…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ครอบครัวซันเองก็ได้มองไปด้วยความรู้สึกตกตะลึงเพราะหากควันที่ลอยออกมานั้นเป็นเซลล์มะเร็วจริงก็แปลว่าแม่ของพวกเขาอาจจะสามารถหายได้

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง

หญิงชราเองก็เริ่มที่จะไม่บิดตัวไปมาแล้วแต่กลิ่นที่เธอส่งออกมานั้นเหม็นมากพร้อมกับของเหลวเหนียวๆสีดำที่อยู่บนตัวเธอ

“ปล่อยเธอได้แล้ว ! หลังจากนี้อีกไม่กี่นาทีก็เอาเธอไปล้างตัวซะ”

หลังจากที่ถังซิ่วพูดจบก็ได้ดึงเข็มเงินทั้งหมดออกพร้อมกับเดินออกจากห้องไป

ดั่ยซินหยูเองก็ได้เดินตามถังซิ่วไปพร้อมกับถามด้วยความสงสัยว่า

“ท่านอาจารย์ ท่านรักษาเธอด้วยวิธีอะไรงั้นหรอ ? แล้วท่านหยดมันลงไปกี่หยดกัน ? แล้วเพียงแค่ฝังเข็มก็เสร็จแล้วงั้นหรอ ? ”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“มันเป็นวิธีพิเศษมาก ในโลกนี้คนที่ทำได้นอกจากฉันแล้วคงมีไม่มากนักส่วนเรื่องของเข็มนั้นคือฉันใช้มันเพื่อปิดกั้นจุดพลังของเธอเพื่อไม่ให้พิษมันรุกล้ำ”

ดั่ยซินหยูเองก็ได้ถามออกมาว่า

“แล้วผลลัพธ์เป็นอย่างไรบ้าง ? ”

ถังซิ่วเองก็ได้ตอบกลับไปว่า

“ฉันยังไม่ได้ตรวจเธอเลยแล้วจะรู้ได้อย่างไร ! รอให้ลูกๆของเธอล้างตัวเธอให้เสร็จก่อนแล้วฉันจะตรวจอีกครั้ง”

หลังจากนั้น

ซันเจียนไฮ่และน้องชายก็ได้เดินออกมาจากห้องพร้อมมองไปที่ถังซิ่วที่นั่งอยู่บนโซฟาแล้วถามออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“คุณหมอ แม่ของฉัน…..”

ถังซิ่วได้ขัดคำพูดของเขาพร้อมกับส่ายศีรษะแล้วพูดว่า

“ผมเองก็ยังไม่แน่ใจ รอให้เธอล้างตัวเสร็จก่อนแล้วเราจะมาดูกันอีกทีว่ามันได้ผลไหม คุณไม่ต้องกังวลและนั่งรอก่อนแล้วกัน!”

“ได้!”

ซันเจียนไฮ่เองก็ได้พยักหน้าตอบ

หลังจากที่นั่งตรงกันข้ามกับถังซิ่วแล้วเขาก็ได้ถามออกมาด้วยความสงสัยว่า

“คุณหมอถัง เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า ? ฉันรู้สึกว่าคุณหน้าตาคุ้นๆมาก ? อย่าเข้าใจผิดนะฉันไม่ได้พยายามเข้าถึงคุณแต่ฉันเองมีทักษะการจำที่ดีและรู้สึกเหมือนว่าเคยเจอคุณมาก่อนอย่างแน่นอน”

ถังซิ่วได้ตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า

“ผมเองก็จำคนเก่งเช่นกันแต่ไม่รู้สึกว่าเราเคยพบกันมาก่อน”

ซันเจียนไฮ่เองก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาพร้อมกับพูดว่า

“บางทีอาจจะเพราะฉันจำคนผิด ! อย่างไรก็ตามคุณยังอายุน้อยอยู่แท้ๆแต่กลับสามารถเป็นแพทย์ในโรงพยาบาล นี่ช่างเป็นวัยรุ่นที่โดดเด่นจริงๆ”

ถังซิ่วเองก็ได้ตอบกลับไปว่า

“ผมแค่มาตรวจชั่วคราวเท่านั้นไม่ได้เป็นแพทย์ประจำของที่นั่น”

“อะไรนะ ? ”

ซันเจียนไฮ่เองก็ได้พูดออกมาด้วยความประหลาดใจว่า

“ไม่ใช่ว่าคุณเพิ่งเริ่มงานเมื่อวาน ? ทำไมถึง…..”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“ผมเป็นแค่เด็กนักเรียนที่เพิ่งจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยเท่านั้น ตอนนี้เป็นช่วงปิดเรียนดังนั้นจึงได้มีเวลาว่างพร้อมกับผมได้ให้สัญญากับหลี่ฮงจี้เพื่อมาตรวจที่โรงพยาบาลจีนไว้แล้วเมื่อถึงเดือนกันยายนผมก็ต้องกลับไปเรียนหนังสือที่เซี่ยงไฮ้ ”

ซันเจียนไฮ่เองก็มองไปที่ถังซิ่วด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เขาไม่คาดคิดเลยว่าหมอที่มีความสามารถขนาดนี้กลับเป็นเด็กนักเรียนที่เพิ่งสอบเข้ามหาวิทยาลัยเท่านั้น เขาได้ถามออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“คุณหมอถึง ความสามารถด้านการแพทย์ของคุณน่าทึ่งถึงขนาดนี้แล้วทำไมถึงไม่เข้าเรียนด้านสาขาแพทย์ ? ”

ถังซิ่วได้ส่ายศีรษะอีกครั้งพร้อมกับตอบว่า

“ผมไม่ต้องการใช้ชีวิตที่เหลือโดยการทำอาชีพแพทย์หรอก สิ่งที่ผมต้องทำยังมีอีกเยอะแล้วไหนยังจะบริษัทที่ผมเพิ่งเปิดอีก ”

ซันเจียนไฮ่เองก็ได้ถามออกมาด้วยความตกตะลึงว่า

“คุณทำธุรกิจ ? บอกผมหน่อยได้ไหมว่าคุณทำเกี่ยวกับอะไร ? ”

ถังซิ่วได้เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดว่า

“เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและความงาม ตัวบริษัทเองก็เพิ่งจะเปิดได้ไม่นานและไม่สามารถบอกชื่อกับคุณได้”

ซันเจียนไฮ่เองก็ได้พยักหน้าอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ท่าทางของเขาจะเปลี่ยนไปพร้อมกับตะโกนออกมาอย่างดังว่า

“ฉันคิดแล้วว่าทำไมชื่อของคุณถึงได้ฟังดูคุ้นหู คุณคือถังซิ่ว ใช่แล้วคุณคือผู้มีอำนาจในบริษัทถังผู้สูงส่ง คุณเป็นบอสของบริษัทนั้น?”

ถังซิ่วเองก็ได้ถามออกมาด้วยความประหลาดใจว่า

“คุณรู้ได้อย่างไร ? ”

ซันเจียนไฮ่เองก็ได้ตอบกลับด้วยความรู้สึกช๊อคว่า

“คุณเป็นบอสของบริษัทนั้นจริงๆงั้นหรอ ? ”

“ใช่ !”

ถังซิ่วที่ได้เห็นว่าเขาสามารถเดาได้นั้นก็เลิกที่จะปกปิดทันที

ซันเจียนไฮ่เองก็ได้ฝืนยิ้มออกมาพร้อมกับพูดว่า

“ช่างเป็นเด็กหนุ่มที่โดดเด่น ฉันได้ทำงานเกี่ยวกับเรื่องการเงินของเมืองเราแล้วเพื่อนของฉันเองก็ได้พูดถึงคุณตอนที่เราดื่มด้วยกัน เป็นเพราะว่าฉันเริ่มรู้สึกสงสัยจึงได้หาเอกสารของบริษัทคุณแล้วพบชื่อและรูปภาพของคุณอยู่ ไม่คิดเลยจริงๆว่าหมอเทวดาของโรงพยาบาลจีนจะเป็นเจ้าของบริษัทถังผู้สูงส่ง!”

ดั่นซินหยูที่นั่งอยู่ข้างๆนั้นถึงกับเหวอไปเลย เธอรู้ว่าถังซิ่วนั้นรวยถึงขั้นที่สามารถอาศัยอยู่ในวิลล่าที่หรูหราที่สุดของเมืองนี้ได้แต่เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นบอสของบริษัทนั้น

สวรรค์ !

นี่เราได้บูชาคนที่น่าทึ่งขนาดนี้เป็นอาจารย์ ?

ณ ตอนนี้เธอเองก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้มีโชคชะตาเป็นผู้ช่วยของถังซิ่ว ดีใจที่เธอเอ่ยปากว่าจะขอเป็นศิษย์ของเขา อาจารย์แบบเขาคงเป็นสิ่งที่คนทั่วไปได้แต่นั่งฝันถึง !

ถังซิ่งเองก็พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“ดูเหมือนว่าเพื่อนของคุณเปิดเผยข้อมูลของผมสินะ ผมควรจะฟ้องเขาดีไหม ?”

ซันเจียนไฮ่เองก็ได้มีท่าทางเปลี่ยนไปพร้อมกับพูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“ถัง….คุณหมอถัง อย่าเลย เหตุผลที่เขาบอกผมนั่นก็เพราะเรามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและโตมาด้วยกัน เราได้เรียนด้วยกันมาแต่เด็กซึ่งเขาสามารถเข้าใจได้ถึงระบบของการทำงาน หากว่าเป็นคนอื่นแล้วเขาคงจะไม่พูดอย่างแน่นอน”

ถังซิ่วเองก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า

“เอาล่ะ ผมแค่พูดเล่นอย่างไรก็ตามก็ขอช่วยให้คุณไปบอกเพื่อนของคุณด้วยว่าอย่าแพ่งพรายเรื่องของผมออกไป แม้ว่าผมจะเป็นบอสก็จริงแต่ผมไม่ชอบออกหน้าเท่าไหร่ ส่วนเรื่องบริหารนั้นผมก็ยกให้ผู้จัดการคังเป็นคนจัดการ ”

ซันเจียนไฮ่เองก็ได้พยักหน้าพร้อมกับพูดว่า

“ฉันจะเอาคำพูดของคุณไปบอกเขาเอง”

ทันใดนั้นน้องสาวทั้งสองของเขาก็ได้ออกมาหลังจากที่ได้นำแม่ไปได้อาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมกับใบหน้าที่แสดงออกถึงความประหลาดใจแล้วพูดว่า

“คุณหมอถัง คุณช่วยตรวจหน่อยได้ไหมว่าแม่ของฉัน…..”

ถังซิ่วได้ถามออกมาว่า

“เธอทำไม ? ”

ซันเหว่นจิงเองก็ได้พูดออกมาว่า

“เธอบอกว่ารู้สึกสบายและแข็งแรงมาก ดูเหมือนว่าเธอเด็กลงไปหลายปีและแม้กระทั่งเธอเองก็ไม่รู้สึกเจ็บกับเซลล์มะเร็งพวกนั้นแล้ว”

ถังซิ่วได้พยักหน้าก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องพร้อมกับมองไปที่หญิงชราที่หน้าตาดูมีชีวิตชีวาขึ้น

“ผู้อาวุโส ผมขอตรวจร่างกายคุณหน่อยนะครับ”

หญิงชราเองก็ได้ตอบกลับด้วยความซาบซึ้งว่า

“ขอบคุณค่ะคุณหมอถัง ฉันรู้สึกว่าร่างกายของฉันดีขึ้นเยอะเลย”

ถังซิ้วเองก็ได้ยิ้มออกมาจางๆก่อนที่จะตรวจชีพจรและใช้จิตสัมผัสแล้วพบว่าเซลล์มะเร็ง2ใน3ที่อยู่ในร่างกายเธอนั้นได้ถูกกำจัดไปหมดแล้วยิ่งไปกว่านั้นคือสภาพร่างกายของเธอไม่แตกต่างกับตอนที่เธอยังสาวๆอยู่เลย

“ไม่คิดเลยว่าน้ำยาปรับสภาพร่างกายจะมีผลกับคนธรรมดาขนาดนี้ หากว่าฉันขายเป็นหยดๆก็คงจะรวยอย่างแน่นอน ? ”

ถังซิ่วเองก็ได้ส่ายศีรษะของเขาช้าๆแต่ว่าพี่น้องซันเองก็จ้องมองการกระทำของเขาตลอดเวลา

ซันเจียนไฮ่เองก็ได้ถามออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“เป็นอย่างไรบ้างครับคุณหมอถัง ? ”

ถังซิ่วเองก็ได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า

“เซลล์มะเร็ง2ใน3นั้นได้ถูกกำจัดไปหมดแล้วส่วนที่เหลือนั้นต้องกำจัดมันอย่างช้าๆ เอาล่ะงั้นฉันจะทิ้งยาขวดนี้ไว้และทำตามวิธีก่อนหน้านี้ สามหยดแล้วเอามันไปผสมน้ำให้เธอดื่มจนกว่าขะหมดขวดนี้เซลล์มะเร็งทั้งหมดก็น่าจะถูกกำจัดหมดแล้วแต่อย่างไรก็ตาม……”

ครอบครัวซันเองที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกมีความสุขอย่างมาก

ซันเหว่นจิงเองก็ได้ถามออกมาว่า

“แต่อะไรหรอค่ะคุณหมอถัง”

ถังซิ่วเองก็ได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า

“แต่พวกคุณต้องเตรียมใจไว้ให้ดีนะเพราะหากว่าเซลล์มะเร็งทั้งหมดถูกกำจัดแล้วเธอจะกลับมาแข็งแรงแบบเก่าและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างน้อยก็อีก20ปี พวกคุณทั้งสี่ก็ควรจะตอบแทนเธอด้วยความกตัญญูนะ”

“ยี่…….-ยี่สิบปี ?”

ซันเหว่นจิงเองก็ได้ถามออกมาทันทีเพราะต้องรู้ก่อนว่าแม่ของเธอตอนนี้อายุกว่า80ปีแล้ว หากว่าอีก20ปีก็ไม่ใช่ว่าเธอจะอายุเป็น100ปี ?

ถังซิ่วเองก็ได้ตอบกลับไปว่า

“นั่นคืออย่างน้อย ”

ซันเหว่นจิงเองก็ได้กลืนน้ำลายของตัวเองลงไปก่อนที่จะมองไปที่น้ำยาที่ถังซิ่วยื่นให้พร้อมกับถามออกมาว่า

“คุณหมอถัง ฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหม น้ำยานี่ ……”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปโดยทันทีว่า

“นี่เป็นความลับของฉันและคนธรรมดาก็ยากมากที่จะกลั่นมันดังนั้นผมเองก็หวังว่าคุณจะไม่แพร่งพรายเรื่องที่ผมรักษาแม่คุณได้ออกไปไม่เช่นนั้นมันจะสร้างปัญหาให้ผมมากๆ !”

“ไม่อย่างแน่นอน !”

ครอบครัวซันเองก็ได้พูดรับประกันออกมาอย่างรวดเร็ว

ซันเหว่นจิงเองก็ได้พูดออกมาว่า

“คุณหมอถัง เรื่องค่าใช้จ่าย….”

ถังซิ่วได้โบกมือพร้อมกับพูดว่า

“เรื่องเงินนั้นช่างมันเถอะตราบใดที่คุณสามารถจำข้อตกลงของเราได้ก็เพียงพอแล้ว เอาล่ะหากว่าไม่มีอะไรแล้วงั้นผมก็ต้องขอตัว อย่าลืมล่ะให้รอไปก่อนแล้วหากว่ายังไม่วางใจก็สามารถนำแม่ของคุณไปตรวจที่โรงพยาบาลอื่น!”

โรงพยาบาลอื่น ?

ครอบครัวซันเองก็เข้าใจถึงความหมายของคำพูดนั้นทันที พวกเขาพยักหน้าอย่างรวดเร็ว

เมื่อออกมาจากล้านของครอบครัวซันแล้วดั่ยซินหยูเองก็ยังไม่ได้สติจากอาการช๊อคของเธอถังซิ่วจึงได้พูดขึ้นว่า

“เอาล่ะ เธอเองก็ได้เห็นการรักษาไปแล้วส่วนเรื่องผลลัพธ์นั้นก็รอดูเอาแล้วกันยิ่งไปกว่านั้นคือเธอเองก็ต้องสัญญากับฉันว่าจะไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปอย่างเด็ดขาด ”

ดั่ยซินหยูเองก็ได้พูดออกมาว่า

“ท่านอาจารย์ ท่านวางใจได้เลยว่าศิษย์จะไม่ปริปากอย่างแน่นอน”

ถังซิ่วได้พยักหน้าก่อนที่จะพูดว่า

“อย่างมากสุดฉันคงจะอยู่ที่โรงพยาบาลจีนอีกแค่3วันเท่านั้น หลังจากนี้แล้วก็คงไม่กลับไปที่นั่นในเร็วๆนี้ฉันจะสอนเธอในช่วงสามวันนี้แล้วหาเวลาว่างเพื่อมาสอนเธออีกครั้ง”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นดั่ยซินหยูเองก็แสดงท่าทางผิดหวังออกมาเล็กน้อยพร้อมกับพยักหน้าแล้วพูดว่า

“ท่านอาจารย์ ศิษย์รู้ว่าท่านเป็นคนที่ยุ่งมากเพราะฉะนั้นท่านวางใจได้เลยว่าศิษย์จะตั้งใจศึกษาอย่างสุดความสามารถ”