บทที่ 108 ชายสวมหน้ากากอีกคน

ขณะที่ยิ้มอย่างชั่วร้าย เจ้ามือหนุ่มเปิดกล่องลูกเต๋าออก แต่ทันใดนั้น เขาก็พลันตื่นตะลึงเมื่อเห็นแต้มของลูกเต๋า

ผู้คนที่ยืนอยู่โดยรอบก็ล้วนตะลึงไปเช่นกันเมื่อเห็นดังนั้น

มันกลับกลายเป็นเลข 6 จริงๆ เป็นเลข 6 ทั้งสามลูก ซึ่งรวมแล้วเท่ากับ 18 แต้ม!

หลินจื่อฉิงยืนขึ้นทันที ใบหน้าของเขาสดใสและเปี่ยมไปด้วยความสุข ถึงอย่างนั้น เขายังคงรักษาความเยือกเย็นเอาไว้พร้อมกับคิดว่าสวรรค์ค่อยช่วยเขาอยู่งั้นหรอ? สถานการณ์นี้มันอะไรกัน!

สีหน้าของเจ้ามือหนุ่มพลันเปลี่ยนเป็นดำมืดทันที บัดซบ! ต้องเสียไปสองร้อยล้าน อ๊าก! ถ้าเป็นเคสอื่นที่เสียไม่กี่ล้าน เขาย่อมไม่สนใจเท่าไหร่

แต่ในเคสหลินจือฉิง เขาต้องเสียไปถึงสองร้อยล้าน…..

(งงเหมือนกันครับว่าทำไมไม่เสีย 150 เท่า)

เจ้ามือหนุ่มผลักชิพจำนวนมากไปให้หลินจื่อฉิงด้วยใบหน้าที่มืดมน

ในเมื่อฝั่งตรงข้ามคือคุณชายหลิน เขาย่อมไม่กล้าข่มขู่หรือบ่ายเบี่ยง แต่นี่มันตั้งสองร้อยล้าน! เขาต้องเล่นอีกครั้ง! เจ้ามือหนุ่มคิดว่าด้วยความสามารถระดับเขา เขาย่อมชนะแน่หากไม่มีใครเล่นมาตุกติก

ชายหนุ่มเจ้ามือกวาดสายตามองไปรอบๆ และไม่นาน เขาก็พบชายสวมหน้ากากที่ดูน่าสงสัยสุดๆ เพราะตั้งแต่ที่ชายสวมหน้ากากคนนั้นมายืนที่โต๊ะนี้ เขาไม่ได้พูดคุยกับใคร และไม่ได้ลงเดิมพันอะไรแม้แต่ครั้งเดียว นอกจากนั้น เมื่อเพ่งพิศมองอย่างรอบคอบแล้ว เจ้ามือหนุ่มสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันมืดมนรอบๆตัวชายสวมหน้ากากคนนั้น

“เริ่มกันอีกรอบ!”

สายตาของเจ้ามือหนุ่มจับจ้องไปยังเย่เฟิงขณะเขย่ากล่องลูกเต๋า

“ฉันแทง‘9’แต้ม”

ดูเหมือนหลินจื่อฉิงจะคิดว่าตัวเองเป็นบุตรแห่งพระเจ้าไปแล้ว เขาผลักชิพ 100 ล้านออกมาอย่างไม่ลังเลขณะเดิมพันด้วยตัวเลขเฉพาะ โอกาสในการออกเป็นเลขเฉพาะนั้นต่ำมาก แต่ถึงอย่างไรหากเขาชนะ เขาจะได้กลับมาถึง 300 ล้าน ซึ่งถือว่าเป็นกำไรมหาศาล!

ที่อีกด้าหนึ่ง เย่เฟิงมองไปยังหลินจื่อฉิงพร้อมกับเค้นเสียงในใจ คุณชายหลินคนนี้ไม่ได้มีความฉลาดอยู่ในสมองเลยแม้แต่น้อย แถมยังโลภมากอีกด้วย เพราะฉะนั้นไม่ช้าก็เร็ว เขาย่อมสูญเสียทุกสิ่งจนไม่เหลือแม้แต่กางเกงใน

ถึงอย่างไรตอนนี้ เย่เฟิงก็ยังรู้สึกสนุกกับการช่วยหลินจื่อฉิง เพราะพวกแก๊งเทียนคงทนต่อไปได้อีกไม่นานแน่

เมื่อเปิดกล่องออกมา สายตาของเจ้ามือหนุ่มจับจ้องดูการกระทำของเย่เฟิงอย่างระวัง ขณะเดียวกัน เขาก็ได้รับข้อความแจ้งเตือนบางอย่างทางโทรศัพท์จากใครบางคน

“9แต้มจริงด้วย!”

กลุ่มคนที่ยืนมุ่งอยู่อุทานออกมาเสียงดัง ขณะที่เย่เฟิงยังคงยืนดูอย่างเงียบๆจากอีกด้านหนึ่งโดยไม่แสดงท่าทีอะไรออกมา

แต่ในเวลานี้ เย่เฟิงสัมผัสได้ถึงอันตรายสองแห่งที่ทำให้เขารู้สึกหนาวไปถึงกระดูกสั่นหลัง

ชายหนุ่มพลันหันหน้าไปพบกับร่างอันใหญ่โตสองร่างที่สวมชุดคลุมกันฝนตัวใหญ่สีน้ำตาลเทา พร้อมทั้งปกปิดใบหน้าด้วยหมวกเครื่องแบบ กำลังเดินมาทางเขาจากทั้งสองทิศทางอย่างรวดเร็ว

‘เห้ย! นี้มันไม่ใช่กอลิล่าที่เราเคยเห็นตอนนั้นรึไง? ใครจะไปคิดว่ามันจะมีอยู่ที่นี่ด้วย!’

เย่เฟิงมีปฏิกิริยาทันทีเมื่อเขารู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว ยิ่งกว่านั้น เขาไม่รู้ลึกตื้นหนาบางของเหล่ากอลิล่าพวกนั้นมากเท่าไหร่

โดยไม่คิดให้มากความ ชายหนุ่มพุ่งกระโดดข้ามโต๊ะพนันทันที!

ผู้คนทีเห็นดังนั้นล้วนอุทานออกมาด้วยความตกใจ ถึงอย่างนั้น เย่เฟิงไม่ใส่ใจกับเสียงกรีดร้องของคนพวกนั้น เขาคว้าเอาปกคอเสื้อของเจ้ามือหนุ่ม ก่อนจะพุ่งไปยังทางออกของบ่อนอย่างรวดเร็ว

ส่วนร่างสูงทั้งสองก็วิ่งไล่หลังชายหนุ่มมาด้วยลมหายใจรุนแรงและไม่เปล่งเสียงออกมาแม้แต่คำเดียว
เย่เฟิงที่คว้าเอาร่างเจ้ามือหนุ่มมาด้วย ถูกขวางไว้ด้วยกลุ่มการ์ดของบ่อน แต่ชายหนุ่มก็เตะเข้าใส่การ์ดคนหนึ่งอย่างรุนแรงเพื่อเปิดทางจนร่างของการ์ดคนนั้นลอดกระเด็นไปร่วงอยู่บนถนนพร้อมด้วยเสียงดัง “แกร๊ก” แสดงให้เห็นว่าการ์ดคนนั้นกระดูกหักไปหลายซี่

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันในบ่อนพนันแห่งนี้ ทำให้ทุกคนรู้สึกตื่นตะลึงไปในทันที

เกิดอะไรขึ้นกัน?

ดวงตาของหลินจื่อฉิงเบิกกว้าง บัดซบ! เขากำลังจะได้เงิน 300 ล้านอยู่แล้ว แล้วทำไมเจ้ามือถึงถูกชายคนนั้นพาไปด้วย? แล้วตอนนี้ใครจะเป็นคนตัดสินผลพนัน?

จากนั้นไม่นาน ความแตกตื่นในบ่อนพนันแห่งนี้ก็ค่อยๆสงบลง

……………..

ถึงอย่างนั้นที่ภายนอกคลับเฮ้าส์ เย่เฟิงที่คว้าตัวเจ้ามือหนุ่มมาด้วย ได้ใช้ทักษะย่างก้าวไร้เงาและมุ่งไปยังสวนสาธารณะอย่างรวดเร็ว

“ปล่อยฉัน! แกกล้าก่อเรื่องในอาณาเขตแก๊งเทียน แกไม่ได้ตายดีแน่!”

ถึงแม้เจ้ามือหนุ่มจะกลัวตาย แต่เขาก็ยังพยายามข่มขู่เย่เฟิงไปแบบนั้น

“หุบปาก!”

เย่เฟิงตบเข้าที่ใบหน้าของชายหนุ่มเจ้ามือดัง “เพี๊ยะ” หลังจากนั้น เขาก็คว้าเอามือถือที่อยู่ในมือของชายคนนี้มาดู ช่างน่าตกใจ เขาพบว่าชายคนนี้ไมได้ส่งข้อความไปยังหัวหน้าแก๊งเทียน แต่กลับส่งไปให้ชายอีกสองคนแทน

และชายสองคนนั้นก็เป็นคนที่ส่ง ‘มือดี’ออกมา

‘มือดีพวกนั้นมันเป็นตัวอะไรกัน ถึงมีแขนมีขาแต่ก็ดูไม่มีสมอง พวกมันดูเหมือนเป็นพวกสัตว์ประหลาดที่คิดอะไรเองไม่ได้……’

เย่เฟิงครุ่นคิดเพื่อคาดคะเนสถานการณ์ปัจจุบัน

เจ้ามือหนุ่มคนนี้เดิมทีเป็นหัวหน้าของบ่อนการพนัน หากเขาต้องสูญเสียกำไรไปมาก เขาย่อมต้องเป็นคนรับผิดชอบต่อเรื่องนี้ มันจึงไม่ใช่เรื่องดีเลยที่เขาจะแจ้งเรื่องนี้ไปยังหัวหน้าแก๊งเทียน ดังนั้น การส่งมือดีมาจัดการเรื่องราวเหล่านี้ก็นับว่าเพียงพอแล้วในความคิดของเขา

เวลานี้ เย่เฟิงเข้าใจว่าเพราะการตายของซ่งหู่ ตู้ปางหลง และคนอื่นๆ ทำให้องค์กรลึกลับระวังตัวมากขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงมีมือดีค่อยคุ้มกันแก๊งเทียนอยู่

น่าเสียดายที่สำหรับเย่เฟิงแล้ว กอลิล่าสองตัวนั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องหวั่นเกรงอะไร

เมื่อเห็นส่วนสาธารณะอยู่ด้านหน้า เย่เฟิงรีบมุ่งไปที่นั่นทันทีและในเวลาเดียวกัน ร่างอันใหญ่โตทั้งสองร่างก็ได้ไล่กวดเขามาพร้อมกับทำลายหลอดไฟที่อยู่ตามข้างทางซึ่งทำให้สวนสาธารณะที่มีเพียงแสงสลัวๆอยู่แล้ว กลับกลายเป็นมืดมิด

เคร้ง! ปัง!

เคร้ง! ปัง!

เสียงหลอดไฟที่ถูกทำลายทำให้หนุ่มสาวหลายคนที่อยู่ในสวนสาธารณะแห่งนี้กรีดร้องด้วยความตกใจ และในทันใด ร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งก็กระโดดออกมาแล้วมุ่งไปยังที่ซึ่งไร้ผู้คน

“เอาละ!”

เมื่อเห็นผู้คนในส่วนสาธารณะหายไปเกือบหมดแล้ว สภาพแวดล้อมที่นี่พลันกลายเป็นมืดมิดและเงียบงัน เยเฟิงหยุดฝีเท้าของเขาก่อนจะโยนร่างของเจ้ามือหนุ่มลงบนพื้น

และในทันที กระบี่เจินชี่สีส้มก็ปรากฏขึ้นมาในมือของเขา!

เย่เฟิงที่ถือกระบี่ยาวอยู่ เงยหน้าขึ้นมองไปยังร่างใหญ่โตทั้งสองร่างนั้น ใจของเขาเตรียมพร้อมสำหรับการเคลื่อนไหว และในทันที ชายหนุ่มควบแน่นเจินชี่ไปยังเท้าทั้งสองข้างเพื่อใช้ทักษะย่างก้าวไร้เงา ไม่นาน ภาพติดตาของเย่เฟิงก็ปรากฏขึ้นมามากมายส่งผลให้เจ้ากอลิล่าทั้งสองตัวรู้สึกมึนงงและสับสน พวกมันกระหน่ำโจมตีแบบเดาสุ่มด้วยความโง่งม

เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง! แกร๊ก! ฉัวะ!

ด้วยฝีเท้าที่รวดเร็วดั่งสายฟ้า ประกายกระบี่เจินชี่ของเย่เฟิงฉายวาบขึ้นมา และไม่นาน เขาก็จัดการกุดหัวเจ้ากอลิล่าไปหนึ่งตัว พร้อมทั้งส่งร่างของมันลอยไปตกอยู่ใกล้ๆกับพุ้มไม้

“ฉันต้องฝันไปแน่ๆ……”

เหตุการณ์ที่ปรากฏต่อสายตาของเจ้ามือหนุ่มทำให้ร่างของเขากลายเป็นแข็งค้าง ก่อนหน้านี้ เขาได้เห็นเต็มตาว่า “มือดี”ที่หัวหน้าของเขาส่งมาสามารถทุบโต๊ะหินอ่อนจนแหลกละเอียดอย่างง่ายดายเพียงพริบตา นั่นแสดงให้ว่าความแข็งแกร่งของพวกมันมีมากมายมหาศาล! แต่ตอนนี้ ชายสวมหน้ากากกลับใช้กระบี่ในมือกุดหัว “มือดี”ไปตัวหนึ่งอย่างง่ายดาย ง่ายดายเหมือนไม่ต่างอะไรจากการตัดเค้ก!

ถึงแม้ว่าชายหนุ่มเจ้ามือจะมีสถานะที่สูงมากในโลกอาชญากรรม แต่เขาก็ไม่เคยเห็นภาพแบบนี้มาก่อน ภาพที่คนโดนกุดหัวจนขาดกระเด็น!

โชคดีที่เลือดไม่ได้กระจายออกมา ไม่อย่างนั้น มันคงกลายเป็นเหตุการณ์เลือดสาดที่น่าสยดสยอง แต่ถึงอย่างนั้น ความสงสัยบางอย่างก็ก่อเกิดขึ้นในจิตใจของเจ้ามือหนุ่ม เขาสงสัยว่า “มือดี”ทั้งสองคนนี้เป็นคนแน่หรอ?

ขณะที่กระบี่ของเย่เฟิงฟาดลงไปบนร่างของพวกมัน เจ้ามือหนุ่มได้ยินเสียงตัดผ่านของโลหะชัดเจน และยิ่งกว่านั้น เลือดของมันก็ไม่ได้กระจายออกมาเมื่อถูกตัดหัวไป มันจึงไม่น่าแปลกใจที่เขาจะคิดเช่นนั้น

ฉัวะ!

เวลานี้ เย่เฟิงกุดหัวกอลิล่าที่เหลืออีกตัวหนึ่ง ร่างของพวกมันทั้งคู่นอนกองอยู่บนพื้นอย่างไม่ไหวติ่ง

“แกจะหนีไปไหน?”

เย่เฟิงเค้นเสียงเมื่อหันกลับมาเห็นชายหนุ่มเจ้ามือพยายามจะหนี ในขณะเดียวกัน เขาก็ใช้ทักษะกรงเล็บมังกรคว้าตัวชายหนุ่มคนนั้นเอาไว้

เมื่อถูกความว่างเปล่าจับเอาไว้แบบนั้น เจ้ามือหนุ่มก็พลันตกใจกลัวจนฉี่ราดกางเกง หัวใจเขาสั่นสะท้านเมื่อต้องพบการประสบการณ์ที่น่าขนลุกแบบนี้

น่าเสียดายที่เย่เฟิงไม่มีเวลาให้สนใจสีหน้าของเขา เพราะไม่ไกลนัก มีเงาร่างหนึ่งโผล่ออกมาจากพุ้มไม้ ซึ่งร่างที่ค่อนข้างผอมแห้งนี้ดึงดูดความสนใจของเย่เฟิงไปหมด

แป๊ะ! แป๊ะ! แป๊ะ!

เสียงปรบมือที่ชัดเจนดังขึ้นพร้อมกับปรากฏร่างของชายสวมหน้ากากอีกคนหนึ่ง!

เขาเป็นใครกัน?

เย่เฟิงรีบคว้าเอาร่างของชายหนุ่มเจ้ามือกลับมาอย่างรวดเร็วขณะมองไปยังชายที่พึ่งปรากฏตัวออกมาอย่างระมัดระวัง ใบหน้าของเขาสวมหน้ากากไว้เช่นเดียวกันกับเย่เฟิง

………………………….

แปลโดย Solar Spark