…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

เฉิยนเจียนเย่เองก็ยิ้มออกมาด้วยความโกรธก่อนที่จะจ้องมองไปที่ถังซิ่วด้วยเจตนาฆ่า เขาได้ยกนิ้วโป้งขึ้นมาแล้วพูดว่า

“สุดยอด สุดยอดจริงๆหลายปีมานี้ยังไม่มีใครทำให้ฉันอับอายได้ขนาดนี้ หากว่าเก่งจริงก็อย่าเอาลูกฉันมาขู่สิ”

ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาอย่างไม่แยแสว่า

“ปล่อยลูกมันไป”

“ครับผม !”

ชายรูปร่างกำยำที่ยืนเฝ้าอยู่ทั้งสี่คนนั้นก็ได้ปล่อยพวกเขาไป

“……….”

หลังจากที่ไปหลบอยู่ด้านหลังคนของพวกเขาแล้วเฉินเฟย์และเจียงหยูเองก็ได้มองไปที่ถังซิ่วด้วยความเกลียดชัง

เฉินเจียนเย่เองก็ได้ตะโกนออกมาอย่างดังว่า

“เรากลับ !”

“หยุดก่อน !”

ถังซิ่วได้แสยะออกมาก่อนที่จะพูดว่า

“ที่นี่มันใช่ที่ที่พวกแกคิดจะมาก็มาจะไปก็ไปงั้นหรอ ? หากว่าวันนี้พวกแกไม่สามารถทำให้ฉันพึงพอใจก็อย่าหวังเลยว่าจะมีใครสามารถออกไปจากที่นี่ได้”

เจียงเทียนป้าเองก็ก้าวขึ้นมาสองก้าวก่อนที่จะแสยะออกมาว่า

“เป็นอะไรไป ? คิดว่าที่นี่เป็นถิ่นตัวเองถึงได้กล้าสร้างความอับอายให้พวกเรา ? เชื่อไหมว่าฉันโทรไปแค่สายเดียวห้องอาหารของแกก็จะถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆภายในไม่กี่นาที ”

ถังซิ่วเองก็ได้แสดงท่าทางยั่วยุก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“หากว่าเก่งจริงก็ลองดูสิ ก่อนหน้านี้ฉันก็เห็นว่าข้างนอกนั้นมีคนอยู่มากมาย พวกมันเป็นคนของนายใช่ไหม ? เรียกพวกมันเข้ามาให้หมด”

เจียงเทียนป้าละเฉินเจียนเย่เองก็ได้มองไปที่กันและกันก่อนที่จะพยักหน้าแล้วหันไปพูดกับชายรูปร่างกำยำ ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นผู้คนกว่าร้อยก็ได้เข้ามาในร้านอาหารทันที

ณ ตอนนี้เจียงเทียนป้าและเฉินเจียนเย่เองก็รู้สึกโล่งใจเพราะลูกๆของพวกเขาปลอดภัยและลูกน้องของพวกเขาเองก็เข้ามาที่นี่แล้ว พวกเขาเชื่อว่าขอแค่เพียงออกคำสั่งไปคนเหล่านี้ก็จะต้องถูกทุบตีอย่างน่าอนาถเพราะลูกน้องที่มานั้นแต่ละคนเองก็ติดอาวุธทั้งหมด

ลูกน้องหลายคนของดูชางซี่เองก็ได้มาถึงแล้วแต่เขาเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่รู้ว่าจะตัดสินใจอย่างไรดีพร้อมกับกลุ่มคนของเขาที่แยกตัวออกมาจากกลุ่มของเจียงเทียนป้าและเฉินเจียนเย่

“บางอย่างมันไม่ปกติ !”

ดูชางซี่ที่เป็นคนระมัดระวังอยู่แล้วนั้นสามารถรับรู้ได้ทันทีว่าถังซิ่ว เทียนหลี่หรือเฮาเหล่นั้นไม่ได้มีท่าทางกลัวแม้แต่น้อยทว่ากับเป็นใบหน้าที่แสดงความสมเพชออกมาซึ่งทำให้เขารู้สึกระมัดระวังมากขึ้น อีกสิ่งหนึ่งที่เขาเห็นคือชายรูปร่างกำยำกว่าสิบคนเองก็ไม่ได้มีท่าทางหวาดกลัวแม้แต่น้อยทว่ากลับตั้งท่าที่จะเข้าปะทะได้ทุกเมื่อ

ใช่แล้ว!

เข้าปะทะ !

34คนสู้กับ1-2ร้อยคน ?

ดูชางซี่เองก็สามารถเข้าใจได้ทันทีว่าห้องอาหารร้อยงานฉลองเองก็จะต้องมีไพ่ตายอยู่แน่นอน

“ยังลงมือไม่ได้ ”

เขาได้คำตอบในหัวใจพร้อมกับถอยหลังไปสองก้าว

“ถังซิ่ว ……”

ซางซินหยูที่อยู่ข้างๆนั้นได้แสดงท่าทางหวาดกลัวออกมาทันทีเมื่อเห็นอาวุธเหล่านั้น เธอได้เดินถอยหลังกลับไปพร้อมเกาะแขนของถังซิ่วเอาไว้

ถังซิ่วเองก็ได้ลูบไปที่หลังของเธอก่อนที่จะมองไปที่เจียงเทียนป้าและเฉินเจียนเย่พร้อมพูดออกมาว่า

“ฉันจะให้โอกาสสุดท้าย หากว่าไม่คว้าเอาไว้ก็คงจะเป็นสิ่งที่พวกแกจะเสียใจมากที่สุดในชีวิต”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า…….”

เจียงเทียนป้าเองก็ได้พูดออกมาขณะที่หัวเราะเสียงดังว่า

“ฉันเองก็ได้เห็นคนโง่มาเยอะแยะแต่ก็ยังไม่เคยเห็นใครโง่ได้เท่าแกเลย อย่าบอกนะว่าแกไม่เห็นว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร ? มันง่ายมากที่เราจะสามารถฆ่าแก”

เฉินเจียนเย่เองก็ได้พูดติดตลกออกมาว่า

“ใช่ ก่อนหน้านี้แกใช้ลูกของพวกฉันเป็นตัวประกันเท่านั้นแล้วตอนนี้แกคิดว่าแกจะใช้ประโยชน์จากอะไร ?”

ขณะที่กำลังพูดอยู่นั้นลูกน่องของพวกเขาเองก็ได้หยิบมีดและปืนพกออกมาพร้อมกับจ้องมองไปที่ถังซิ่วและคนอื่นๆ พวกเขาพร้อมจะลงมือทันทีที่นายใหญ่สั่งการ

“แปะ แปะ แปะ……….”

ถังซิ่วได้ปรบมือก่อนที่จะพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“มีความกล้าดีหนิ ทุกคนตัดสินใจได้แล้วสินะ ? ดูชางซี่ นายล่ะว่าไง ? ตกลงจะเอาอย่างไร ? ”

ดูชางซี่เองก็ได้เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“ลูกฉันเองได้ถูกทุบตีและแน่นอนอยู่แล้วว่าผู้เป็นพ่ออย่างฉันคงไม่สามารถทนดูอยู่เฉยๆได้ อย่างไรก็ตามพวกแกก็แก้ปัญหากันไปก่อนและหลังจากนี้เราค่อยมาตัดสินเรื่องของเรากันอีกครั้ง”

เมื่อพูดจบแล้วเขาก็ได้นำลูกน้องของเขาออกไปไม่ไกลพร้อมกับทำเหมือนว่านี่ไม่ใช่เรื่องของเขา

“ดูชางซี่ !”

“สกุลดู !”

เจีงเทียนป้าและเฉินเจียนเย่เองก็ได้โกรธเป็นอย่างมากเพราะพวกเขาไม่เคยคาดคิดว่าดูชางซี่จะถอนตัวออกไปในช่วงวินาทีคับขันแบบนี้ก่อนที่จะใช้พวกเขาเป็นโล่เพื่อหยั่งเชิงของถังซิ่ว

ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“แกมันฉลาดมากเลยนะหากว่าไปเทียบกับพวกโง่เหล่านี้ เจียงเทียนป้ากับเฉินเจียนเย่ใช่ไหม ? ในเมื่ออยากจะเล่นงั้นฉันก็จะเล่นไปกับพวกแกเอง นอกจากพวกมันสี่คนแล้วฆ่าให้หมด !” (หมายถึงพ่อลูก )

ขณะที่เสียงของถังซิ่วได้ถูกส่งออกมานั้นชายรูปร่างกำยำทั้งสี่คนก็ได้พุ่งเข้าใส่พวกเขาทันที เทียนหลี่และเฮาเหล่เองก็เริ่มลงมือพร้อมๆกับโม่อาเหวินและโม่อาหวู ความเร็วของพวกเขานั้นเหนือชั้นมากจนสามารถเคลื่อนที่ได้หลายเมตรในพริบตา

“จึ้ก จึ้ก จึ้ก จึ้ก ”

มีดสั้นอันแหลมคมได้แทงเข้าไปที่หัวไหล่ของเจียงเทียนป้าและเฉินเจียนเย่ในพริบตาพร้อมกับถูกจับตัวไว้โดยเทียนหลี่และเฮาเหล่ทว่าโม่อาเหวินและโม่อาหวูเองก็เคลื่อนที่อย่างคล่องแคล่วพร้อมกับตัดข้อมือของชายรูปร่างกำยำที่ถือปืนอยู่หลายคนก่อนที่จะปลดอาวุธของพวกเขาทันที

“ฆ่า !”

คนของห้องอาหารเองก็เริ่มพุ่งเข้าไปจากทุกๆทิศทางพร้อมกับมีดสั้นในมือเหมือนกับว่าพวกเขากำลังรุมทำร้ายคนกว่าร้อยคน สายตาของพวกเขานั้นโหดเหี้ยมพร้อมกับเข้าจู่โจมคนที่ติดอาวุธปืนก่อนเป็นอย่างแรก

“เปรี้ยง เปรี้ยง ……..”

เสียงปืนได้ดังขึ้นพร้อมกับเสียงร้องโอดครวญ

ถังซิ่วเองก็ได้นั่งอย่างสบายใจข้างๆซางซินหยาที่กำลังหน้าซีด เธอมองไปที่ฉากตรงหน้าด้วยความหวาดกลัวพร้อมกับบีบแขนของถังซิ่วอย่างแน่น ข้างซ้ายและขวาของเธอนั้นก็มีเทียนหลี่และเฮ่าเหล่ที่กำลังบีบคอของเจียงเทียนป้าและเฉินเจียนเย่ยืนอยู่พร้อมกับมีดที่จ่ออยู่ที่ลำคอของพวกเขา

ฉากการฆ่าฟันก็ได้ดำเนินต่อไปพร้อมกับเสียงร้องโอดครวญ

เลือดที่ถูกละเลงไปทั่วพื้นห้องพร้อมกับปลอกกระสุน

เจียงเทียนป้าและเฉินเจียนเย่เองก็ได้มองไปที่ลูกน้องของพวกเขาที่เป็นเหมือนกระสอบทราย ผ่านไปเพียงไม่ถึงนาทีลูกน้องที่ติดอาวุธปืนของพวกเขาก็ตายไปกว่า20พร้อมกับคนอื่นๆที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส

“จึ้ก จึ้ก………….”

ฉากการฆ่าตรงหน้านั้นได้ทำให้เจียงเทียนป้าและเฉินเจียนเย่นั้นถึงกับตกตะลึงพร้อมกับหัวใจที่ได้เต้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ

“เป็นไปได้อย่างไรกัน ? ”

ขณะที่พวกเขากำลังอดทนกับความเจ็บปวดของบาดแผลที่หัวไหล่นั้นก็รู้สึกเย็นเฉียบไปทั่วทั้งตัว เขากำลังรู้สึกกลัวเพราะไม่เคยคิดเลยว่าหน่วยรักษาความปลอดภัยธรรมดาๆของห้องอาหารแห่งนี้จะแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้ เหล่าคนที่เขานำเข้ามานั้นเป็นเหมือนกับกระสอบทรายให้กับหน่วยรักษาความปลอดภัยของที่นี่ พวกเขาไม่มีความสามารถแม้แต่จะป้องกันด้วยซ้ำ

พวกเขา……

พวกเขาเป็นใครกัน ?

ทำไมถึงได้แข็งแกร่งแบบนี้ ?

ทำไมถึงได้โหดเหี้ยมและไร้ความปราณีเช่นนี้ ?

ห่างออกไปไม่ไกล

ดูชางซี่เองก็ได้รู้สึกชะงักไปกับภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า ดวงตากลมโตของเขาได้เบิกกว้างพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

เขาไม่เคยคิดเลย !

ไม่เคยคิดเลยว่าถังซิ่วจะแข็งแกร่งขนาดนี้ ไม่พูดอะไรสักคำทว่ากลับสั่งให้ลูกน้องของเขาฆ่าคนอย่างสบายใจและลูกน้องของเขาเองก็ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาแล้วเพราะพวกเขาล้วนมีความสามารถในการต่อสู้โดยไม่ใช้แม้แต่ปืนด้วยซ้ำ

“ดูเหมือนว่านี่จะไม่ใช่เรื่องน้อยๆแล้ว”

ดูชางซี่เองก็ได้กลืนน้ำลายของเขาลงไปพร้อมกับมองไปที่ลูกชายที่กำลังตื่นตระหนกอยู่ข้างๆด้วยสายตาดุร้ายก่อนที่จะหันกลับไปมองฉากการฆ่าฟันตรงหน้า

หลังจากผ่าไป2นาที

ลูกน้องของเจียงเทียนป้าและเฉินเจียนเย่นั้นเหลืออยู่ประมาณ30คน ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความรูสึกหวาดกลัวพร้อมกับวิ่งไปที่ประตูทางออกเพื่อหนีออกไปจากนรกขุมนี้

ทว่าลูกน้องของถังซิ่วเองก็ตายไปแค่หนึ่งคนเท่านั้นพร้อมกับบาดเจ็บเล็กน้อย

อย่างไรก็ตามตอนนี้เองที่โม่อาเหวินและโม่อาหวูได้นำชายรูปร่างกำยำทั้งสี่คนไปขวางประตูเอาไว้พร้อมกับกระโจนเข้าใส่ผู้คนทั้ง30คน

“ฆ่า !”

“หยุด หยุด !”

ณ ตอนนี้เจียงเทียนป้าเองก็ได้กลัวเป็นอย่างมาก ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดผวาพร้อมกับตะโกนออกมาอย่างดัง

ถังซิ่วเองได้แสยะออกมาก่อนที่จะโบกมือไปทางเทียนหลี่ ทันใดนั้นเธอก็ได้ตะโกนออกมาว่า

“หยุด !”

ขณะที่พูดนั้น ในหมู่คนทั้ง30เองก็ได้มีผู้เสียชีวิตไปกว่า10คนแล้ว

ขณะที่การฆ่าฟันกันหยุดลงนั้นถังซิ่วเองก็ได้ดีดก้นบุหรี่ของเขาลงไปใบกระถางที่อยู่ไกลออกไปพร้อมกับพยุงตัวของซางซินหยาเอาไว้

“กลัวหรอ? ”

ถังซิ่วได้ยืนอยู่ตรงหน้าของเจียงเทียนป้าก่อนที่จะถามออกมาด้วยรอยยิ้ม

ร่างกายของเจียงเทียนป้าเองก็สั่นสะท้านก่อนที่เขาจะตะโกนออกมาด้วยความโกรธว่า

“แกตายแน่ แกตายแน่ แกฆ่าคนมากมายขนาดนั้นอย่าบอกนะว่าไม่กลัวกฎหมาย ? ”

“กฎหมาย ? ”

ถังซิ่วเองก็ได้พูดติดตลกออกมาว่า

“ในเมื่อฉันกล้าที่จะสั่งการแล้วแกคิดว่าฉันจะกลัว ? เป็นอะไรไปล่ะ ? ตอนนี้ไม่สามารถทำอะไรฉันได้จึงได้พึ่งกฎหมายแทนงั้นหรอ ? ฮ่า ฮ่า ฮ่า…….”

ใกล้ๆกันนั้น

เฉินเจียนเย่เองก็ได้มองไปที่ถังซิ่วด้วยสายตาที่ตระหนักถึงบางสิ่ง

“แกชนะแล้ว เรายอมรับว่าเราสมควรได้รับบทลงโทษ ไหนลองว่ามาสิว่าต้องการอย่างไรให้เรื่องนี้จบ”

ถังซิ่วเองก็ได้มองไปที่เฉินเจียนเย่ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาแล้วมองไปที่ชายที่เหลืออยู่20คน เขาเดินไปทางพวกเขาพร้อมกับพูดออกมาว่า

“น่าเสียดายที่มารับใช้เจ้านายโง่ๆแต่ว่าฉันนั้นเป็นคนดีมากดังนั้นฉันจะให้โอกาสพวกนายเพื่อมีชีวิตต่อไป ไม่รู้ว่า……พวกนายต้องการหรือเปล่า ? ”

“ต้องการ !!!”

ณ ตอนนี้ ชายเหล่านี้เองก็กลัวจนหัวหดกันหมดแล้ว พวกเขาได้พยักหน้าอย่างพร้อมเพรียง พวกเขาทั้งหมดนั้นภาวนาขอให้เรื่องเหล่านี้เป็นแค่ฝันร้ายเท่านั้น