………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
หลังจากที่เทียนหลี่และเฮาเหล่ได้มาถึงที่ชั้นสองนั้นก็ได้มองอย่างสมเพศไปที่เจียงหยูและเฉินเฟย์ที่นั่งคุกเข่าอยู่ด้วยใบหน้าที่โกรธจัด หากว่าเจ้าสองคนนี้ไม่มีเบื้องหลังที่ใหญ่อยู่บ้างพวกเธอก็คงจะฆ่าทิ้งไปแล้ว
“เทียนหลี่ ให้พวกมันปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ”
เมื่อเจียงหยูเห็นเทียนหลี่นั้นก็ก็แทบจะกระโดดขึ้นมาจากพื้นแต่ก็ได้ถูกชายรูปร่างกำยำสองคนกดไหล่ทั้งสองข้างเอาไว้และหนึ่งในนั้นเองก็ได้ชกไปที่เขาถึงสองครั้ง
เทียนหลี่แสยะออกมาว่า
“หากว่ายังไม่อยากเจ็บตัวไปมากกว่านี้ฉันก็แนะนำว่าอย่าได้พยายามขัดขืน แม้ว่าพ่อแม่ของนายจะไม่ได้สอนมาแต่พวกฉันก็ยินดีที่จะสอนให้”
เจียงหยูเองก็ได้สับสนทันทีพร้อมกับไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม
เปลวเพลิงได้ลุกโชนอยู่ในดวงตาของเฉินเฟย์ที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่นั้น หากว่าก่อนหน้านี้เขาไม่ได้เห็นว่าเจียงหยูได้ถูกจัดการอย่างไรเขาก็คงจะขัดขืนแล้วเหมือนกัน เอามองไปที่เทียนหลี่ก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“เทียนหลี่ แม้ว่าห้องอาหารแห่งนี้จะมีชื่อเสียงในเกาะฮ่องกงแต่เธอกลับกล้าลงมือกับฉัน เธอรอไว้ได้เลยว่าชะตากรรมของเธอจะต้องน่าสังเวชแน่นอน เมื่อถึงเวลาแล้วฉันจะให้เธอมาคุกเข่าขอร้อง”
“ไอ้โง่”
เทียนหลี่เองก็ขี้เกียจจะไปสนใจกับคำพูดของเฉินเฟย์ขณะที่เธอยืนกอดอกรอคนอื่นๆ
ที่ประตูทางเข้าด้านเหนือของห้องอาหารนั้นได้มีชายใส่สูทสีดำกว่า20คนเดินเข้ามาพร้อมท่าทางเคร่งขรึม พวกเขาได้เดินเข้ามาพร้อมกับเจียงเทียนป้า เฉินเจียนเย่และดูชางซี่ โดยรวมแล้วหากว่านับรวมจำนวนอันธพาลที่อยู่รอบๆร้านก็มีกำลังคนมากกว่า100อย่างแน่นอน
“เปิดทาง !”
เด็งเจิ้งเองได้พาชายรูปร่างกำยำสองคนเดินเข้าไปตรงหน้าของพวกเขาแล้วพูดออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำ
ทันใดนั้นชายทั้งสิบคนเองก็ได้เปิดทางออก
ท่าทางของเจียงเทียนป้าเองก็เคร่งขรึมมากขณะที่ดวงตาของเขาปล่อยจิตสังหารออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่คิดเลยว่าห้องอาหารเล็กๆแบบนี้จะกล้ามาล่วงเกินพวกเรา อย่าบอกนะว่าเบื่อที่จะมีชีวิตแล้ว ? ”
เด็งเจิ้งเองก็ได้แสยะออกมาว่า
“หากว่าคิดอย่างงั้นก็สั่งให้คนของนายลงมือสิ ฉันเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าจะทำอะไรได้”
เจียงเทียนป้าเองก็แสดงท่าทางโกรธออกมาพร้อมกับพูดขณะที่เขากัดฟันว่า
“ไร้สาระ ลูกของฉันอยู่ไหน ? ”
เด็งเจิ้งเองก็ได้พูดออกมาว่า
“อยู่ด้านใน”
เจียนเทียนป้าเองก็พูดออกมาอย่างเย็นชาว่า
“พาเราไปพบกับเทียนหลี่ ”
เด็งเจิ้งเองก็ได้พูดออกมาว่า
“หากว่าต้องการเข้าไปข้างในก็บอกให้คนของนายรอด้านนอก พวกนายทั้งหมดสามารถนำผู้คุ้มกันไปได้สองคนเท่านั้นไม่เช่นนั้นก็เริ่มลงมือซะ”
เฉินเจียนเย่เองก็ได้ก้าวออกมาก่อนที่จะพูดว่า
“รู้สถานะของพวกเราดีแล้วกลับยังกล้าเหิมเกริมงั้นหรอ ดูเหมือนว่าห้องอาหารแห่งนี้จะมีลูกบ้าไม่ใช่น้อย ฉันเองก็อยากจะเห็นจริงๆว่าจะมีความสามารถซักแค่ไหน ”
เมื่อพูดจบเขาก็ได้พยักหน้าให้กับคนด้านหลังสองคนแล้วเดินเข้าไปด้านใน
เจียนเทียนป้าเองก็ไม่ต้องการที่จะมีปัญหากับห้องอาหารร้อยงานฉลองเช่นกันเพราะว่าลูกของเขาตกอยู่ในกำมือของฝ่ายตรงข้ามดังนั้นจึงได้นำผู้คุ้มกันเข้าไปสองคน
ดูชางซี่เองก็ได้นำลูกชายและผู้คุ้มกันเข้าไปอีกคนก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“แม้ว่าลูกชายของฉันจะไม่ได้อยู่ในมือของเธอแต่ว่าฉันเองก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่าพวกเธอจะแน่กันซักแค่ไหน ”
เด็งเจิ้งเองก็ไม่ได้พูดอะไรต่อไปพร้อมกับนำทางพวกเขาขึ้นไปที่ชั้นสองทันที หลังจากที่เปิดประตูออกแล้วเขาก็ได้กลับไปยืนข้างๆกับเทียนหลี่ทันที
เจียงเทียนป้าและเฉินเจียนเย่ที่ได้เห็นลูกชายของพวกเขากำลังถูกบังคับให้นั่งคุกเข่าอยู่และถูกทุบตีนั้นถึงกับโมโหทันที
“สุดยอด สุดยอดเลยจริงๆ เทียนหลี่ ? ไม่คิดเลยว่าเธอจะมีความกล้าขนาดนี้ ! ดูเหมือนว่าเราคงไม่สามารถจัดการปัญหานี้แบบเพื่อนฝูงกันได้แล้ว”
เจียงเทียนป้าเองก็ได้พูดออกมาอย่างดุดัน
เทียนหลี่เองก็ได้พูดออกมาว่า
“จะคลี่คลายกับแบบไหนมันไม่ใช่สิ่งที่นายจะตัดสินใจได้ หากว่าฉันต้องเป็นคนตัดสินใจล่ะก็ลูกของนายคงไม่ได้มานั่งคุกเข่าอยู่ตรงนี้หรอกแต่เขาคงจะนอนตัวเย็นเป็นศพอยู่ตรงพื้นนานแล้ว”
“เธอกล้างั้นหรอ ? !”
เจียงเทียนป้าเองก็ได้ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
เฉินเจียนเย่เองก็ได้มองไปที่เทียนหลี่อย่างบูดบึ้งพร้อมกับมองไปที่เฮาเหล่ด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะพูดว่า
“หรือว่าหัวหน้าเฮาเองก็จะยื่นมือเข้ามายุ่ง ? ”
เฮาเหล่เองก็ได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า
“หากว่าฉันไม่เข้าร่วมด้วยบอสก็จะต้องดุฉันอย่างแน่นอน ! ฉันเองก็ไม่มีหน้าจะไปขอร้องบอสด้วยสิ ฉันถึงทำได้แค่จัดการตามที่เขาสั่ง”
เฉินเจียนเย่เองก็ได้ขมวดคิ้วทันทีพร้อมกับพูดออกมาว่า
“บอสของคุณ ? จะบอกว่าบอสของคุณและเทียนหลี่นั้นเป็นคนเดียวกัน ? ”
เฮาเหล่เองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“ดูเหมือนว่าคุณก็ยังฉลาดอยู่บ้างแต่ทำไมถึงได้ให้กำเนิดลูกโง่ๆแบบนี้มา ?…………. หรือว่าภรรยาของคุณอาจมีชู้และเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของคุณ ? ”
“ชาติชั่ว !!!!!”
แม้ว่าเฉินเจียนเย่จะรู้ช๊อคในหัวใจเล็กน้อยแต่เขาก็ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
เฮาเหล่เองก็ได้ทำเป็นหูทวนลมก่อนที่จะพูดออกมาอย่างเห็นแก่ตัวว่า
“โอ้ ฉันคิดผิดเองล่ะ หากว่าไม่ใช่ลูกแท้ๆของคุณก็คงไม่ยอมมาช่วยถึงที่นี่สินะ ดูเหมือนว่าคุณสองพ่อลูกคงได้ไปตรวจดีเอ็นเอกันมาแล้วสินะ ”
เฉินเจียนเย่เองก็ได้มองไปที่เธอด้วยความโมโหก่อนที่จะหันไปมองที่เทียนหลี่แล้วถามออกมาว่า
“บอกเงื่อนไขที่จะปล่อยตัวลูกชายของฉันมา !”
เทียนหลี่เองก็ได้ส่ายศีรษะก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“เราไม่สามารถรับผิดขอบเรื่องนี้ได้ บอสของเรากำลังตรงมาที่นี้ ค่อยพูดอีกครั้งเมื่อเขามาถึง”
เฉินเจียนเย่เองก็ได้ถามออกมาด้วยเสียงเย็นชาว่า
“บอสของเธอคือใคร ? ”
เทียนหลี่เองก็ได้พูดหยอกล้ออกมาว่า
“อยากจะรู้ ? ก็รอไปสิ !”
ณ ตอนนี้
ดูหยางที่ได้เดินตามดูชางซี่มาได้เห็นสภาพของเจียงหยูและเฉินเฟย์แล้วนั้นก็รู้สึกดีใจที่ก่อนหน้านี้ตัวเองไม่ได้ไปล่วงเกินเทียนหลี่
ทว่าพ่อของเขาที่ได้เห็นเฮาเหล่นั้นถึงกับขมวดคิ้วทันทีเพราะเขาไม่เคยคิดเลยว่าห้องอาหารร้อยงานฉลองและบริษัทค้าอัญมณีแกรนด์ฟอร์จูนจะมีบอสคนเดียวกัน เขาเข้าใจสถานการณ์ของบริษัทอัญมณีดีและรู้ว่าเธอมีเส้นสายมากมายกับทางแอฟริกา ที่เปลือกนอกนั้นดูเหมือนว่าบริษัทนี้จะมีสินทรัพย์อยู่หลายร้อยล้านแต่ว่าก็ไม่มีใครรู้จำนวนที่แน่ชัด
ดูชางซี่นั้นเป็นคนที่ชาญฉลาดมาก เขามองเห็นท่าทางไร้ความกลัวของเทียนหลี่และเฮาเหล่ก่อนที่จะมองไปที่ท่าทางโมโหของเจียงป้าและเฉินเจียนเย่แล้วเลือกที่จะอยู่เฉยๆไปก่อน
เขาเข้าใจดีว่าตัวเองสามารถไปข้างหน้าหรือถอยได้ทันที หากว่าเขาเลือดที่จะไปข้างหน้าคือการที่เขาร่วมมือกับเจียงป้าและเฉินเจียนเย่เพื่อโจมตีห้องอาหารร้อยงานฉลองและบริษัทค้าอัญมณีแกรนด์ฟอร์จูนแต่หากเขาเลือกที่จะถอยนั้นก็แค่ขอโทษพร้อมกับจบเรื่องนี้แต่ลูกชายของเขาที่ถูกทำร้ายนั้นก็จะต้องโดนไปฟรีๆ
หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที
ถังซิ่วได้มาพร้อมกับโม่อาหวู โม่อาเหวินและรวมไปถึงซางซินหยาด้วย หน่วยรักษาความปลอดภัยทั้งสิบคนนั้นไม่รู้จักถังซิ่วแต่พวกเขารู้จักกับโม่อาเหวินดีดังนั้นจึงได้เปิดทางให้ทันที
“เทียนหลี่อยู่ไหน ? ”
ถังซิ่วได้มองที่หน่วยรักษาความปลอดภัยก่อนที่จะถามออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
พวกเขาเองก็ได้จ้องมองไปที่โม่อาเหวินและโม่อาหวูและเข้าใจได้ทันทีว่าชายคนนี้คือบอสคนใหม่ของพวกเขาก่อนที่จะตอบกลับไปอย่างรวดเร็วว่า
“อยู่ที่ห้องโถงชั้นสองครับ”
ถังซิ่วเองก็ได้พยักหน้าก่อนที่จะเดินไปที่บันใดภายใต้การนำทางของพวกเขา หลังจากเข้าไปแล้วเขาก็ได้กวาดสายตามองสถานการณ์รอบๆพร้อมกับเห็นเจียงเทียนป้าและคนอื่นๆก่อนที่จะเดินไปทางเทียนหลี่แล้วนั่งลงตรงเก้าอี้
“เธอคือบอสของห้องอาหารร้อยงานฉลองและบริษัทค้าอัญมณีแกรนด์ฟอร์จูน ? ”
เฉินเจียนเย่เองก็ได้มองไปที่ถังซิ่วก่อนที่จะถามออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ เขาไม่เคยเห็นถังซิ่วมาก่อนและทำให้เขารู้สึกโล่งใจเล็กน้อยเพราะมันแสดงให้เห็นว่าถังซิ่วไม่ใช่ลูกหลานของตระกูลผู้มีอำนาจในเกาะฮ่องกงนี้ที่เขาไม่สามารถล่วงเกินได้
ถังซิ่วเองก็ได้หยิบบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าของเขาพร้อมกับจุดมันและไม่ได้สนใจแม้แต่น้อยพร้อมกับหันหน้าไปมองที่ซางซินหยาแล้วถามออกมาว่า
“เธอจะไปรอที่ห้องอื่นไหม ? ฉันคิดว่าฉากที่เธอจะได้เห็นมันไม่ค่อยจะเหมาะสักเท่าไหร่ ! สบายใจได้ว่าอาหารและเครื่องดื่มของเรานั้นอร่อยมากๆ ฉันคิดว่ามันน่าจะทำให้เธอพึงพอใจ”
ซางซินหยาไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นฉากเช่นนี้เมื่อตามมากับถังซิ่ว เธอรู้จักคนเหล่านี้ดียกตัวอย่างเช่น เจียงป้า เฉินเจียนเย่ ดูชางซี่หรือแม้แต่เทียนหลี่และเฮาเหล่ ส่วนเหล่าคนที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่นั้นก็ได้ทำให้เธอรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของเพลย์บอย
“ฉันจะจะอยู่กับคุณ”
เมื่อคิดว่าถังซิ่วกำลังช่วยเธออยู่นั้นเธอจึงได้ตอบออกมาอย่างรวดเร็ว
ถังซิ่วเองก็ได้แต่พยักหน้าเพราะเขาไม่ค่อยจะสนใจว่าเธอจะเห็นหรือไม่ เขาได้หันหน้าไปมองที่เจียนเทียนป้า เฉินเจียนเย่และดูชางซี่ก่อนที่จะชี้ไปที่เหล่าคนที่กำลังคุกเข่าอยู่แล้วพูดออกมาว่า
“ใครเป็นผู้ปกครองของพวกเขา ไหนพูดมาสิ”
เจียงเทียนป้าและเฉินเจียนเย่เองก็ได้ก้าวเดินออกไปสองก้าว
ถังซิ่วเองก็ได้พยักหน้าก่อนที่จะพูดว่า
“ฉันคิดว่าพวกนายน่าจะรู้เรื่องต้นเหตุและผลที่จะตามมาดีนะ ฉันเองก็ไม่ต้องการอะไรมากไหนนายลองว่ามาสิ”
เจียงเทียนป้าเองก็ได้แสยะออกมาทันทีว่า
“เรารู้ความหมายของต้นเหตุและผลที่จะตามมาดี แม้ว่าลูกชายฉันจะผิดที่ขับรถไปชนนายก็จริงแต่นายทำเกินไป กล้าที่จะลักพาตัวเขามาดังนั้นก็จงจ่ายค่าชดเชยมาให้เราไม่เช่นนั้นเรื่องนี้คงจะจบไม่สวยแน่นอน ”
เฉินเจียนเย้เองก็ได้พยักหน้าก่อนที่จะพูดออกมาด้วยใบหน้าบูดบึ้งว่า
“ฉันเป็นคนเดียวที่มีคุณสมบัติพอที่จะสั่นสอนลูกชายและใครกล้าที่จะแตะต้องเขาจะต้องมือหักทั้งสองข้างพร้อมกับขอโทษลูกชายของฉัน”
ถังซิ่วเองก็ได้หันหน้าไปแล้วพูดออกมาว่า
“หักมือลูกมันสิ”
“กร๊อป กร๊อป …….”
ชายทั้งสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆเฉินเฟย์นั้นได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วพร้อมกับจับไหล่ของเฉินเฟย์ไว้ก่อนที่จะใช้มืออีกข้างชกไปที่ข้อมือของเขาอย่างรุนแรงและส่งผลให้ข้อมือของเขาหักทันที
“หยาบคาย !!!!”
เฉินเจียนหยูนั้นโกรธเป็นอย่างมากก่อนที่จะวิ่งไปทางเฉินเฟย์อย่างรวดเร็ว
“ถอยกลับไปซะ !”
ตอนนี้ในมือของชายคนที่ยืนอยู่ข้างๆเฉินเฟย์นั้นได้มีมีดสั้นปรากฏขึ้นมาพร้อมกับจ่อไปที่คอของเฉินเฟย์และมองไปที่เฉินเจียนเย่อย่างดุร้าย หากว่าเขากล้าก้าวเข้ามาอีกก็จะเชือดคอของเฉินเฟย์โดยไม่ลังเล
ลมหายใจของเฉินเจียนเย่เองก็ชะงักไปก่อนที่เขาจะหยุดก้าวเดิน
เจียงเทียนป้าที่อยู่ด้านหลังเองก็รู้สึกตกตะลึงอย่างมาก เขาไม่คิดเลยว่าถังซ่วที่อายุยังน้อยแต่กลับเหิมเกริมเช่นนี้ ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือเขาช่างโหดเหี้ยมและไร้ความปราณีเพราะเพียงแค่คำพูดไม่กี่คำของเฉินเจียนเย่ก็สามารถทำให้เฉินเฟย์ถึงกับมือหักทั้งสองข้าง
ทันใดนั้นเองที่เขารู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ไม่ได้พูดคำเหล่านั้นไปเมื่อครู่ไม่เช่นนั้นคนที่มือหักอยู่ตอนนี้จะเป็นใครอื่นไปได้นอกจากลูกชายของเขา ?