“ฮ่าๆ ! น้องชาย! ดีใจจังที่ได้พบนายอีกครั้ง!

อุตสาห์มีชีวิตรอดมาจากเซอร์เบอรัสได้ทั้งที จริงๆแล้วเราทั้งคู่ควรจะจัดงานเลี้ยงกันนะ!

 

อ่า … ฉันหนีมันไปได้ยังไงนะเหรอ?

 

อันที่จริงไอ่ตัวที่เรียกว่าเซอร์เบอรัสเนี้ย เป็นนักกินที่แปลกประหลาดทีเดียว มันมีความหิวกระหายรุนแรงมากแต่หากมีเนื้อให้มันกิน มันจะกลายเป็นสุนัขโง่ๆตัวหนึ่ง

 

อีกอย่างที่อยากบอก ฉันเป็นนักชิมอาหารตัวยงเลยนะ

 

ก่อนจะเข้ามาที่นี่ ฉันเอาเนื้อตากแห้งคุณภาพสูงใส่มาในกล่องไอเทมด้วยหล่ะรู้มั้ย ……

กว่าจะรู้วิธีใช้งานมันอย่างถูกต้องเล่นเอาฉันเกือบตายเลย

ーーถึงแขนขวาของฉันจะถูกมันกินไปด้วยก็เถอะ!!!!

 

ตามนั้นแหละ

โย่ว!เอาหล่ะ ฉันจะอธิบายเกี่ยวกับชั้นนี้ให้ฟัง

ーーอย่างที่นายเห็น ที่นี่เป็นหมู่บ้านที่ไม่มีมอนสเตอร์! นอกจากนี้ยังคนอาศัยอยู่ในนี้ด้วย!

 

 

 

ทางทิศใต้มีบันไดไปที่ชั้นถัดไป!

เช่นเดียวกับคนที่นี่ นายสามารถอยู่ในหมู่บ้านนี้ได้ทุกเมื่อหากต้องการ หรือนายจะไปชั้นถัดไปเลยก็ได้

 

แต่เพื่อนยาก ฉันคิดว่ามันแปลกๆ

โลกภายนอก และหมู่บ้านแห่งนี้ …… ฉันคิดว่ามีความแตกต่างอยู่ระหว่างมัน

 

ชาวบ้านที่นี่มีกันไม่ถึงร้อยคน และนายอาจลังเลที่จะอยู่ที่นี่

ก็นะ ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

เหมือนหลายคนที่เลือกอยู่ที่นี่ ไม่ใช่ว่าฉันไม่เข้าใจพวกนั้นนะ

ฉันหมายถึง มันไม่แปลกที่นายจะลังเลใช่มั้ย ~

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากรอดจากเซอร์เบอรัสมาได้……มันสาหัสจริงๆ

 

ยังไงก็ตามฉันตัดสินใจที่จะไม่หยุด และมีจุดมุ่งหมายคือชั้นถัดไป …… ถ้าถามว่าทำไม?

ฉันเป็นนักผจญภัยผู้โดดเดี่ยว ตอนอยู่ที่ญี่ปุ่น ฉันว่างงานและเป็นพวกนีดーーถูกแล้ว ฉันมันพวกมีปัญหาในการเข้าสังคม! อย่าให้ฉันพูดมากกว่านี้เลย มันน่าอาย!

เอาล่ะ เจอกันคราวหน้าเพื่อนยาก! หวังว่านายจะได้อ่านข้อความต่อไปของฉัน!

 

 

 

สายลมพัดพากลิ่นหอมของฤดูใบไม้ผลิเข้าสู่ปลายจมูกของจุนเปย์เป็นระลอก

ภายในเขาวงกตซึ่งเป็นที่ราบสูงล้อมรอบไปด้วยภูเขาอันอุดมสมบรูณ์

แหล่งกำเนิดแสงมาจากฝ้าเพดานที่ปกคลุมไปด้วยต้นมอสสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล

มีแม่น้ำสายน้อยใหญ่ไหลลงช้าๆจากหุบเขา และบ้านไม้เล็กๆหลังคามุงด้วยใบจาก กระจัดกระจายล้อมรอบทุ่งข้าวสาลีสีทอง

ทิวทัศน์ด้านหน้าทำให้จุนเปย์นึกถึงพื้นที่เพาะปลูกของชาวสวิส

 

ーー อ่า หลังจากที่เข้ามาในช่องมิติเขาวงกต จนถึงตอนนี้ก็เจอสภาพแวดล้อมต่างๆมากมายเช่นถ้ำหินปูน ทุ่งหญ้า ป่าทึบ และธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ตรงหน้า ไม่รู้จะอธิบายยังไงเลย

 

อนุภาคสีเงินปกคลุมพื้นผิวของพื้นที่ทั้งหมด

ความหนาแน่นของมันบางเบาแตกต่างกับชั้นก่อนหน้านี้มาก

 

เนื่องจากความหนาแน่นของแสงมีน้อย หากไม่ได้เพ่งเล็งอย่างละเอียดอาจจะคิดว่าตาของคุณแค่กำลังพร่ามัว

 

“อืมม”

 

จุนเปย์เอามือจับคางตัวเอง

ーーทั้งชั้นเป็นพื้นที่ปลอดภัย……มีที่อย่างนี้ด้วยแฮะ

 

เอาล่ะ จุนเปย์ยืนยันสถานะปัจจุบันของเขา

นั่นหมายถึงรูปลักษณ์ภายนอกจริงๆ

เนื่องจากเขาแทบหมดหวังที่จะมีชีวิตอยู่ จึงทำให้เขาไม่ค่อยสนใจมันจนถึงตอนนี้

แต่ในที่สุดเขาก็สามารถอยู่ในสถานที่ ที่ปลอดภัย

 

มีคำว่า“การเลี้ยงดูที่ดีย่อมมีการอบรมที่ดีไปด้วย” แต่ในกรณีนี้อาจจะเป็นความหมายเชิงความปลอดภัย คือเมื่อชีวิตมีความปลอดภัย ย่อมมีการเลี้ยงดู เสื้อผ้า อาหารที่ดีหลังจากนั้น

 

อย่างแรกที่เขาสังเกตเห็น น้ำหนักของเขาลดลงอย่างรวดเร็วหลังจากมาที่นี่

ความสูงของเขายังคงเป็น 162 เซนติเมตร เช่นเดียวกับก่อนหน้า

แต่น้ำหนักตัวลดลงเหลือเพียง 56 กิโลกรัม

เขาไม่เคยคิดถึงมัน แต่ผลกระทบจากการบาดเจ็บรุนแรงอย่างต่อเนื่องทำให้ไขมันและแคลอรี่ของเขาถูกเผาผลาญ นอกจากนั้นยังเป็นเพราะเขาเทแต้มโบนัสทั้งหมดลงไปที่อัตราการหลบหลีกด้วย

 

เขามองไปที่เสื้อผ้าของตัวเอง จากนั้นก็ถอนหายใจออกมา

เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งชุดนี้ เป็นชุดที่ดีที่สุดของเขา…… ซึ่งสภาพมันไม่ต่างอะไรกับผ้าขี้ริ้ว

มีรอยขาดที่แขนซ้ายจนถึงไหล่ และร่องรอยต่างๆจากเซอร์เบอรัส

นอกจากนั้นมันยังสกปรกไปด้วยเลือด โคลน และฝุ่นละอองพร้อมกับส่งกลิ่นเหม็น

อีกครั้งหนึ่งที่เขาถอนหายใจ

แม้แต่ตอนอยู่ในญี่ปุ่น เขาก็ไม่ค่อยสนใจดูแลตัวเองเลย

 

 

ระหว่างที่จุนเปย์กำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับตัวเอง จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งเกิดขึ้น

「ว้าว นายดูเจ๋งมาก! นายไม่ใช่คนที่นี่หนิ……นายมาจากชั้นล่างใช่ไหม……ใช่แน่ๆนายมาจากชั้นล่าง! 」

 

ผมสีเหลืองอ่อนยาวถึงไหล่ มีท่าทางอยากรู้อยากเห็นเหมือนเด็กๆ

เธอสวมเสื้อคลุมสีน้ำตาล อายุของเธอคงจะไล่เลี่ยกับจุนเปย์

ร่างกายของเธอผอมเพรียว แต่มีหน้าอกอวบอูมขนาดใหญ่

 

เธอเป็นสาวสวยคิ้วเข้ม บวกกับดวงตาสีฟ้าซึ่งทำให้เธอมีความน่าสนใจเพิ่มขึ้น ในขณะที่เธอสวมรอยยิ้มอันเย้ายวล มือของเธอกุมอยู่ที่หน้าอก ก่อให้เกิดความหวั่นไหวแก่สายตาจุนเปย์เป็นอย่างยิ่ง

 

“… เธอคือ?”

 

「ฉันชื่อแคทรีนา! อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้! เกิดและโตอยู่ที่ชั้นนี่」

 

「…… หมู่บ้าน?」

 

「 นานมาแล้วนักผจญภัยที่มาจากชั้นล่างสร้างหมู่บ้านขึ้น และผลจากการเพาะพันธุ์ ทำให้พวเรากลายเป็นผู้รอดชีวิต」

 

จุนเปย์ทำสีหน้าแปลกๆนิดหน่อย

 

「เพาะพันธุ์……ฟังดูมีนัยสำคัญแปลกๆ….แล้วเธอ?」

 

「เพราะงั้นฉันมีเรื่องที่จะถามนาย」

 

「ถามฉัน?」

 

“อื้อ” เธอพยักหน้า และเผยรอยยิ้มกว้าง

 

 

「ฉันต้องการ ‘เมล็ดพันธุ์’ ของนาย!」

「……หะ?」

 

ปรากฎความเงียบขึ้นชั่วขณะหนึ่ง

สำหรับจุนเปย์เขาไม่เข้าใจสิ่งที่เธอกล่าวออกมา

 

「เมล็ดพันธุ์….เธอหมายถึงอะไร?」

 

「นายเป็นผู้ชายหรือเปล่าเนี้ย นี่นายไม่รู้จริงๆหรือว่าแกล้งฉันเล่น ?」

 

「ฉันไม่รู้จริงๆว่าเธอพูดอะไร…..ช่วยพูดให้ชัดเจนหน่อยสิ? 」.

 

「ฉันอยากได้น้ำอสุจิของนาย」

 

จุนเปย์หันหลังกลับ เดินจากไปโดยไม่สนใจเธออีก

「ฉันคงนอนไม่พอ…ร่างกายฉันคงอ่อนล้าจนเห็นภาพหลอน….นี่มันถึงจุดที่เห็นภาพเป็นตัวเป็นตนขนาดนี้แล้วเหรอ……หรือเป็นเพราะฉันผิดหวังเกี่ยวกับเรื่องทางเพศ?」

 

มุ่งสู่ชั้นถัดไป จุนเปย์เริ่มเดินไปตามที่ตาลุงนั่นเขียนไว้ในข้อความ

 

「เดี๋ยว!!เดี๋ยว!!  รอก่อน !! นายจะไปไหน! ฉันไม่ใช่ภาพหลอน! ฉันอยู่ที่นี่จริงๆ โอเค๊ !! 」

 

ขณะกำลังปวดหัว จุนเปย์หันไปทางหญิงสาว

 

「ไม่ เธอไม่ใช่สิ่งปกติ คนปกติที่ไหนกันจะขอน้ำอสุจิจากคนที่เพิ่งพบกันครั้งแรก? 」

 

「 เน่ ฉันจะทำยังไงนายถึงจะยอมหยุด! ฉันรู้มันแปลกที่จู่ๆก็พูดเกี่ยวกับน้ำอสุจิ มันไม่เหมาะสำหรับคนที่พบกันครั้งแรก …..งั้นฉันขอเปลี่ยนคำพูดได้มั้ย?

 

「เปลี่ยนคำพูด?」

 

 

 

「ฉัน…..กับนาย」

 

「กับฉัน?」

 

「ฉันอยากมีเซ็กส์กับนาย !」

 

“เห้อ”  จุนเปย์ถอนหายใจยาว

「ดูเหมือนว่ามันเป็นภาพหลอนจริงๆ ฉันคงนอนไม่พอ…… 」

 

จุนเปย์หันกลับไปทางเดิมอีกครั้ง และกำลังเดินขึ้นบันไดเพื่อไปชั้นถัดไป

 

「เดี๋ยว เดี๋ยว! รอก่อน !! เห้! ฉันไม่ใช่ภาพหลอน! ฉันอยู่ที่นี่โอเค๊ !! 」

 

เธอคว้าไหล่ของจุนเปย์ หญิงสาวที่ชื่อว่าแคทรีนาทำหน้าตาจริงจัง

 

「ฉัน……ไม่  เราต้องการเมล็ดพันธุ์ ฉันอยากให้นายฟังฉันดีๆอีกครั้ง อีกอย่างฉันชื่อ แคทรีนา! อย่าเรียกฉันว่า “เธอ”! 」

 

คิ้วของจุนเปย์ยกขึ้นในขณะที่ฟังคำตอบเด็กสาว

 

「เรา …… งั้นเหรอ ดูเหมือนว่ามีเหตุผลบางอย่าง」

 

「ถูกต้อง มีความจำเป็นที่ฉันต้องการเมล็ดพันธุ์ของนาย」

 

ภายในป่าเป็นพื้นที่สลัวล้อมรอบด้วยหญ้าสูง

แคทรีนาแนะนำให้จุนเปย์นั่ง จากนั้นพวกเขาก็หันหน้าคุยกัน

 

「คืองี้ คนที่ก่อตั้งหมู่บ้านของเรามี 7 คน และตอนนี้ทั้งหมดมีประมาณ 50 คน แน่นอนว่าเราหลีกเลี่ยงการแต่งงานกันระหว่างพวกเดียวกัน หรือเครือญาติไม่ได้」

 

 

 

ขณะที่ทำหน้าจริงจัง แคทรีนาก็ยืนขึ้นแล้วผลักจุนเปย์ลงไปนอน

กลิ่นหอมจางๆจากผมของเธอลอยเข้าจมูกของจุนเปย์

 

「ฉันเข้าใจแล้ว 」

 

เธอพยักหน้าอย่างยินดี ที่จุนเปย์ไม่ได้ต่อต้าน เธอเริ่มใช้มือลูบไล้ไปบนตัวเขา

ตั้งแต่คอเสื้อーーเธอลากนิ้วผ่านลงไปด้านล่างด้วยสัมผัสแผ่วเบา ราวกับไม่รู้ว่ามันจะสิ้นสุดลงที่จุดไหน

 

「นี่คือคำพูดของหนึ่งในผู้ก่อตั้งหมู่บ้านนี้ ……การแต่งงานกันระหว่างเครือญาติ จะทำให้เด็กมีโอกาสได้รับยีนด้อยมากกว่าปกติถึง 2 เท่า ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคทางพันธุกรรมーーนายเคยได้ยินไหม」

 

「อืม เห็นฉันแบบนี้……แต่ฉันก็มาจากโลกที่มีความก้าวหน้านะ ฉันเข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังพยายามพูด」

 

「เพราะอย่างงั้นฉันถึงต้องการเมล็ดพันธุ์ของนาย! นักผจญภัยที่มาจากชั้นล่างเปรียบได้กับของมีค่า สำหรับผู้หญิงทุกคนในหมู่บ้านนี้ .! อย่างน้อยก็ทำมันกับฉัน! เมล็ดพันธุ์ของนายโปรดมอบให้ฉันเถอะนะ! 」

 

โป๊ก! เสียงเขกดังฟังชัดยิ่ง กำปั้นของจุนเปย์วางอยู่บนหัวของแคทรีนา

 

「เอาล่ะฉันเข้าใจแล้ว ตอนนี้หยุดคลำเป้าของฉันก่อนได้ไหม?

 

แคทรีนาทำหน้าบูดพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้าเล็กน้อย

 

 

「ฉันบอกนายว่า…..ต้องการเมล็ดพันธุ์ของนาย….. 」

 

 

 

“หืม…… ” จุนเปย์มองไปรอบๆด้วยความประหลาดใจ

「ฉันกำลังถูกล้อม? ดูจากเสื้อผ้าและอุปกรณ์ต่างๆ พวกเขาเป็นเพื่อนของเธอใช่มั้ย?」

 

รอบๆจุนเปย์และแคทรีนา มีผู้คนที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดของต้นไม้

เสื้อผ้าที่มีระดับอารยธรรมใกล้เคียงกับแคทรีนาーーชายและหญิงมากกว่าสิบคนเห็นได้ชัดว่าเป็นชาวบ้านในหมู่บ้านนี้

 

ทุกคนมีธนูและหอก

เห็นความสงสัยของจุนเปย์ แคทรีนาหัวเราะอย่างไร้เดียงสา

 

「คือเรากำลังอยู่ในระหว่างการล่าสัตว์ ขณะเดินทางเราก็บังเอิญพบกับนาย อาหารเป็นสิ่งสำคัญแต่เมล็ดพันธุ์มีความสำคัญยิ่งกว่า และตอนนี้คนที่สวยที่สุดกำลังอยากมีเซ็กส์กับนาย」

 

「คนอะไรชมตัวเอง……และการขอมีเซ็กส์ เธอเลือกใช้คำที่มันดูดีกว่านี้ได้ไหม เห้อ ปวดหัวจริงๆ」

 

「นายจะขึ้นไปที่ชั้นถัดไปเลยเหรอ? ถ้าเป็นไปได้ ขอให้นายพักในหมู่บ้านของเราสักระยะหนึ่งได้มั้ย ระหว่างนั้น นายจะได้คิดเกี่ยวกับเรื่องให้เมล็ดพันธุ์ด้วย」

 

สักพักหนึ่งหลังจากครุ่นคิดจุนเปย์ก็พยักหน้า

 

「บางทีอาจเป็นโอกาสดีที่จะได้รับข้อมูลข่าวสารต่างๆเกี่ยวกับเขาวงกต」

 

「ถ้าเป็นไปได้ฉันอยากจะไปที่หมู่บ้านทันที แต่ …… 」

 

「เธออยู่ระหว่างการล่าสัตว์ใช่ไหม? ถึงฉันไม่ค่อยสนใจมันเท่าไหร่ แต่ฉันจะตามไปจนกว่าพวกเธอจะกลับไปยังหมู่บ้าน」

 

 

 

 

หลังจากนั้นประมาณ 2 ชั่วโมง

 

พวกเขาเดินไปตามเส้นทางในป่าเพื่อไปยังสถานที่หนึ่ง

ทุกอย่างเงียบงันーーไม่มีใครพูดอะไรทั้งสิ้น

นอกจากนกป่าที่ทำเสียงเจี๊ยวจ๊าว ก็มีเพียงสายลมและเสียงหายใจของเหล่าคณะเดินทางเท่านั้น

 

กว่าสิบคนที่มีอุปกรณ์ครบครัน กำลังจ้องรออะไรบางอย่าง

ถูกต้องรวมทั้งจุนเปย์ทุกคนมุ่งมั่นต่างจ้องมองไปยังจุดเดียวกัน

ในสถานที่เปิดโล่งล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ มีรูปแบบทรงเรขาคณิตบางอย่างส่องแสงสว่างจ้าอยู่

 

มันเป็นวงเวทย์รัศมีประมาณสิบเมตร

 

ภายในพุ่มหญ้าจุนเปย์ถามแคทรีนที่กำลังเงียบอยู่

 

「เอ่อ ……แคทรีน…… นี่เรากำลังรออะไรอยู่」

 

「ชั้นนี้ไม่มีมอนสเตอร์ หรืออันตรายอะไรสักหน่อย」

 

「อืม มันเป็นพื้นที่ปลอดภัย ถ้ามีบางอย่างเช่นเซอร์เบอรัส……เราคงไม่ได้อยู่ที่นี่」

 

「 แต่ถ้าเป็นมอนสเตอร์ปกติ ฉันบอกก่อนหน้านี้ว่าเรากำลังล่าสัตว์ใช่ไหม?」

 

จุนเปย์ประหลาดใจเล็กน้อย

 

「ใช่ ฉันได้ยินว่าเธอกำลังล่า …… แต่ฉันคิดว่ามันเป็นสัตว์ธรรมดา……ไม่นึกว่าเธอจะหมายถึงพวกมอนสเตอร์」

 

「สัตว์ป่าทั่วไปจะไม่ปรากฏบนชั้นนี้ มีเพียงมอนสเตอร์ที่หลุดเข้าบ้างเป็นครั้งคราว ….. และนั่นทำให้เราสามารถออกล่าได้ในบางช่วงของเวลาเท่านั้น และเมื่อมานาในวงแหวนเวทย์เทเลพอร์ตถูกเติมเต็มーーอย่างตอนนี้ ดูสิ” 」

 

 

หลังจากแคทรีนาพูดจบ ใจกลางวงเวทย์มีบางอย่างสูงประมาณ 130 ซม. โอนิ*ขนาดเล็กที่เรียกว่าก๊อบลิน 7 ตัวปรากฏตัวขึ้น

—————————————————
*โอนิ (ญี่ปุ่น: 鬼 oni) คือ โยไกในความเชื่อของลัทธิชินโตในประเทศญี่ปุ่น อาจเทียบได้กับโอเกอร์ในความเชื่อของตะวันตก คือยักษ์สูงใหญ่ที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์
—————————————————

 

ก๊อบลินถูกกำหนดให้เป็นมอนสเตอร์ที่อ่อนแอที่สุดในโลกของเกมส์ RPG ยอดนิยมทั้งหลาย

รูปร่างของก๊อบลินที่ปรากฏในตอนนี้ดูไม่ต่างอะไรกับเด็กนักเรียนประถมของมนุษย์

อย่างไรก็ตามกล้ามเนื้อของพวกมันมีแต่กล้าม พร้อมกับเขี้ยวแหลมคมในปาก

 

ในเวลาเดียวกันกับที่มอนสเตอร์ปรากฏ พายุลูกศรก็พุ่งออกมาจากทุกทิศทุกทาง

 

ฉึก ฉึก ฉึก ฉึก!  หลังจากสิ้นเสียงของลูกศร

ก๊อบลินมากกว่าหนึ่งตัวก็กลายเป็นศพ

พวกเขาเปลี่ยนจากธนูเป็นหอกจากนั้นวิ่งเข้าไปจัดการส่วนที่เหลือ

 

สภาพก๊อบลินดูเละเทะーーเนื่องจากพวกมันถูกแทงหลายครั้ง

เลือดเจิ่งนอง เศษเนื้อปลิวว่อน อวัยวะต่างๆกระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นที่

หลังจากศพสลายไป เสียงโห่ร้องจากผู้คนก็ดังขึ้น

แคทรีนาพยักหน้าอย่างพอใจ จากนั้นจึงเปิดปากพูด

 

「มันคือชัยชนะ」

 

「 พวกเธอดูโหดร้ายจัง…. 」

 

และอีกครั้งที่วงเวทย์เริ่มส่องแสง

ผู้ชายและผู้หญิงถือหอกวิ่งออกจากที่นั่น และซ่อนตัวอยู่ในเงามืดของต้นไม้เหมือนเดิม

 

แสงพุ่งออกมายังกับฟ้าผ่า เปรี้ยง! บรรยากาศรอบๆสั่นสะเทือน

 

หลังจากแสงเริ่มอ่อนลงーーก็ปรากฎภาพเลือนลางของโอนิขนาดยักษ์

สูงกว่า 3 เมตร ผิวสีแดงเข้ม แขนของมันมีมัดกล้ามกว้างเท่าเอวของผู้ใหญ่

มันใส่กระโปรงที่ทำจากใบไม้ เปลือยท่อนบน นอกจากนั้นหัวของมันยังมีเขางอกออกมา

 

สิ่งที่เห็นมันーーเป็นโอเกอร์ (โอนิ)

 

แค่มองไปที่รูปลักษณ์ จุนเปย์ก็รู้สึกแย่ขึ้นมาทันที เขาเปิดใช้สกิล【 ตรวจสอบ 】

 

【 โอเกอร์ 】

ระดับความอันตราย▼ ▼ ▼ D

ลักษณะเฉพาะ          ▼▼▼  มอนสเตอร์ประเภทโอนิ มีถิ่นอาศัยอยู่ใกล้เคียงกับมนุษย์ มีความอันตรายค่อนข้างสูง ติดอยู่ใน 5 อันดับของเควสปราบปรามที่กิลด์ต่างๆร่วมกันตั้งขึ้น พลังโจมตีสูง และความถึกที่มาพร้อมกับร่างกายใหญ่โต พวกมันถือเป็นฝันร้ายของเหล่านักผจญภัยมือใหม่ หากคุณสามารถล่ามอนสเตอร์ตัวนี้ได้ ……คุณอาจได้รับการต้อนรับอย่างดีจากพนักงานต้อนรับของกิลด์

 

เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้พวกเขายิงธนูเข้าใส่โอเกอร์จากระยะไกล

แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาได้ใช้ลูกธนูไปจำนวนมากก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นเวลานี้ธนูของพวกเขาจึงหมดลงอย่างรวดเร็ว

 

ในขณะที่มันดึงลูกธนูนับสิบออกจากร่างกายเสร็จ โอเกอร์ก็วิ่งเข้าไปหาคนที่อยู่ใกล้สุดทันที

แม้ว่าชายคนนั้นจะรีบวิ่งหนีด้วยความกลัว แต่ทว่าไม่อาจทันความเร็วที่แตกต่างระหว่างพวกมันได้

 

เขาถูกจับทันที มันคว้าไหล่ของเขา

 

「 เห้ย แคทรีนา…..นั่นมันโอเครไหม? ดูมอนสเตอร์ตัวนั้นสิ …… 」

 

ยังไม่ทันสิ้นสุดคำพูดของจุนเปย์ ไหล่ของผู้ชายคนนั้นก็ถูกโอเกอร์บีบแตก

 

แคร๊ก! หึหึหึ พร้อมกับเสียงหัวเราะของโอเกอร์ กระดูกสีขาวก็ทิ่มทะลุผิวหนังออกมาให้เห็น ไหล่ของชายคนนั้นฉีกออก เลือดพุ่งกระจายราวกับดอกไม้สีเลือดที่กำลังเบ่งบาน

「ไม่เป็นไรหรอก 」

แคทรีนาตอบกลับจุนเปย์ด้วยสีหน้าที่เป็นปกติ

 

「แผลนั้น …… ถ้ากังวลว่ามันจะรักษาได้หรือไม่ มันไม่มีปัญหาหรอก」

 

「ไม่ใช่ปัญหานั่น …… 」

 

「ถึงความหนาแน่นของมันจะน้อย แต่ยังไงที่นี่ก็เป็นพื้นที่ปลอดภัย! แม้ว่าแขนจะขาดสักข้างหรือสองข้าง……พวกมันจะกลับมาเป็นปกติเองภายในสองสัปดาห์! 」

 

「ไม่ ฉันไม่ได้หมายถึงปัญหาเกี่ยวกับการรักษา …… แต่เมื่อกี่เขาเกือบจะตายจริงๆแล้วเธอไม่เห็นเหรอ 」

 

เหมือนที่จุนเปย์พูด โอเกอร์หัวเราะขณะที่จับหน้าของชายคนนั้นอยู่

ถ้าโอเกอร์ตัวนั้นออกแรงเพิ่มอีกเล็กน้อยーーมันไม่ยากที่จะจินตนาการว่าหัวของชายคนนั้นจะระเบิดออกเหมือนแตงโมลูกหนึ่ง

 

「ถูกต้องที่รัก …… คงรักษาได้ถ้าเขาไม่ตาย หมายถึงถ้าเราทำให้เขาไม่ตาย」

 

「ที่รัก……..ฉันไปเป็นที่รักของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่…. ?」

 

ในขณะที่จุนเปย์กล่าว แคทรีนากำลังขว้างก้อนหินไปยังโอเกอร์

ดูเหมือนว่าการกระทำนั้นจะดึงดูดความสนใจของโอเกอร์ไม่น้อย

 

ผู้ชายที่กำลังจะถูกบี้สมอง ถูกเหวี่ยงทิ้งไปด้านข้าง

 

แคทรีนายิ้มมองไปที่จุนเปย์อย่างซุกซน

 

「 …… เธอกำลังทำอะไร? 」

 

 

 

「เราต้องการเมล็ดพันธุ์ที่แข็งแกร่ง ให้ฉันเห็นพลังของคุณ」

 

“อา ~ …… ”  เขาถอนหายใจลึก ๆ

「ถ้าฉันจะไปฆ่าคิโดะกับพวกที่เหลือ ……ฉันต้องรู้ว่าตอนนี้ฉันแข็งแกร่งแค่ไหน」

 

「ฉันอยากรู้อยู่พอดีว่าหากต่อสู้กันตามปกติ ผลมันจะเป็นยังไง」

 

ไม่เพียงแต่พูดจุนเปย์เอาปืนพกออกจากเอว

 

อันดับแรก เขาหลบหลีกการโจมตีที่ร้ายกาจของโอเกอร์หลายครั้ง

ด้วยเขี้ยวอสูรทำให้โอเกอร์ต้องได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง

หลังจากที่ฝ่ายตรงข้ามล้มลงーーแม๊กนั่ม.41 ก็ทำให้หัวของมันระเบิดเป็นจุล

 

เห็นได้ชัดว่าการต่อสู้ครั้งนี้เป็นเพียงการยืนยันความมั่นใจของจุนเปย์เท่านั้น

ーー หากถามว่าตอนนี้เขาสามารถฆ่าคิโดะและพวกที่เหลือได้หรือไม่

คำตอบคือใช่

 

การเอาชนะมอนสเตอร์ระดับ D คือหลักฐาน

โอเกอร์ 1 ตัวและก๊อบลิน 7 ตัว กลายเป็นซากศพกระจัดกระจาย

 

ตามที่พระเจ้าได้อธิบายไว้ กฎของโลกนี้แตกต่างจากโลกที่ผ่านมา

เมื่อสัตว์และสิ่งใดๆที่เสียชีวิต มวลสารทั้งหมดจะถูกเปลี่ยนเป็นแสง จากนั้นมันจะกลายเป็นมานากระจายไปในชั้นบรรยากาศ

ด้วยเหตุนี้พวกเนื้อต่างๆหลังจากดรอปลงมา มันจะถูกเปลี่ยนให้อยู่รูปแบบของการ์ด

และวัตถุประสงค์ของการล่ามอนสเตอร์ครั้ง ก็คือการล่าเนื้อ

 

「 แคทรีนา! ฉันยกให้เธอ! 」

 

เป็นเสียงที่ทำให้แคทรีนาชุ่มชื่นหัวใจ

 

เธอเดินเข้าไปสัมผัสกับซากศพของก๊อบลินทีละตัว จนทั้งหมดกลายเป็นการ์ด

「เธอเปิดใช้สกิล【บุชเชอร์】ในขณะที่สัมผัสพวกมัน」

ภาพที่เห็นไม่ต่างอะไรกับเวลาที่จุนเปย์สัมผัสมอนสเตอร์แล้วมีไอเทมดรอปออกมา แต่มันกลับทำให้เขารู้สึกแปลกใจ

 

ถ้าคุณพูดว่าการชำแหละ การลอกหนัง การตัดเนื้อออกเป็นส่วนๆ……มันเป็นงานทีคุณจะต้องทำเป็นประจำถึงจะชำนาญ

“แต่ …… ”  ตอนนี้จุนเปย์เปลี่ยนความคิดแล้ว

 

หลังจากไม่กี่นาทีมอนสเตอร์ทุกตัวที่แคทรีนาสัมผัสได้เปลี่ยนเป็นการ์ด ……และที่น่าแปลกใจ การ์ดทั้งหมดที่ดรอปออกมามันคือ “เนื้อ”

 

「 โฮ่ย แคทรีนาพวกมันทั้งหมดคือ เนื้อ? ….รวมแล้วเป็นเนื้อถึง 35 ใบ? จนถึงตอนนี้รู้มั้ยฉันฆ่ามอนสเตอร์ไปมากมาย แต่ฉันเคยดรอปได้เนื้อแค่ประมาณ 30% เอง 」

 

“อื้อ เกี่ยวกับเรื่องนั้น”       แคทรีน่าหัวเราะเบา ๆ

「มันคือสกิลแล่เนื้อ นายไม่ได้ยินฉันเรียกใช้สกิลเหรอ?」

 

「 …… สกิล? 」

 

「ถูกต้อง สกิล【บุชเชอร์】ーー ระดับซุปเปอร์ 」

 

「 ระดับซุปเปอร์ ….สกิลนี้เป็นถึงสกิลระดับสูง? 」

 

จากคำถามของจุนเปย์ แคทรีนาตอบด้วยแววตาเศร้าหมอง

 

「 เราสามารถเพาะปลูกธัญพืชได้มากมาย แต่เกี่ยวกับเนื้อสัตว์หรือแหล่งโปรตีนเราไม่สามารถหาได้เลย」

 

「ไม่มีโปรตีน ……มนุษย์จะใช้ชีวิตอยู่ได้ยังไง…… 」

 

「ถูกต้องนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมสกิลต้องอยู่ในระดับซุปเปอร์ โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในชั้นนี้ เพื่อให้สามารถอยู่รอดการฝึกฝนสกิลให้อยู่ในระดับนี้เป็นสิ่งจำเป็น」

 

「……?」

 

「ถ้าไม่ใช่ระดับซุปเปอร์โอกาสดรอปไอเทมจะน้อยกว่านี้มาก  และบางทีสิ่งที่ดรอปออกมาอาจเป็นอย่างอื่นเช่นผิวหนัง นั่นถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงเลยหล่ะ」

 

「ฉันฝึกฝนทักษะนี้ตั้งแต่ฉันเด็กกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้  แหล่งที่มาของโปรตีนในชั้นนี้มีเพียงมอนสเตอร์เท่านั้น และมันโผล่ออกมานานๆครั้งเท่านั้น ถ้าไม่มีสกิลนี้หมู่บ้านคงล่มสลาย」

 

“ยังไงก็ตาม”              แคทรีนามองไปที่จุนเปย์ด้วยสายตาที่เปล่งประกาย

 

「การฆ่าโอเกอร์ในทันที ……ด้วยความเร็วมหาศาล …..สมกับเป็นที่รักของฉันจริงๆ」

 

「ฉันไม่ใช่ที่รักของเธอ 」

 

แคทรีนาดึงมือขวาของเขามาทาบไว้ที่อก

 

「ไม่ต้องเขิลหรอก คืนนี้ฉันจะทำให้นายต้องติดใจ」

 

การมีใครสักคนมาชอบไม่ได้เป็นเรื่องแย่ แต่มันติดที่ว่าเธอเพียงต้องการยีนของเขา นั่นทำให้เขารู้สึกไม่ยินดีกับมันสักเท่าไหร่

 

มีชายและหญิงกว่าสิบคนทกำลังมองจุนเปย์จากไกลๆ

อายุของพวกเขามีตั้งแต่วัยรุ่นถึง 20 กว่าๆ

 

หนึ่งในนั้นกล่าวออกมา

「การเคลื่อนไหวเมื่อกี้…… มันน่าทึ่งจริงๆ ค่าหลบหลีกนายมีเท่าไหร่… ? 」

 

「 เอ่อ 3000 」

 

ท้ังกลุ่มตื่นตระหนก

 

「3000?!  นายทำยังไงมันถึงเยอะขนาดนี้? !!

「ก็……เลเวลของฉันเกิน 600 ไปแล้ว…… 」

 

「เกิน 600?!! ทำได้ยังไง?」

 

ชายคนหนึ่งที่มีหนวดเคราซึ่งดูเหมือนจะอายุมากที่สุดเอ่ยปาก

ก่อนหน้านี้มีผู้กล่าวว่านักผจญภัยที่เข้ามามีมากกว่า 500 คน ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าชั้นล่างจากที่นี่ล้วนเป็นดั่งขุมนรก」

 

จุนเปย์ผู้ที่ผ่านขุมนรกเหล่านั้นมาแล้ว รู้สึกภูมิใจที่ได้เห็นสายตาชื่นชมจากผู้คนรอบข้าง

 

「น่าทึ่งจริงๆนักผจญภัยที่มาจากชั้นล่าง และแคทรีนาจะได้รับเมล็ดพันธุ์จากคนแข็งแกร่งแบบนี้」

 

「เห้ย ฉันไม่ได้บอกว่าจะให้เมล็ดพันธุ์อะไรนั้นกับพวกนายสักหน่อย…… 」

 

เมื่อได้ยินจุนเปย์กล่าว ช่วยไม่ได้ที่ทั้งกลุ่มจะรู้สึกผิดหวัง

แคทรีนาเองก็เช่นกัน

 

「เดี๋ยว…..ทำไมนายใจร้ายแบบนี้? 」

 

สายตามองมาพร้อมกับน้ำตาที่คลอเบ้า

 

จุนเปย์กำลังครุ่นคิด

ーーถึงจะดูปลอดภัย แต่ฉันก็ไม่อยากจะอยู่ที่นี่นานนัก

 

แคทรีนาคลายความเศร้าแต่เจือปนไปด้วยความสงสัยแทน

「หากค่าหลบหลีกของนายมี 3000 แล้วค่าอื่นๆของนายจะเป็นยังไง …… 」

 

「อ่ะ…ให้ดูเลยคงจะเร็วกว่าอธิบายด้วยคำพูด」

 

 

จุนเปย์ยื่นแผ่นแสดงสเตตัสจากเอวของเขาให้แคทรีนา

「 นี่เป็น  สเตตัสที่แปลกมากเลยแฮะ」

 

 

【 ทาเคดะ จุนเปย์ 】

เลเวล▼▼ 637

HP                ▼ ▼ 30                      MP ▼▼ 175

พลังโจมตี    ▼▼ 255 (สเตตัสพื้นฐาน 5)

พลังป้องกัน ▼▼ 5        ค่าหลบหลีก ▼▼ 3000

 

ปรากฎรอยยิ้มแปลกๆบนในหน้าของเธอ

「ฉันขอถามนายหน่อยได้ไหม」

 

「อะไรเหรอ?」
「สเตตัสพื้นฐานของพลังโจมตีนายคือ 5 หน่วย…นั่นหมายความว่าจริงๆแล้วนาย 」

 

“อาฮะ”                    จุนเปย์พยักหน้า

「ปกติแล้วฉันอ่อนแอกว่าพวกที่อยู่ตรงนั้นซะอีก」

 

“ฉันเข้าใจแล้ว”     แคทรีนาพยักหน้าจากนั้นคว้าแขนของจุนเปย์ไว้

พลังโจมตีพื้นฐานของฉันอยู่ที่ 80 หน่วย ตามปกติหากวัดกันที่พลังโจมตีและพลังป้องกันแล้ว ไม่แปลกเลยที่ตอนนี้นายจะหนีไปจากฉันไม่ได้!! 」

 

จุนเปย์ยังคงไม่เข้าใจสถานการณ์

「เฮ้ ……เจ็บ …… ทำไม …… เธอแรงเยอะแบบนี้」

 

มุมปากของแคทรีนายกขึ้นด้วยรอยยิ้ม

「ตามแผนที่วางไว้ตอนแรก…..ในระหว่างการจัดงานเลี้ยงฉันจะวางยานาย แต่ดูเหมือนว่ามันไม่จำเป็นแล้ว」

 

 

 

ในตอนนั้นเองที่จุนเปย์สัมผัสได้ถึงดาเมทรุนแรงจากด้านหลังศีรษะ

 

สมองภายในหัวของเขาสั่นเหมือนพุดดิ้ง

 

ทุกอย่างที่เขาเห็นตอนนี้เป็นภาพกลับด้าน

 

ทัศนียภาพค่อยๆมืดลง ในขณะที่เขาหันไปมองด้านหลัง

 

ภาพของกระบองーーเป็นชายที่คุยกับเขาด้วยเสียงสงบก่อนหน้านี้

“บ้าอะไรเนี้ย” ก่อนที่จิตสำนึกของจุนเปย์จะดับลง เขาเปิดใช้งานสกิล【 ตรวจสอบ 】

ーーปกติสกิล【ตรวจสอบ】จะใช้ไม่ได้กับมนุษย์ แต่ตอนนี้มันกลับใช้งานได้ปกติ นั่นหมายความว่ากลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้ถูกจัดอยู่ในประเภทดังกล่าว

 

【ชนเผ่าในหุบเขา】

 

ลักษณะเฉพาะ▼▼กลุ่มคนที่ตั้งรกรากอยู่ในหุบเขาภายในดันเจี้ยน ตามบรรพบุรุษ เพื่อหลีกเลี่ยงการถดถอยของพันธุกรรม พวกเขาใช้วิธีการทั้งหมดเพื่อให้ได้ยีนใหม่ (นักผจญภัย) ถึงแม้จะเป็นมนุษย์ แต่มีนิสัยดิบเถื่อนราวกับมอนสเตอร์ พวกเขาเคลื่อนไหวด้วยกฎและศีลธรรมที่แตกต่างกับคนปกติ พวกเขาป่าเถื่อน เผ่าพันธุ์ของพวกเขามีเทคนิคที่เรียกว่า【 บุชเชอร์ 】เพื่อให้ได้มาซึ่งโปรตีนจากสัตว์ เนื่องจากอยู่ในสภาพแวดล้อมพิเศษ โปรตีนเป็นสิ่งที่หากินได้ยาก พวกเขาจึงมีวัฒนธรรม “กินเนื้้อคน” และ “ผสมพันธุ์กันเอง”

 

—————————————————————

จุนเปย์ลืมตาตื่นขึ้นーー เขาอยู่ในห้องที่มีกลิ่นเหม็นอับ

ความกว้างของห้องเท่ากับ 10 เมตร มีประตูที่ทำจากเหล็กเส้นตรงบันไดทางเข้า

 

ไม่แปลกหากจะนึกถึงภาพของคุกใต้ดิน

 

ที่มุมหนึ่งของห้องมีเครื่องมือรูปร่างน่ากลัวพึลึกอยู่

มันดูเหมือนเตียงผ่าตัดที่มีอุปกรณ์พร้อมสำหรับตรึงแขนขาของผู้ป่วยไว้

 

กลิ่นเหม็นสาบโชยมาพร้อมกับกลิ่นของความตาย

ถึงพื้นและอุปกรณ์จะถูกทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคอย่างดี แต่มันคงเป็นเรื่องยากที่จะกำจัดกลิ่นที่เกิดจากกระบวนการซ้ำๆมาอย่างยาวนาน

 

ณ เตียงตรงข้ามกับที่เห็น ทั้งแขนและขาของจุนเปย์ถูกยึดติดด้วยเข็มขัดหนัง

 

「……นี่มัน?」
จากคำถามของจุนเปย์ แคทรีนาตอบพร้อมกับมองลงไปที่เขา

 

「ที่นี่คือโรงงาน」

 

「……โรงงาน?」

 

「ใช่ ถูกต้อง โรงงานแปรรูปวัตถุดิบสำหรับเพาะเนื้อ」

 

ลมหายใจถูกสูดเข้าลึกก่อนจะปล่อยออกมา เมื่อนึกถึงสถานการณ์เลวร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ในตอนนี้   จุนเปย์ถามในขณะมีเหงื่อผุดออกจากรูขุมขนตามร่างกาย

 

「เธอพูดว่า ……เพาะเนื้อ? 」

 

แคทรีนาพยักหน้า

 

「อาหารสำหรับชั้นนี้ …… ธัญพืช …… พวกมันมีมากพอ วิตามินและเกลือแร่……ก็ยังมีมากจนเกินไป 」

 

“เหลือแค่”          เธอเสริม

 

「เป็นเวลานาน …… ผู้คนที่อยู่ที่นี่ ……พวกเรา ……แทบจะสิ้นหวังเกี่ยวกับโปรตีน ไม่มีถั่ว ไม่มีแมลงหรือสัตว์ มีเพียงเนื้อจากมอนสเตอร์ที่ปรากฏขึ้นเพียงบางครั้ง …… แต่ถึงอย่างนั้นจำนวนของมันก็ยังไม่เพียงพอ」

 

 

「ไม่….. แต่ …… เพาะเนื้อ……มันหมายความว่ายังไง? ใช่การเพาะพันธุ์มนุษย์เพื่อทำเป็นอาหารหรือเปล่า?

 

「เปล่า วิธีนั้นไม่ค่อยได้ผลลัพธ์ที่ดีเท่าไหร่」

 

「แล้วการเพาะพันธุ์ หรือเพาะเนื้อที่ว่าหมายถึง …… ? 」

 

「ที่นี่คือพื้นที่ปลอดภัย ฉันไม่คิดว่าจะต้องมีคำอธิบายอะไรอีก? 」

 

จุนเปย์ถึงกับลืมหายใจ

เมื่อนึกถึงความจริงที่เคยเกิดขึ้นกับร่ายกายตัวเองก่อนหน้านี้ และสิ่งที่แคทรีนาเคยพูด

 

「ถึงแม้ว่าความหนาแน่นของมันจะน้อย แต่ยังไงนี่ก็เป็นพื้นที่ปลอดภัย! แม้ว่าแขนจะขาดสักข้างหรือสองข้าง……พวกมันจะกลับมาเป็นปกติเองภายในสองสัปดาห์! 」

 

ส่วนคำว่าเพาะพันธุ์

ถึงเขาไม่ต้องการ แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรตัวเองได้ในตอนนี้

 

「อย่าบอกนะ…..ว่าเธอจะตัดแขนขา ……แล้วรอให้มันฟื้นฟูใหม่…..เธอผลิตเนื้อทำเป็นอาหารด้วยวิธีการนี้ ? 」

 

「มันเป็นวิธีเดียวที่ทำให้พวกเราสามารถมีชีวิตอยู่」

 

「หากมีนักผจญภัยหลงเข้ามา เราจะใช้พวกเค้า และ……หากไม่มีนักผจญภัย เราก็จะใช้พวกของเรา ก่อนหน้านี้คนที่ถูกมอบหมายให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ คือพี่ชายของฉัน」

 

แคทรีนาจับมือของเธอ

 

「กฎง่ายๆ นายจะต้องอยู่ที่หมู่บ้านของเรา คอยมอบอสุจิ และแขนขา เมื่อพวกเราต้องการมัน 」

 

 

ในขณะที่จุนเปย์เงียบ แคทรีน่ายังคงพูดต่อไป

「ยังไงก็ตาม นอกเหนือจากเรื่องดังกล่าว เราจะรักษาและให้ความเคารพนายเต็มที่」

 

「ขอโทษจริงๆนะ」

 

หวืดดดดดดดด !       ฉับบบบ !
เธอหยิบมีดยาวหนึ่งเมตรออกมา จากนั้นเหวี่ยงมันอย่างแรงลงไปที่ต้นขาขวาของเขา

 

จุนเปย์กัดฟันข่มความเจ็บปวด แต่ก็ยังมีเสียงคำรามเล็ดลอดออกมา

 

หลังจากความเจ็บปวดผ่านพ้นไป ความรู้สึกร้อนวูบวาบก็เข้ามาแทนที่

เลือดสาดกระเซ็นราวกับน้ำพุ แต่ถึงอย่างนั้นก็ดูเหมือนว่ามันยังไม่รุนแรงพอที่จะทำให้ขาขวาของเขาขาดออกจากลำตัว

 

หลังจากครวญครางด้วยความเจ็บปวด เขาก็ไม่สามารถพูดอะไรได้อีก “ฟู่ ” จุนเปย์หายใจพร้อมกับไหล่ที่สั่นไหว ในขณะที่แคทรีน่าเอ่ยปากขอโทษเขาอีกครั้ง

 

「……ฉันขอโทษ ฉันจะรีบทำให้มันขาดเดี๋ยวนี้」

 

พร้อมกับคำเหล่านั้น มีดขนาดใหญ่ก็หวดลงตรงเนื้อต้นขาที่ยังไม่ขาดออกจากกัน

เมื่อได้ยินเสียงโลหะจากมีดและเตียงกระทบกัน จุนเปย์ก็สูญเสียขาข้างนั้นไปอย่างสมบรูณ์

 

「 อา ……อ๊ากกกกกกกกกกกกกก !! 」

 

ขณะที่จุนเปย์กำลังตะโกนร้องอย่างบ้าคลั่ง แคทรีน่ารีบปฐมพยาบาลแผลทันที

เธอห้ามเลือดของจุนเปย์โดยใช้ผ้าพันรัดไว้อย่างแน่นหนา

 

จากนั้นจุนเปย์ก็ถูกปล่อยให้ห้อมล้อมด้วยอนุภาคสีเงิน

วิธีปฐมพยาบาลจากมนุษย์ และการฟื้นฟูจากพื้นที่ปลอดภัยกำลังร่วมมือกันเพื่อรักษาบาดแผล

 

เมื่อความเจ็บปวดๆลดลง จุนเปย์แสยะยิ้มออกมา

ーーฉันจะไม่ยอมตายง่ายๆที่นี่

ーーเลือดของเขาหยุดไหลภายในหนึ่งชั่วโมง

 

หลังจากผ่านการสูญเสียและความเจ็บปวด สิ่งที่เขาเห็นคือขาขวาของตัวเองซึ่งถูกแคทรีถือเอาไว้

 

「เธอจะกินมันใช่มั้ย? 」

 

「วันนี้เราจะจัดงานเลี้ยงสำหรับการมาถึงของนาย เนื้อของนายจะถูกวางไว้บนโต๊ะอาหารสำหรับทุกคน 」

 

เขาเหมือนพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็เปลี่ยนใจ

「 อะไรเหรอ」

 

「เปล่า ฉันแค่อยากถามอะไรบางอย่าง …… 」

 

「อะไรล่ะ?  ถ้าฉันรู้ ฉันจะตอบ」

 

「 …… เธอจะล็อคประตูเหล็กนี้ไหม?」

 

“ไม่หรอก” จนกว่าขาของนายจะฟื้นฟูเสร็จ ฉันจะไม่ทำอะไรแบบนั้น」

 

จุนเปย์พยุงตัวเองขึ้นด้วยมือสั่นๆ จากนั้นเขาก็ยิงคำถามต่อไป

「มันจะไม่ดีกว่าเหรอ ที่เธอจะขังฉันไว้ที่นี่?」

 

「ฉันเคยบอกแล้ว เราจะปฏิบัติกับนายด้วยความเคารพอย่างสุดซึ้ง นั่นเป็นเหตุผลที่เราจะไม่กักขังนายโดยไม่จำเป็น ผ่านบันไดขึ้นไปก็จะเป็นพื้นที่อยู่อาศัยของเรา …..อีกอย่างถ้านายจะวางแผนหลบหนี ฉันว่าด้วยขานั้นมันเป็นไปไม่ได้หรอก」

 

“ฉันรู้” จุนเปย์หัวเราะเบาๆอย่างขุ่นเคือง
「นอกจากนี้ยังมี เหตุผลที่เราไม่กักขังนายเกินไป….นอกจากความเคารพแล้ว มันยังเป็นเพราะว่า」

 

「อะไร? 」

 

แคทรีนายิ้มด้วยท่าทีเขินอาย

「ฉันเป็นผู้หญิง และมันไม่ใช่แค่เนื้อ จริงๆแล้วเมล็ดพันธุ์ของนายก็เป็นสิ่งจำเป็น ความสัมพันธ์ของเราตอนนี้อาจไม่ค่อยดีนัก ถึงมันจะเป็นเรื่องยากที่นายจะเข้าใจ ดังนั้นฉันคิดว่าเราควรจะทำดีต่อกันเข้าไว้」

 

จิตสำนึกของจุนเปย์เริ่มปั่นป่วน

แคทรีนา แม้เธอพึ่งจะทำสิ่งเลวร้ายกับจุนเปย์ไปหมาดๆแต่เธอยังคงต้องการความสัมพันธ์ที่ดีและกล่าวด้วยใบหน้าจริงจัง

ตอนนี้ผู้ชายที่เธอพึ่งจะตัดขาข้างหนึ่งของเขาไปทำอาหาร เธอกลับพูดเรื่องความรักออกมาได้หน้าตาเฉย

 

แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องธรรมดาของหมู่บ้านนี้

เมื่อเขาคิดถึงวัฒนธรรมของคนที่นี่ มันทำให้เขามีอาการคลื่นไส้

ーーพวกมันช่าง…… บ้าสุด ๆ …… พวกมันไม่ปกติ ……

 

ถึงอย่างนั้นจุนเปย์ก็ยังคิดว่าในประเทศญี่ปุ่นสิ่งที่เกิดขึ้นภายในเขาวงกตนี้อาจเป็นเรื่องผิดศีลธรรม แต่สำหรับพวกเขามันคือเรื่องที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

 

แต่ว่าถึงจะพยายามมองด้วยเหตุผลยังไงนี่ก็ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับพวกเขา

ยอมแพ้ให้กับโชคชะตา ยอมรับทุกอย่างที่เกิดขึ้น ทำในสิ่งที่สามารถทำได้ーーคุณคิดได้เพียงแค่นั้น

 

เกิดความเห็นใจเล็กๆในจิตใจของจุนเปย์ อีกครั้งที่เขาหันไปมองแคทรีนาราวกับจะเอ่ยอะไรบางอย่าง   แต่ก่อนที่จุนเปย์จะทันได้กล่าวอะไร แคทรีนาก็พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน

 

「ถึงเวลาแล้ว ทุกคนกำลังรอคอยเนื้อนี่อยู่ข้างบน 」

 

เธอยกขาขวาของจุนเปย์พาดบ่า

 

「……」

 

「คืนนี้ …… หลังจากงานเลี้ยงอาหารค่ำ …… ฉันจะมาหานายในฐานะเจ้าสาว  ^^」

 

เมื่อเธอหันหลังเดินจากไป “ยังไงก็เหอะ” เพื่อเตือนอะไรบางอย่างจุนเปย์พยายามจะเรียกเธอให้หยุด อย่างไรก็ตามกับสิ่งที่เขาได้ยิน

 

ขณะที่กำลังเลียขาขวาของจุนเปย์ เธอพูดออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา

「 …..น่ากินจังเลย 」

 

นั่นเป็นเหตุผลที่สุดท้ายจุนเปย์ก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกไป

เช้าวันรุ่งขึ้น

 

จุนเปย์เดินขึ้นบันไดด้วยไม้ค้ำยันที่เขาสร้างและกล่าวบางอย่างออกมาเบาๆ

「 มันคงเกิดขึ้นแล้ว」

 

นั่นเป็นห้องโถงที่มีพื้นที่ขนาด 30 เสื่อทาทามิ หากมองดูจากการตกแต่งภายใน เหมือนว่ามันมักจะใช้เป็นห้องทานอาหาร

 

เหมือนที่แคทรีน่าพูดเมื่อวาน ที่นี่คงเป็นพื้นที่อยู่อาศัยหลักของชาวบ้าน

 

ด้วยการถอนหายใจลึกๆ จุนเปย์มองไปรอบ ๆ

 

สตูว์เนื้อดูเหมือนจะถูกแจกจ่ายไปตามโต๊ะยาว ซึ่งถูกตั้งอยู่กลางห้องอาหาร

มันดูคล้ายกับสตูว์เนื้อวัว แต่ในกรณีนี้……

 

ยังไงก็ตาม มีสตูว์เย็นชืดเหลืออยู่ในจานซึ่งเห็นได้ว่าบางส่วนถูกกินไปแล้ว

ถูกต้องสิ่งที่พวกเขากินอยู่คือสตูว์เนื้อคน

 

ผลที่ตามมาคือหนึ่งในนั้นฟุบลงที่โต๊ะ บางคนก็ล้มลงอยู่ที่พื้น แน่นอนว่าพวกเขากลายเป็นศพไปแล้ว

 

จำนวนของพวกเขาーーทั้งหมด 50 คน

 

ทุกคนเต็มไปด้วยกองอาเจียนเลือด

ขณะที่เขาเดินตรวจสอบพวกที่กลายเป็นศพแข็งทื่อ จุนเปย์หยุดอยู่หน้าคนๆหนึ่ง

 

เกือบทุกคนถูกเปลี่ยนเป็นศพ แต่มีคนหนึ่งที่ยังไม่ตายーーเด็กผู้หญิงกำลังตกอยู่ในการอาการชักเนื่องจากพิษในระบบประสาท

 

แคทรีนาหันหน้าเข้าหาจุนเปย์ และเปิดปากที่เต็มไปด้วยฟองเลือด

 

 

「 ……ทำไม นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? 」

 

「ฉันขอโทษแคทรีนา เนื้อของฉัน …… มันเป็นพิษ」

 

ไม่ปรากฏท่าทีตกใจ ดูเหมือนเธอจะคาดเดาไว้แล้ว แคทรีนาส่ายหัวของเธอ

 

「ฉันเข้าใจแล้ว. นายมาจากชั้นล่าง…ไม่แปลกเลยที่นายจะมีลักษณะบางอย่างที่เราไม่รู้ 」

 

จุนเปย์มองไปรอบๆอีกครั้งด้วยความสลด

「เธอต้องยอมรับความทรมานจากผลลัพธ์ที่พวกเธอเป็นคนสร้างมันขึ้นมา ฉันเสียใจด้วย」

 

「 …… ทุกข์ทรมานกับผลที่ตามมา?  」

 

「 …… พวกเรา ……ทำแบบนี้เพื่อความอยู่รอด ถ้านายบอกว่าเรากำลังทุกข์ทรมานจากสิ่งที่เราทำ มันเหมือนกับว่านี่เป็นความผิดของเรา นายรู้มั้ยบางสิ่งเราก็เลือกทำมันไม่ได้…… 」

 

“อ่า”   จุนเปย์พยักหน้า

「ถูกต้องเธอไม่ผิด แต่ยังไงเธอก็ต้องทนทุกข์ทรมานกับผลที่ตามมาอยู่ดี」

 

「……?」

 

「ฉันไม่รู้ว่าอะไรเป็นตัวกำหนดความเป็นมุนษย์สำหรับชั้นนี้  และทางเลือกของเธออาจไม่ผิด ฉันจะไม่ตำหนิเธอสำหรับเรื่องนั้น」

 

「เพราะยังไงพวกเธอก็เหมือนถูกฉันหลอกนะแหละ」

 

「หลอก…… ? 」

 

「ถึงเธอจะหลอกฉันก่อน แต่ฉันเองก็ไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับร่างกายของฉันเหมือนกันเมื่อรู้ว่าพวกเธอจะกินมัน」

 

「การกินเนื้อคน เธอไม่คิดว่ามันเป็นอะไรที่ผิด…ฮะ ฉันรู้ …..เธออยู่ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยความวิปริต 」

 

「ว่าแต่อาวุธของฉันอยู่ที่ไหน?  ฉันจะได้ปล่อยให้เธอพักผ่อนจากเรื่องพวกนี้ซะที」

 

「ในลิ้นชัก …… 」

เขาเดินตามทิศทางที่แคทรีนาชี้ไปที่มุมห้องและค้นหาลิ้นชัก

 

ปืนพกถูกหยิบขึ้นมา เขามองไปทางแคทรีนา

「เอาหล่ะ เรามาจบเรื่องนี้กันเถอะ」

 

「 อย่างน้อยฉันก็จะถูกฆ่าโดยชายที่ฉันรัก」

แคทรีนายิ้มในขณะที่เธอหลับตาราวกับจะยอมแพ้ต่อโชตชะตา

 

จุนเปย์จ่อปืนไปตรงระหว่างคิ้วของแคทรีนา

「ฉันขอสกิล【บุชเชอร์】ไปละนะ」

 

จากนั่นไกปืนก็ถูกเหนี่ยวเต็มแรง

 

 

「 ………..」

 

 

ขณะที่ใช้ไม้ค้ำยันเขาออกจากห้องอาหารที่เต็มไปด้วยซากศพเดินออกไปข้างนอก

พื้นถนนปูด้วยก้อนหิน เท่าที่เขาเห็นมีอาคารแบบ 2 ชั้นอยู่ 6 หลัง

ห้องโถงที่ทำเป็นห้องอาหารถูกจัดไว้ตรงกลาง

 

「ส่วนใหญ่คงเป็นที่อยู่อาศัย แต่หลังนี้น่าจะเป็น 」

 

เขาเดินตรงไปยังอาคารที่ใกล้เคียงที่สุด

หลังจากเปิดประตู จุนเปย์มองไปรอบๆและพยักหน้า

 

「 เยี่ยม」

 

เท่าที่เห็นภายในกระสอบมากมายคงเป็นพวกธัญพืช

จำนวนกระสอบมากกว่าสองร้อยถุง

 

จากความรู้สึกแต่ละกระสอบอาจมีมากกว่า 20 กิโลกรัม

 

เขาเรียกกล่องไอเทมออกมาจากนั้นเก็บกระสอบธัญพืชไว้ข้างใน

…… มันเป็นงานที่ยากพอสมควร  เนื่องจากตอนนี้เขาเป็นเพียงผู้พิการขาเดียว

และเพราะค่าความอดทนมีน้อย ทำให้เขาต้องทิ้งกระสอบลงพื้นหลายครั้ง

 

ค่า HP ทำให้ทนทานต่อการโจมตี นอกจากนั้นยังทำให้อึดและถึกขึ้น

แต่สเตตัสของจุนเปย์นอกเหนือจากค่าหลบหลีก ค่าอื่นๆถือว่าต่ำกว่าคนปกติยิ่งนัก

 

จุนเปย์พึมพัมด้วยความเบื่อหน่าย

「ถึงเวลาแล้วที่ฉันควรหยุดใส่ค่าหลบหลีกแล้วหันมาสนใจค่า HP บ้าง กับการป้องกันที่ต่ำแบบนี้ ฉันอาจตายได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว เหมือนโนไลฟ์คิง」

 

อาจเพราะการทำงานอย่างต่อเนื่อง เอวของเขาเริ่มปวดราวกับว่ามันเป็นสัญญาณให้เขาพัก

จุนเปย์ทรุดตัวลงนั้งบนกระสอบ พร้อมกับสูดลมหายใจลึก

 

เขาถอนหายใจเบาๆーーสังเกตขาขวาที่หายไปของตัวเอง

 

「จริงด้วยเธอบอกว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์สำหรับการฟื้นฟู ฉันไม่เห็นต้องรีบเลยหนิ」

 

หลังจากหยุดพักประมาณ 2 นาทีเขาก็ยืนขึ้นโดยใช้ไม้ค้ำและเริ่มทำงานต่อ

 

สามวันถัดไป

 

จุนเปย์มองรายการสิ่งของในกล่องไอเทมของเขา

 

 

– เมล็ดข้าว (250 กระสอบ) – 5 ตัน

– น้ำ (500 ถุงหนัง) – 2500 ลิตร

– สิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน – เสื้อผ้า – ทุกอย่างที่เขาสามารถเก็บได้

– เครื่องมือ – ทุกอย่างที่เขาสามารถเก็บได้

– ยาและอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น – ทุกอย่างที่เขาสามารถเก็บได้

– เครื่องใช้ประเภทโลหะ – ทั้งหมดที่มีอยู่

 

และหม้อน้ำมันจำนวนมาก

 

เขายัดอาหารและน้ำมากมายเผื่อในกรณีที่มันเน่าเสียด้วย

แม้ในความเป็นจริงอาจไม่จำเป็นต้องนำไปมากนัก

แต่อย่างไรก็ตามเช่นเดียวกับที่นี่ อาจมีคนอยู่ในชั้นอื่นๆอีก

เขาสามารถใช้อาหารและน้ำแลกเปลี่ยนในสิ่งที่เขาต้องการ และหากมันเน่าเสียเขาก็แค่โยนมันทิ้งไปแค่นั้น

 

ーーไม่มีสิ่งใดไร้ประโยชน์สำหรับการเอาชีวิตรอด

ด้วยผ้าชิ้นเดียวหรืออาจจะเป็นเข็มหนึ่งเล่ม ขึ้นอยู่กับการใช้งาน ไม่แน่มันอาจจะกลายเป็นอาวุธที่สามารถฆ่าสัตว์ระดับเทพนิยายได้

เช่นเดียวกับที่เขาใช้ด้วยฟืน หม้อน้ำมัน และไฟเพื่อปราบเจ้าเซอร์เบอรัส

 

จุนเปย์นั้งกินอาหารอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยศพ กลิ่นเหม็นเน่าเริ่มรุนแรงขึ้น จนจุนเปย์คิดว่าเขาต้องทำอะไรบางอย่าง ด้วยสกิลที่เขาขโมยมาจากแคทรีนา

 

ーー【บุชเชอร์】

สกิลระดับซุปเปอร์ถ้ามันใช้กับเป้าหมายที่เป็นศพนั่นหมายความว่าเขาสามารถเล็งไปที่อะไรก็ได้

และเป้าหมายในครั้งนี้ไม่ใช่มอนสเตอร์ แต่เป็นมนุษย์ คุณอาจได้รับสกิลมากมายจากวิธีนั้น

 

ที่นั่นจุนเปย์เดินตรงไปยังศพของวัยกลางคนและยื่นมือออกไป

「ยืนยันศพของเป้าหมาย สกิล【 บุชเชอร์】ถูกเรียกใช้」

 

ร่างกายของมันถูกห่อหุ้มด้วยอนุภาคแสงและถูกเปลี่ยนเป็นวัสดุบางอย่าง

ศพเหล่านี้กลายเป็นการ์ดส่องแสงตกลงด้านหน้าจุนเปย์

【เนื้อมนุษย์】

ระดับไอเทม     ▼▼▼ปกติ

ลักษณะเฉพาะ▼▼▼สามารถใช้เป็นอาหารยามฉุกเฉิน

 

การ์ดเนื้อมนุษย์ตรงหน้าทำให้จุนเปย์ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่หลังจากทบทวนครู่หนึ่งเขาก็เก็บมันลงไปในกล่องไอเทม   ในทางกลับกันเขาโยนการ์ดสกิลที่ดรอปออกมาทิ้ง

 

「สกิลทำอาหาร มีแบบนี้ด้วยแฮะแต่ฉันไม่ต้องการมัน…..ต่อไปละกัน」

 

จากนั้นศพข้างๆก็ถูกเปลี่ยนเป็นการ์ด

 

การ์ดเนื้อถูกเก็บ และสกิลขยะถูกทิ้งไป

 

และหลังจากคนที่สิบหก ใบหน้าของจุนเปย์ก็ดูผ่อนคลาย

 

【มอนสเตอร์เทม】

ระดับสกิล          ▼▼ เริ่มต้น

ลักษณะเฉพาะ▼▼▼ สามารถฝึกมอนสเตอร์ที่มีพลังอ่อนแอให้เชื่องได้

 

เขาใส่สกิลใหม่ลงในช่องสกิลจากนั้นเริ่มเดินไปข้างนอกห้องอาหาร

 

จากอาคารทั้งหมด จุนเปย์เดินตรงไปยังอาคารที่ถูกสร้างขึ้นอย่างเดียวดายหลังหนึ่ง

 

ภายนอกดูเก่าแก่ แต่ว่าภายในกลับมีการตกแต่งที่ดูดี

ที่นี่มีเฟอร์นิเจอร์มากมายถึงพวกมันจะดูค่อนข้างทรุดโทรมก็ตาม

 

พื้นและผนังปูด้วยโลหะแข็งแรงวางเป็นชั้นๆ

ーーที่นี่น่าจะเป็นสถานีทดลองการเพาะพันธุ์เนื้อมอนสเตอร์

 

กลิ่นของอุจจาระตลบอลอวลทั่วห้อง

 

มันเป็นห้องใต้ดินที่มีความกว้างประมาณ 20 เมตร แต่ละส่วนถูกแบ่งด้วยแผ่นโลหะ ประกอบไปด้วยพื้นที่ของก๊อบลิน,โคบอลด์ และสไลม์

 

นี่มันห้องแสดงมอนสเตอร์ชัดๆ แต่เป็นเพียงมอนสเตอร์อ่อนแอ มอนสเตอร์กระจุกตัวกันอยู่ที่ขอบ เนื่องจากการให้อาหารได้หยุดลง และพวกมันกำลังหิว

 

เหตุใดพื้นที่เพาะพันธุ์นี้จึงมีอยู่ภายในหมู่บ้าน

 

แคทรีนา …… พวกเขาคงหมดหวังจริงๆ

 

หลังจากทำทุกอย่างแล้ว แม้จะเป็นไปไม่ได้ พวกเขาก็ยังคงพยายามเดินตามเส้นทางนี้ต่อไป

 

จุนเปย์รู้สึกเห็นใจเล็กน้อย

ーーรูปแบบการใช้ชีวิตในแต่ละมิติช่างแตกต่างกันมากเหลือเกิน

 

ตอนนี้สิ่งสำคัญสำหรับจุนเปย์สิ่งเดียวที่อยากจะทำคือ การขอบคุณแคทรีนาสำหรับทุกอย่างที่เหลืออยู่ในหมู่บ้านนี้

 

「 เพียวสไลม์ เขาคิดว่ามันน่าสนใจ 」

 

สกิล【 ตรวจสอบ 】 ถูกใช้งาน

 

【เพียวสไลม์】

ระดับความอันตราย▼▼▼ไม่มี

ลักษณะเฉพาะ          ▼▼▼มอนสเตอร์ที่มีระดับความอันตรายต่ำ และถูกจัดว่าอ่อนแอที่สุด . เพียวสไลม์ กินอาหารน้อย – ทนต่อทุกอุณหภูมิและสภาพบรรยากาศ – ไม่มีคุณลักษณะพิเศษใดๆและได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมได้ง่าย ลักษณะนิสัยขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่พวกมันโตขึ้น

 

“อืม”    เขาพยักหน้าและกล่าวว่า

「ใช่แล้วมันเหมือนกับฉันไม่มีผิด นักล่าสกิลพลังนี้อ่อนแอที่สุดจึงสามารถเปลี่ยนเป็นอะไรก็ได้ และเพราะมันไม่มีลักษณะพิเศษฉะนั้นจึงง่ายที่จะเปลี่ยนพวกมันให้กลายเป็นอาวุธใดๆก็ได้」

“นั่นคือเหตุผล” จุนเปย์กล่าวต่อ

「หากไม่ยึดติดกับความคิดเก่าๆ ฉันจะสามารถมีชีวิตอยู่ โดยใช้พวกสไลม์นี้…… 」

 

จุนเปย์นึกถึงคุณสมบัติของเนื้อผีดิบ

“และ ” เขามีความคิดอะไรบางอย่าง

 

เพื่อให้มันมีผลของพิษต่อประสาทและทำให้เป็นอัมพาต

ถ้าทำให้ผลของพิษอยู่ในระดับเซลล์ของมันได้

สกิล【 มอนสเตอร์เทม 】ถือว่าเป็นสกิลสำคัญสำหรับกระบวนการนี่

 

ตั้งแต่แรกเริ่มสไลม์เป็นสิ่งมีชีวิตที่แพร่พันธ์ุได้ง่ายหากได้รับสารอาหารที่เพียงพอ

และแน่นอนว่าเขาสามารถเลี้ยงมันในกล่องไอเทมได้

 

「เยี่ยม ฉันอยากเห็นจริงๆว่าพวกมันจะเติบโตออกมาเป็นยังไง?

ฉันจะเลี้ยงดูพวกแกอย่างดีเลย 」

 

 

***********************************************************************

ด้วยเช่นนี้จุนเปย์ก็ได้รับเพียวสไลม์มาเป็นลูกสมุน

 

 

ชื่อ: ทาเคดะ จุนเปย์

เลเวลเพิ่มขึ้น : 637 → 638

ได้รับแต้มโบนัส : 5

 

สถานะตัวละคร

อาชีพ: Skill Hunter    เลเวล: 638

HP: 35                     MP: 175

พลังโจมตี: 255            พลังป้องกัน: 5

※พลังโจมตีอาวุธย่อย: 245

ค่าหลบหลีก: 3000

 

อุปกรณ์สวมใส่

หลัก: เขี้ยวอสูรเวทย์ (ระดับเทพนิยาย)

※ผสมผสานกับแอตทริบิวต์ฆ่าพระเจ้า

รอง: S&W M57 แม๊กนั่ม 41″  (สมบัติของชาติ)

กระสุน※รีโหลดด้วยค่าพลังเวทย์ ยังไม่ได้อัพเกรด

 

ช่องสกิล (เหลือ 7 )

ตรวจสอบ (ระดับซุปเปอร์)

ต้านทานสถานะผิดปกติทุกประเภท

บุชเชอร์ (ระดับซุปเปอร์)

มอนสเตอร์เทม (ระดับเริ่มต้น)

 

คุณสมบัติ

ราชาผีดิบ

※องค์ประกอบของร่างกาย ถูกเปลี่ยนเป็นผีดิบของเหลวในร่างกายรวมถึงเลือดและเนื้อ มีสถานะเป็นพิษส่งผลต่อระบบประสาทอย่างรุนแรง

 

มอนส์เตอร์ที่ฝึกแล้ว

เพียวสไลม์ x 4500

■■■■■■ สไลม์ x 1500