หลงเซ้งหลิน (ไอหัวโล้น ตอนที่ห้องพนัน)

หลงเซ้งหยู (พี่ไอโล้น)

ซางดี่ขวิน(พี่สาว ซางหยงจิน)

ซางหยงจิน(เจอที่หมู่บ้านเขาล้อม)

ซูเรนเฟย์(เจอที่หมู่บ้านเขาล้อม)

ฮูหว่านจุน(เจอที่หมู่บ้านเขาล้อม)

เจี่ยหลุยเดา  (ปรมาจารย์นักพนัน)

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

“นายกลัวหรือ? ถ้านายกลัวทำไมไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ไปเลยหละ ? ? ”

คำพูดก่อนหน้านี้ ของหลงเซ้งหลินได้ดึงดูดความสนใจของซางหยงจิน ในขณะที่เขาหันเป้าไปยังหลงเซ้งหลิน พร้อมเยาะเย้ยเขา

“ฮะมันเหมือนกันกับการล้อเล่น เพียงไม่กี่คำจากปรมาจารย์ เจี่ยแล้วนายก็พอใจแล้วหรอ? แกมันไม่รู้ระดับของตัวเอง ! ”

“ขิงยิ่งแก่ก็ยิ่งเผ็ด, ปรมาจารย์ เจี่ย น่าอัศจรรย์จริงๆ”

ซูเรนเฟย์และฮูหว่านจุน จ้องไปที่ถังซิ่วพร้อมพูดเยาะเย้ย

แต่ถังซิ่วทำหูทวนลมต่อคำเยาะเย้ยของซางหยงจินและคนอื่นๆ เขามองไปที่เจี่ยหลุยเดาจากนั้นก็เอาถ้วยลูกเต๋าขึ้นมาเขย่า

แม้ว่าถังซิ่วยังไม่ได้พูดก็ตาม แต่การกระทำของเขาก็ถ่ายทอดคำพูดออกมามากมาย

ตอนที่ถังซิ่วเริ่มเขย่าถ้วยลูกเต๋าซางหยงจิน , ฮูหว่านจุนและซูเรนเฟย์ดูเหมือนว่าจะถูกคว้าคอไว้ พวกเขาไม่ได้พูดอะไรอีกแล้ว ดูเหมือนว่ารอยยิ้มของพวกเขาถูกแช่แข็ง, การแสดงออกที่น่าอึดอัดใจของพวกเขากลายเป็นเรื่องน่าอายมากขึ้น

กับสถานะของพวกเขา การที่พวกเขาไปเจอถังซิ่วบนถนนนั้น  พวกเขาไม่อยากจะเจียดตาไปมองถังซิ่วด้วยซ้ำ

แต่ตอนนี้พวกเขาเป็นคนที่ริเริ่มที่จะพูดคุยกับถังซิ่ว ในขณะที่ถังซิ่วนั้นก็ไม่ได้สนใจพวกเขาเลย นี้มันเหมือนการตบไปที่ใบหน้าของพวกเขาและมันทำให้พวกเขาได้แต่ขบฟันพร้อมอารมณ์เสีย

อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้เนื่องจากกฎการเล่นการพนันห้ามไม่ให้พวกเขาทำอะไร พวกกำลังหมกมุ่นอยู่กับความรู้สึกที่เปรี้ยว,ขมและเสียใจ

เจี่ยหลุยเดามองไปที่ถังซิ่ว ด้วยความชื่นชมในขณะที่เขายังหยิบถ้วยลูกเต๋าและเริ่มที่จะเขย่ามัน

ทั่วทั้งห้องเงียบในทันที ทิ้งไว้เฉพาะเสียงของลูกเต๋าที่ชนกันอย่างดุเดือดในถ้วย

มีอยู่ครั้งหนึ่งมันเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่ส่องสว่างขึ้นบนท้องฟ้า อีกครั้งหนึ่งมันก็เหมือนกับพายุเฮอริเคน

ครั้งหนึ่งมันเงียบสงบ อีกครั้งหนึ่งมันก็วุ่นวาย

พร้อมกับข้อมือที่สั่นไหวและสั่นสะเทือนของเจี่ยหลุยเดาและถังซิ่ว, ทั่วทั้งห้องเต็มไปด้วยเสียงของลูกเต๋า บางครั้งเสียงจะออกมาอย่างเร็วในบางครั้งช้าและบางครั้งเบา หัวใจของทุกคนได้แสดงออกถึงความรู้สึกตึงเครียดอยู่บนใบหน้าของพวกเขา

เจี่ยหลุบเดาและถังซิ่วหยุดสายตาของพวกเขาไว้ที่ตาของกันและกัน พวกเขาไม่ใส่ใจกับถ้วยลูกเต๋าในมือของพวกเขา

เมื่อทุกคนในห้องเกือบจะหายใจไม่ ออกเสียงดัง “แบง” ก็ดังขึ้นสองครั้ง เจี่ยหลุยเดาและถังซิ่วคว่ำถ้วยลูกเต๋าลงบนโต๊ะ

“คุณเริ่มก่อนหรือฉันเริ่มก่อน?”

เจี่ยหลุยเดามองถังซิ่ว ขณะที่เขายิ้มและถามออกมา

“ปรมาจารย์ เจี่ย เชิญก่อน”

ถังซิ่วทำท่าเชิญ เขาพูดด้วยความเคารพ

แม้ว่าทั้งสองคนเพิ่งจะต่อสู้, แต่ในความเป็นจริง, มันเป็นการแลกเปลี่ยน, ในที่สุดทั้งคู่ก็เข้าไปในโลกของพวกเขา

หลังจากการแข่งขันเหล่านี้แล้ว พวกเขาไม่ได้เข้าใจและคุ้นเคยกับกันและกันมากขึ้นเพียงเท่านั้น แต่พวกเขาก็ได้สร้างมิตรภาพที่ลึกซึ้ง เหมือนดั่งสุภาษิตที่บอกว่า คนที่มีพรสวรรค์สามารถรับรู้ถึงพรสวรรค์ของกันและกันได้

เมื่อได้ฟังคำพูดของถังซิ่ว การแสดงออกอย่างลึกซึ้งได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเจี่ยหลุยเดา

“4 แต้ม… อ๊า ไม่ , 6 แต้ม”

หลังจากได้ขบคิดอยู่นาน, เจี่ยหลุยเดาได้ทายจำนวนแต้มออกมา แต่เขาก็เปลี่ยนเลขทันทีที่เขาได้พูดเลขออกมา พร้อมกับการแสดงออกที่แปลกประหลาดโผล่ออกมาบนใบหน้าของเขา

เห็นได้ถึงปฏิกิริยาของเจี่ยหลุยเดา ด้วยตาของพวกเขาซางดี่ขวินและคนอื่นๆ ไม่สามารถช่วยได้ กลับกลายเป็นหวั่นวิตกแทน

ซางดี่ขวินและคนอื่นๆ มีความศรัทธาที่ใกล้คลั่งและความไว้วางใจสำหรับความสามารถในการเล่นการพนันของเจี่ยหลุยเดา, พวกเขายังได้เห็นทักษะการพนันในตำนานของเขา แต่พวกเขาไม่เคยคาดหวังว่าเจี่ยหลุยเดา จะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้เมื่อเล่นการพนัน

แต่ตอนนี้พวกเขาได้เห็นว่าเจี่ยหลุยเดา กำลังลังเลและนอกจากนี้คนที่ทำให้เขาลังเลนั้นยังเป็นคนนอกวงการพนัน, นักเล่นพนันมือใหม่ ,สถานการณ์ที่ไม่คาดฝันนี้ทำให้พวกเขาขุ่นเคืองเป็นอย่างมาก

“ปนมาจารย์ เจี่ย, คุณแน่ใจจริงๆหรือ? คุณไม่ต้องการเปลี่ยนอีกหรือ ”

ถังซิ่วไม่ได้เปิดถ้วยลูกเต๋าทันที แต่ถามออกมา

“คุณ … ฉันจะไม่เปลี่ยน!”

เจี่ยหลุยเดา เกือบจะสำลักและเป็นลมในขณะที่เขาได้ยินคำพูดของถังซิ่ว ,เขาคิดว่าถังซิ่วหยิ่งและไม่สุภาพ ทำให้ความโกรธกระวนกระวายอยู่ในใจ

“ปรมาจารย์ เจี่ย, ผมขอโทษด้วย แต่คุณเดาผิด”

เมื่อกี้ถังซิ่วต้องการให้โอกาสเจี่ยหลุยเดาอีกครั้ง แต่เขากลัวว่าการทำเช่นนั้นจะทำร้ายเกียรติของเจี่ยหลุยเดาดังนั้นเขาจึงเปิดถ้วยลูกเต๋าอย่างเป็นธรรมชาติและผ่อนคลาย

เมื่อถังซิ่ว ได้เปิดถ้วยลูกเต๋าแล้ว ผิวของเจี่ยหลุยเดาก็เปลี่ยนเป็นสีซีดเผือดและร่างกายของเขาเริ่มสั่นสะเทือนอยู่พักหนึ่ง

เนื่องจากลูกเต๋า 6 ลูกในถ้วยของถังซิ่วนั้นถูกซ้อนกันเป็นเสา เฉพาะลูกเต๋าที่อยู่ด้านบนแสดงแต้ม ขณะที่ส่วนที่เหลือบังไว้

ตามกฎของเกมลูกเต๋า, ในกรณีที่กองลูกเต๋าทับซ้อนกันแล้ว คุณจะต้องคำนวณแต้มบนสุดของกองเท่านั้น ดังนั้นในกรณีนี้แต้มที่อยู่ด้านบนสุดของกองถังซิ่วนั้นมีแต้มเท่ากับ 4

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เมื่อเจี่ยหลุยเดา ได้ทายแต้มนั้น,เขาเดาถูกในการคาดเดาครั้งแรก แต่เขาผิดพลาดในการคาดเดาครั้งที่สองและยังยืนยันว่าจะเลือกแต้มจากครั้งที่สองที่ผิดพลาด

“ชายชราคนนี้ได้ผ่านการขึ้นและลงในทุกแง่มุมของวงการพนันมาหลายปี, ยกเว้นการแพ้ในช่วงต้นของการศึกษาอาชีพของนี้ ,ไม่เคยมีซักครั้งที่ฉันได้พบคู่ต่อสู้ที่เท่าเทียมกันภายในเวลา 10 ปีมานี้ในจังหวัดชวนฉิง, แต่วันนี้ชายชราคนนี้เข้าใจความหมายของคำพูดที่ว่า เด็กรุ่นหลังจะยิ่งใหญ่กว่าคนที่อายุมากแล้ว ”

หลังจากมองไปที่ถังซิ่วเป็นระยะเวลานาน , เจี่ยหลุยเดาก็ได้ออกไปจากห้อง

จนถึงขณะที่เจี่ยหลุยเดานั้นได้ไปถึงทางเข้าของอาคาร, ซางดี่ขวินและคนอื่นๆ พึ่งตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

“อา, ปรมาจารย์ เจี่ย, โปรดอย่าไป เรายังไม่รู้ผลการพนันเลย ”

“ปรมาจารย์ เจี่ย, โปรดรอสักครู่! คุณยังไม่ได้แพ้ซะหน่อย ”

ซางดี่ขวินและซางหยงจิน เป็นคนแรกที่ไล่ตามเขาและรีบพูดเพื่อรั้งตัวเขาไว้,ฮูหว่านจุน ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะไล่ตามไป มีเพียงซูเรนเฟย์ที่ยังอยู่และจ้องที่ถ้วยลูกเต๋าของเจี่ยหลุยเดา เพราะกลัวว่าถังซิ่วและคนของเขาจะเปิดและแอบมองมัน

ในที่สุดซางดี่ขวินและคนอื่นๆ ก็ไม่สามารถรั้งตัวเจี่ยหลุยเดาไว้ได้ ,ในความเป็นจริง ขณะที่เจี่ยหลุยเดาได้เดินออกไปนั้น  ซางดี่ขวินรู้ว่าเธอไม่สามารถรั้งตัวเขาไว้ได้ เพราะเธอได้ตระหนักดีว่านิสัยของเจี่ยหลุยเดา เป็นคนดื้อดึงมากๆ เมื่อเขาตัดสินใจในบางสิ่งบางอย่างแล้วมันแทบเป็นไปได้ที่เขาจะเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของเขา

กลับมาพร้อมกับรู้สึกหดหู่ใจในห้อง , ซางดี่ขวินและอีก 3 คนเห็นว่าถ้วยลูกเต๋ายังไม่ถูกเปิดออก พวกเขาตัวแข็งอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ดวงตาของพวกเขาจะสว่างขึ้นในช่วงต่อไป

การพนันยังไม่จบลง ?

นี่ไม่ได้หมายความว่าพวกยังไม่แพ้ ?

สักครู่การแสดงออกที่หดหู่และหงุดหงิดของซางดี่ขวินและคนอื่นๆบนใบหน้าของพวกเขาหายไป และกลับมาตื่นเต้น

“หัวหน้าหลงคุณคิดว่านักพนันที่คุณได้เชิญมา สามารถคาดเดาแต้มลูกเต๋าในถ้วยได้หรือไม่”

สายตาซางดี่ขวินตกลงบนใบหน้าของถังซิ่วในช่วงเวลาสั้นๆ จากนั้นเธอก็เยาะเย้ยทันที

แม้ว่าซางดี่ขวินได้มีการยอมรับเล็กน้อยในทักษะการเล่นการพนันของถังซิ่วแต่เธอยังคงเชื่อว่าทักษะการเล่นการพนันของถังซิ่วนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะ เจี่ยหลุยเดา ดังนั้นคำพูดและทัศนคติของเธอต่อถังซิ่ว ยังไม่ได้รับการยอมรับทั้งหมด

“3 แต้ม”

เมื่อซางดี่ขวิน พึ่งพูดจบถังซิ่วได้ตอบทันทีโดยไม่ต้องคิด

เมื่อได้ยินคำตอบของ ถังซิ่ว, ซางดี่ขวิน ได้แต่รู้สึกว่าพลังชีวิตบางส่วนของของเธอถูกดูดไป

ด้วยสัญญาณพยักหน้าจากซานดี่ขวิน, ซูเรนเฟย์ ค่อยๆเผยแต้มบนถ้วยลูกเต๋า, ในขณะนี้ แต้ม ได้ถูกเผยออกมาแล้ว

มันแตกต่างจากลูกเต๋าของถังซิ่ว ที่ซ้อนทับกันอยู่ในกองเดียว , ลูกเต๋าของเจี่ยหลุยเดา แบ่งออกเป็น 3 กองโดยแต่ละกองประกอบด้วยลูกเต๋า 2 ลูกทับซ้อนกัน บนจุดสูงสุดมี 1 แต้มและทุกจุดสูงสุดของทั้งสามกองมี 1 แต้ม

เมื่อทุกคนในห้องเห็นลูกเต๋าของเจี่ยหลุยเดา พวกเขาตกใจทันที

“ชะ-ชนะ ! พวกเราชนะ ! พี่ใหญ่ พี่เห็นหรือไม่ ? เราชนะ! ”

หลงเซ้งหลินเป็นคนแรกที่ไม่สามารถระงับความตื่นเต้นของตัวเองได้ ในขณะที่เขาโห่ร้องออกมาดัง ๆ

” ฉันบอกแล้วว่าพี่ชายสามารถทำได้! ตอนนี้พี่ใหญ่จะเชื่อฉันหรือยังหละ !!!!? ”

ความสุขก็ครอบคลุมใบหน้าของหลงเซ้งหยูแต่เขาไม่ได้สูญเสียมารยาทของเขาเนื่องจากความตื่นเต้น, เขามองไปที่ซางดี่ขวิน อย่างสงบขณะที่เขาพูดเบา ๆ ว่า

“หัวหน้า ซาง , เราจะสรุปผลการพนันของเราได้หรือไม่?”

“หัวหน้า หลง , คุณสามารถมั่นใจได้ว่าตั้งแต่คุณชนะการพนันนี้แล้ว สิทธิในการแสวงประโยชน์และการพัฒนาสำหรับหมู่บ้านเขาล้อมเป็นของคุณ นอกจากนี้ ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของผู้ถือหุ้น, ภายใน 10 วัน เราจะโอนหุ้น 10% ของ ย่านการค้าสกายเลนให้กับคุณ ”

ซางดี่ขวินเม้มริมฝีปากและคิดอย่างถี่ถ้วนสักครู่ก่อนที่เธอจะยิ้มได้ทันทีและยอมรับความพ่ายแพ้ของเธออย่างตรงไปตรงมา

แม้ว่าตระกูล ซาง มีอำนาจเข้มแข็งในจังหวัด ชวนฉิง แต่พลังของตระกูล หลง ก็น่ากลัวเช่นกัน นอกจากนี้ศักยภาพของเยาวชนรุ่นเยาว์ยังแข็งแกร่งกว่าพวกเขาด้วย หากครอบครัวของเธอยืนยันเกี่ยวกับการจัดการกับตระกูล หลง นี่เป็นเพียงแค่การฆ่าศัตรู 1,000 คน ที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตของฝั่งตัวเอง 800 คน , ดังนั้นสิ่งที่ได้มาจะไม่คุ้มกับที่เสีย

เป็นความจริงที่ว่าเมื่อวิสาหกิจของตระกูลได้พัฒนาสู่ระดับหนึ่งแล้วพวกเขาก็จะเกี่ยวดองกันและกันด้วยความสนใจและผลประโยชน์ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะพวกเขาจะต่อสู้อย่างบ้าเลือดด้วยกำลังทั้งหมดที่พวกเขามี นี่เป็นเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไม  ซางดี่ขวินจึงไม่สามารถทำทุกวิถีทางได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้ได้สิทธิในการพัฒนาของหมู่บ้านเขาล้อม เธอควรเลือกวิธีการแบบตรงไปตรงมาและเปิดเผยเพื่อต่อสู้กับหลงเซ้งหยูผ่านการพนัน

แต่เนื่องจากเรื่องของการพนัน เธอจึงต้องวางเงินเดิมพันไว้, เดิมพันของตระกูล หลง คือต้องถอนตัวออกจากการแข่งขันในการได้รับสิทธิในการพัฒนาหมู่บ้านเขาล้อม ส่วนสำหรับตระกูล  ซาง, พวกเขาต้องโอนหุ้น 10% ของ ย่านการค้าสกายเลน ให้ตระกูล หลง

“ในนามของพ่อของฉัน , ขอโทษกับเรื่องนี้ด้วยและขอบคุณหัวหน้า ซาง”

หลงเซ้งหยูรู้สึกโล่งใจเมื่อได้ยินคำพูดของซางดี่ขวิน

แม้ว่าตระกูล ซาง เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ ย่านการค้าสกายเลน แต่ ตระกูล ซาง มีจำนวนหุ้นเพียง 35% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ ย่านการค้า  หุ้นอื่นๆ นั้นอยู่ในมือของผู้ถือหุ้นรายอื่นอีกหลายราย

แผนของตระกูล หลง คือการสร้าง ย่านอาหาร ในย่านการค้าสกายเลน แต่เนื่องจากมีเงินไม่เพียงพอ พวกเขาได้เชิญชวนให้ผู้ถือหุ้นเป็นจำนวนมาก ถึงขั้นที่ความเคลื่อนไหวของพวกเขาในการจัดการสิ่งต่างๆถูกจำกัด ส่งผลให้การดำเนินงานโดยรวมของย่านการค้าสกายเลนนั้นช้าลง

ในเมื่อตระกูล ซาง ได้โอนหุ้น 10% , แม้ว่าตระกูล หลง จะยังไม่สามารถควบคุม ย่านการค้าสกายเลนได้อย่างเต็มที่ แต่อำนาจในการจัดการควบคุมของตระกูลหลงนั้นเพิ่มขึ้นมากอย่างไม่ต้องสงสัย ตราบเท่าที่ตระกูล หลง ออกแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขาก็จะได้รับหุ้นที่ถือโดยผู้ถือรายย่อย

“คุณไม่จำเป็นต้องสุภาพ หัวหน้า หลง ควรจะขอบคุณตัวเองที่หานักพนันที่ดีขนาดนี้มาได้  ”

ซางดี่ขวินตอบด้วยท่าทีที่หยิ่งในขณะที่ดวงตาของเธอตกลงไปที่ถังซิ่ว พร้อมปรากฏแววตาที่ซับซ้อน

สำหรับ ซางหยงจิน , ฮูหว่านจุนและซูเรนเฟย์, ทั้งสามคนยังคงตะลึงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ถ้วยลูกเต๋าถูกเปิดขึ้น

ในสายตาของทั้งสามคนนี้ , ถังซิ่วเป็นเพียงคนหยาบคายและป่าเถื่อน นอกเหนือจากความโหดร้ายของเขา เขาไม่มีค่าอะไรเลย (555555555)

แต่หลังจากที่ได้รับความพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากเงื้อมมือของถังซิ่ว ,พวกเขาพึ่งจะตระหนักได้

โดยเฉพาะหลังจากที่เห็นถังซิ่วแสดงให้เห็นถึงทักษะการพนันที่น่ากลัวของเขา พวกเขาไม่สามารถเรียกสติของตัวเองได้เป็นเวลานานมาก

ในตอนแรกนั้น สามสหายนี้ตั้งใจที่จะหาใครซักคนเพื่อสืบสวนความเป็นมาของถังซิ่ว, หลังจากวันนี้แล้วค่อยๆเก็บกวาดเขา แต่เมื่อถังซิ่ว ประสบความสำเร็จในการช่วยเหลือตระกูลหลง ในการชนะพนัน พวกเขารู้ดีว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะตอบโต้ถังซิ่วได้อย่างง่ายดาย

แม้ว่า หลงเซ้งหยูจะดูไร้พิษภัยและสงบดั่งผิวน้ำและดูเหมือนไม่มีอารมณ์ร้าย แต่ซางหยงจิน, ฮูหว่านจุนและซูเรนเฟย์ รู้ดีว่าหลงเซ้งหยู นั้นเคยเป็นนายน้อยอันดับหนึ่งของจังหวัดชวนฉิงมาก่อน ,พวกเขาจะเริ่มหาเรื่องใคร ? ไม่ต้องพูดถึงว่าหลงเซ้งหยู เป็นคนที่มีความกตัญญูรู้บุญคุณคนและให้ความสำคัณกับมิตรภาพ , ตั้งแต่ที่ถังซิ่วช่วยหลงเซ้งหยู , มันเป็นไปไม่ได้สำหรับหลงเซ็งหยูที่จะยืนดูและปล่อยให้ถังซิ่วโดนรังแกโดยไม่แยแสเขา