…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ถังซิ่วเองก็ได้เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“เอาล่ะ นายลองติดต่อเขาดูแล้วกันว่าเขามาที่เกาะไซปันนี่ได้ไหม หากว่าเราสามารถซื้อเครื่องบินเหล่านี้ได้ก่อนที่โครงการจะเริ่มก็จะช่วยประหยัดเวลาและทำให้เราสะดวกขึ้นอีกเยอะเลยล่ะ ”

โม่อาเหวินเองก็พยักหน้าพร้อมกับเดินออกไปที่ห่างไกลแล้วโทรไปยังเบอร์หนึ่ง

หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที

โม่อาเหวินเองก็ได้กลับมาข้างๆถังซิ่วพร้อมกับพูดว่า

“บอสครับ ผมได้ติดต่อกับทางโบเหลียนดุนแล้วครับ เขาบอกว่าเขายินดีที่จะได้ทำธุรกิจกับคุณมากและตอนนี้เขาเองก็ติดธุระอยู่เล็กน้อยแต่รีบตามมาให้ไวที่สุดซึ่งไม่น่าจะเกิน1อาทิตย์ครับ”

ถังซิ่วได้พยักหน้าก่อนที่จะพูดว่า

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้นนายก็อยู่รอเจรจากับเขาที่นี่แล้วกัน หลงเจิ้งหยู ในเมื่อเราตัดสินใจที่จะสร้างลานบินก่อนก็ขอให้นายช่วยไปคุยกับทางทีมงานเพื่อให้ร่างสัญญาด้วย หากเสร็จแล้วก็เริ่มทำได้เลย……”

หลงเจิ้งหยู้องก็ได้พูดออกมาว่า

“ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะหาคนมาจัดการให้เร็วที่สุดก่อนที่จะเอาเอกสารมาให้นาย อย่างไรก็ตามนายต้องการสร้างลานบินแค่ไหนงั้นหรอ ?”

ถังซิ่วได้เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาช้าๆว่า

“สามารถจอดเครื่องบินได้4ลำ เฮลิคอปเตอร์อีกนิดหน่อย หากมากเกินไปก็เสียเปล่า ”

“ได้เลย !”

หลงเจิ้งหยูเองก็ได้พยักหน้า

เช้าวันรุ่งขึ้นหลงเจิ้งหยูและทอมเรกกี้เองก็ได้ตระเวนไปทั่วเกาะแห่งนี้ก่อนที่จะนำผู้ช่วยกลับไปส่วนถังซิ่วนั้นกำลังจดจ่ออยู่กับการบ่มเพาะพลังของเขา

ระดับพลังของเขานั้นเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาบ่มเพาะในแต่ละวันของเขา เมื่อเช้านี้เขาเองก็ได้ไปนั่งบ่มเพาะอยู่ที่บ่อน้ำพุวิญญาณพร้อมกับดูดกลืนพลังวิญญาณจักรพรรดิม่วงเข้าไปเช่นกัน หลังจากบ่มเพาะอยู่เป็นเวลา5-6วันก็ทำให้ความไวและความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นหลายเท่า

เขาสามารถรู้สึกได้ว่าหากใช้เวลาอีก3-5วันก็จะสามารถตัดผ่านไปยังระดับกลางของขั้นเสริมสร้างเลือดเนื้อได้ ซึ่งการที่เขาจะตัดผ่านไปยังระดับสุดท้ายของขั้นนี้จะต้องทำให้สำเร็จก่อนที่จะถึงเดือนสิงหาคม

จริงๆแล้วเขาได้วางแผนไว้ว่าจะใช้เวลาช่วงปิดเรียนทั้งหมดเพื่อบ่มเพาะพลังจนถึงวันเปิดเรียนที่1กันยายน เขาคิดว่าตัวเองน่าจะสามารถตัดผ่านมาถึงระดับแรกเริ่มของขั้นเสริมสร้างเลือดเนื้อแต่หลังจากที่เขาได้ค้นพบน้ำพุและพลังวิญญาณจักรพรรดิม่วงแล้วก็ทำให้ระดับพลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

ในช่วงเช้า

ถังซิ่วกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ที่บ่อน้ำพุเช่นเคย เขาได้ดูดกลืนพลังวิญญาณจักรพรรดิม่วงเข้าไปพร้อมกับพลังแห่งดวงดาราและดวงอาทิตย์ที่ถูกดูดมาจากห้วงจักรวาล

“หลอมรวม ? ”

คิ้วของถังซิ่วได้ขมวดเข้าหากันก่อนที่จะเปิดตาออกมา เขาได้ยิ้มออกมาอย่างฝืนใจเพราะพลังวิญญาณจักรพรรดิม่วงที่เขาดูดกลืนนั้นถึงขีดจำกัดที่ร่างกายของเขาจะรับไหวแล้ว หากว่าต้องการจะดูดกลืนเพิ่มก็ต้องใช้เวลาในการหลอมรวมกับร่างกายเสียก่อน ตอนนี้เขาทำได้เพียงเก็บกักพลังวิญญาณที่เพิ่งดูดกลืนมาไว้ในตันเทียนเท่านั้น

“ระดับพลังของฉันมันต่ำเกินไป อ๊า! หากว่าฉันแข็งแกร่งเหมือนเมื่อก่อนก็คงสามารถหลอมรวมพลังที่ดูดกลืนมาในวันนี้ได้ทั้งหมด”

ถังซิ่วได้ถอนหายใจออกมาพร้อมกับเงยหน้าไปมองที่ห่างไกล

ที่ถนนตรงภูเขา

โม่อาเหวินได้รีบมาหาถังซิ่วพร้อมกับพูดอย่างเคารพว่า

“บอสครับ รองผู้จัดการโบเหลียนดุนกำลังไปที่เกาะไซปันครับ เราจะไปกันตอนไหนครับ ?”

คิ้วของถังซิ่วเองก็ได้ยกตัวขึ้นก่อนที่เขาจะพูดออกมาว่า

“กลับไปเก็บของซะ ฉันจะไปจากที่นี่ทันที ! ยิ่งเราจัดการเรื่องการขนส่งเร็วเท่าไหร่ฉันก็ยิ่งวางใจได้เร็วขึ้น อ่อใช่ ฉันตั้งใจว่าจะสั่งเฮลิคอปเตอร์ซึ่งเป็นแบบของกองทัพมา นายคิดว่าเขาหามาให้เราได้ไหม ? ”

โม่อาเหวินเองก็ได้พยักหน้าพร้อมตอบกลับไปว่า

“ตอนที่ผมยังอยู่ในองกรเองก็เคยได้สั่งเฮลิคอปเตอร์จากพวกเขาถึง2ลำยิ่งไปกว่านั้นเทคโนโลยีของพวกเขาเองก็เป็นของชั้นสูงมากและคนที่ติดต่อซื้อขายกับเขาก็คือผม ”

ถังซิ่วได้ถามออกมาว่า

“นายคิดว่าเราจำเป็นต้องซื้อเฮลิคอปเตอร์หรือเปล่า ? ”

โม่อาเหวินเองก็ได้เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า

“บอสครับ ผมไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไรดี ”

ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“ถ้าไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรก็ไม่จำเป็นต้องตอบ ฉันตัดสินใจล่ะ ! เราจะสั่งเครื่องบินบรรทุกสินค้า4ลำพร้อมกับเฮลิคอปเตอร์ทางการทหารอีก4ลำ ตอนนี้งบของเรามีจำกัดเพราะฉะนั้นเราต้องประหยัดกันก่อน รอให้ถึงตอนที่เราไม่ขาดเงินแล้วก็ค่อยซื้อใหม่หากว่ามันยังไม่พอ”

“ได้ครับ”

โม่อาเหวินเองก็ได้พยักหน้าพร้อมกับตอบกลับไป

หลังจากผ่านไปสองวัย

ถังซิ่วและโม่อาเหวินเองก็ได้กลับมายังเกาะไซปัน จากจุดนัดพบที่ได้ตกลงกันไว้นั้นคือโรงแรมอ่าวเหลาซึ่ง โบเหลียนดุนนั้นเป็นชายวัยกลางคนที่ตัวสูงใหญ่รูปร่างกำยำ เขาใส่เสื้อผ้าชั้นสูงของชาวตะวันตกพร้อมกับผู้คุ้มกันหน้าตาเคร่งขรึมอีก4คน

“เพื่อนโม่ เราได้พบกันอีกแล้ว”

โบเหลียนดุนและโม่อาเหวินเองก็ได้สอมกอดกันพร้อมกับพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม

โม่อาเหวินได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“คุณเหลียนดุน นี่คือบอสของผมซึ่งมาจากเมืองจีนเช่นเดียวกัน คุณสามารถเรียกเขาว่าบอสถัง”

คิ้วของโบเหลียนดุนเองก็ยกตัวขึ้น เขาได้กอดกับถังซิ่วก่อนที่จะพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“บอสถัง คุณสุดยอดจริงๆเลยที่สามารถทำให้คุณโม่ไปเป็นพนักงานของคุณได้ มันเหมือนกับว่าคุณได้พบเจอกับภูเขาสมบัติเลยก็ว่าได้ จากที่ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์แล้วก็ได้ยินมาว่าคุณต้องการเครื่องบินบรรทุกสินค้าของเรางั้นหรอครับ ? ”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“ใช่แล้ว ฉันต้องการซื้อเครื่องบินเหล่านั้นแต่หากว่าราคาของคุณสูงกว่าที่อื่นๆ เราก็จะไปสั่งจากที่อื่นเช่นกัน”

โบเหลียนดุนเองก็ได้พูดออกมาด้วยรวยยิ้มว่า

“เอาล่ะ ไว้ใจได้เลยว่าคุณโม่ไม่ได้ร่วมธุรกิจกับเราครั้งแรกดังนั้นผมจะให้ราคาที่เหมาะสมมากๆ คุณต้องการจะสั่งซื้อเครื่องบินกี่ลำงั้นหรอครับ ? ”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“เครื่องบินบรรทุก4ลำ เฮลิคอปเตอร์ทางการทหาร4ลำและฉันต้องการแบบที่มันเป็นมาตรฐานซึ่งดีที่สุดที่คุณจะนำมาขายได้ ”

โบเหลียนดุนเองก็ได้พูดออกมาด้วยความประหลาดใจว่า

“คุณต้องการเฮลิคอปเตอร์ทางการทหารด้วยงั้นหรอ ? ”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“ใช่แล้ว ล๊อทแรกเราจะสั่งแค่4ลำเท่านั้นและหลังจากที่ฉันเสร็จเรื่องต่างๆแล้วก็จะซื้อเพิ่ม ในช่วงที่ไม่มีปัญหาด้านการเงินนั้นต่อให้นายขายเครื่องบินรบฉันก็จะซื้อ ”

หัวใจของโบเหลียนดุนเองก็กระสับกระส่ายพร้อมกับมองด้วยท่าทางที่เปลี่ยนไปทันที ก่อนหน้านี้เขาก็คิดว่าจริงๆเขาที่เป็นถึงรองผู้จัดการเองไม่จำเป็นที่จะต้องมาต้อนรับด้วยตัวเองด้วยซ้ำแต่สถานะของโม่อาเหวินเองไม่ธรรมดาดังนั้นเขาถึงต้องมาต้อนรับด้วยตัวเอง

แต่

ใครจะไปกินกันว่าจะได้รับผลประโยชน์ขนาดนี้

หลังจากที่เงียบอยู่นานโบเหลียนดุนเองก็ได้หยิบเอกสารออกมาจากกระเป๋าพร้อมกับส่งให้ถังซิ่วแล้วพูดว่า

“คุณถัง นี่เป็นแคตตาล็อกของบริษัทเราและมันเองก็มีเขียนอธิบายไว้หมดแล้ว หลังจากที่คุณเลือกแล้วราคาจะหักลบไปอีก10%จากที่เขียนเอาไว้”

ถังซิ่วได้หยิบเอกสารมาพร้อมกับอ่านมันช้าๆ

“ข้อเสนอของบริษัทคุณเองก็ไม่ใช้น้อยๆเลยแต่ว่าเท่าที่ฉันรู้คือสถานที่อื่นเองก็ให้ข้อเสนอที่ดีกว่าไม่น้อยเลยเช่นกัน ”

โบเหลียนดุนเองก็ได้ได้หรี่ตาลงก่อนที่จะถามออกมาว่า

“ดูเหมือนว่าคุณถังจะไม่รู้ว่าบริษัทเทคโนโลยีการบิ่นเบี่ยนของเรานั้นเป็นถึงบริษัทชั้นนำของโลก ราคาต้นทุนเองก็ไม่ใช่น้อยๆดังนั้นผมหวังว่าคุณจะเคารพเทคโนโลยีและความสามารถของบริษัทเรา”

ถังซิ่วได้ส่ายศีรษะก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“ฉันเคารพคุณและบริษัทของคุณแต่ราคาที่คุณว่ามานั้นสูงเกินไป เอางี้แล้วกันเรื่องการเจรจาราคานั้นยกให้เป็นหน้าที่ของอาเหวิน”

โบเหลียนดุนเองก็ได้มองไปที่โม่อาเหวินที่อยู่ข้างๆถังซิ่วก่อนที่จะยักไหล่แล้วพูดว่า

“ไม่มีปัญหา ”

ถังซิ่วได้พูดต่อว่า

“พวกนายจัดการกันเองแล้วกัน ฉันจะไปหาเพื่อนฉันหน่อย ผมขอเชิญคุณโบเหลียนดุนมาทานอาหารค่ำกันในวันนี้”

“ได้แน่นอน !”

โบเหลียนดุนเองก็ได้ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

ไม่นาน

ถังซิ่วก็ได้ไปถึงโกดังเก็บของขนาดใหญ่ที่ทอมเรกกี้กำลังสั่งการพนักงานของเขา ถังซิ่วเห็นได้อย่างชัดเจนว่านอกจากคอนกรีตแล้วก็ยังมีอุปกรณ์อื่นๆมากมายที่ถูกเก็บไว้ในกล่อง

“เริ่มแล้วงั้นหรอ ? ”

ถังซิ่วได้ถามออกมา

ทอมเรกกี้เองก็ได้ตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า

“หลังจากที่นายได้โอนเงินหมื่นล้านไปให้หลงเจิ้งหยูนั้นเขาก็ตัดสินใจให้ฉันมา2พันล้านเพื่อซื้ออุปกรณ์ต่างๆจากพื้นที่แถบนี้ เขากำลังปรึกษาอยู่กับทีมการช่างและฉันคิดว่าอีกหนึ่งเดือนเราก็จะมีอุปกรณ์ก่อสร้างจำนวนมหาศาลถูกตุนเอาไว้ที่นี่ เพื่อถึงเวลาเราก็จะจัดส่งอุปกรณ์ล๊อทแรกไปยังเกาะเก้ามังกร”

ถังซิ่วได้ยกนิ้วโป้งขึ้นมาพร้อมกับพูดว่า

“ดูเหมือนว่าการที่ฉันให้นายเป็นคนดูแลโครงการนี้จะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องนะ เสร็จงานเมื่อไหร่เราไปทานอาหารค่ำกัน”

ทอมเรกกี้เองก็ได้ตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า

“ฉันสามารถไปตอนไหนก็ได้เพราะตอนนี้ได้มีลูกน้องของฉันคอยสั่งการแทนอยู่ มันไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน”

ถังซิ่วได้พูดต่อว่า

“งั้นพาฉันไปดูอุปกรณ์ก่อสร้างหน่อยสิ ”

“ตามมาสิ !”

ทอมเรกกี้เองก็ได้ตอบกลับ

หลังจากผ่านไปสองชั่วโมงพวกเขาก็ได้ออกจากโกดังสินค้าแห่งนี้พร้อมกับกลับไปที่โรงแรมอ่าวเหลา ถังซิ่วและทอมเรกกี้เองก็ได้กลับไปอาบน้ำก่อนที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปที่ห้องจัดเลี้ยงทันที

งานเลี้ยงอาหารค่ำ

ทอมเรกกี้เองนั้นรู้ถึงสถานะของโบเหลียนดุนอยู่ก่อนแล้วพร้อมกับเอาไวน์ชั้นดีออกมาสองขวด พวกเขาได้สนทนากันอย่างมีความสุข

หลังจากที่งานจบลงแล้ว

ถังซิ่วและโม่อาเหวินเองก็ได้กลับไปที่วิลล่าของพวกเขาก่อนที่โม่อาเหวินจะรายงานข้อตกลงให้ถังซิ่วฟังว่า

“บอสครับ ผมได้พยายามสุดความสามารถแล้ว ลดได้8.2%จากราคาวัตถุดิบและผมเองก็เลือกเฮลิคอปเตอร์ที่ดีที่สุดซึ่งทั้งหมดนี้เราต้องจ่ายเงินจำนวน1.45พันล้านและอีก20ล้านให้แก่โบเหลียนดุน”

“รับเงินใต้โต๊ะ ? ”

คิ้วของถังซิ่วได้ยกตัวขึ้น

เขาเคยได้ยินคำนี้มาก่อน เขาไม่คิดเลยว่าโบเหลียนดุนเองที่เป็นคนมีสถานะจะสนใจเรื่องเงินใต้โต๊ะเช่นกัน