จุนเปย์พูดอะไรไม่ออก

ชั้นนี้เป็นลักษณะพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัส 500 เมตร ราวกับว่ามันทำด้วยคอนกรีตーーเป็นพื้นที่ที่มีสีเทาในทุกพื้นผิว

เมื่อเขาเปิดประตูก็เจอพื้นที่ปลอดภัยทันที

ถูกต้อง

เหมือนกับชั้นของเซอร์เบอรัส มันเป็นพื้นที่ปลอดภัยตั้งแต่เริ่ม

จุนเปย์คิดว่าการมีพื้นที่ปลอดภัยตั้งแต่ต้น อาจหมายถึงระดับความยากในชั้นนั้นๆมีสูงเกินกว่าชั้นทั่วไป

จากสิ่งที่เห็นーーหากเทียบศัตรูในครั้งนี้ กับที่ผ่านมาความรู้สึกที่ได้รับนั้นแตกต่างกันมากมาย

「สถานที่เรียกว่าช่องมิติเขาวงกตดูเหมือนว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ …… 」

ฉากที่จุนเปย์เห็นตรงหน้า ーーนั่นคือมนุษย์ มนุษย์ มนุษย์ มนุษย์จำนวนมาก

พวกเขาสวมเกราะเงินวาว มีหอกและดาบออกแนวตะวันตกเช่นเดียวกันทั้งกองทัพเป็นพันๆ ไม่สิบางทีอาจมีมากกว่าหมื่น

มันเหมือนกับเรากำลังอยู่ในงานคอนเสิร์ต โดยที่ที่นั่งสำหรับคนดูเต็มไปด้วยเหล่าผู้ชมที่สวมชุดเกราะตะวันตกครบเซ็ท แน่นอนว่านักร้องจะต้องตะลึงเมื่อออกมาหน้าเวที

จุนเปย์ลองชักปืนออกมายิงจากพื้นที่ความปลอดภัย

ปึ่งง ! กระสุนได้จมหายไปก่อนจะทะลุออกนอกพื้นที่ความปลอดภัย

จุนเปย์ส่ายหน้าอย่างขื่นขม ถ้าเขาสามารถยิงได้จากพื้นที่ความปลอดภัย มันจะเป็นอะไรที่ง่ายมาก

「เหมือนว่า กฏถูกเปลี่ยน ฉันไม่สามารถโจมตีได้จากพื้นที่ความปลอดภัยอีกแล้ว」

การวิเคราะห์ข้อมูลจากสกิล【 ตรวจสอบ 】

【 กองทัพจักรวรรดิ รินดัล 】

ระดับความอันตราย▼▼▼เดี่ยว E / กลุ่ม S +

ลักษณะเฉพาะ ▼▼▼ กองทัพของประเทศที่อยู่อีกมิติหนึ่ง ในระหว่างการซ้อมรบขนาดใหญ่มีทหารจำนวนหลายพันคนหายไปอย่างไร้ร่องรอยจนทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายอย่างมากในช่วงเวลาดังกล่าวของโลกใบนั้น สาเหตุการหายตัวของพวกเขาเป็นความโชคร้ายจากการบิดเบือนของมิติ พวกเขามาพร้อมกับนักเวทย์หนึ่งกองพัน ดังนั้นไม่เพียงแต่การต่อสู้ทางกายภาพแต่พวกเขายังสามารถจัดการกับศัตรูได้อย่างดีด้วยเวทย์มนต์ เดิมทีพวกเขาเป็นมนุษย์ ร่างกายของพวกเขาคือมนุษย์ แต่พวกเขาสูญเสียสติไปเนื่องจากผลกระทบจากมานาของเทพปีศาจที่ชั่วร้ายทำให้ธรรมชาติของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไปไกล้เคียงกับมอนสเตอร์ และด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่สามารถเข้ามาใกล้พื้นที่ปลอดภัยได้

เสียงถอนหายใจยาวๆดังขึ้น

ไม่นานหลังจากนั้นจุนเปย์ก็เริ่มอ่านข้อความจากตาลุงนั่น

ยู้วฮูวว~! ว่าไงน้องชาย! เป็นไงบ้าง

ออกจากกระทะเดือดก็มาเจอกับไฟร้อน! ฝ่ายตรงข้ามมีเป็นกองทัพ!

ก่อนอื่นนายต้องมีนักเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีป 4-5 คน เลเวล 200 ขึ้นไปหล่ะนะ หากกำลังถามว่าจะเอาไปทำไม เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้นเราจะได้ยิงมหาเวทย์ขนาดใหญ่ใส่พวกมันและจบลงด้วยการยิงเพียงครั้งเดียวยังไงล่ะ

แต่ฝ่ายตรงข้ามเองก็มีนักเวทย์ ถ้าพวกเขากางโล่บาเรียไว้ มันคงเป็นเกมที่เป็นไปไม่ได้

เอ๋..? ฉันจะทำอะไรต่อหน้ากองทัพแบบนี้?

…… ฉันเลเวลแค่ 200 เองนะ แน่นอนฉันจะหนี?

จนถึงตอนนี้มีบางตัวที่ฉันสามารถฆ่าได้…… แต่ความเสี่ยงสูงก็เกินไป และนายก็รู้ไม่มีมอนสเตอร์ตัวไหนเลยที่ดูอ่อนแอ มันดูแย่มาก ในความเป็นจริงฉันกำลังจนมุม

ยังไงก็ตามพวกมันแต่ละคนไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก และพวกมันบินไม่ได้

ถ้านายบินสูงสักสามร้อยเมตร พวกมันคงทำอะไรไม่ได้นอกจากแหงนดู เวทย์มนต์ยิงไม่ถึงความสูงนั้น

ถึงฉันจะเลเวลแค่ 200 แต่โลกข้างนอกฉันเป็นถึงนักล่าสมบัติที่มีชื่อเสียงรู้มั้ย

ในกล่องไอเทมฉันเลยใส่อะไรที่จำเป็นมาด้วยเยอะแยะ

สิ่งที่ฉันต้องการจะโชว์ก็คือ

จ๊างงงงงงง! พรมเหินฟ้า!

ใช่ ฉันบินไปยังชั้นถัดไป

ยังไงก็ตามฉันอาจได้รับความเสียหายบางส่วน แต่ฉันทำอะไรกับมันไม่ได้อยู่ดี

จบละ โอเคร บาย!

—-

แกร๊ง แกร๊ง ! เสียงโลหะจากชุดเกราะของกองทหารกระทบกันดังหนวกหู

ーーจำนวนรวมๆของพวกมันมีมากกว่าหมื่น

เขาทำท่าทางเหมือนกำลังรวบรวมสมาธิ

「ด้วยเขี้ยวอสูรฉันอาจฆ่าคนที่ใส่ชุดเกราะได้ แต่ถึงแม้ว่าฉันจะใช้ความเร็วในการโจมตี ฉันอาจจะฆ่าพวกมันได้แค่ 200-300 คน จากนั้นฉันคงหมดแรงแล้วถูกรุมฆ่า อืมมม」

* โชะเด๊ะ * เขาตบมือราวกับปิ๊งความคิดดีๆ

「เห้ พวกแกหันมามองทางเน้ พวกแกต้องไม่เคยเห็นมันมาก่อนแน่ๆーー กล่องไอเทม 」

พร้อมกับส่งเสียงดึงความสนใจ จุนเปย์เรียกกล่องไอเทมออกมา

เมื่อเขาเปิดกล่องไอเทมบางอย่างก็เด้งกระโดดออกมา

「สไลม์จำนวนมาก」แต่ละตัวมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 30 – 40 ซม. สไลม์สีม่วงเข้มไหลหลั่งออกมาจากกล่องไอเทม

「สุภาพบุรุษแห่งกองทัพรินดัลเชิญเล่นสนุกกับลูกๆของฉันให้เต็มที่」

สไลม์จำนวนมหาศาลพุ่งออกจากพื้นที่ความปลอดภัยโดยมีเป้าหมายคือพวกทหาร

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันทำให้พวกทหารทำอะไรไม่ถูก

แต่พอเห็นเป็นสไลม์มอนสเตอร์ระดับต่ำสุด พวกทหารก็ไม่รู้สึกเกรงกลัวอะไรอีกต่อไป ถึงแม้พวกมันจะปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมเก่ง และบางตัวจะแข็งแกร่ง แต่อย่างไรก็ตามสไลม์ก็คือสไลม์ พลังโจมตีของมันมีเพียงน้อยนิด

สไลม์สีม่วงยังคงออกมาจากกล่องไอเทมเรื่อยๆราวกับว่าพวกมันไม่มีวันหมด

พวกทหารเริ่มจัดรูปแบบกองทัพ

หอกแหลมถูกตั้งขึ้นทำมุมเอียงไปด้านหน้าเรียงรายจนคล้ายกับเป็นกำแพงยาว

ในขณะเดียวกันสไลม์สีม่วงก็กระโดดเข้าใส่เหล่ากองทัพทหารโดยไม่สนใจว่าพวกมันจะถูกแทงหรือไม่

ーーเป็นสไลม์ฝ่ายเดียวที่บาดเจ็บล้มตาย นี่คือการสังหารหมู่

ส่วนใหญ่สไลม์พุ่งเข้าไปโดยไม่สนใจชีวิตทำให้พวกมันถูกเสียบเหมือนเนื้อย่าง

สไลม์บางตัวก็ถูกเผาโดยเปลวไฟของนักเวท์จนระเหยไปในอากาศ

แม้บางตัวจะโชคดีหลีกเลี่ยงการโจมตีจากหอกได้ มันก็จะถูกผ่าครึ่งจากคมดาบอยู่ดี

ของเหลวในร่างกายของสไลม์มีความหนืดและกลิ่นฉุน

นอกจากนี้พวกที่ถูกเผาจะส่งกลิ่นเหม็นสาบเหมือนกำมะถัน

ตอนนี้ซากศพของสไลม์มีมากกว่าร้อย

อย่างไรก็ตามสไลม์ยังคงไม่หยุดพุ่งไปข้างหน้า

ส่วนหนึ่งของเหล่าทหารไม่อาจซ่อนความสับสนไว้ได้

จากรูปแบบที่สมบูรณ์ทำให้พวกเขาไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ

พวกเขาเพียงแค่จัดการกับสไลม์ที่พุ่งเข้ามาอย่างไม่กลัวตาย

มีบางช่วงที่พวกมันเล็ดลอดจากคมหอก แต่พวกมันยังคงไม่สามารถหนีพ้นจากดาบและเวทมนตร์ที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลังได้

ーー แต่ถึงอย่างนั้นจุนเปย์ก็ยังไม่มีทีท่าจะยกเลิกคำสั่ง

ขณะที่ตัวเองยืนสบายอยู่ในพื้นที่ความปลอดภัย เหมือนกับว่าเขาสั่งให้พวกสไลม์ไปตายอย่างไร้ประโยชน์ ดูเขากำลังสนุกกับการเฝ้าดูร่างของสไลม์ฉีกขาดออกจากการกัน ด้วยการโจมตีแบบกามิกาเซ่

「จนถึงตอนนี้ …… จำนวนสไลม์ที่ตายยังไม่ถึง 10% จากทั้งหมด แค่นี้็ันมยังอยู่ในช่วงที่ฉันรับได้」

ประมาณหนึ่งชั่วโมงของการฆ่าล้างซึ่งเป็นผลมาจากการพุ่งเข้าใส่อย่างต่อเนื่องーーพื้นที่รอบบริเวณเต็มไปด้วยเนื้อสไลม์และของเหลวในร่างกายของมัน

และในที่สุดปรากฏการณ์สไลม์ที่เกิดขึ้นจากกล่องไอเทมของจุนเปย์ก็หยุดลง

มองเศษเนื้อของสไลม์กระจัดกระจายอยู่รอบๆ จุนเปย์พยักหน้าอย่างพอใจ

「โยช ปิดจ๊อบ ที่เหลือก็รออย่างเดียว」

เขาหยิบฟืนและฟางข้าวออกมาจากกล่องไอเทม แล้วจุดไฟ

และทันทีที่กองไฟถูกจุด เขาค่อยๆนั่งลงจากนั้นเอาธัญพืชและเนื้อแห้งของเซอร์เบอรัสออกมา

โดยไม่สนใจทหารที่ล้อมรอบบริเวณーーเขาเริ่มนำน้ำใส่หม้อ

เขาโยนเนื้อและธัญพืชที่คล้ายกับข้าวลงไป หลังจากใส่เกลือลงไปนิดหน่อยแล้วก็ปิดฝา

「จนกว่าอาหารจะสุก หลับซะหน่อยดีกว่า …… 」

จุนเปย์เอาผ้าห่มออกมาปู จากนั้นก็นอน

ดูเหมือนว่าเขากำลังทำโจ๊ก ในขณะที่เหล่าทหารได้แต่ยืนมองอยู่ภายนอกอย่างมึนงง

ในสถานการณ์เช่นนี้จุนเปย์ปฏิบัติกับราวกับว่าพวกมันไม่มีตัวตน

「ห๊าววว~ ……」

เขาดูเวลาจากนาฬิกาบนข้อมือ ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเช้า

“เยี่ยม” เขาค่อยๆลุกขึ้นยืน

กับกิจวัตรที่คุ้นเคยเขาเทน้ำจากถุงใส่ไปในถัง ล้างหน้าไปหาวไป และต่อมาก็แปรงฟันด้วยการเคี้ยวกิ่งไม้

ต่อจากนั้นเขาใส่เมล็ดกาแฟบดและน้ำไปในหม้อ ก่อนจะวางทั้งหมดลงในกองไฟ

หลังจากที่เขากระแอมเล็กน้อย เขาก็ฮัมเพลงที่อยู่ในหัวทันที (จะชิวไปไหน)

นั่นเป็นเพลงที่คนญี่ปุ่นรู้จัก

ーーมันเป็นเพลงออกกำลังกายยอดนิยมจากวิทยุ

หลังจากเสร็จสิ้นทุกอย่าง เขาสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะเทน้ำร้อนๆใส่ลงไปในถ้วย

ราวกับเขากำลังนั้งสบายใจอยู่ในทุ่งหญ้าลาเวนเดอร์

ขอบคุณสำหรับเมล็ดกาแฟจากหมู่บ้านที่ผ่านมา

จุนเปย์เป็นคนติดคาเฟอีนอย่างหนัก และนับตั้งแต่มาถึงโลกนี้เขาไม่เคยได้กินมันอีกเลย นับว่าเป็นปัญหาร้ายแรงที่สุดอย่างหนึ่ง

เขาซดกาแฟเสียงดังด้วยความพอใจ

ーーประมาณหนึ่งสัปดาห์แล้วที่เขาอยู่บนชั้นนี้

เต็นท์, ที่อาบน้ำ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆถูกสร้างขึ้น

ถึงจะอยู่ที่นี่เป็นเดือน เขาก็สามารถทำได้

“ยังไงก็ตาม…… ”

จุนเปย์ดื่มกาแฟทั้งหมดของเขา

「มันเกี่ยวกับเวลา ……อืม」

ฉากกระจัดกระจายมากมายนับไม่ถ้วนตรงหน้าเขาคือศพที่สวมชุดเกราะ

จากการ “ติดเชื้อ” เนื้อของมันเริ่มเน่าเปื่อย แมลงวันตัวเล็กๆตอมหึ่งไปทั่วบริเวณ

「 ฉันไม่ควรปล่อยให้แมลงวันกินไปมากกว่านี้ มันควรเป็นโปรตีนสำหรับสไลม์」

เขาสูญเสียสไลม์เป็นจำนวนมากให้พวกมัน ดังนั้นมันควรจะเป็นอาหารที่ดีให้กับสไลม์ที่เหลือของเขา

ธัญพืชที่เขาได้รับในหมู่บ้านมีจำนวนจำกัด

และข้างหน้าเขาเป็นอาหารที่มีคุณภาพจากซากศพมากมาย

นั่นเป็นเหตุผลที่เขารอมานาน จนกว่าทหารทุกคนจะตายสนิทーー

จากกนั้นกล่องไอเทมของเขาจุนเปย์ก็ส่งสไลม์ออกไปนอกพื้นที่ปลอดภัย

เขาต้องการสร้างสไลม์ขึ้นทดแทนจำนวนที่สูญเสียไปในการต่อสู้

สไลม์กินซากศพด้วยความเร็วมหาศาล

หลังจากสามสิบนาทีผ่านไป การเคลื่อนไหวของสไลม์ครึ่งนึงเริ่มช้าลง

“นี่น่าจะเป็น…… ” จุนเปย์คิด

「 สำหรับการสร้างสไลม์ของจุนเปย์ เขาให้พวกมันกินเลือดเขา….. พวกมันกินไวรัสที่แย่ที่สุด ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียวสไลม์แต่ก็ไม่ใช่ว่าพวกมันทั้งหมดจะสามารถปรับตัวได้」

จุนเปย์เฝ้ามองร่างกายตัวเองทุกวันหลังจากกินเนื้อผีดิบ จนเขามีความเขาใจเกี่ยวกับมันมากขึ้น

【เนื้อผีดิบ】พิษต่อระบบประสาท (Neurotoxin ) ▼▼▼

ผีดิบ (Undead) ความหมายตรงตามตัวอักษรคือสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้ว ถึงจะมีคำนิยามอยู่มากมายแต่กรณีนี้มันเป็นสถานะที่ร่างกายไม่สามารถรักษา*ภาวะธำรงดุลเอาไว้ได้ และเมื่อไม่สามารถรักษาภาวะธำรงดุลไว้ได้ กระบวนการเผาผลาญที่เกิดขึ้นภายในเซลและระบบภูมิคุ้มกันจะหายไป การย่อยสลายโดยแบคทีเรียและจุลินทรีย์ก็จะเกิดขึ้น

แต่สำหรับเนื้อผีดิบของโนไลฟ์คิงแม้ว่าจะเน่าเสียแค่ไหน มันก็จะไม่ถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ตามธรรมชาติ บางทีมันอาจจะเหมือนพวกแวมไพร์ซึ่งแตกต่างกับมนุษย์ธรรมดา

จุนเปย์พยักหน้า

「ถึงเนื้อของฉันมีไวรัสอยู่ในปริมาณที่ต่ำ แต่ว่าสไลม์เป็นพวกที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับทุกสภาพแวดล้อม ไม่สิลักษณะของสไลม์คือการยอมรับสภาพแวดล้อมตามที่เป็นอยู่ …… 」

แม้ว่าครึ่งหนึ่งของเพียวสไลม์ข้างหน้าไม่สามารถปรับตัวเข้ากับไวรัสได้และล้มตายลง

แต่สไลม์ตัวอื่นที่ยังไม่ตายเริ่มปรับตัว ผิวของพวกมันเริ่มกลายเป็นสีม่วง

ーーนี่คือวิวัฒนาการของการแพร่พันธ์ุสไลม์

สไลม์ที่ดูท่าทางอ่อนแอกลายเป็นสไลม์สีม่วงและเริ่มกัดกินศพรอบๆ

มันได้รับอาหาร และเริ่มแบ่งตัวเพิ่มขึ้นตรงกันข้ามกับจำนวนศพที่ลดลง

พวกผีดิบปกติไม่สามารถควบคุมไวรัสได้ ในกรณีของสไลม์พวกมันไม่ได้ควบคุม แต่เป็นการยอมรับและอยู่ร่วมกัน ของเหลวในร่างกายของสไลม์เหล่านั้นแน่นอนพวกมันจะเต็มไปด้วยไวรัส」

▼ ▼ ▼

พื้นที่ทั้งหมดเป็นสีขาว

ภายในพื้นที่ว่างนั่นๆมีต้นไม้ต้นหนึ่งโตขึ้น

และใต้ต้นไม้ต้นนั้น มีผู้หญิงท่าทางเฉื่อยชาคนหนึ่งยืนอยู่

จากความสูงประมาณ 150 ซม. เธอจึงดูเหมือนเด็กอายุราว 16-17

ผมสีทองดุจแพรไหมยาวยื่นไปถึงเอว ใบหน้าของเธอไม่ต่างอะไรกับตุ๊กตาแถบตะวันตก

เสื้อผ้าของเธอเป็นโทนสีดำสไตล์โกธิคโลลิต้า เด็กผู้หญิงคนนั้นเธอกระซิบบางอย่างกับตัวเอง ขณะที่เธอจับเชือกฟางซึ่งขดเป็นวงกลมแขวนลงมาจากกิ่งก้านของต้นไม้

「ถึงเวลาแล้ว ……ที่ฉันต้องไป」

หลังจากพูดเชือกฟางก็ถูกสวมและผูกแน่นไว้ที่คอของเธอ

เธอยกเท้าขึ้นสูงーーแล้วเตะสิ่งที่ใช้รอง เท้าของเธอออก

สถานการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วーーเธอกำลังแขวนคอตัวเอง

ก่อนที่ชีพจรจะหยุดเต้น มันเหมือนกับหลอดลมกำลังถูกบดขยี้จากแรงโน้มถ่วงและเชือกฟางที่บีบรัด

ใบหน้าของเธอเริ่มซีดขาวก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำ

กล้ามเนื้อตึงเครียด ของเหลวในร่างกายเริ่มเล็ดลอดออกมาจากช่องทางต่างๆ

ーー อาา ฉันจะได้จากไปสักที !!

ดวงตาของเธอฉายแววพอใจ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นแข็งค้างเหลือกขึ้นด้านบน

จู่ๆเสียงแหลมสูงของเด็กคนหนึ่งดังสะท้อนไปทั่วบริเวณนั้น

「ยังไม่ใช่ตอนนี้ ฉันยังปล่อยเธอไปไม่ได้… !! ฆ่าตัวตายเธอคงไม่คิดว่ามันดีหรอกใช่มั้ย?」

* กริ๊ก * เสียงดีดนิ้วของชายหนุ่ม

ทันใดนั่นหญิงสาวที่ไร้ชีวิตชีวาก็กลับคืนสู่สภาพปกติราวกับว่านี่เป็นวิดีโอที่เล่นย้อนหลัง

และด้วยเหตุผลบางอย่างเชือกฟางถูกตัดขาดตกลงไปที่พื้นพร้อมๆกับหญิงสาว

「 ปล่อยให้ฉันตาย …… ปล่อยฉันออกจากคุกเวลาบ้าๆนี่ !! 」

เธอมองไปยังสถานที่ที่หนึ่งและพูดราวกับเป็นการขอร้อง

โดยไม่ทันสังเกตุเห็น มีโทรทัศน์ขนาดประมาณ 60 นิ้วตั้งอยู่ใกล้ต้นไม้

สายที่ต่อออกมาจากโทรทัศน์คือจอยและวิดิโอเกมส์ และเด็กผู้ชายที่บุคลิคคล้ายผู้หญิงกำลังควบคุมมันอยู่

ชุดสไตล์วิชวลเคสีดำ เผยให้เห็นผิวขาวตามช่องเว้าต่างๆของเสื้อผ้า

มือข้างนึงถือจอยไว้ ในขณะที่อีกข้างยังค้างอยู่ในท่าดีดนิ้ว

และที่นั่นเขาพยักหน้าราวกับเป็นปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ

「 คุคุ สเปียร์นแคท…ร่างกายที่อ่อนแอของตัวละครหลักนี้…… มีความคล้ายคลึงกับสิ่งมีชีวิตที่ฉันสร้างไว้ ภายในเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความตาย ต้องควบคุมตัวละครหลักให้ดีเพื่อหลบหนีชะตากรรมและความหายนะที่เกิดขึ้น….. มันเป็นเกมที่โคตรสนุก」

ขณะที่มองไปยังเด็กหนุ่ม หญิงสาวพูดด้วยใบหน้าที่ลำบากใจ

「 ท่านเทพเจ้า สนุกกับการเล่นเกมทุกวันอยู่แล้ว ถ้าอย่างงั้นโปรดปล่อยฉันไปได้ไหม」

「เล่นเกมส์ มันก็จริงอยู่ แต่เธอจะโทษฉันมากไปก็ไม่ได้นะ? ฉันอยู่กับความน่าเบื่อมาตลอดเวลา แต่วัฒนธรรมเล็กๆที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ได้สร้างขึ้นในครั้งนี้… เกม การ์ตูน มังงะ อนิเมะ…. นี่เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์」

“ถูกต้อง” พระเจ้าพูดต่อ

「ขนาดฉันเป็นแค่ผู้เล่นมันยังทำให้ฉันสนุกจนฆ่าเวลาได้เลย เกมเป็นผลงานที่น่าทึ่งมาก สำหรับมนุษย์ยุคนี้」

กับพระเจ้าที่ดูเหมือนกำลังตื่นเต้น หญิงสาวท่าทางเบื่อหน่ายได้พูดขึ้น

「ฉันเข้าใจแล้ว ฉันไม่สนใจเรื่องนี้ ดังนั้นโปรดรีบปล่อยฉันไปได้ไหม」

「 ฮ่าๆๆ ฆ่าเธอ? ไร้สาระน่า」

「อื้อ ฉันรู้ ตามที่สัญญากันไว้…คือการเป็นแม่บ้านที่ยอดเยี่ยมของพระเจ้าแลกกับความเป็นอมตะ ーーฉันได้ทำหน้าที่นี่กับคุณมายาวนานและฉันไม่สามารถทนมันได้อีกต่อไป รีบปล่อยฉัน ช่วยให้ฉันสมหวังด้วย ฆ่าฉันเถอะ……」

พระเจ้าไม่สนใจการร้องขอจากหญิงสาว

「มีอีกเรื่องเกิดขึ้น」

เด็กชายวางนิ้วชี้ไปที่ระหว่างคิ้วของเขาและปิดตา จากนั้นก็เริ่มหัวเราะ

「 คุคุคุ ฟุฟุฟุ ฮ่าฮ่าฮ่า !! ทาเคดะ จุนเปย์ ผู้ชายคนนี้น่าสนในจริงๆ! มันดูสนุกขึ้นเรื่อยๆ! ……คุคุคุ อย่างที่ฉันคิดไว้นายมันไม่ธรรมดา….. นี่เป็นเรื่องที่น่าสนใจจริงๆ !! 」

“แต่ว่า”

จู่ๆพระเจ้าก็เปลี่ยนอารมณ์จากตื่นเต้นเป็นเคร่งเครียด

「ตามที่ฉันคิด…ไม่ช้าก็เร็วเขาจะต้องถูกกลืนกินโดยเหล่ามอนสเตอร์ที่ได้รับโอโดะของเทพปีศาจในเขาวงกต」

「ก่อนที่เขาจะได้แก้แค้น ถ้าเขาเกิดตายไปซะก่อนมันคงน่าเบื่อแย่ ฉันอยากเห็น ใช่ฉันต้องการเห็นーーว่าเขาจะแก้แค้นอะไรกับอดีตเพื่อนร่วมชั้น หรือบางทีーー」

เขาสูดลมหายใจจากก้นบึ้งของหัวใจจนสำลัก ราวกับว่าเขาไม่สามารถรอได้อีก

「 …… ในโลกใบนี้ผู้ที่ถูกรังแกอย่างไร้มนุษยธรรม ต่อหน้าคนเหล่านั้น เขาจะทำยังไงกับพวกมัน」

*ป๊าบ * พระเจ้าตบมือของเขา

「หืมม? ฉันเห็น …… เขาเกือบจะเลเวล 1,000 แล้ว? จากฐานะผู้ถูกกระทำเขาอาจจะเหมาะเป็นผู้ท้าชิงสำหรับ『 โคโดกุ 』 ถ้าแบบนั้น …..ฉันก็สามารถเข้าไปแทรกแซงเขาได้」

ในขณะที่พระเจ้าคิดอะไรบางอย่าง ปากของเขาก็ปรากฏรอบยิ้มแห่งความสนุกสนาน

「ขณะนี้เลเวลของเขาอยู่ที่ 818 …… จนกว่าจะถึง 1000 จนกว่าเขาจะก้าวข้ามความเป็นมนุษย์….. อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น」

และภายในพื้นที่ว่างเปล่าเด็กชายผู้ไม่มีจุดหมายก็เริ่มออกเดิน

「ーーสำหรับเวลานี้ ……ไปที่เขาวงกตดีกว่า อิอิ! 」

 

 

* homoiostasis ภาวะธำรงดุล [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] การที่ร่างกายสามารถรักษาภาวะในร่างกายให้คงที่ เช่น อุณหภูมิ ความดันเลือด ความสมดุลของน้ำและเกลือแร่ เป็นต้น โดยไม่ให้เปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะแวดล้อม