บทที่ 1 เกิดใหม่ใจกลางมหานคร

“กริ๊ด ไอ้โรคจิต!”

ภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องลงมายังเมืองที่แออัดไปด้วยผู้คน เวลานี้ ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีเสียงกรีดร้องที่แสดงถึงความตกใจและความโมโหดังขึ้น พร้อมทั้งมีเสียงบางสิ่งร่วงลงไปที่พื้นอย่างรุนแรง

“บ้าเอ้ย เจ็บชิบ….”

ดูเหมือนมีใครบางคนตกลงมาจากที่สูง ตอนนี้‘เย่เฟิง’ค่อยๆยืนขึ้นอย่างโงนเงน

“แย่แล้ว! อาจารย์ถูกพวกอสูรจับตัวไป เราต้องรีบไปช่วย…..เดี๋ยว! ที่นี่มันที่ไหนกัน?”

แต่เมื่อลืมตาขึ้น ชายหนุ่มพบว่าที่นี้ไม่ใช่ถ้ำมังกรไฟที่เขาเคยอยู่ก่อนหน้านี้ และเขาไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าที่นี่คือที่ไหน

ด้านหน้าของเขาคือบ้านหลังหนึ่งและเมื่อหันไปมองด้านหลัง เขาก็พบกับบ้านที่ใหญ่โตอีกหลังหนึ่ง ที่แห่งนี้ล้วนสว่างไสวไปด้วยแสงไฟของเมือง ชัดเจนว่ามันคือมหานครที่อึกทึกไปด้วยผู้คนยามค่ำคืน

“เป็นไปได้อย่างไร ก่อนหน้านี้เรากำลังเจอกับ…..”

เย่เฟิงมึนงงไปหมด

ชายหนุ่มจำได้ชัดเจนว่าก่อนหน้านี้เขากำลังวิ่งหนีเหล่าอสูรที่ไล่กวดจนเข้าไปในถ้ำมังกรไฟ แต่เพราะดันไปเหยียบกลไกบางอย่างเข้า เขาจึงร่วงหล่นลงไปในหลุม แต่เมื่อลุกขึ้นยืนและหันมองไปรอบๆ กลับพบว่าตัวเขามาโผล่ยังใจกลางมหานครแห่งนี้

ตามความทรงจำ เมืองแห่งนี้ไม่ได้อยู่ใน‘โลกเทวะ’

ทันใดนั้น ปรากฏความทรงจำมหาศาลหลั่งไหลเข้ามาในหัวของชายหนุ่ม จนรู้สึกเหมือนหัวจะระเบิด ตอนนี้เขารู้สึกเจ็บปวดเกินบรรยาย จนอดไม่ได้ที่พยายามส่ายหัวเพื่อไล่ความเจ็บปวดนี้ออกไป

“เจ้าของร่างนี้ก็ชื่อเย่เฟิง? เขาลืมกุญแจไว้ในบ้านเลยพยายามปืนท่อน้ำเพื่อขึ้นไปยังชั้นสอง? แต่พอไปได้ครึ่งทาง เขาได้ยินเสียงกรีดร้องของเด็กสาวเลยตกใจเผลอปล่อยมือ จากนั้นก็ตกลงมาตาย?”

เย่เฟิงรับรู้ความทรงจำเหล่านี้หลังจากอาการปวดหัวผ่านไป

ในความทรงจำนั้น เขาพบว่าเย่เฟิงในโลกใบนี้ออกจากบ้านไปร้านเกมส์ออนไลน์แต่ดันลืมกุญแจไว้ พอกลับถึงบ้านจึงตั้งใจจะปืนเข้าทางหน้าต่างแต่ดันตกลงมาตายเสียก่อน แล้วสิ่งที่น่าเหลือเชื่อคือตัวเขาดันมาอยู่ในร่างของเย่เฟิงที่เพิ่งตายซะได้

“เดี๋ยวก่อน!”

ใบหน้าของเย่เฟิงเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเขานึกได้ว่าในความทรงจำนั้น เขาได้เห็นเรือนร่างอันเปลือยเปล่าที่ขาวเนียนดั่งหิมะของเด็กสาวคนหนึ่งที่กำลังอาบน้ำอยู่ขณะที่เขาปีนกำลังปีนท่อน้ำขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน

เขาเป็นคนที่เข้าใจอะไรได้รวดเร็ว และคำเดียวที่ปรากฏขึ้นในหัวของเขาในตอนนี้คือ ซวยแล้ว!

เย่เฟิงอาศัยอยู่ในบ้านของปู่เขาคนเดียว และในบ้านหลังที่ติดกันนั้น เป็นบ้านของเด็กสาวแสนสวยคนหนึ่งซึ่งเป็นถึงดาวโรงเรียนของโรงเรียนที่เขากำลังศึกษาอยู่ในปัจจุบัน และแม้ทั้งสองจะเป็นเพื่อนบ้านกัน แต่พวกเขาแทบจะไม่ได้ข้องแวะอะไรกันเลย

“เย่เฟิง นายตาย!”

ทันใดนั้น มีเสียงใสของเด็กสาวที่น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวดังขึ้น

เย่เฟิงสะดุ้งและหันกลับไปมองด้านหลัง เขาเห็นสาวสวยคนหนึ่งในชุดสีขาวกำลังวิ่งเข้ามา หน้าตาของเธอเหมือนกับดาวโรงเรียนในความทรงจำของเย่เฟิงคนก่อนไม่ผิดเพี้ยน ถึงอย่างนั้น ตอนนี้ เธอถือมีดปอกผลไม้ไว้ในมือขณะวิ่งตามซอยแคบๆเข้ามาหาเขาอย่างน่ากลัว

“อยู่ไม่ได้แล้ว!”

เย่เฟิงรีบวิ่งทันทีเพราะเขารู้ว่าสาวสวยคนนี้เอาเขาตายแน่

หากเย่เฟิงมีพลังเหมือนตอนยังอยู่ในโลกเทวะ เขาย่อมไม่จำเป็นต้องกลัวสาวน้อยคนนี้ แต่เวลานี้ เขาดันมาสิงอยู่ในร่างเย่เฟิงของโลกใบนี้ที่ผอมบางและแสนอ่อนแอเสียได้

เย่เฟิงจึงตันสินใจวิ่งหนีสิ่งที่เรียกว่าดาวโรงเรียนที่มีมีดอยู่ในมือคนนี้ ชายหนุ่มรู้สึกได้ทันทีว่าตอนนี้ตัวเขาต้องรีบบ่มเพาะวรยุทธ์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อรับประกันความปลอดภัยของตัวเองในโลกใบใหม่นี้ ยิ่งไปกว่านั้น เขาต้องรีบหาสาเหตุที่เขามาโผล่ในที่บัดซบนี้ให้ได้

ชายหนุ่มวิ่งไปตามทางที่อยู่ความทรงจำของเย่เฟิงคนก่อน และเนื่องจากไม่มีที่ซ่อนตัวเลยในหมู่บ้านแห่งนี้ เขาจึงตัดสินใจวิ่งไปยังทางออกหมู่บ้าน

ตอนนี้ ดูเหมือนดวงตากลมโตของดาวโรงเรียนคนนั้นจะพ่นไฟได้ เธอกำลังวิ่งไล่เขาอย่างเอาเป็นเอาตาย

ก่อนหน้านี้ เด็กสาวเข้าห้องน้ำเพื่อเตรียมตัวที่จะอาบน้ำ และขณะที่เธอถอดชุดออกพร้อมเผยผิวขาวเนียนใสดั่งหยก เด็กสาวได้เหลือบไปเห็นร่างของคนๆหนึ่งกำลังปืนกำแพงของบ้านตรงข้าม

ไอบ้านี่ตั้งใจจะแอบดูเธออาบน้ำ?

ไร้ยางอายที่สุด!

เธอกรีดร้องขึ้นด้วยความตกใจ ทำให้เขาเผลอปล่อยมือแล้วร่วงลงไป แต่ถึงอย่างนั้นเธอจะลืมได้ยังไงว่าเขาได้เห็นร่างที่เปลือยเปล่าของเธอแล้ว

ด้วยความโกรธเกรี้ยว เด็กสาวจึงตัดสินใจจะจับไอโรคจิตนี่ส่งตำรวจให้ได้!

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”

สาวสวยดาวโรงเรียนคนนี้ยังคงไล่ตามเย่เฟิงพร้อมด้วยมีดปอกผลไม้ในมืออย่างไม่ลดละ โดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้พวกเขากำลังวิ่งออกจากประตูหมู่บ้านแล้ว

ในห้องรักษาความปลอดภัย รปภ.หนุ่มคนหนึ่งเห็นเด็กหนุ่มวิ่งออกไปนอกหมู่บ้าน และเห็นเด็กสาวคนหนึ่งกำลังวิ่งไล่จับเขา แต่เขาไม่จำเป็นต้องสนใจเพราะยังไงเดี๋ยวทั้งคู่ก็คงโต้แย้งกันจนหาข้อสรุปได้ เขาจึงตั้งหน้าตั้งตาดูทีวีต่อไป

“แย่จริง ร่างนี้อ่อนแอแถมยังวิ่งได้ช้าอีก แต่ยังไงเราก็ต้องหนีให้พ้น หึ สำหรับเรื่องการวิ่งหนีแล้ว ใครจะเป็นคู่แข่งของเราได้?”

เย่เฟิงถอนหายใจ ในโลกเทวะแล้ว ตัวเขาเป็นที่รู้จักในชื่อ‘เทพแห่งการหนี’ซึ่งมักหนีรอดจากการตามล่าของอาจารย์เสมอ

ถ้าเขาถูกสาวน้อยคนนี้จับได้แล้วเรื่องนี้กระจายออกไป เขาย่อมไม่กล้าเป็นตัวตลกไปหรือไง?

เย่เฟิงวิ่งผ่านถนนหลายสายมาจนถึงยังสถานที่จอแจแห่งหนึ่ง ตามความทรงจำแล้ว ที่แห่งนี้เรียกว่าย่านบาร์ และด้วยที่นี่มีผู้คนอยู่มากมาย เขาจึงตัดสินใจจะหลบซ่อนตัวจากดาวโรงเรียนในที่แห่งนี้

ชายหนุ่มมองกลับหลังและเห็นดาวโรงเรียนคนนี้ยังคงวิ่งไล่หลังเขามา แม้เธอจะเก็บมีดปอกผลไม้ในมือเพื่อไม่ให้เป็นที่ดึงดูสายตาของผู้คนแล้วก็เถอะ

“เย่เฟิงคนก่อนก็แค่ปีนท่อน้ำขึ้นไปชั้นสองเพื่อเข้าบ้านทางหน้าต่างเท่านั้นเอง แต่ดันไปเห็นร่างเปลือยของเธอแบบไม่ตั้งใจซะได้ นี่ก็แค่ความเข้าใจผิด ดาวโรงเรียนคนนี้ช่างเป็นสตรีที่ดุร้ายจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้น สาวน้อยคนนี้หุ่นดีจังแฮะ แล้วยังผิวขาวดังหิมะนั่นอีก…..”

เย่เฟิงคิดถึงรูปร่างที่น่าหลงไหลนั่นชั่วครู่ แต่เขาก็รีบส่ายหัว เพราะนี่ไม่ใช่เวลาจะมาคิดถึงเรื่องนี้

เย่เฟิงตัดสินใจพุ่งเข้าไปในย่านบาร์ทันทีและหายวับเข้าไปในกลุ่มฝูงชน

‘ซูเหมิงหาน’ยังคงวิ่งไล่หลังเย่เฟิงมาตลอด แต่เมื่อเธอเห็นเขาวิ่งเข้าไปในย่านบาร์ เด็กสาวก็เริ่มลังเลเพราะเธอได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ว่าเด็กสาวน่ารักไม่เหมาะจะเข้าไปเดินคนเดียว

แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อคิดถึงเรื่องที่เจ้าโรคจิตนั่นเห็นร่างเปลือยของเธอแล้ว เด็กสาวจึงรู้สึกโกรธหนักกว่าเดิม

“วันนี้ ฉันต้องจับเจ้านั่นให้ได้เลยค่อยดู!”

ซูเหมิงหานกัดฟันก่อนจะวิ่งเข้าไปในย่านบาร์

เมื่อสาวสวยอย่างเธอเข้ามายังที่แห่งนี้ แน่นอนว่าเด็กสาวย่อมกลายเป็นที่ดึงดูดสายตาของผู้คน สายตาเหล่านั้นล้วนเต็มไปด้วยความกระหายและความหื่นกาม

ซูเหมิงหานรู้สึกกลัวนิดหน่อย แต่เธอยังพยายามมองหาร่างของเจ้าโรตจิตคนนั้นในกลุ่มฝูงชนที่แออัด

——–

เมื่อเวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ในที่สุดเย่เฟิงก็มาถึงยังใจกลางของย่านบาร์แห่งนี้

เมื่อเขาแน่ใจว่าซูเหมิงหานไม่ตามเขามาแล้ว ชายหนุ่มจึงค่อยโล่งใจ

“เฮ้อ….ช่ายเป็นสตรีที่ดุร้ายจริงๆ เหมือนกับอาจารย์ของเราเลย”

เย่เฟิงยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ และในเวลาเดียวกัน เขาเห็นสิ่งปลูกสร้างที่ประดับไปด้วยแสงไฟน่ามึนเมาทั้งสองข้างทาง แน่นอนชายหนุ่มไม่เคยเห็นที่แบบนี้มาก่อนเลยในโลกเทวะ

เย่เฟิงพยายามมองหาสถานที่ที่เขาสามารถจะฝึกวรยุทธ์ได้ แต่มันคงเป็นไปไม่ได้สำหรับในย่านบาร์ที่เต็มไปด้วยความครึกครื้นแห่งนี้ เขาจึงตัดสินใจไปที่อื่นแทน

แต่ก่อนที่จะได้ออกจากที่นี่ ทันใดนั้น ชายหนุ่มได้ยินเสียงร้องอย่างหวาดกลัวของเด็กสาวดังมาจากซอกซอยแห่งหนึ่ง

“ช่วยด้วย…..”

เย่เฟิงได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือของเด็กสาวคนเดิมอีกครั้ง ชัดเจนว่าเธอคนนั้นคงอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่สามารถได้ยินเสียงของเธอในสถานที่ที่อึกทึกเช่นนี้ได้

“นี่ไม่ใช่เสียงของดาวโรงเรียนคนนั้นหรือไง?”

เมื่อเย่เฟิงได้ยินเสียงร้องที่ชัดเจนขึ้น เขาแน่ใจว่าเสียงนี่เป็นของดาวโรงเรียนคนนั้นแน่นอน เสียงนี้ทำให้เขาแปลกใจอย่างยิ่ง เพราะชายหนุ่มไม่คิดเลยว่าเธอจะถึงขนาดตามเขาเข้ามาในย่านบาร์แห่งนี้ น้ำเสียงนั้นชัดเจนว่าเธอกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตราย

แม้เขาไม่อยากยุ่งด้วย แต่เมื่อเย่เฟิงตระหนักได้ว่าเธอเข้ามาในที่แห่งนี้เพราะตามเขามา จนต้องพบกันสถานการณ์อันตราย ดังนั้น ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเด็กสาว เขาคงไม่อาจให้อภัยตัวเองได้

เย่เฟิงลังเลเล็กน้อยก่อนตัดสินในเข้าไปในซอยนั้นเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น

……………………………..