิ้งไอ้เจ้าพวกนั้นไว้ด้านหลัง?

แต่ฮันซูส่ายศีรษะ?

เจ้าพวกนี้ไม่ใช่ปัญหาในตอนนี้

“มันไม่มีเวลาแล้ว เราต้องเข้าไปในเขาวงกตตอนที่ประตูเปิดในครั้งนี้ไม่ว่ายังไงก็ตาม!”

“อะไรนะ?”

ตูมมมมม!

ฮันซูป้องกันลำแสงเลเซอร์อีกเส้นที่พุ่งตรงมายังเขาจากนั้นจึงมองไปยังห่างออกไปที่เขาได้ให้ป้อมปราการดาวเทียมของดาคิดัสทำลายตัวเอง

เขาได้หยุดการแทรกแซงของป้อมปราการดาวเทียม

แต่เผ่าพันธุ์ชั้นสูงพวกนั้นไม่ได้โง่

ตอนนี้พวกมันน่าจะรู้ตัวแล้ว

ว่าสถานการณ์ในตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้หากไม่มีใครบางคนยื่นมือเข้ามาแทรกแซง

‘ฉันรู้… ต้องมีบางอย่างมาแน่ๆ’

นี่คือสาเหตุที่ทำให้พวกเขาต้องไปซ่อนในเขาวงกต

เขาวงกตคือสถานที่ที่นักปราชญ์ได้สร้างขึ้นโดยที่นำเอาเผ่าพันธุ์ชั้นสูงมาคำนวณ

มันมีโครงสร้างที่เป็นประโยชน์อย่างมากในการซื้อเวลาจากพวกที่ไล่ตามพวกเขา

‘และ… หามงกุฎของกษัตริย์ผู้พ่ายแพ้ให้เจอในระหว่างนั้น มันคงจะดีถ้ามีคนน่าสงสัยสักคนโผล่ออกมา’

ฮันซูคิดต่อไปขณะที่เขาเห็นทางเข้าของเขาวงกตที่เริ่มจะปรากฏขึ้นห่างออกไป

 

 

 

“ลองตามพวกนั้นไปเถอะ”

ไม่ว่าเขาจะคิดมากแค่ไหน การพยายามเข้าไปด้านในนั้นแม้ว่ามันมีความเป็นไปได้มหาศาลที่จะเกิดอันตรายก็แปลกประหลาด

‘รับข้อเสนอนั่นก็คงไม่แย่เหมือนกัน’

ขณะที่มารูนตัดสินใจและเอ่ยขึ้นกับเมคคิล

ตูมมมมม!

บางอย่างใหญ่โตได้ร่วงลงมาจากท้องฟ้า

และเพราะแบบนั้น ร่างทั้งร่างของแมคคิลจึงถูกขยี้ที่ข้างกายมารูน

“เฮือก!”

มารูนตื่นตระหนกเมื่อคนที่เขากำลังคุยด้วยอยู่ได้ถูกขยี้และจากนั้นจึงรีบยิงเส้นทางอรพิษออกไป

‘มันต้องได้ผลถึงแม้ว่ามันจะเป็นสัตว์อสูรสามสายพันธุ์ก็ตาม’

ทว่าความหวังของมารูนถูกขยี้จนแหลกเละ

เกร้งงงง

ลูกธนูที่บินออกไปพร้อมกับออร่าสีแดงดุดันได้กลายเป็นฝุ่นไปเมื่อเข้าไปใกล้ร่างของอีกฝ่าย

จากบาเรียแปลกประหลาดที่โอบล้อมร่างของอคู่ต่อสู้อยู่

และมารูนตกลงสู่ความสิ้นหวังเมื่อเขาเห็นเช่นนั้น

ไม่ใช่เพราะการโจมตีของเขาไม่ได้ผล แต่เป็นเพราะเขารับรู้ถึงตัวตนของศัตรูแล้ว

‘ทำไม… ทำไมอารูคอนถึงได้มาอยู่ที่นี่’

มนุษย์หมาป่าที่ทั่วทั้งร่างถูกปกคลุมด้วยมานาอันทรงพลังของหยกฟ้า

สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่พื้นที่พักรบ

และไอ้ตัวตรงหน้านี่ก็ดูไม่ธรรมดาเช่นกัน

มันสูงกว่าดาคิดัสที่เขาเคยเห็นในอดีตถึงหนึ่งช่วงหัวเต็มๆ หมาป่าที่สูงห้าเมตร

และมันกระทั่งมีอุปกรณ์เสริม

มันต่างกันแค่เมตรเดียว แต่กล้ามเนื้อที่เป็นมัดนั่นและขนที่ดูหยาบกร้านได้ส่งกลิ่นอายน่าพรั่นพรึงที่ไม่อาจเทียบกับดาคิดัสนั่นได้ออกมา

เฮือก

ผู้ตัดสิน อคิทรัส มองไปรอบๆ โดยเมินมารูนที่ทรุดลงกับพื้น จากนั้นจึงคว้าเอาแมลงท่ากำลังหวาดกลัวด้านหน้าของเขาขึ้นมา

มนุษย์ที่เขาพบในระหว่างที่ตามร่องรอยจากหมู่บ้านที่ดาคิดัสควรจะไปมาเป็นแห่งสุดท้าย

พวกมันอาจจะช่วยได้

“บอกฉันทุกอย่างที่แกรู้ มันมีมนุษย์ที่ดูพิเศษผ่านที่นี่ไปรึเปล่า?”

มันไม่มีข้อมูลอะไรมากที่เขาต้องถาม

ในเมื่อคนแบบเจ้าหมอนั่นคงไม่ธรรมดา

กรรรรร

“อา…”

มารูนแสดงสีหน้าหวาดกลัวออกมากับกลิ่นอายความตายเข้มข้นที่เขารับรู้ได้ แต่จากนั้นก็ตะโกนออกไปอย่างยินดีราวกับว่าเขานึกถึงบางอย่างได้

“ใช่! มี! ใช่แล้ว! เขาบอกว่าเขาจะไปที่เขาวงกตใต้ดิน!”

อคิทรัสเลิกคิ้วขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น จากนั้นจึงแย้มยิ้มอย่างพึงพอใจหลังจากที่ครุ่นคิดไปชั่วขณะ

ก่อนจะหักแขนข้างหนึ่งของมารูน

แคร่ก

“อ๊ากกกกก!”

“เจ้าพวกที่กำลังหนีบอกเป้าหมายของพวกมันให้แกง่ายๆ เลยเหรอ?”

อคิทรัสลบรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น

“แกกำลังทำให้ฉันโกรธจริงๆ แล้ว เพราะแก ตอนนี้มันเลยยิ่งน่าสับสนขึ้นไปอีก”

“ไม่! มันเป็นความจริง… อ๊ากกกกกก!”

เสียงกรีดร้องอย่างสิ้นหวังดังก้องไปทั่วป่าด

 

 


TL: ตามปู่ไปก็อาจจะรอดแล้วแท้ๆ