…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ถังซิ่วไม่ได้อธิบายกับหลันเถาไปว่าทำไมเขาถึงต้องเปลี่ยนที่นี่ให้เป็นสวรรค์ของผู้บ่มเพาะเพราะถึงเขาอธิบายออกไปหลันเถาก็ไม่มีทางเข้าใจอยู่ดี
หลังจากที่ได้เหยียบที่เกาะนี้เป็นครั้งแรกนั้น
ถังซิ่วเองก็รู้สึกได้ถึงความหนาแน่นของพลังวิญญาณทันที อย่างน้อยคือมันหนานแน่นมากกว่าสถานที่อื่นๆถึง5เท่า ยิ่งลึกเข้าไปเท่าไหร่ก็จะยิ่งรู้สึกผ่อนคลายไปทั่วร่างกาย หากว่าสร้างที่นี่เสร็จแล้วเขามั่นใจมากว่าความหนาแน่นของพลังวิญญาณอาจจะมากกว่าด้านนอกถึง100เท่า
อย่างไรก็ตาม
เขาก็ไม่กล้าทำถึงขนาดนั้นเพราะหากว่าคนธรรมดาเข้ามาสูดอากาศนั้นจะต้องกระอักอย่างแน่นอน
“ไม่ต้องถามมาก หลังจากที่สร้างเสร็จแล้วนายก็จะรู้เอง ”
ถังซิ่วได้โบกมือไปให้หลันเถาพร้อมกับส่งสัญญาณให้เขาไปจัดการเรื่องที่ต้องทำ เขาได้หันหลังกลับพร้อมกับมองไปยังผืนป่าแล้วหยุดอยู่ที่สุดขอบฟ้าที่ห่างไกล
ดวงอาทิตย์สีแดงฉานได้ปรากฏขึ้น
ถังซิ่วสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นนั้นได้มีพลังวิญญาณสีม่วงแผ่ลงมาจากก้อนเมฆบนฟ้า
“พลังวิญญาณจักรพรรดิม่วง ? ”
“เป็นไปได้อย่างไร บนโลกนี้จะไปมีพลังวิญญาณจักรพรรดิม่วงได้ไงกัน ? ”
ร่างกายของถังซิ่วสั่นสะท้านก่อนที่จะมองไปด้วยความรู้สึกตกตะลึง ต้องรู้ก่อนว่าพลังวิญญาณจักรพรรดิม่วงนั้นเป็นสัญลักษณ์แดนหยางสีม่วงของดินแดนแห่งนิรันด์แต่ที่แห่งนั้นเองก็มีอยู่ด้วยกันเพียง9แห่งและปรากฏออกมา9ครั้งในทุกๆปีเท่านั้น พลังวิญญาณสีม่วงเหล่านี้ให้ประโยชน์แก่นิรันด์มากมาย
“หากว่าสามารถดูดกลืนพลังวิญญาณจักรพรรดิม่วงเหล่านี้ได้ทั้งหมด ฉันจะต้องสามารถตัดผ่านไปยังขั้นเสริมสร้างเลือดเนื้อได้อย่างแน่นอน”
ตื่นเต้น !
มีความสุข !
ณ ตอนนี้เขามีความสุขจนไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้เลย เวลาที่เขาจะได้กลับไปยังดินแดนแห่งนิรันด์นั้นไม่ช้าและไม่เร็วแต่ตอนนี้เขาสามารถหาทางลัดได้แล้ว
หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที
ถังซิ่วได้ปรากฏตัวอยู่ใกล้ๆกับพลังวิญญาณจักรพรรดิม่วง ตอนนี้เขาได้ปลดปล่อยจิตสัมผัสออกไปพร้อมกับพลังแห่งดวงดาราที่หมุนวนอยู่ภายในร่างกายได้ไหลผ่านไปทั่วเส้นพลังภายในร่างกายของเขา ตอนนี้เขารับรู้ได้ว่าพลังวิญญาณของที่แห่งนี้นั้นมีน้อยมากแต่ใต้ฝ่าเท้าของเขานั้นมีดินแดนที่ไหลเวียนไปด้วยพลังวิญญาณอย่างหนาแน่น
“ด้านใต้นี้…….มีบ่อน้ำพุวิญญาณ ? นี่เป็นปากทางเข้าบ่อน้ำพุวิญญาณ ? ”
ถังซิ่วถึงกับโง่งมทันที
สิ่งที่เขาค้นพบนั้นทำให้เขาถึงกับตกอยู่ในสภาวะที่ช๊อคขนไม่สามารถจะช๊อคไปมากกว่านี้ได้แล้ว เขาได้ตรวจสอบแล้วว่าที่แห่งนี้มีเส้นชีพจรวิญญาณอยู่แต่ไม่เคยคาดคิดเลยว่าจะมีบ่อน้ำพุวิญญาณอยู่ด้วย
บ่อน้ำพุวิญญาณ
มันถูกอัดแน่นไปด้วยพลังวิญญาณมากมาย หากว่าบ่มเพาะพลังอยู่ที่นี่ก็สามารถดูดกลืนพลังจากน้ำพุเหล่านี้และทำให้ความเร็วเพิ่มเป็น2เท่าด้วยความพยายามเพียงครึ่งเดียว
“ที่อื่นยังมีบ่อน้ำพุวิญญาณนี่อยู่อีกหรือเปล่า ? ”
ถังซิ่วเองก็ได้คิดถึงอ่าวที่ยื่นออกไปอีก8อ่าวพร้อมกับรีบออกไปทันที หลังจากที่ผ่านไปหลายนาทีเขาก็ได้มายืนอยู่ที่อ่าวอีกแห่งหนึ่งก่อนที่จะปลดปล่อยจิตสัมผัสออกไป หลังจากนั้นไม่นานใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยท่าทางแห่งความสุข
มี !
เขาสามารถรับรู้ได้ถึงบ่อน้ำพุวิญญาณได้อย่างชัดเจน !
“อย่าบอกนะว่าที่ปลายสุดของอ่าวทั้ง9ของเกาะนี้มีบ่อน้ำพุวิญญาณอยู่ทั้งหมด ? ”
เพื่อที่จะยืนยันข้อสงสัยนี้ถังซิ่วจึงได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วพร้อมกับไปยังอ่าวต่างๆทั่วเกาะแห่งนี้ ทุกๆครั้งที่เขาสามารถยืนยันได้นั้นใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความสุขที่เพิ่มขึ้นและเมื่อเขาสามารถยืนยันได้ว่าทั้ง9แห่งมีบ่อน้ำพุวิญญาณอยู่ก็ทำให้เขายิ้มออกมาจนไม่สามารถหุบได้
ทุกๆปลายสุดของอ่าวทั้ง9มีบ่อน้ำพุวิญญาณอยู่ !
9 บ่อน้ำพุวิญญาณ อ้ากกก !
เมื่อสามารถยืนยันเรื่องราวเหล่านี้ได้ถังซิ่วก็มั่นใจแล้วว่าในอนาคตเขาสามารถฝึกผู้เชี่ยวชาญได้มากมายจนถึงขั้นที่ตัดผ่านไปยังเขตแดนนิรันด์ก็ไม่ใช่ปัญหาแม้แต่น้อย
“ต้องรีบจัดการสร้างที่แห่งนี้ใหม่ทั้งหมดให้เร็วที่สุด ”
ถังซิ่วได้คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะไม่ใช้บริษัทก่อสร้างจากต่างประเทศอีกแล้ว
ทันใดนั้น
เขาได้หยิบโทรศัพท์ดาวเทียวออกมาพร้อมกับโทรไปยังเบอร์ของหลงเจิ้งหยูทันที
“สวัสดีครับ ผมหลงเจิ้งหยู นั่นใครกัน ? ”
เสียงที่ทุ้มต่ำและลึกของหลงเจิ้งหยูได้ถูกส่งผ่านมาทางปลายสาย
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า
“ฉันเอง ถังซิ่ว !”
ห้องผู้จัดการหลงกรุ๊ป เมืองสตาร์ซิตี้
ท่าทางของหลงเจิ้งหยูได้เปลี่ยนเป็นโง่งมพร้อมกับแสดงใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มออกมาก่อนที่จะพูดว่า
“ถังซิ่ว หลายวันมานี้ฉันโทรไปหานายตั้งหลายรอบแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ นายไปอยู่ที่ไหนกัน ? ”
ถังซิ่วได้ถามออกมาว่า
“นายมีปัญหาอะไรถึงโทรหาฉันงั้นหรอ ? ”
หลงเจิ้งหยูเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“ไม่ได้สำคัญอะไรมากหรอก ฉันจะโทรไปแจ้งเรื่องเกี่ยวกับสมุนไพรที่นายตามหาและให้ใบสั่งไปกับชูยี่น่ะ ก่อนหน้านี้พ่อฉันได้เจอเพื่อนเก่าที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสมุนไพรที่จังหวัดชิงไห่น่ะ ฉันได้บอกให้พ่อฉันลองถามเพื่อนของเขาดูและไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะมีสมุนไพรเหล่านั้นอยู่มากมาย ”
ถังซิ่วได้พูดออกมาทันทีว่า
“มีเท่าไหร่เอาเท่านั้น”
หลงเจิ้งหยูเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“ตกลงตามนั้น ฉันจะติดต่อไปหาเขาเพื่อให้แจ้งรายระเอียดกับนาย อ่อแล้วนายโทรมาหาฉันเพราะอะไรงั้นหรอ ? ”
ถังซ่วเองก็ได้พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า
“ฉันมีเรื่องที่อยากจะให้ช่วย เป็นเรื่องสำคัญมากๆ แม้ว่าฉันอยากจะคุยกับนายต่อหน้าแต่ตอนนี้ก็ทำได้แค่บอกทางโทรศัพท์เท่านั้น”
“นายว่ามาสิ”
หลงเจิ้งหยูเองก็ได้ตอบกลับไปอย่างไม่ไหวติง
ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า
“ฉันได้ซื้อเกาะส่วนตัวเอาไว้และต้องการจะจัดการสร้างมันใหม่ ฉันต้องการบริษัทก่อสร้างที่สามารถเชื่อถือได้ ”
หลงเจิ้งหยูได้พูดออกมาด้วยท่าทางอับอายและฝืนยิ้มว่า
“เห้ นี่มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยนะเนี้ย เราไม่เคยสร้างนอกเขตพื้นที่ของเราและไม่รู้ถึงสถานการณ์จากต่างประเทศเช่นกัน ”
ถังซิ่วได้พูดขึ้นว่า
“นายตั้งบริษัทที่นี่ไม่ได้งั้นหรอ ? พร้อมกับทีมงานที่จ้างมาจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะต้องจ่ายเพิ่มเท่าไหร่ฉันก็ยอม ”
หลงเจิ้งหยูเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มที่ฝืนว่า
“นี่มันไม่ใช่ปัญหาด้านการเงิน โครงการเล็กๆที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปทำจนถึงกับต้องจัดตั้งบริษัทนั้นมันเป็นปัญหาไม่ใช่น้อย”
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า
“หลงเจิ้งหยู นายพูดผิดแล้ว โครงการเปลี่ยนแปลงเกาะนี้ไม่ใช่โครงการเล็กๆอย่างแน่นอน เงินลงทุนที่ฉันจะใช้ไปน้อยที่สุดคือ2หมื่นล้าน”
“เท่าไหร่นะ ? ”
หลงเจิ้งหยูได้กระโดดขึ้นจากโต๊ะพร้อมกับโห่ร้องออกมาทันที
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า
“น้อยสุดคือ2หมื่นล้าน”
ลมหายใจของหลงเจิ้งหยูถี่ขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่ค่อยจะได้เห็นโครงการที่จะมีราคาสูงถึง2หมื่นล้านนัก หากว่าตระกูลของเขาสามารถได้รับโครงการแบบนี้ได้ก็รับรองได้เลยว่าพวกเขาจะได้ผลกำไรและไม่จำเป็นต้องรับโครงการอื่นอีกเลยตลอดทั้ง2-3ปีนี้
“มาเจอกันหน่อย”
ดวงตาของหลงเจิ้งหยูดแดงก่ำพร้อมกับตะโกนออกมาอย่างดัง
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า
“ไม่มีปัญหา ในเมื่อนายอยากจะพบก็มาที่นี่ในวันพรุ่งนี้แล้วกัน ฉันจะไปพบนายที่เกาะไซปัน ”
หลงเจิ้งหยูเองก็ได้ถามออกมาอย่างรวดเร็วว่า
“ตอนนี้ฉันยังกังวลอยู่มากและหากสามารถคลายความกังวลนี้ได้ฉันก็เชื่อว่าจะสามารถสร้างทีมก่อสร้างได้อย่างแน่นอน ”
ถังซิ่วได้ถามออกมาว่า
“นายกังวลอะไร ? ”
หลงเจิ้งหยูเองก็ได้พูดออกมาว่า
“เราไม่คุ้นเคยกับสถานการณ์ที่เกาะไซปันและมันจะมีปัญหากับทางภาครัฐของที่นั่น นายมีเส้นสายที่กว้างขวางก็คงจะพอมีคนที่ช่วยจัดการได้อยู่บ้างใช่ไหม ? ”
ถังซิ่งเองก็ได้พูดออกมาหลังจากที่เงียบไปครู่หนึ่งว่า
“มีอยู่บ้าง”
หลงเจิ้งหยูได้แสดงรอยยิ้มออกมาแล้วถามว่า
“เป็นใครกัน ? ”
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า
“เป็นเพื่อนของลูกน้องฉันและเขามีอำนาจในเกาะนี้มาก หากว่าทางฝั่งนายมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นฉันก็สามารถไปให้เขาให้ช่วยนายได้เลย ”
หลงเจิ้งหยูเองก็ได้พูดออกมาว่า
“ไม่มีปัญหา เอางี้ พรุ่งนี้ฉัน……..ไม่ไม่ ฉันจะไปวันนี้เลย เราจะไปดูที่ดูทาง ฉันควรจะไปพบนายที่ไหนเมื่อฉันไปถึง”
“โรงแรมอ่าวเหลา”
ถังซิ่วได้ตอบกลับด้วยเสียงทุ้มต่ำ
เมื่อวางสายไปแล้วถังซิ่วเองก็ได้คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาคิดว่าจะเดินทางไปคุยกับทอมเรกกี้ด้วยตัวเอง หากว่าเขาต้องการร่วมมือด้วยก็ควรจะให้ผลประโยชน์เขาบ้าง
และ
หลังจากที่เกาะเก้ามังกรได้ถูกสร้างใหม่แล้วที่นี่ก็จะเป็นฐานทัพของเขา การที่จะต้องเดินทางไปยังเกาะไซปันนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็น
“พี่ชายถัง !”
หยีเหลียนหยานที่อยู่ห่างออกไปตรงชายหาดกว่า100เมตรนั้นได้เปลี่ยนรูปลักษณ์ของเธอเรียบร้อยแล้ว
ถังซิ่วได้เก็บโทรศัพท์ดาวเทียมของเขาก่อนที่จะเดินไปหาเธอแล้วพูดด้วยความตกตะลึงว่า
“ใบหน้าของเธอ…..”
หยีเหลียนหยานเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“ฉันได้ใช้วิธีการบางอย่างเพื่อทำให้ตัวเองดูหน้าเกลียดไม่เช่นนั้นพวกโจรสลัดก็คงจะไม่เว้นฉันไว้แน่นอน ”
ถังซิ่วเองก็ได้มีความคิดว่าผู้หญิงคนนี้นั้นมีไหวพริบจริงๆ
“มีเรื่องอะไรงั้นหรอ ?ไม่ใช่ว่าฉันสั่งให้พวกเขาไปส่งคนหมดแล้ว ?”
หยีเหลียนหยานเองก็ได้พูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า
“คนที่นี่ได้จากไปหมดแล้วแต่ฉันไม่อยากไป ฉันคิดว่าที่นี่ดีมากๆและอยู่กับนายแล้วฉันรู้สึกปลอดภัย ! ดังนั้นฉันคิดว่าจะอยู่ที่นี่อีกหน่อย”
ถังซิ่วได้ฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า
“ที่นี่มันไม่เหมาะกับเธอหรอกนะ ”
หยีเหลียนหยานเองก็ได้พูดออกมาว่า
“เอาล่ะ เพราะนายเป็นเจ้าของเกาะที่ดีและนายเองก็ต้องกินอาหารใช่ไหม ? ฉันสามารถเตรียมอาหารให้นายได้และฉันทำอร่อยมาก ! เสื้อผ้าของนายฉันก็ซักให้ได้ คฤหาสน์เองฉันก็สามารถช่วยทำความสะอาดได้ ดูสิ ถ้าฉันยังอยู่ที่นี่จะมีประโยชน์มากขนาดไหนกัน”
ถังซิ่วอดหัวเราะออกมาไม่ได้แล้วพูดว่า
“เอาล่ะ ช่างมันเถอะ ในเมื่อเธออยากจะอยู่ก็อยู่ต่อไปแล้วกัน ! ฉันจะต้องออกไปจากที่แห่งนี้เพื่อกลับไปยังเกาะไซปันในวันนี้และยังต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าจะกลับมาที่นี่ ”
หยีเหลียนหยานเองก็ได้พูดออกมาด้วยความสับสนว่า
“ไปเกาะไซปันทำไมงั้นหรอ ? ”
ถังซิ่วได้ตอบกลับว่า
“ไปจัดการเรื่องบางอย่าง”
หยีเหลียนหยานได้ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะถามออกมาว่า
“ฉันไปกับนายได้ไหม ? ”
ถังซิ่วได้ส่ายศีรษะพร้อมกับพูดว่า
“ไม่ได้ หากว่าเธอจะไปเกาะไซปันกับฉันก็ไม่สามารถกลับมาที่เกาะเก้ามังกรนี้ได้อีกแล้ว หรือว่าเธอจะอยู่เป็นเด็กดีที่เกาะนี้แล้วฉันจะพาเพื่อนมาที่นี่ หลังจากที่เขากลับไปแล้วเราก็ค่อยกลับด้วยกัน”
หยีเหลียนหยานได้ครุ่นคิดก่อนที่จะตัดสินใจว่า
“ฉันจะอยู่ที่นี่ ! ฉันพบว่าบรรยากาศที่นี่มันสุดยอดจริงๆยิ่งไปกว่านั้นคือการที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ในคฤหาสน์ที่หรูหราได้ ให้พูดกันตามตรงตลอดชีวิตของฉันยังไม่เคยเห็นอะไรที่หรูหราแบบนี้มาก่อนเลย ! พี่ชายถังนี่รวยจริงๆเลยนะ ”