“กรัมเบิล…”

มนุษย์หินพึมพำบางอย่างและนอนลงบนพื้น เขาขดตัวแล้วหลับตาทำเหมือนว่าเป็นก้อนหินธรรมดาๆก้อนหนึ่ง
มนุษย์ต้นไม้ยืนอยู่บนตัวมนุษย์หิน รากนับ 10 ของมันฝังลึกลงไปในพื้นดิน เช่นเดียวกับมนุษย์หิน มันหลับตาลงทำเป็นเหมือนต้นไม้ธรรมดาๆ

เฮิงหลัวลูบหัวของเสือดาวอย่างนุ่มนวล นางขึ้นไปขี่บนหลังมันและพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว เสือดาวเหยียบกิ่งไม้และเคลื่อนที่ออกไปไกลเป็นไมล์ด้วยกันกระโดดเพียงไม่กี่ครั้ง ในชั่วพริบตาเฮิงหลัวและเสือดาวหายไปอย่างไร้ร่องรอย

มนุษย์วานรลูบไปที่ท้อง มันมองไปรอบๆและซ่อนตัวในขณะที่ยังแบกแท่งไม้ใหญ่ๆไว้บนไหล่ คล้ายๆกับคนอื่นๆ มนุษย์วานรเป็นสิ่งมีชีวิตที่ได้รับพลังจากธรรมชาติ มันสูดลมหายใจเข้าลึกและผสานพลังของมันเข้ากับพลังธรรมชาติ แม้แต่นักเวทย์ระดับสูงก็ยากที่สัมผัสถึงพลังของมันได้

จี้ฮ่าวเคลื่อนที่ผ่านต้นไม้ขณะที่ในมือถือหอกยาว หลังจากนั้นเขาก็มาถึงที่ที่จี้เซียอยู่ เขาเข้าไปยืนข้างๆจี้เซียเงียบและมองเข้าไปในป่า

ชิงฟูและแท่นบูชาที่ปกคลุมไปด้วยหมอก ค่อยๆโปรงแสงและหายไป ตอนนี้ลมหมุน หมอกและสิ่งลึกลับอื่นๆหายไป ป่ากลายเป็นเงียบสงัด และมีบรรยากาศน่าขนลุกกระจายไปทั่วป่า

ตะขาบเหล็กยาว 3 ฟุตกำลังเคลื่อนที่ออกจากป่ามาเงียบๆ ดีหลัวยืนอยู่บนหัวตะขาบ เขาขบฟันและดูเหมือนจะพึมพำบางอย่าง เขาเชิดหน้าขึ้นทันทีด้วยความตกใจ เมือเขาเห็นจี้ฮ่าวและจี้เซีย ทูบ้ากับทูโอที่อยู่ข้างหลังดีหลัวยืนอึงพูดไม่ออก

“บ้าเอ้ย…ไหนบอกว่าคนในหุบเขาหลับกันหมดแล้วไง?” ดีหลัวพูดพร้อมกับชี้นิ้วไปที่จี้ฮ่าว

ด้านหลังพวกเขามีนักรบเขี้ยวโลหิตนับ 10 กำลังย่องออกมาจากป่าเงียบๆ พวกเขามีแผนจะมาลอบจู่โจมกองกำลังของจี้เซียระหว่างนอนหลับ พวกเขาทั้งหมดตกตะลึงเมื่อเห็นจี้เซียและจี้่ฮ่าวมาปรากฏตัวต่อหน้า มันผิดไปจากแผนที่พวกเขาวางไว้อย่างเห็นได้ชัด!

ตามแผนของดีหลัว นักรบเขี้ยวโลหิตที่ได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดีจะลอบจู่โจมทหารยามที่เฝ้าอยู่หน้าทางเข้าหุบเขา หลังจากนั้นพวกเขาจะบุกเข้าไปปั่นป่วนภายในหุบเขาเพื่อล่อจี้เซียออกมา และหนีเข้าไปในป่าที่ที่พวกเขาดักซุ่มอยู่
แต่ทำไมจี้เซียกับจี้ฮ่าวยังไม่เข้านอนตอนกลางดึกขนาดนี้ แต่กลับมายืนอยู่ที่นี่แทน?

“ท่านพ่อกับข้า กำลังรอเจ้ามาอยู่พอดี!”

จี้ฮ่าวจ้องไปที่ดีหลัวที่อยู่บนหัวตะขาบพร้อมกับใบหน้าที่ช็อคอยู่ เขาเหลือบมองเข้าไปในป่าและตะโกน

“แล้วพวกที่ซ่อนอยู่ในความมืดนั่นน่ะ ออกมาได้แล้ว !”

ในป่าที่เงียบสงัด จี้มู่กับจี้เสี่ยวกำลังซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ พวกเขามองหน้ากัน พวกเขายังไม่แน่ใจว่าจี้ฮ่าวเห็นพวกเขาจริงๆหรือแค่พูดล่อให้พวกเขาออกไป

บนต้นไม้ข้างๆพวกเขา อสรพิษขนาดใหญ่ขดตัวของมันและย่อหัวลงมาอย่างช้าๆ และจ้องที่จี้มู่กับจี้เสี่ยว เจียวนาคาทมิฬกำลังยืนอยู่บนหัวของอสรพิษ ขณะที่มือซ้ายของเขากำลังจับคอของเจียงเสวียอยู่

เจียงเสวียนั่งคุกเข่าอยู่บนหัวของอสรพิษ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา นางมองมาที่จี้มู่และจี้เสี่ยวอย่างน่าเวทนา

“พวกเจ้า 2 คนเป็นอะไรไป? แค่ทำมัน พวกเราทุกคนต่างต้องการให้จี้เซียตายไม่ใช่รึ?”

เจียวจ้องไปที่จี้เสี่ยวพร้อมหัวเราะและพูดต่อ

“เมื่อจี้เซียตายจะไม่มีใครในเผ่าที่เป็นเสี้ยนหนามกับพวกเจ้าอีกต่อไป และการตายของจี้เซียจะทำให้เผ่านาคาทมิฬของเราพอใจนั่นไม่ใช่เรื่องดีหลอกรึ?”

นักรบเผ่านาคาทมิฬนับร้อยเดินออกมาอย่างช้าๆ พวกเขาทุกคนสวมชุดที่ทำจากหนังงู ถืออาวุธที่ดูเหมือนกริชที่เคลือบด้วยยาพิษและอีกมือก็ถือดาบยาวที่เคลือบยาพิษเช่นเดียวกัน

เจียวจับไปที่ผมของเจียงเสวียและดึงขึ้นเพื่อให้หน้าของนางยกขึ้น พร้อมกับพูดว่า

“พวกเจ้าเป็นคนเสนอเองไม่ใช่รึว่าจะแลกเปลี่ยนชีวิตของจี้เซียกับยัยเด็กนี่ ข้าถึงยอมพานักรบฝีมือดีมาที่นี่กับข้าด้วยเพื่อจะฆ่าจี้เซีย ถ้าจี้เซียตายเมื่อไรพวกเจ้าถึงจะเอาเด็กนี่กลับไปได้!”

จี้มู่ทำตาแคบและมองไปที่เจียงเสวียพร้อมกับพูด

“แน่นอนพวกเราจะนำนางกลับไป นางเป็นลูกสาวของเจียงซู หนึ่งในผู้มีอิทธิพลในเผ่านกกระเรียน!”

จี้มูหันไปทางจีเสี่ยวและพูดว่า

“จี้เสี่ยวสหายข้า เนื่องจากแผนที่จะล่อจี้เซียมาเพื่อให้เจียวสังหารล้มเหลว เราคงต้องลงมือกันซึ่งๆหน้าแล้ว!”

อสรพิษคลายตัวออกจากต้นไม้และเลื่อยออกไปด้วยความเร็วราวกับสายฟ้าสีดำ นาคาทมิฬเจียวปรากฏตัวพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง เขาชี้ไปที่จี้เซียแล้วพูดอย่างเยือกเย็น

“จีเซีย เมื่อนานมาแล้วเจ้ายังจำนาคาทมิฬหมางได้ไหม ชายคนที่โดนเจ้าฆ่าตาย? มันเป็นพี่ใหญ่ของข้าเอง ข้ามาที่นี่เพื่อแก้แค้น!”

“นาคาทมิฬหมาง?” จี้เซียพูดอย่างดูถูก เขาส่ายหัวแล้วพูดว่า

“ข้าสังหารพวกงูเน่าอย่างเจ้าไปนับไม่ถ้วน มันเป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะจำชื่อพวกมันได้”

“เผ่านาคาทมิฬหมดน้ำยาแล้วรึ? ถึงขนาดต้องมาร่วมมือกับพวกประหลาดพวกนี้ เจ้าไม่รู้รึว่าคนเผ่าเจ้ากี่คนแล้วที่ถูกพวกมันจับไป ไม่เพียงแต่เผ่าเจ้าแม้แต่พี่น้องกาอัคคีของข้าก็ไม่เว้น”

จี้เซียตะโกนไปที่นาคาทมิฬและชี้นิ้วไปที่ดีหลัว

เจียวโกรธแต่เขายังหัวเราะออกมา

“แน่นอนข้ารู้ดี พวกมันเป็นศัตรูของทุกเผ่าในดินแดนทางใต้ แต่ตราบใดที่มันทำให้ข้าสังหารเจ้าได้ ข้าไม่เห็นว่าการร่วมมือกับพวกมันจะเป็นปัญหาตรงไหน เจ้าจำไว้แค่ข้าคือน้องร่วมสายเลือดของนาคาทมิฬหมาง และคนที่รอบสังหารพ่อของเจ้าก็คือพวกข้า”

อสรพิษอ้าปากพ่นหมอกสีดำออกมา ทุกๆสิ่งที่หมอกนั้นลอยผ่านถูกแช่แข็งทันที มีแผ่นน้ำแข็งหนาปกคลุมไปทั่วพื้นดิน
จี้ฮ่าวรู้สึกหนาวไปถึงกระดูก ถึงแม้ว่าเขาอยู่ค่อนข้างไกลจากหมอกสีดำ แต่ผิวของเขาเริ่มมีเกร็ดน้ำแข็งเล็กๆปรากฏขึ้น

ในเวลาเดียวกันกับที่อสรพิษพ่นหมอกออกมา เจียวดึงดาบยาวของเขาออกมาและชี้ไปที่จี้เซีย

“เจ้ายังจะรออะไรอีก รีบๆมาสู้กันให้มันจบๆ จี้เซีย”
เจียวคำราม

“ข้าจะตัดหัวของเจ้ามาเซ่นบรรพชนของพวกเรา”

ภายในป่า นักรบขั้นสูง 3 คนของเผ่านาคาทมิฬยิ้มอย่างน่ากลัว อสรพิษที่พันอยู่รอบเอวพวกเขาเริ่มคลายตัวออกมา จากนั้นอสรพิษขยายขนาดของมันจนมีความยาวกว่าร้อยฟุต นักรบทั้ง 3 โดดขึ้นไปบนหัวอสรพิษ เตรียมที่จะพุ่งออกไปสมทบกับเจียว

แต่ขณะนั้นเอง ห่างจากพวกเขา 300 ฟุต มนุษย์ต้นไม้ที่แกล้งทำเป็นต้นไม้ธรรมดา ก็ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับส่งเสียงคำราม เถาวัลย์จำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าใส่นักรบขั้นสูงและอสรพิษ พวกเขาทั้ง 3 กระเด็นลอยออกไปพร้อมส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด มนุษย์ต้นไม้ยังไม่หยุด มันยังคงปล่อยเถาวัลย์พุ่งไปราวกับพายุ

จี้มู่พุ่งไปหามนุษย์ต้นไม้อย่างรวดเร็ว ทันทีที่มันขยับเขาเอาขวานขนาดใหญ่สับไปที่ตันไม้
แต่ในขณะนั้นฝุ่นใต้เท้าของมนุษย์ต้นไม้กระจายออก มือสีขาวขนาดใหญ่พุ่งขึ้นมาจากพื้น ชกไปที่หน้าอกของจี้มู่ เขากระเด็นออกไปกระแทกกับต้นไม้ 2 ต้นก่อนจะล่วงลงมา

จี้เสี่ยวทั้งช็อคทั้งกลัว เขากำลังสับสนไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง ก่อนที่จี้เสี่ยวจะตั้งสติได้ มีจุดแสงนับร้อยปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า พร้อมกับเสียงของลูกธนู ลูกธนูนับร้อยมีพิษเรืองแสงสีฟ้าอยู่บนหัวของลูกธนู