ตอนที่ 52 พบกันครั้งแรก

“ฮ่า!”

ไอความร้อนลอยขึ้นจากหัวของจี้ฮ่าว ขณะที่เส้นเลือดของเขาขยายใหญ่ขึ้นจนปูดขึ้นบนผิวหนัง จี้ฮ่าวโดดลงมาจากต้นไม้ที่สูงเสียดฟ้า แล้วชกอย่างแรงเข้าไปที่หัวขนาดใหญ่ของหมียักษ์ตาสีแดง ซึ่งมีพลังเทียบเท่านักรบขั้นต้นระดับสูงสุด

หมียักษ์ตาสีแดงคำรามอย่างบ้าคลั่ง มันเหวี่ยงแขนที่มีขนาด 10 ฟุตของมันตรงมาที่จี้ฮ่าว ก่อให้เกิดกระแสลมขนาดใหญ่

มีสัตว์ร้ายนับไม่ถ้วนอาศัยอยู่ในดินแดนทางใต้ หมียักษ์ตาแดงมีพลังเทียบเท่านักรบขั้นต้นระดับ 12 ก่อนที่มาจะถึงระดับนี้ได้ มันจะต้องผ่านการต่อสู้มาอย่างโชกโชน ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่ามันรอดชีวิตจากสถานการณ์อันตรายมากี่ครั้งแล้ว มันสัมผัสได้ถึงพลังที่ไม่สูงนักของจี้ฮ่าว มันรู้สึกว่าจี้ฮ่าวเป็นเหยื่อของมัน

จี้ฮ่าวสูดลมหายใจเข้าและเปล่งเสียงคำรามออกมา ในเวลาเดียวกันเขาเหวี่ยงหมัดเข้าไปปะทะกับอุ้งมือของหมีที่กำลังใกล้เข้ามา พลังของเขาไหลผ่านเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ อุ้งมือของหมีถูกฉีกออกด้วยกำปั่นของจี้ฮ่าว

หมีร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ในชั่วพริบตาจี้ฮ่าวรัวหมัดใส่หัวของมันนับร้อยๆ กะโหลกของมันแหลกเป็นชิ้นๆ หมียักษ์ตาแดงนอนแน่นิ่ง

“โห!”

จี้ฮ่าวตะโกนขึ้นฟ้า แสงของเปลวไฟหลากสีไหลผ่านกล้ามเนื้อ เลือด กระดูกและอวัยวะภายในของเขาอย่างต่อเนื่อง เหมือนกับสายน้ำ ความร้อนที่เกิดจากเปลวไฟหลากสีที่ใต้จุดตันเทียนแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย พลังทางร่างกายของจี้ฮ่าวพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว

หมียักษ์ตาแดงที่ทรงพลังมากในป่านี้ แต่กับถูกจี้ฮ่าวเอาชนะได้ง่ายดาย โดยการใช้แค่พลังกายเพียงอย่างเดียว

จี้ฮ่าวยกร่างของหมียักษ์ขึ้นมา และขว้างมันไปหาชิงหยิงที่อยู่ห่างไปร้อยฟุต ร่างของหมียักษ์ลอยไปหาชิงหยิงเหมือนกับภูเขาลูกย่อมๆ

ชิงหยิงเป็นนักรบขั้นสูงที่ใช้จุดชีพจรได้ 1 จุด อย่างไรก็ตามชิงหยิงส่งเสียงร้องออกมา เมื่อเขาเห็นหมียักษ์กำลังลอยเข้ามาหาเขา เขาทิ้งธนูและรับร่างของหมีด้วยพลังทั้งหมดของเขา

“โอ้พระเจ้า ท่านพี่ จี้ฮ่าวเขาแย่มาก เขาไม่เคยหยุดทำให้ข้าอับอาย!” ชิงหยิงบ่นเสียงดังในขณะที่ร่างกายของเขากำลังสั่น เขาแบกหมียักษ์ไว้บนไหล่อย่างยากลำบาก

“ฮ่าว! ข้าเป็นน้าเจ้านะ ไม่ใช่พวกนักรบกาอัคคีที่บ้าพลังพวกนั้น ข้าเป็นนักธนูจากซินหยี ‘นักธนู’ เจ้าเข้าใจใช่ไหม?” ชิงหยิงโวยวายขณะวางร่างของหมีลง

นักรบกาอัคคีมีพลังกายที่สุดยอด ในบรรดาเผ่าต่างๆที่อยู่โดยรอบ นักรบเผ่ากาอัคคีถือว่ามีพลังกายยอดเยี่ยมที่สุด แต่ในขณะกันเผ่ากาอัคคีมีนักเวทย์น้อยมาก

ส่วนนักรบซินหยีจะเชี่ยวชาญทักษะการยิงธนู ถ้าเทียบกันแล้วพลังกายของนักรบขั้นสูงเผ่าซินหยี ไม่ได้ดีไปกว่านักรบปลายแถวเผ่ากาอัคคีเลย แต่ทว่าพวกเขามีความเร็วเข้ามาชดเชยจุดด้วยของพวกเขา

จี้ฮ่าวปาดเหงื่อบนหน้าผากของเขา เขารู้สึกว่าเปลวไฟหลากสีที่ใต้จุดตันเถียนกำลังส่องสว่างและมีขนาดใหญ่ขึ้น เขาหัวเราะอย่างมีความสุข “ท่านน้าอย่าตำหนิข้าเลย ท่านควรจะฝึกความแข็งแกร่งทางร่างกายเอาไว้มั้ง ท่านแม่ยังบอกเลยว่า ท่านน้าผอมบางเกินไปอย่างนี้ท่านจะหาผู้หญิงดีๆมาเป็นภรรยาไม่ได้เอานะ!”

ชิงหยิงเริ่มโวยวายใส่จี้ฮ่าว ยิ่งชิงหยิงโกรธมากเท่าไหร่จี้ฮ่าวยิ่งมีความสุข เขาเริ่มหัวเราะเสียงดังขึ้น เสียงหัวเราะของเขาดังก้องไปทั่วทั้งป่าในยามเช้า

มันผ่านมาประมานครึ่งเดือนแล้วหลังจากที่ พวกนาคาทมิฬและเขี้ยวโลหิตบุกจู่โจมหุบเขาสายน้ำเย็น หลังจากที่เผ่าส่งนักรบมาเพิ่มและจี้โจวก็อยู่ที่นี่ด้วย ทำให้ตอนนี้หุบเขาเงียบสงบ หลังครึ่งเดือนมานี้ไม่พบคนน่าสงสัยบุกเข้ามาเลย ทำให้จี้ฮ่าวมุ่งเน้นการฝึกพลังกายของเขา และออกล่าสัตว์กับชิงหยิง

เลือดนักรบขั้นสูงส่วนหนึ่งที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากผนึก ถูกจี้ฮ่าวดูดซับพลังไว้ทั้งหมดแล้ว ตอนนี้พลังกายของจี้ฮ่าวเกินกว่านักรบฝึกหัดแล้ว(เอ็งตบหมีนักรบขั้นต้นสูงสุดเลยนะ?)

เหนือเปลวไฟหลากสีของเขาในตอนนี้ มีผลึกวิญญาณของจี้เสี่ยวกำลังลอยอยู่ จี้ฮ่าวคำนวนถ้าเขาดูดซับพลังของมันได้ทั้งหมด และกินสัตว์ที่ทรงพลังไปเรื่อยๆในระหว่างนี้ เขาจะไม่สามารถปิดกั้นพลังสายเลือดกาทองที่จะปะทุออกมาได้อีกต่อไป เขาอาจจะต้องปลดปล่อยพลังสายเลือด และเริ่มฝึกในระดับนักเวทย์ขั้นต้น

จี้ฮ่าวตั้งความหวังกับพรสวรรค์พิเศษจากพลังทางสายเลือดของเขาเอาไว้มาก กาทอง 3 ขาเป็นสัตว์ในตำนาน มันทรงพลังมากตอนที่มีชีวิตอยู่ในสมัยโบราณ พรสวรรค์พิเศษไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด มันสามารถจะสร้างพลังที่ยิ่งใหญ่ ถ้าผู้ใดได้สืบทอดมากกว่า 1 พรสวรรค์พิเศษ เขาจะแข็งแกร่งเหนือคำบรรยาย

ขณะที่จี้ฮ่าวมองเข้าไปในป่าและคิดเกี่ยวกับพรสวรรค์พิเศษ เสียงที่นุ่มนวลและสุภาพดังออกมาจากในป่า

“สหายข้าที่อยู่ตรงนั้นโปรดระวังด้วย สิ่งมีชีวิตประหลาดกำลังเข้าไปใกล้เจ้า”

ก่อนที่เสียงจะหายไป กระแสลมขนาดใหญ่พร้อมด้วยกลิ่นฉุนปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหัน กระแสลมสีดำพัดก้อนหินก้อนเล็กจำนวนนับไม่ถ้วนตรงไปที่จี้ฮ่าว ความเย็นจากลมสีดำทิ่มแทงไปที่กระดูกของจี้ฮ่าว ร่างกายของเขาเริ่มแข็งหลังจากที่สัมผัสกับกระแสลมนั้น ตอนนี้เขาสูญเสียการควบคุมร่างกายไปครึ่งร่าง

จี้ฮ่าวส่งเสียงตะโกนออกมา วงเวทย์ทั้ง 9 ปรากฏขึ้นบนม่านตาของเขา พลังภายในของเขาถูกส่งไปทั่วร่างกายอย่างรวดเร็ว ร่างกายของจี้ฮ่าวเริ่มร้อนขึ้นทันที มีแสงปรากฏขึ้นมาห่อหุ้มร่างของจี้ฮ่าวเอาไว้

กระแสลมสีดำปะทะเข้ากับแสงนั้นทำให้เกิดเสียงดังขึ้น ก้อนหินนับไม่ทั่วระเบิดออกด้วยพลังของจี้ฮ่าว เขาสามารถทนกับการระเบิดระดับนี้ของหิน 1-2 ก้อนได้สบาย แต่การระเบิดของหินนับร้อยนับพัน มันเกินกว่าที่ร่างกายของจี้ฮ่าวในตอนนี้จะรับได้

ก้อนหินนับพันนับหมื่นกำลังลอยมาพร้อมกับสายลม ภายใต้แรงกดดันอันมหาศาล จี้ฮ่าวถอยหลังออกมา แสงที่ห่อหุ้มร่างกายของจี้ฮ่าวอยู่กำลังสั่นสะเทือน มันเกือบจะถูกบดขยี้โดยกระแสลมสีดำ

แมงป่องยักษ์ขนาดเกือบร้อยฟุต บนหลังของมันมีปีกใสๆ 2 ข้าง ผิวของมันเป็นสีดำลายเขียวๆ แมงป่องยักษ์มองมาที่จี้ฮ่าวจากระยะที่ค่อนข้างไกล มันอ้าปากของมัน และเป่าลมมาทางจี้อ่าวอีกครั้งพร้อมกับก้อนหินนับไม่ถ้วนที่ถูกพัดมาด้วย

ชิงหยิงคำรามออกมา เสียงคำรามของนักรบซินหยีและกาอัคคีดังมาจากทุกทิศทาง ลูกธนูนับสิบพุ่งตรงไปที่แมงป่องจากหลายทิศทาง แต่ทว่าแมงป่องเคลื่อนไหวเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ แม้แต่ธนูของนักรบซินหยีก็ไม่สามารถหยุดมัน

“เจ้าปีศาจ นี่แกกล้าดียังไงมาทำร้ายคนอีกแล้ว”

เสียงนุ่มนวลดังขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับเสียงมีชายหนุ่มสูงกว่าสิบฟุต เขาสวมเสื้อคุมยาวสีขาว ผมกะเซอะกะเซิง ลอยออกมาจากป่า มีกระแสลมเย็นอยู่ใต้เท้าของเขา ชายหนุ่มยกแขนขึ้นปล่อยลำแสงสีฟ้าตรงไปที่จี้ฮ่าว ลำแสงกระจายออกรอบๆตัวจี้ฮ่าว และเปลี่ยนเป็นโล่ป้องกันกระแสลมและก้อนหินที่กำลังลอยมา

ชายหนุ่มยกแขนของเขาขึ้นอีกครั้ง ลูกบาศก์สีทองขนาดใหญ่ลอยขึ้นขึ้นไปบนฟ้า มันหมุนอยู่ในอากาศ และตกลงมาใส่หัวแมงป่องอย่างแรง เกิดเสียงดังเหมือนกับฟ้าผ่า ลูกบาศก์สีทองตกกระแทกหัวแมงป่องแหลกเป็นชิ้นๆ

จี้ฮ่าวมองไปที่ชายหนุ่มด้วยความประหลาดใจ เขาตื่นเต้นจนมือไม้สั่น ชายหนุ่มคนนั้นเพิ่งจะควบคุมพลังธรรมชาติด้วยพลังภายในของเขา พลังเวทย์ของชายหนุ่มคนนี้คล้ายกับจี้ฮ่าว มันใช้หลักการเดียวกับวิชา 9 สัจธรรม ชายหนุ่มคนนี้ต้องฝึกการควบคุมพลังธรรมชาติ ที่แตกต่างจากวิชาของนักเวทย์อื่นๆในดินแดนทางใต้