…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

เวลาได้ผ่านไป

ในรถ SUV ทั้งสี่คันที่จอดอยู่ใกล้ๆกับโรงงาน หลี่เสี่ยวจี่ที่มีใบหน้าเย็นยะเยือกเองก็ได้เปลี่ยนไปเป็นมีความสุขทันทีหลังจากที่ได้รับสาย

“หัวหน้าว่าอย่างไงบ้าง ? ”

ชายหนุ่มคนหนึ่งที่นั่งอยู่ข้างคนขับเองก็ได้ถามออกมา

หลี่เสี่ยวจี่เองก็ได้ตอบกลับไปว่า

“ตอนนี้รองผู้จัดการได้ถูกช่วยเอาไว้แล้ว จริงๆแล้วที่นี่เป็นเพียงกับดักเท่านั้นส่วนตัวรองผู้จัดการอยู่อีกที่หนึ่ง ดูเหมือนว่าฝ่ายตรงข้ามเองได้วางกำลังเอาไว้มากมายเพื่อรอให้เราเข้าไปเหยียบกับดักพวกมัน”

ชายหนุ่มเองก็ได้พูดออกมาด้วยความประหลาดใจว่า

“ช่วยไว้แล้วงั้นหรอ ? ใครเป็นคนช่วยกัน ? ”

หลี่เสี่ยวจี่เองก็ได้พูดออกมาว่า

“ไม่รู้เหมือนกัน หัวหน้าไม่ได้บอกฉัน ”

ชายหนุ่มคนนั้นเองก็ได้ถามออกมาว่า

“แล้วเราจะเอาไง ? ถอนตัวเลยไหม ? ”

หลี่เสี่ยวจี่เองก็ได้ส่ายศีรษะพร้อมกับพูดออกมาว่า

“ยังถอนตัวไม่ได้ หัวหน้าได้โทรมาบอกให้พวกเราประจำตำแหน่งนี้เอาไว้และพวกเขากำลังเดินทางมาที่นี่ เมื่อถึงเวลาแล้วเราจะเปิดฉากโจมตีพวกมัน ”

ชายหนุ่มคนนั้นเองก็ได้พูดออกมาด้วยความสับสนว่า

“แล้วรู้อยู่แล้วว่ามันเป็นกับดักแล้วจะกระโดดลงไปเพื่อ ? ”

หลี่เสี่ยวจี่เองก็ได้ตอบกลับไปว่า

“นายไม่รู้ถึงความหมายแฝงที่อยู่ในคำพูดเหล่านี้งั้นหรอ หลังจากที่เรามาที่นี่พวกมันก็ได้ค้นพบเราแล้วและตอนนี้เราเองก็เป็นเพียงเหยื่อล่อรอให้กองกำลังของเรามาถึงที่นี่เพื่อเปิดฉากโจมตีกันเท่านั้น ”

“ริ้งงงง ริ้งงงงงง ริ้ง……..”

เมื่อเขาเพิ่งพูดจบเสียงเรียกเข้าก็ได้ดังขึ้น หลังจากที่กดปุ่มตอบรับแล้วใบหน้าของเขาเองก็ได้แสดงให้เห็นรอยยิ้มมากกว่าเดิม

“บอสใหญ่ได้บอกมาว่าเขากำลังนำกำลังคนมาที่นี่ยิ่งไปกว่านั้นนอกจากหัวหน้าเสวี่ยแล้วยังมีถังเหว่ยและถังซิ่วด้วย ”

ชายหนุ่มเองก็ได้พูดออกมาด้วยความสับสนว่า

“ถังเหว่ยนี่ฉันยังพอรู้จักส่วนถังซิ่วนี่ใครกัน ? ”

หลี่เสี่ยวจี่เองก็ได้พูดออกมาว่า

“นี่อย่าบอกนะว่านายลืมแล้วว่าไม่นานมานี้ตระกูลถังเองก็ได้พบกับทายาทที่หายตัวไปกว่า20ปี ? ชายคนนั้นคือถังซิ่วและเท่าที่ฉันรู้มาคือเขาเป็นคนที่แข็งแกร่งมากซึ่งสามารถรักษาได้แม้กระทั่งคนที่เป็นเจ้าชายนิทรา”

ชายหนุ่มคนนั้นเองก็ได้สติกลับมาพร้อมกับพูดว่า

“ดูเหมือนว่าเราจะได้รับมอบหมายหน้าที่ที่หนักเอาการเลยนะ นอกจากจะต้องสู้แล้วยังต้องปกป้องนายน้อยทั้งสองด้วย”

หลี่เสี่ยวจี่เองก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปเพราะเขาเองก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน สำหรับเขาแล้วรุ่นลูกหลานของคนรวยนั้นมักจะเป็นคนประเภทที่มีเกียรติซึ่งไม่ค่อยจะได้อยู่ในสนามรบมากนัก

แน่นอนว่า

ที่บอสใหญ่ถึงกับรีบนำคนมาที่นี่ก็เพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของถังเหว่ยและถังซิ่วแน่นอน ?

ที่ใกล้ๆกันนั้นรถ SUV สี่คันเองก็ได้มาถึงพร้อมกับถังซิ่วที่ได้มองไปที่ถังเหว่ยแล้วพูดออกมาอย่างจริงจังว่า

“นายรออยู่ที่นี่ไปก่อน ฉันจะนำคนไปตรวจดูสถานการณ์ หลังจากนี้ก็ให้เปิดมือถือเอาไว้”

ถังเหว่ยเองก็ได้พูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“ฉันจะไปด้วย ”

ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า

“จำนวนคนที่สามารถเข้าไปได้มีไม่มากนักไม่เช่นนั้นจะทำให้ศัตรูรู้ตัวได้ นายอยู่ที่นี่แหละแล้วติดต่อกับคนที่มาถึงก่อนหน้านี้ให้มาที่นี่ ฉันคิดว่าในเมื่อพวกมันได้วางกับดักเอาไว้ที่นี่ก็น่าจะไม่ได้มีคนแค่เฉพาะด้านในเท่านั้นแต่รวมไปถึงพื้นที่รอบๆนี้ ฉันคิดว่าคนของเราที่มาถึงก่อนหน้านี้ก็น่าจะถูกเฝ้าสังเกตอยู่เช่นกันหรือบางทีอาจจะกำลังถูกล้อมโดยศัตรูก็ได้”

ถังเหว่ยเองก็ได้เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาทั้งพยักหน้าว่า

“โอเค นายต้องระวังตัวนะ ”

ถังซิ่วเองก็ได้ยิ้มออกมาพร้อมกับตบไปที่บ่าของเขาแล้วเปิดประตูออกไปทันที หลังจากนั้นเขาก็ได้ไปเคาะกระจกรถคันข้างๆแล้วพูดว่า

“ลงมานี่สามคน เราจะแอบลอบเข้าไปที่นั่น”

“ผมไปเอง”

“ผมด้วย”

“ผมด้วย”

ภายในรถคันนั้นนอกจากคนขับแล้วทุกคนก็ลงมาทั้งหมด พวกเขายินดีที่จะไปกับถังซิ่วเพราะพวกเขาเองก็เคยเป็นทหารซึ่งได้รับการฝึกแบบพิเศษแต่พวกเขาก็รู้ว่าตัวเองไม่สามารถเทียบกับถังซิ่วได้

พวกเขาเห็นกับตาตัวเองตอนที่ถังซิ่วฆ่ายามทั้งสองคนนั้นอย่างคล่องแคล่วซึ่งพวกเขาไม่สามารถทำได้เช่นนั้นอย่างแน่นอน

หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที

พวกเขาทั้งสี่คนก็ได้แอบลอบเข้าไปทางหลังโรงงาน จิตสัมผัสของถังซิ่วเองก็ได้แผดพุ่งออกไปและพบว่าไม่ได้มีศัตรูอยู่รอบข้าง ทันใดนั้นเขาก็ปีนเข้าไปทันที ความเร็วของอีกสามคนเองก็ไม่ได้ช้ามาก หลังจากที่พวกเขาเข้ามาแล้วก็หลบอยู่หลังแผ่นเหล็ก

“พวกนายรออยู่ที่นี่กันก่อน หากว่าไม่ได้รับคำสั่งจากฉันก็ห้ามออกจากที่นี่โดยเด็ดขาด เป้าหมายของฉันไม่มีอะไรมาก หลังจากที่เราสำรวจพื้นที่โดยรอบแล้วก็ค่อยมารวมตัวกัน ”

ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยเสียงแผ่วเบาก่อนที่จะเดินไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว หลังจากผ่านไป4-5นาทีนั้นเขาก็ได้ใช้จิตสัมผัสและพบว่าศัตรูโดยรอบนี้มีอยู่ประมาณ10คน

ยิ่งไปกว่านั้นคือสิ่งที่ทำให้เขาถึงกับต้องขมวดคิ้วคือที่สำนักงานที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนั้นได้มีชายรูปร่างกำยำถือปืนพร้อมกับมีดส่วนบนหลังคาเองก็มีคนอยู่มากมายแต่สิ่งที่ทำให้จิตสังหารของถังซิ่วเพิ่มขึ้นก็คือเขาพบว่าคนเหล่านั้นเป็นชาวต่างชาติ

ถังซิ่วได้ยินมาว่าตระกูลเหยานั้นได้ให้เหยาซินหัวกลับมาจากต่างประเทศและมันเองก็นำผู้เชี่ยวชาญกลับมาด้วย หากว่าเขาเดาไม่ผิดชายที่อยู่คนหลังคานั้นก็น่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เหยาซินหัวนำกลับมาจากต่างประเทศ

“ศัตรูที่อยู่บนหลังคาคงยังไม่สามารถจัดการได้แต่กลุ่มคนที่ซ่อนตัวอยู่ที่โรงงานทั้งสามกลุ่มนั้นน่าจะพอจัดการได้อย่างไรก็ตามการที่จะฆ่าพวกมันทั้ง10คนโดยที่ไม่ให้คนอื่นรู้ตัวนี่มันก็ค่อยข้างจะยากเอาการนะ ”

ถังซิ่วเองก็กำลังคิดอยู่ก่อนที่จะกลับไปหาผู้คุ้มกันของเขาที่รออยู่ก่อนหน้านี้

“ออกไปตามคนข้างนอกมา จำไว้ว่าให้รีบปีนเข้ามาเร็วๆเพราะบนหลังคาของทางฝั่งนั้นเองก็มีคนส่องกล้องอยู่ตลอดเวลา หากว่าพวกมันเห็นก็จะส่งผลกระทบต่อแผนการทั้งหมดของเรา ”

ชายวัยกลางคนเองก็ได้พยักหน้าพร้อมพูดออกมาว่า

“ผมไปเอง ”

หลังจากผ่านไป7-8นาที

ถังเหว่ยเองก็ได้นำคนทั้งหมดมาที่ถังซิ่ว หลังจากนั้นก็ได้ถามออกมาด้วยเสียงกระซิบว่า

“น้องชาย สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง ? ”

ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า

“สถานการณ์ด้านในฉันได้ตรวจสอบมาเรียบร้อยหมดแล้ว ที่มุมซ้ายขวาด้านในโรงงานนั้นมีคนอยู่10คนแต่ที่ข้างหลังนั้นเองก็มีคนแบ่งออกเป็น3กลุ่มย่อยๆซึ่งแต่ละกลุ่มเองก็มีด้วยกัน2คนซึ่งพวกมันติดอาวุธอยู่สองคนส่วนที่เหลือถือมีด ตรงหลังคาเองก็มีศัตรูซ่อนตัวอยู่มากมายดังนั้นเราจำเป็นต้องจัดการกับพวก3กลุ่มด้านล่างนี้ก่อนที่จะส่งสัญญาณให้คนข้างนอกเข้ามาเพื่อเก็บกวาดพวกมัน ไม่ว่าข้างนอกมันจะล้อมเราไว้เท่าไหร่แต่หากเรายึดด้านในได้เราก็จะได้เปรียบ”

ถังเหว่ยเองก็ได้ถามออกมาด้วยความประหลาดใจว่า

“น้องชาย นายรู้ได้อย่างไรกัน ? ก่อนหน้านี้นายเคยเป็นหน่วยสอดแนมหรือไงกัน ? ”

ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“ฉันมันยิ่งกว่าหน่วยสอดแนมเยอะ เอาล่ะนายตามหลังฉันมาก็พอแล้ว อย่าลืมล่ะว่าต้องซ่อนตัวเข้าไว้ เราจะฆ่าพวกที่อยู่ในโรงงานก่อน ”

“ไปกัน ”

หลังจากนั้นไม่กี่นาที

ถังซิ่ว ถังเหว่ยและผู้คุ้มกันอีกแปดคนเองก็ได้ปรากฏตัวที่ประตูข้างๆโรงงานเพราะทางประตูหน้านั้นเต็มไปด้วยศัตรูอยู่กว่าสิบคนดังนั้นภายใต้จิตสัมผัสของถังซิ่วเขาจึงได้เข้าไปทางประตูด้านข้างก่อนที่จะอ้อมหลังศัตรูเหล่านั้นเพื่อฆ่าพวกมันแบบไม่ทันตั้งตัว

“พวกนายทั้งเก้าคนต้องรีบลงมือหลังจากที่ประชิดตัวพวกมัน ฉันจะจัดการกับทั้งสองคนที่ถืออาวุธปืนเอง เราจะต้องจัดการอย่างเด็ดขาดเพื่อไม่ให้มันส่งสัญญาณแจ้งเตือนไปยังคนอื่นๆ”

ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยเสียงกระซิบ

“วางใจได้ ”

คนอื่นๆเองก็ได้ทำท่าทางโอเคกลับมา

ไม่นานหลังจากนั้น

พวกเขาเองก็อาศัยการหลบอยู่หลังเฟอร์นิเจอร์แล้วเข้าใกล้พวกมันขึ้นเรื่อยๆ มีเพียงแค่สองคนเท่านั้นที่กำลังสังเกตการณ์อยู่ภายนอกส่วนคนอื่นๆนั้นกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้หรือไม่ก็กำลังทำความสะอาดปืน

“ลงมือได้”

ถังซิ่วได้พูดออกมาเบาๆพร้อมกับออกตัวไปทันที ในสองวิชาทีนั้นเขาก็ได้พุ่งเข้าไปหาชายที่ถืออาวุธปืนทั้งสองโดยที่คนอื่นยังไม่ทันได้ตั้งตัวพร้อมกับใช้มีดที่คมกริบในมือแทงคอหอยของพวกเขาทันที หลังจากที่ได้แทงไปแล้วหนึ่งคนเขาก็ได้เคลื่อนไหวต่อโดยการไปปรากฏข้างหลังชายอีกคนหนึ่งก่อนที่จะใช้มือจับหัวเขาไว้แล้วกระชากออกทันที

“ศัตรูบุก”

ชายรูปร่างกำยำเองก็ได้กระโดดขึ้นมาจากเก้าอี้พร้อมกับหยิบมีดขึ้นมา

พุฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ………

มีดที่แหลมคมเองก็ได้แทงทะลุร่างของชายคนนั้นทันที

ถังซิ่วเองก็ได้พุ่งเข้าไปทางเขาพร้อมทั้งแทงซ้ำไปที่คอของเขาทันที หลังจากที่ถังซิ่วแทงไปแล้วก็กระชากมีดกลับมาแล้วแทงไปที่ชายอีกคนที่อยู่ข้างๆกัน

จึ้ก ! จึ้ก ! จึ้ก !

แสงสะท้อนของใบมีดได้วาดผ่านไปมา ถังเหว่ยและผู้คุ้มกันที่เหลือนั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก พวกเขาได้เปิดฉากโจมตีชายเหล่านี้พร้อมกับฆ่าพวกเขาภายในไม่กี่วินาที อย่างไรก็ตามถังซิ่วได้ฆ่าไปทั้งหมด4ใน10ส่วนอีก6คนนั้นได้ถูกถังเหว่ยและผู้คุ้มกันอีกแปดคนรุมฆ่า

“ราบรื่นดีจริงๆ ”

ถังเหว่ยเองก็ได้พูดออกมาด้วยใบหน้าที่พึงพอใจ

ถังซิ่วเองก็ได้พยักหน้าพร้อมกับพูดออกมาว่า

“อื่ม ไปได้ด้วยดีแต่ว่ายังเหลือศัตรูอยู่อีกสองคนอย่างไรก็ตามฉันหวังว่าเราจะเหลือคนเอาไว้เพื่อเค้นข้อมูลจากมันว่าได้วางกำลังเอาไว้มากเท่าไหร่กัน”

ถังเหว่ยเองก็ได้ถามออกมาว่า

“ความหมายของนายคือ ……… นอกจากที่นี่แล้วก็ยังมีพวกที่ล้อมรอบไว้ใช่ไหม ?”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“ฉันพบกับศัตรูที่อยู่ภายในทั้งหมดแล้วแต่ฉันยังไม่รู้ว่าด้านนอกมีกำลังคนอยู่อีกมากแค่ไหนกันดังนั้นเราต้องการทำให้มันชัดเจน”

ถังเหว่ยเองก็ได้พูดออกมาว่า

“น้องชาย ความสามารถของนายนี่น่าทึ่งจริงๆ นายจัดการฆ่าคนไปส่วนเรื่องคนที่จะจับมาเค้นข้อมูลนั้นยกให้ฉันเลยแล้วกัน”

ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาว่า

“อย่าเพิ่งประมาท นายกับคนอื่นเองก็ร่วมมือกันฆ่าอีก2กลุ่มที่เหลือด้วยแล้วกัน”

ถังเหว่ยเองก็ได้ถามออกมาว่า

“เราจะไปที่โรงงานอื่นงั้นหรอ ? ”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“ใช่แล้ว ”

ไม่นานหลังจากนั้น ผู้คุ้มกันเองก็ได้หยิบปืนของศัตรูไป ก่อนหน้านี้ที่ลานสเก็ตพวกเขาก็ได้ปืนมาจากการฆ่า4กระบอกและตอนนี้ก็ได้เพิ่มมาอีก2กระบอกรวมกับปืนที่ถังหมินให้ถังเหว่ยเอามาให้อีกก็กลายเป็น7กระบอก ทว่าผู้คุ้มกัน4คนของเสวี่ยเจี่ยเองก็มีปืนเช่นกันดังนั้นรวมปืนทั้งหมดที่พวกเขามีตอนนี้ก็คือ11กระบอก