บทที่ 11: ดวงจันทร์ของอีกโลก (1)

 

 

ฉึกฉัก ฉึกฉัก

รถไฟได้เคลื่อนไปยังสถานีต่อไปอย่างราบลื่น

‘ไหนดูสิ… หมอนั่นบอกไว้ว่ามีหลายสถานี’

ฮันซูคิดขณะถึงสิ่งที่คนทั้งสี่ที่ได้ครอบครองชิ้นส่วนลับได้เอ่ยไว้

<ถ้านายนั่งไปเรื่อยๆ ก็จะมีสถานีมาเรื่อยๆ ฉันขึ้นไปตอนสถานีที่สี่>

<ฉันไปที่สถานีที่เจ็ด แต่ว่ามันดูเหมือนว่าการนั่งไปไกลเท่าไหรก็จะได้ของดีขึ้นเท่านั้น>

<ใช่ ฉันก็เป็นงั้น ฉันคิดว่าฉันจะได้รางวัลใหญ่ถ้าไปที่สถานีสุดท้าย แต่ว่ามันมีแต่ขยะ เวรเอ้ย>

<ฉันขึ้นไปที่สถานีแรกแล้วก็เลือกเลย มันคือถุงมือเหล็กของโอแรงค์…>

<หืม? ของฉันเป็นเล็บของเคทิล>

<สถานีแรกของฉันเป็นหมวกของเมอร์ฮาน>

ถ้าจะกล่าวโดยสรุปก็คงเป็นแบบนี้

อย่างแรก ถ้าขึ้นรถไฟไป มันจะมีทั้งหมด 20 สถานี

อย่างที่สอง ของที่อยู่ที่แต่ล่ะสถานีนั้นเป็นการสุ่ม

อย่างที่สาม สถานีที่ผ่านไปแล้วไม่อาจย้อนกลับไปได้ และการไปสถานีหลังๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้ของดีขึ้น

‘รูปแบบมันทำให้คนเกิดความสับสนในใจ’

ฮันซูกวาดตามองด้านบน

เส้นทางเดินรถไฟที่มีสถานี 20 แห่ง

เขาต้องเลือกให้ดีที่นี่

เอี้ยดดดด

มันมีพื้นยกสูงอยู่ใจกลางสถานีที่ว่างเปล่าพร้อมด้วยของด้านบน

‘ไหนดูสิ’

เขามีเวลามาก เมื่อรถไฟจะไม่ขยับจนกว่าเขาจะกลับขึ้นไป

ฮันซูเดินไปยังพื้นยกนั้นและตรวจสอบของด้านบน

‘รัดเกล้าของรารูน’

ฮันซูมีสีหน้าประหลาดใจ

มันช่วยเพิ่มค่าความเข้าใจของผู้สวมเกือบ 10 แต้ม และยังบ่งบอกจุดอ่อนของสัตว์อสูรที่คุณเคยปะทะด้วยครั้งแรกอีกด้วย

ด้วยโอกาสนี้ การดิ้นรนในการต่อกรกับสัตว์อสูรในยามแรกจะลดน้อยลง

ข้อกำหนดของมันคือคุณต้องมีค่าความเข้าใจเกิน 25 แต่ว่ามันก็คุ้มค่า

ทว่าฮันซูส่ายศีรษะ

อันนี้ใช้ไม่ได้

สำหรับชายหนุ่มที่รู้จุดอ่อนของสัตว์อสูรทุกตัว มันนับว่าเป็นไอเท็มที่น่าผิดหวัง

ค่าความเข้าใจนั้นค่อนข้างดึงดูด แต่ว่าการหาอย่างอื่นย่อมดีกว่า

ชายหนุ่มวางรัดเกล้าลงและกลับขึ้นไปบนรถไฟเพื่อที่จะไปยังสถานีต่อไป

 

‘นี่คือสถานีที่สิบสอง’

ฮันซูถอนหายใจเล็กๆ

‘อาวุธแปดอย่าง หืม…’

บางทีอาจเป็นเพราะว่ามันเป็นอาวุธที่เป็นชิ้นส่วนลับ คุณภาพของมันจึงดีแม้ว่าจะเป็นเพียงอาวุธของเด็กใหม่

มีอันหนึ่งที่มีพลังโจมตีธาตุไฟฟ้าและกระทั่งถุงมือที่เพิ่มจำนวนช่องใส่รูน

เมื่อพวกมันมีคุณภาพสูงกว่าเข็มที่เขาใช้อยู่จึงไม่มีสิ่งอื่นต้องพูดมาก

แต่ว่ามันยังมีปัญหาอยู่

ความจริงที่ว่าพวกมันดีกว่าเข็มของเขา

หรืออีกนัยหนึ่ง มันค่อนข้างน่าผิดหวังสำหรับฮันซูที่มีเข็มอยู่แล้ว

‘อาวุธจะยังออกมาอีกไหมนะ’

พูดตามตรง อาวุธที่ดีที่มีความสามารถเหนือกว่าการเพิ่มค่าสถานะและสกิลนั้นไม่แปลก และมีอยู่มาก

‘ทำไมไม่มีอะไรแบบหินย่างก้าวออกมากัน’

รองเท้าที่ทำให้คุณสามารถเหยียบบนอากาศได้ชั่วขณะ <หินย่างก้าว>

ด้วยสิ่งนี้ คุณจะมีมิติในการต่อสู้มากขึ้น

มันเป็นอาวุธที่ยากจะได้รับกระทั่งในขั้นสองของบทฝึกซ้อมหรือเหนือไปกว่านั้น เขตสีแดง ดังนั้นแล้ว การหามันแถวๆ นี้ได้ย่อมเป็นเรื่องดี เขามีความหวังเล็กๆ ว่ามันจะออกมา แต่ดูเหมือนว่าเขาจะโชคร้ายไปหน่อย

ฮันซูเดินขึ้นไปบนชานชาลาอย่างช้าๆ และตรวจสอบไอเท็มบนนั้น

บุหรี่ห่อเล็กๆ

ทว่าดวงตาของฮันซูถลนออกมาเมื่อเห็นมัน

“ห๊ะ? ยาสูบเมฆาคลั่ง?”

‘กระทั่งไอ้ของแบบนี้ก็มีเหรอ?’

หินย่างก้าวได้หายไปจากสมองของฮันซูในทันที

ของชิ้นนี้มันหายากขนาดนั้นแหละ

<ยาสูบเมฆาคลั่ง>

บุหรี่หนึ่งห่อพร้อมกับบุหรี่อีกยี่สิบตัว

ทว่ามันไม่ใช่บุหรี่ธรรมดา

ทันทีที่คุณสูบมันเข้าไป รูนสถานะจะเริ่มเพิ่มขึ้น และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคุณยังคงสูบต่อไป

และเมื่อสูบจนหมดตัว ค่าสถานะทั้งหมดจะเพิ่มขึ้นราวๆ 20% และจะคงอยู่แบบนั้นราวๆ 10 นาที

นั่นหมายความว่าพลังต่อสู้ของคุณจะเพิ่มขึ้นสองเท่า และมันเพิ่มขึ้นเป็นเปอร์เซ็นต์ เป็นสิ่งที่ดึงดูดอย่างมาก

มันหมายความว่าเมื่อค่าสถานะคุณสูงขึ้นเรื่อยๆ ประสิทธิภาพของมันก็จะมากขึ้นตามไป และในขณะที่สูบนั้นมันยังมีความสามารถของยาแก้ปวด เช่นเดียวกับการเพิ่มอะดรีนาลีน ดังนั้นแม้จะไม่เพิ่มค่าสถานะ ความสามารถในการต่อสู้ธรรมดาก็เพิ่มขึ้นอยู่ดี

ของที่เพิ่มความสามารถในการต่อสู้อย่างมากเป็นเวลา 15 นาทีหลังจากที่คุณสูบมัน

‘หืมม’

ฮันซูยินดี

แม้ว่าจะไม่สามารถใช้ได้นอกพื้นที่ฝึกฝน ทว่ามันเป็นหนึ่งในของชิ้นเล็กๆ ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในพื้นที่ฝึกฝนนี้

‘อันนี้แหละ’

ชายหนุ่มเลือกในเสี้ยววินาที

เขาไม่รู้ว่าของแบบไหนจะออกมาหลังจากนี้ แต่มันคงไม่แตกต่างจากอันก่อนหน้าเท่าไหร่

ซึ่งหมายความว่าไม่มีอะไรดีไปกว่าสิ่งนี้

ฮันซูเก็บมันไว้ในเสื้อจากนั้นจึงเผยรอยยิ้มขณะเดินไปยังทางออก

‘เดี๋ยว แต่ฉันไม่สูบ…’

ฮันซูมีสีหน้ามึนงงเล็กๆ ด้วยปัญหาที่คาดไม่ถึง

‘เอาเถอะ หมอนั่นคงเข้าใจ’

เขาสัญญาว่าจะหยุด แต่ว่าเขาคงต้องเว้นในเรื่องนี้ไว้หน่อย

ขณะที่ชายหนุ่มขึ้นไปบนรถไฟพร้อมกับฮัมเพลง รถไฟก็เริ่มที่จะเคลื่อนไหวไปยังจุดเริ่มต้นของเขา

 

‘พวกนั้นไปหมดแล้วเหรอ’

เมื่อฮันซูออกจากรถไฟ มันก็เริ่มส่งเสียงหวีดแหลมและหยุดการทำงานลง และกระทั่งปิดไฟ

รอบด้านเงียบงันโดยไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตอื่น ชายหนุ่มหยิบเครื่องครัวใกล้ๆ จากนั้นจึงจมลงในห้วงภวังค์ขณะเริ่มเดินขึ้นไปยังชั้นสอง

‘ไหนดูสิ’

ฮันซูคิดถึงชิ้นส่วนลับชิ้นที่สอง

วันแรกจบลงได้อย่างน่าพึงพอใจ

เมื่อชิ้นส่วนลับแรกเสร็จแล้ว ตราบเท่าที่เขาสามารถทำอันที่สองได้สำเร็จ เช่นนั้นเขาก็จะได้รับชิ้นส่วนลับทั้งหมดที่เขาสามารถครอบครองได้ในพื้นที่ฝึกฝน

ทว่าเขาไม่อาจทำมันได้ในตอนนี้

ชิ้นส่วนลับที่สองนั้นสามารถได้รับหลังจากวันที่ 4 เท่านั้น

ชายหนุ่มเริ่มครุ่นคิดไปชั่วขณะ

มีสองสิ่งที่เขาสามารถทำได้ก่อนหน้าชิ้นส่วนลับชิ้นที่สองจะเปิดให้เข้า

ล่าและเก็บรูนอย่างขยัน

‘ไม่เห็นมีอะไรต้องตัดสินใจมาก’

ยังไงคุณก็ต้องฆ่าสัตว์อสูรในขณะที่ทำภารกิจอยู่แล้ว

เขาเล็งหนึ่งในภารกิจจาก 119 ภารกิจ ไม่สิ 188 ภารกิจเพราะทำเสร็จไปแล้วภารกิจหนึ่ง

‘ไม่สิ บางอันก็ทำไปแล้วระหว่างทาง’

ฆ่าสัตว์อสูรคนแรก ได้รับรูนชนิดใหม่คนแรก และอะไรประมาณนั้น… พวกนั้นถูกทำระหว่างที่มาที่นี่

แต่ว่ามันไม่ใช่ภารกิจที่ถูกเลือก

ภารกิจที่เหลืออยู่มีราวๆ 110 ภารกิจ

เอาเถอะ เขาไม่มีทางรู้อยู่แล้วว่าภารกิจไหนที่ถูกเลือก

มันอาจมีอีกสองสามภารกิจ

แต่ว่าไม่มีอะไรที่ต้องเป็นกังวล

‘ทำอันที่รางวัลดีกว่าก่อน’

หากเขาทำภารกิจง่ายๆ เขาก็สามารถทำได้ราวๆ 30 ภารกิจในเวลาสองวัน

ตามสถิตินั้น การเคลียร์ 30 ภารกิจหมายความว่ามีโอกาสสักภารกิจจะตรงกับภารกิจที่ถูกเลือก

แต่มันไม่ได้มีความหมายเท่าไหร่

ภารกิจระดับต่ำไม่ค่อยให้อะไรมากไปกว่ารูนไม่กี่อันถ้าทำได้สำเร็จ

ดังนั้นแล้ว ทำภารกิจที่มีรางวัลดีๆ ก่อนทีล่ะอันจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

หากคุณทำได้สักภารกิจ มันก็จะกลายเป็นรางวัลใหญ่ แต่ถ้าไม่ได้มันก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งในการล่า ดังนั้นจึงไม่ได้เสียหายเท่าไหร่

‘ไหนดูสิ… ภารกิจที่มีรางวัลดีที่สุด’

จากนั้นชายหนุ่มจึงขมวดคิ้วกับรางวัลที่เขาคิดถึง

<ศิลาปราชญ์ที่ถูกเลียนแบบโดยนักเวทที่บอบบาง>

ตัวของรางวัลนั้นน่าตื่นตาด้วยตัวเอง

ทันทีที่คุณกินมันเข้าไป ค่าสถานะทุกอย่างจะเพิ่มขึ้น ไม่เพียงแค่อันที่มีอยู่แล้ว แต่เป็นรูนทุกอันที่มีอยู่รวมทั้งค่าโชคขึ้นราวๆ 10 แต้ม และกระทั่งรักษาอาการบาดเจ็บถึงตายได้

มันไม่ใช่สิ่งที่สามารถได้รับในขั้นฝึกฝน

ไม่สิ มันยากที่จะได้รับแม้แต่นอกขั้นฝึกฝน เขตสีแดง

แต่ข้อกำหนดนั้นคือสิ่งที่เป็นปัญหา

‘ใครที่ทำภารกิจวิปลาสแบบนี้ได้นะ’

ข้อมูลในหัวของเขานั้นเป็นประสบการณ์ของผู้อื่น

มันหมายความว่ามีใครบางคนทำได้สำเร็จ

‘โอ้… คือคนคนนั้น’

ฮันซูคิดถึงหนึ่งในคนจากกองพันสุดท้าย

เอนบิ เอริน

สมาชิกของกองพันสุดท้ายที่ไปยังคุกในฐานะของอาสาสมัครและถูกลากมายังโลกใบนี้พร้อมด้วยเหล่าอาชญากร

เป็นบุคคลที่หักหน้าตั้งแต่ทุกสิ่งเริ่มต้นขึ้นและมีความโกรธแค้นเป็นพิเศษ มันเป็นภารกิจที่เธอค้นพบหลังจากเจ็ดวันที่เธอได้ฉีกกระชากอาชญากรทุกคนที่ทำร้ายเธอ กินหัวใจของพวกมัน และกระทั่งที่จะพยายามฆ่าตัวตาย

‘… อันนี้ไม่เอา’

ฮันซูเดาะลิ้น

เขาไม่รู้สึกอยากทำแบบนั้น การทำแบบนั้นคือเขาต้องฆ่าทุกคน ซึ่งหมายความว่าภารกิจอื่นๆ ที่ต้องการให้คนอื่นมีชีวิตอยู่จะกลายเป็นไร้ประโยชน์

แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าภารกิจนี้เป็นหนึ่งในภารกิจที่ถูกเลือกหรือไม่ แต่ว่ามันไม่มีเหตุผลให้ลอง

ฮันซูคิดถึงของรางวัลที่ดีเป็นอันดับสอง

‘ฆ่าคน 100 คนภายในวันแรก’

หมายเหตุ เคลเดียนเป็นคนทำภารกิจนี้สำเร็จ

‘ไม่ได้เหมือนกัน’

มันให้สกิลที่ดีแก่คนที่ทำสำเร็จเป็นรางวัล แต่มันไม่ดีพอที่จะให้เขาเรียนและมันยังช้าเกินไปแล้วด้วย

เขาใช้เวลาเลือกขอไปนานพอตัว ทำให้วันแรกนั้นเกือบจะหมดลงแล้ว

เมื่อเขาออกไปด้านนอก มันคงเป็นเวลากลางคืนแล้ว

กลางคืน ความคิดบางอย่างแล่นวูบผ่านศีรษะของชายหนุ่ม

ในสมองของฮันซูปรากฏภารกิจที่มีของรางวัลค่อนข้างดีออกมา

‘ฉันเกือบลืมเกี่ยวกับมันไปแล้ว <เหยือกอาหารของคนรวยผู้เห็นแก่ตัว>’

มันเป็นทางเลือกที่ดีที่จะทำภารกิจนี้ก่อนภารกิจอื่นที่มีรางวัลดีกว่า

‘อันนี้ก่อนในตอนนี้ แม้ว่าฉันควรจะเพิ่มค่าพลังกายอีกหน่อยก็เถอะ’

เพราะในขณะที่ <ดวงจันทร์> ขึ้นนั้น เขาจะยุ่งมากเพื่อที่จะทำภารกิจให้สำเร็จ

ชายหนุ่มรู้สึกหิวและมุ่งตรงไปยังร้านสะดวกซื้อ

มนุษย์สามารถแข็งแกร่งเหนือธรรมชาติได้โดยการกลืนกินรูน

ส่วนที่ดีที่สุดนั้นคือยิ่งจำนวนมากขึ้นเท่าไหร่ ประสิทธิภาพของมันก็จะมากขึ้นอย่างมหาศาล

มันเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลที่คนผู้ที่มีรูนต้องการอาหารมากขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อพลังของคุณมากขึ้นเป็นสองเท่า แต่พลังที่เพิ่มขึ้นจากรูนนั้นไม่ต้องการอาหารเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ

นักผจญภัยของอีกโลกนั้นสามารถกินและนอนได้เช่นเดียวกับโลกของพวกเขา และยังมีพลังในการต่อสู้

แม้ว่าคุณจะมีพลังเพื่อที่จะฟาดภูเขาแหลกเป็นเสี่ยงก็ตาม

แต่อีกนัยหนึ่งนั่นคือหากคุณไม่สามารถคงกิจวัตรแบบนั้นไว้ได้ พลังต่อสู้ของคุณก็จะลดลงอย่างมหาศาล

เพื่อที่จะอยู่ในสภาวะพร้อมตลอดเวลา อาหาร การนอนหลับ และการพักผ่อนจึงเป็นสิ่งจำเป็น

การออกกำลังกายกะทันหันจะยิ่งทำให้คนผู้หนึ่งหิวเร็วขึ้น

‘หาที่นั่งก่อน… หืม?’

บางทีปรากฏขึ้นในสายตาของชายหนุ่มขณะที่เขาเดินตรงไปยังร้านสะดวกซื้อ

ทางเขานั้นต่างจากเดิมมาก

เป็นร้านสะดวกซื้อที่ว่างเปล่าโดยสิ้นเชิง

ทุกสิ่งรวมทั้งอาหารได้หายไปทั้งหมด

ไม่มีอะไรเหลือ

พื้นทั้งหมดถูกขุดออกมา

ไม่สิ มันไม่ใช่ทุกที่

เฉพาะจุดที่มีอาหารฝังอยู่ที่ถูกขุดออกมาอย่างแม่นยำ

“หืม ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิ”

พวกเขาทำสิ่งที่กล้าหาญขนาดนี้แม้ว่าดวงจันทร์กำลังจะขึ้นในไม่ช้า

ฮันซูมองภาพเบื้องหน้าเขาราวกับว่ามันน่าตลกพร้อมกับหัวเราะ

 

“อ่า… ฉันมันหยุดไม่ได้”

มิฮีมองไปยังฝูงชนที่กำลังขนย้ายสินค้าจากร้านสะดวกซื้อด้วยสีหน้าเศร้าหมอง

ทั้งเจ็ดได้รวมตัวกันและกลับขึ้นมา

แต่ไม่รู้ว่าด้วยเหตุใดทำให้คนที่เหลือรู้และพุ่งไปยังร้านนั้นและเอาทุกอย่างออกมา

‘เราแข็งแกร่งกว่าก็จริง แต่…’

มิฮีกลืนน้ำลาย

สิ่งแรกที่เธอสำรวจคือสถานะของอีกกลุ่มทันทีที่พวกเขาขึ้นมา

และเธอรู้

‘มันเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า’

คนที่อยู่ด้านบนนั้นไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้นเพราะว่าพวกเขามุ่งความสนใจไปยังการจัดระเบียบคน

พวกเขาย่อมอ่อนแอกว่าสามคนด้านล่างแน่นอน และกระทั่งอ่อนแอกว่าสี่คนด้านบน

ปัญหาคือจำนวน

พวกนั้นไม่อาจเข้าใกล้พวกเขาได้อย่างง่ายดาย แต่การที่คนจำนวนมากกว่านับสิบเท่าได้พุ่งไปยังร้านสะดวกซื้อ พวกเขาเองก็ทำอะไรไม่ได้เช่นกัน

พวกเขาสะพายเป้ขึ้นมาด้วย แต่พวกเขาทำได้เพียงรู้สึกเศร้าเมื่อของที่พวกเขาเคยต้องการได้ถูกเอาไปจนหมด

‘อ่า…’

ขณะที่มิฮีทำสีหน้าเศร้าสร้อย แทซูนก็กำลังหัวเราะอยู่ในใจ

‘พวกเขาทำได้ดี’

เขาเพียงแค่ให้ข้อมูลเพียงอย่างเดียวแก่พวกนั้น

มีร้านสะดวกซื้ออยู่ข้างล่าง

ราวกับเวทมนต์ แม้ว่าพวกนั้นจะสงสัยเขา พวกเขาต่างก็พุ่งไปยังร้านสะดวกซื้อและเอาทุกสิ่งไปไว้ที่อื่นแทน

ชายหนุ่มตัดสินใจที่จะเก็บมันเป็นความลับจากเพื่อนคนอื่นๆ เมื่อพวกเขาล้วนเป็นเพื่อน มันย่อมเป็นเรื่องน่ารำคาญถ้าหากพวกเขาขัดขวาง

เมื่อพวกนั้นเอาทุกสิ่งไปหมด ฮันซูย่อมไม่มีทางเลือก

เมื่อหมอนั่นจะไม่มีอาหาร

และเพราะหมอนั่นสามารถใช้ของในร้านสะดวกซื้อได้เป็นอย่างดี หมอนั่นอาจต้องการของในร้านนั่นมากที่สุด

และเพราะหมอนั่นไม่อาจสู้กับทุกคนได้ หมอนั่นก็ทำได้เพียงแค่เข้าร่วมกับเขาเท่านั้น

และจากนั้นเขาก็จะเอาตำแหน่งผู้นำไปและบอกให้หมอนั่นแบ่งของที่ได้จากสถานี

จากนั้นพวกเขาค่อยจัดการกับคนกลุ่มนั้นและเอาทุกสิ่งจากร้านสะดวกซื้อกลับมา

‘นายอยู่คนเดียวในโลกนี้ไม่ได้หรอก’

แทซูนหวังว่าฮันซูจะเอาบางอย่างกลับมาเร็วๆ

 


TL: ยัง ยังไม่รู้ตัว ชะตาจะขาดแล้วนั่น

 

ติดตามข่าวสารที่รวดเร็วกว่าได้ทาง Facebook: Netear.ST นะคะ