ยามที่ดวงตะวันกำลังลาลับ แสงสว่างภายในหุบเขาและป่าไม้กำลังหายไปและถูกแทนที่ด้วยความมืดมิด กลับมีดวงตาคู่หนึ่งกำลังสอดส่องไปมาอย่างระแวดระวัง กลิ่นไอโลหิตลอยฟุ้งไปทั่วอากาศโดยมีที่มาจากซากสัตว์ร้าย ยังนับว่าโชคดีนักที่พื้นที่รอบนอกของหุบเขามืดไม่มีสัตว์ร้ายที่น่ากลัวอาศัยอยู่
อู้ววว..
แมลงลายเสือค่อยๆเคลื่อนไหวออกมา ลวดลายบนร่างของมันนั้นช่างดูเหมือนกับเสือโคร่ง มันมีความยาวห้าถึงหกเมตรและบริเวณหัวมีลักษณะคล้ายเสือ ดูน่าขนลุก เจ้าแมลงยักษ์ได้กลิ่นโลหิตทายาทแห่งสัตว์ร้ายโบราณและยังต้องการที่จะกัดกินชิ้นส่วนของซุนหนี่
ปุ!!

เจ้าหนูพลันซัดหอกเหล็กกล้าไปที่หัวของเจ้าแมลงยักษ์ ตามเสียงกรีดร้องและเลือดที่สาดกระจาย เจ้าแมลงลายเสือตัวนั้นกลิ้งลงมาที่พื้นแล้วสิ้นชีพไปอย่างรวดเร็ว
ท่ามกลางเสียงอันเงียบสงัด อสรพิษเวหาที่มีขนาดเท่าโอ่งน้ำทะยานออกมาจากบนยอดเขา มันสยายปีกแล้วพุ่งทะยานฝ่าอากาศเข้ามา เมื่อใกล้จะถึงเป้าหมายพลันอ้าปากกว้างเพื่อเตรียมขย้ำ
ชิ้ง!!
เมื่อเผชิญหน้ากับอสรพิษร้าย เด็กน้อยไม่แม้แต่จะสนใจเลยแม้แต่น้อย เขาเพียงแค่สร้างกงจักรจันทราแล้วซัดเป็นเส้นโค้งดั่งสายรุ้งแยกอสรพิษร้ายให้เป็นสองส่วนเกิดเป็นละอองโลหิต
เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ ฉีเฮ่าสามารถสังหารสัตว์ร้ายไปแล้วเจ็ดตัว เด็กน้อยทำการคุ้มครองอินทรีเกล็ดมรกตอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม อีกไม่นานสัตว์ร้ายที่ใจกลางหุบเขามืดจะต้องสัมผัสพวกเขาได้อย่างแน่นอน
“พวกหมู่บ้านหมาป่าจะต้องมาที่นี่ในอีกไม่ช้า อย่าบอกนะว่าพวกท่านปู่ไม่ได้ยินเสียงคำรามนี้” ฉีเฮ่าเริ่มแสดงอาการกังวล ที่จริงแล้วเขาสามารถหลบหนีไปได้แต่เขาไม่สามารถทิ้งอินทรีเกล็ดมรกตไปได้
จู่บรรดานกทั้งหลายก็พากันโผบินขึ้นไปบนท้องฟ้า เด็กน้อยพลันเงยหน้าขึ้นไป ในตอนนั้นเอง ปรากฏห่าฝนธนูกระหน่ำลงมาโดยมีเป้าหมายอยู่ที่ร่างของเด็กน้อย
จิตสังหารลอยฟุ้งไปทั่วอากาศ ต้นไม้มากมายต่างก็ถูกทำลายเป็นชิ้นๆและปรากฏธนูมากมายถูกยิงออกมาโดยเล็งไปที่เฮ่าน้อย ต่อให้เป็นช้างเขามังกรมารับการโจมตีนี้ก็ต้องพรุนเป็นรังผึ้งอย่างไม่ต้องสงสัย
เจ้าหนูน้อยพลันสูดลมหายใจแล้วตะโกนออกมาเกินเป็นคลื่นลมหายใจออกมาจากทั้งปากและจมูกอย่างชัดเจน ทั่วทั้งร่างเปล่งแสงสว่างวาบที่เกิดจากพลังอักขระ กงจักรเงินที่ดูราวกับมีดปรากฏขึ้นด้านหน้าเพื่อป้องกันการโจมตี ก่อให้เกิดเสียงโลหะปะทะกันดังไม่ขาดสาย
ฝนธนูยังคงกระหน่ำลงมากไม่ขาดสาย หัวลูกศรอันแล้วอันเล่าต่างก็แตกกระจายกลายเป็นละอองสีเงินดูละลานตายิ่งนัก
“พวกเจ้าหยุดเดี๋ยวนี้นะ!!” เจ้าหนูน้อยตาแดงกล่ำโดยความโมโห เพราะธนูบางส่วนนั้นสร้างบาดแผลให้กับอินทรีเกล็ดมรกต
บรรดาลูกศรที่ถูกยิงออกมากรีดสายลมทะยานเข้าเด็กน้อยอย่างต่อเนื่องก็หยุดลง จากนั้นผู้คนกว่าร้อยก็ค่อยปรากฏตัวออกมาล้อมกรอบเด็กน้อยเอาไว้พร้อมทั้งจดจ้องไปที่ร่างของซุนหนี่และเขาของกระทิงเพลิงอันแสนล้ำค่าด้วยความโลภ
เนื่องจากพวกเขาต่างก็อาศัยอยู่ในที่แห่งนี้มานานพอ ที่จะรับรู้ได้ว่าชิ้นส่วนเหล่านี้หาได้ยากและทรงคุณค่ามากเพียงใด
“เด็กน้อย ร่างของซุนหนี่มีค่ามากมายนัก เจ้าไม่ควรเก็บไว้คนเดียว เพียงแค่ทิ้งร่างนั่นไว้ที่นี่ พวกเราจะไม่สร้างความลำบากให้แก่เจ้า” ผู้อาวุโสคนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นมิตร

อารมณ์โกรธของฉีเฮ่าก็พุ่งขึ้นทันที พวกเขาทั้งคู่กลับมากจากที่ที่ไม่ต่างจากนรกเพื่อนำชิ้นส่วนอันล้ำค่าเหล่านี้กลับไปที่หมู่บ้านศิลา กลับโดนขัดขวางโดยคนพวกนี้ทั้งยังเจตนาที่จะฉกชิงของล้ำค่าไปอย่างหน้าด้านๆ
เด็กน้อยกำหมัดแน่นแล้วกัดฟันกล่าวออกมา “พวกเจ้าออกไปให้ไกล!!”
“เจ้าหนู ชีวิตก็เป็นเช่นนี้ พวกเราต่างก็ต่อสู้ในที่แห่งนี้ ถ้าไม่เหยียบย่ำผู้อื่น พวกเราก็จะโดนเหยียบย่ำเสียเอง” ผู้อาวุโสแห่งหมู่บ้านหมาป่าตะคอกออกมา “จงไปซะ!!”
เด็กน้อยมองไปโดยปราศจากคำพูดใดๆและตั้งใจรอกำลังเสริมจากหมู่บ้านศิลา
“โอ้ ช่างน่าตกใจ นั่นเป็นอินทรีเกล็ดมรกตอย่าแน่นอน ในตอนแรกคิดว่าจะเป็นนกยูนิคอร์นเสียอีก ไม่น่าเชื่อจริงๆว่าราชันย์แห่งท้องนภาจะยอมสวามิภักดิ์ให้กับหมู่บ้านศิลา” ผู้อาวุโสจากหมู่บ้านหมาป่าไม่สามารถที่จะบรรยายความตกใจของเขาออกมาได้หมด “น่าเสียดายที่ถูกพิษ คงต้องสังหารเสีย”
เมื่อฉีเฮ่าได้ยินเช่นนั้นก็แทบระงับน้ำตาไว้ไม่อยู่ เขาทำได้เพียงเฝ้ามองอาการของอินทรีเกล็ดมรกตตลอดเวลา
เมื่อได้เห็นสีหน้าของเด็กน้อย ผู้อาวุโสแห่งหมู่บ้านหมาป่าหรี่ตาแล้วกล่าว “ช่างน่าสงสารนัก ดังนั้นเพียงส่งตัวมันมาให้แก่หมู่บ้านของเรา จักช่วยปลดปล่อยมันจากความทุกข์ทรมานเอง ”
“เจ้ากล้า!!!” ฉีเฮ่าเบิ่งตากว้างและกำหมัดแน่นด้วยความโกรธเกรี้ยว พลางเคลื่อนตัวมาบดบังร่างของอินทรีเกล็ดมรกต
“ฮี่ ฮี่..” ชายแก่ผู้นั้นหัวเราะออกมาอย่างแผ่วเบา “เจ้าช่างเป็นเด็กดียิ่งนัก แต่ความดีของเจ้าคงปกป้องมันไม่ได้”
หลังจบประโยค ดวงตาพลันแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา ชายแก่โบกมือแล้วออกคำสั่ง “ยิงธนู!! ฆ่าเจ้าอินทรีนั่นซะ”
กลุ่มหมู่บ้านหมาป่าชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ไร้ซึ่งความลังเลเมื่อได้รับคำสั่ง ห่าฝนธนูก็ถาโถมเข้าใส่โดยมีเป้าหมายคืออินทรีเกล็ดมรกต
นัยน์ตาของเด็กน้อยพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงดั่งโลหิตและไร้ซึ่งความปราณีอีกต่อไป เด็กน้อยเรียกกงจักรจันทราออกมาปัดป้องลูกศรที่พุ่งมาจากทั้งสี่ทิศทาง เพื่อปกป้องอินทรีเกล็ดมรกต
อย่างไรก็ตาม ร่างของอินทรีเกล็ดมรกตนั้นใหญ่โตเกินไปอีกทั้งยังเป็นร่างที่เต็มไปด้วยบาดแผล ซึ่งเป็นไปได้ยากนักที่จะปัดป้องการโจมตีเหล่านั้น เด็กน้อยเคลื่อนตัวสลับไปมาควงกงจักรไปทั่วสี่ทิศทาง สร้างความเหนื่อยล้าแสนสาหัสให้แก่ตัวเองอย่างยิ่ง
ไกลออกไป ผู้คนจากหมู่บ้านหมาป่าทั้งหมดต่างก็มองไปที่หัวหน้าหมู่บ้านที่กำลังจดจ้องไปที่ร่างของเด็กน้อยและอินทรียักษ์ สายตาที่ส่งออกมาเต็มไปด้วยความเบื่อหน่ายก่อนจะตัดสินใจส่งสัญญาณให้ลงมือสังหาร
“ท่านหัวหน้าไม่ได้จะปล่อยเด็กนั่นไปตั้งแต่แรกใช่หรือไม่”
“ข้ากลัวว่าเด็กนั่นจะหนีไป แต่ด้วยจุดอ่อนของเด็กนั่น เราสามารถบีบบังคับกับมันได้ ของที่มีค่าถึงเพียงนั้น หากเด็กนั่นได้ไปอะไรจะเกิดขึ้น ฉะนั้นพวกเราต้องสังหารเด็กนั่นให้ได้”
ลูกธนูถูกยิงออกมาอย่างมืดฟ้ามัวดิน แสงสีเงินอันเย็นยะเยียบสะท้อนออกมาในขณะที่ลูกธนูหมุนควงอย่างรุนแรง ลูกธนูแต่ละดอกต่างก็แฝงพละกำลังมหาศาล ทำให้ต้นไม้ยักษ์ที่อยู่รายล้อมอินทรีเกล็ดมรกตถูกทำลายไปไม่น้อย
เด็กน้อยนั้นต้องรับมือด้วยความเหนื่อยล้า เขากัดฟันร่ายรำกงจักรจันทรา แต่ก็ยากเกินไปที่จะปกป้องอินทรีเกล็ดมรกต
ฉึก!!
ลูกศรเจาะทะลวงเข้าใส่บาดแผล ด้วยหัวลูกธนูที่มีขนาดพอๆกับกำปั้นนั้น สร้างความเจ็บปวดแสนสาหัสให้แก่ทายาทอสูรโบราณตัวนี้เป็นอย่างมาก ทั้งตัวสั่นสะท้านและสายตาเต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยวแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ หากตัวมันในยามปกติจะปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
เพร้ง เพร้ง..
ลูกธนูหนาแน่นราวกับเม็ดฝน เด็กน้อยใช้ความพยายามทั้งหมดเพื่อปัดป้อง แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ทั่วทั้งร่างของอินทรีเกล็ดมรกตเต็มไปด้วยลูกธนูมากกว่ายี่สิบอัน ลูกธนูเหล่านั้นเจาะลึกเข้าไปในร่าง ทำให้โลหิตทะลักออกมามากมาย
“ท่านป้าอินทรี!!” เด็กน้อยกรีดร้องด้วยเสียงขาดห้วง น้ำตาเริ่มหลั่งออกมา เขาใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว
ฉึก!!
ลูกศรดอกหนึ่งทะยานออกมาจากพุ่มไม้จนเกือบจะทะลวงหัวใจจองฉีเฮ่า เด็กน้อยตอบสนองด้วยความเร็วเหนือมนุษย์ด้วยการเบี่ยงตัวไปด้านข้าง อย่างไรก็ตามลูกศรยังคงถากแขนของเด็กน้อยจนเกิดบาดแผลขึ้น
“อ๊ากกก!!” เด็กน้อยร้องด้วยความเจ็บปวด นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาได้รับบาดเจ็บจากลูกธนู
ไม่ไกลออกไป หัวหน้าหน่วยนักล่า เป่ยฉานเย้ยหยัน ด้วยฝีมือของเขาทำให้แขนเด็กน้อยได้รับบาดเจ็บ แต่ผิวของเขายังคงขาวซีดเพราะท้องของเขาพึ่งโดนเปิดด้วยกงจักรจันทรา เขาน้าวคันธนูขึ้นมาอีกครั้งภายในพุ่มไม้เพื่อเริ่มการสังหารครั้งใหม่ ชายหนุ่มไม่สนใจอินทรีเกล็ดมรกต เขาเพียงเล็งไปที่หัวใจและคอหอยของเด็กน้อย
เด็กน้อยได้รับบาดเจ็บจนหน้าเปลี่ยนเป็นซีดขาว เขาฉีกชายเสื้อของตนมาเพื่อพันบาดแผล พลังอักขระถูกโคจรไปทั่วร่างเพื่อห้ามเลือดไม่ให้ไหลไปมากกว่านี้
ในช่วงเวลานั้นเอง เด็กน้อยทะยานออกไปข้างหน้า เพราะตัวของเด็กน้อยไม่สามารถจะตั้งรับได้อีกแล้ว “ข้าจะแลกชีวิตกับพวกเจ้า!!”
เด็กน้อยพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและสร้างกงจักรไว้ที่มือทั้งสองข้าง ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเขาจำเป็นต้องสังหารพวกที่ยิงธนูพวกนั้นให้ได้
การอาศัยอยู่ในที่รกร้างแห่งนี้ทำให้การแผลงศรของหมู่บ้านหมาป่าน่าสะพรึงกลัวไม่น้อย ผู้คนนับร้อยต่างเล็งธนูไปในทิศทางเดียวกัน ลูกธนูนับร้อยพุ่งไปพร้อมกันราวกับค้อนยักษ์โดยมีเป้าหมายคือเด็กน้อยคนหนึ่ง แม้ว่าฉีเฮ่าจะใช้กงจักรป้องกันการโจมตี แต่ก็ไม่อาจป้องกันได้ทั้งหมด ร่างของเด็กน้อยถูกกระแทกออกไป
“สอยมันให้ตาย!!!”
หัวหน้าหมู่บ้านหมาป่าที่ประกายตาเต็มไปด้วยความเย็นชาสั่งให้ทุกคนจู่โจมไปที่เด็กน้อยที่กำลังลอยค้างอยู่ในอากาศ
“ยากกกกกก !!”
เด็กน้อยตะโกนก้อง กงจักรทั้งสองวงหมุนควงอยู่รอบของเขา เคร้ง เคร้ง เสียงของลูกธนูกระเด็นออกไป หัวของลูกธนูแตกหักตกลงไปจนซ้อนรวกกันเปล่งประกายเย็นเยียบ
อย่างไรก็ตามที่ขาของเด็กน้อยได้รับบาดเจ็บจากลูกธนู เลือดไหลทะลักย้อมให้ขาขางนั้นเต็มไปด้วยสีแดง เด็กน้อยครางอย่างเจ็บปวด เขาเหลือบไปมองที่ร่างของอินทรีเกล็ดมรกตที่นอนอยู่บนพื้นแล้วรีบพุ่งเข้าหากลุ่มของหมู่บ้านหมาป่า
จันทราสีเงินส่องแสงสกาวเหมือนดั่งคมดาบ กงจักรทั่งสองถูกส่งออกไปแล้ว!! เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วทุกที่ เขาเข่นฆ่าประหัตประหารอย่างเมามัน บรรดาร่างของเด็กอายุ17 18 แห่งหมู่บ้านหมาป่าทรุดฮวบในขณะที่เลือดอาบ สร้างความตื่นตระหนกไปทั่ว
“ยิงไปที่อินทรีเกล็ดต่อไปจนกว่ามันจะตาย อย่าได้ผ่อนแรงเป็นอันขาด” หัวหน้าหมู่บ้านหมาป่า เป่ยหลี่ชิงออกคำสั่ง
ฟิ๊วววว..
เสียงแหวกอากาศของลูกธนูพุ่งเข้าหาอินทรีเกล็ดมรกต สถานการณ์เข้าสู่วิกฤต
ดวงตาเด็กน้อยแดงกล่ำ น้ำตาหลั่งไหลออกมาทั่วใบหน้า เขากำลังรู้สึกอ่อนแรง ถ้าเขาไม่กลับไปช่วย อินทรีเกล็ดมรกตต้องตายอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม หากเด็กน้อยหันกลับไป เขาจะต้องถูกโจมตีจากข้างหลังอย่างแน่นอน
“พวกเจ้ามันปีศาจร้าย” เสียงเศร้าโศกจากเด็กไร้เดียงสา
“เป่ยหลี่ชิง เจ้าลูกหมาน่าไม่อาย เจ้าใช้อุบายกับเด็กตัวแค่นี้ ยังมีความเป็นคนหรือไม่!!??” เสียงตะคอกดังสนั่นผ่านออกมา
ในช่วงเวลาเดียวกัน ปรากฏหอกเหล็กกล้าพุ่งลงมาใส่บริเวณที่ผู้คนหมู่บ้านหมาป่าอยู่ จนเกิดพลุโลหิตผสานเสียงกรีดร้อง
กำลังเสริมจากหมู่บ้านศิลาที่นำมาโดยฉีหยุ่นเฟิงได้มาถึงแล้ว ฉีหลิงหู่ ฉีเฟยเฉียวก็ตามกันมาไม่ห่างพร้อมทั้งแผลงศรเข่นฆ่าศัตรูอย่างไม่หยุดยั้ง
จิ๊บ จิ๊บ..
ต้าเผิง เสี่ยวชิงและจี้ยุนสยายปีกทะยานเข้ามาในระยะประชิด แม้ว่าพวกมันจะบินไม่ได้แต่ความเร็วของพวกมันก็ยังน่าหวาดหวั่นอยู่ดี พวกกระโจนเข้าหาอินทรีเกล็ดมรกตโดยอาการเศร้าหมอง
พวกมันทั้งสามเอาร่างมาบังบาดแผลเพื่อป้องกันการโจมตีจากลูกธนู ในขณะเดียวก็เอาหัวมาถูไถกับร่างของอินทรีเกล็ดมรกตส่งเสียงคร่ำครวญราวกับเสียใจสุดประมาณ
ห่าลูกธนูจากหมู่บ้านหมาป่าปะทะกับเกล็ดของเหล่าลูกนกดังสนั่น อย่างไรก็ตามพวกมันยังเล็กและเกล็ดของพวกมันก็ยังไม่แกร่งพอจะรับการโจมตีจนเริ่มปรากฎร่องรอยของบาดแผล
“เจ้าพวกลูกลูกโสเภณี (ขอใช้แบบนี้เพื่อให้ประโยคดูดอปลงนะครับมันใช้คำนนี้จริงๆนะ)!! ไปลงนรกซะ” ฉีหลิงหู่ตะคอกด่าด้วยความโกรธเกรี้ยว
“โต้กลับไป แต่ห้ามฆ่าเจ้าลูกนกพวกนั้น นำกลับพวกมันไปหมู่บ้าน วันหนึ่งพวกมันจะเป็นของวิญญาณผู้พิทักษ์” ดวงตาหัวหน้าหมู่บ้านหมาป่าทอประกายจ้องไปที่เหล่าลูกนกราวกับว่าต้องการจะจับพวกมันไปเสียตอนนี้
การต่อสู้หลั่งเลือดกำลังเกิดขึ้นแล้ว เสียงควงหอกเหล็กกล้าผ่านอากาศและเสียงชักดาบดังขึ้นติดๆกัน ทั้งสองฝ่ายเตรียมตัวจะเข้าต่อสู้ระชะประชิด
“ท่านปู่” เด็กน้อยตะโกนเรียกเสียงดัง
กลุ่มของผู้ใหญ่เห็นบาดแผลที่แขนและขาที่ถูกทำร้ายด้วยลูกธนูจนเลือดหลั่งไหลออกมามากมาย ทำให้พวกเค้าเศร้าเสียใจ และเจตนาเข่นฆ่าถูกกระตุ้นขึ้นมา
“อย่าได้กลัว เด็กน้อย”
“ข้าสบายดีขอรับ ท่านปู่รีบไปช่วยท่านป้าอินทรีเถอะ” เด็กน้อยปาดน้ำตาและพุ่งทะยานเข้าหาศัตรูจากหมู่บ้านหมาป่า จันทราสีเงินบินออกไป เกิดดอกไม้โลหิตขึ้นอากาศ ผู้คนเจ็ดแปดคนกรีดร้องโดยมีแขนขาดกระเด็น ทั่วทุกที่ปลกคุมไปด้วยเลือด
“เป่ยหลี่ชิง เจ้ามันก็แค่หมาป่าแก่ๆ อย่าบอกนะว่าจะแหกกฎของพื้นที่รกร้างแห่งนี้ พวกเราไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกันและหมู่บ้านของพวกเราก็ไม่ได้ขัดแย้งกัน แล้วเจ้าต้องการอะไรกันแน่” ฉีหยุ่นเฟิงตะโกนด้วยความกราดเกรี้ยว
แม้ว่าชายแก่กำลังพูดคุยอยู่ แต่เขาก็ได้ออกคำสั่งไปแล้ว ในเวลานี้พวกเขาตัดสินใจที่จะไม่ใจดีและจะตัดสินใจสังหารอย่างไร้ปราณี สู้จนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง
“อย่าได้กล่าวโทษข้า ร่างของซุนหนี่และเขากระทิงปีศาจนั้นล้ำค่าเกินไป ข้าจะปล่อยผ่านได้เช่นไร อีกทั้งวิญญาณพิทักษ์ก็ใกล้จะทลายขีดจำกัดจำเป็นต้องใช้พลังงานมากมายนัก”
“อะไรนะ!! วิญญาณพิทักษ์กำลังทลายขีดจำกัด” ฉีหยุ่นเฟิงแสดงอาการตกใจอย่างมากในขณะเดียวกันดวงตาของชายแก่มีอักขระวิ่งวนอยู่และไหลไปที่แขนข้างหนึ่ง เขากำลังแก้พิษให้แก่อินทรีเกล็ดมรกตอย่างรวดเร็ว
นัยน์ตาของเด็กน้อยกลายเป็นสีแดงกล่ำจากเจตนาฆ่าฟัน บริเวณนั้นไม่มีใครที่มาจากหมู่บ้านหมาป่าอยู่เลย ตามพื้นเต็มไปด้วยซากแขนมากมายราวๆยี่สิบข้างซึ่งเป็นผลงานจากจันทราสีเงิน
ทันใดนั้นเอง!! มีลำแสงพุ่งจากพุ่มไม้เข้าล้อมกรอบเด็กน้อย ปุ ปุ เสียงเหมือนทะลุบางสิ่งบางอย่าง และผู้คนเจ็ดคนจากหมู่บ้านศิลาถูกลำแสงทะลวงจนนอนจมกองเลือด
เปรี้ยง!!
แม้ว่าฉีเฮ่าจะใช้จันทราสีเงินป้องกัน หัวไหล่ของเขาก็ยังโดนกรีดเป็นแผลและเด็กน้อยก็กระอักเลือดออกมาอย่างเจ็บปวด
“สิ่งประดิษฐ์โบราณ!!” ผู้คนบางคนครางออกมาอย่างตื่นตระหนก
เด็กหนุ่มที่มีใบหน้าซีดเซียวดั่งหมาป่าซ่อนตัวท่ามกลางพุ่มไม้ เขาเฝ้ารอช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุดเพื่อสังหารเด็กน้อย มีลำแสงหนึ่งลำพุ่งตรงเข้าหาคอหอยเด็กน้อย
นั่นย่อมต้องเป็นเป่ยเฟิงผู้ที่พ่ายแพ้ให้แก่ฉีเฮ่าอย่างแน่นอนและอาการบาดเจ็บของเขาก็ฟื้นฟูไม่เต็มที่ แต่เด็กนุ่มก็ยังคงรักษาความเย็นชาและดำมืดไว้เหมือนเดิม
“เจ้าไม่ใช่เพียงคนเดียวที่สิ่งประดิษฐ์โบราณ ข้าเองก็มีเช่นกัน” เป่ยเฟิงไม่แม้แต่จะเหลือบแลพรรคพวกที่นอนกลิ้งไปมาท่ามกองเลือดของพวกเขา แม้ได้ยินเสียงร้องโหยหวน เด็กหนุ่มยังเย็นชาไว้ดุจเดิม
หลังแสงที่อาบไล้หายไป มันคือสิ่งประดิษฐ์ที่ห่อหุ้มรอบข้อมือถูกสร้างมาจากเขี้ยวสัตว์ร้ายที่ร้อยกันเป็นสร้อยข้อมือ เขี้ยวแต่ละอันเปล่งประกายสีขาวราวกับหิมะดูสวยงามนัก
เด็กหนุ่มไม่ได้เข้าใจอักขระบนเขี้ยว แต่เขารู้วิธีใช้สิ่งประดิษฐ์โบราณ ชิ้นนี้ เป็นไปได้เช่นไร นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนประหลาดใจ
“ท่านลุงใหญ่” เด็กน้อยกำลังกระวนกระวายและพยายามช่วยชายวัยกลางคนที่โดนลำแสงเจาะทะลุ อาการบาดเจ็บเหล่านั้นสาหัสนัก อวัยวะภายในแทบแหลกละเอียดและพวกเขาจะตายในไม่ช้า
ชี่!!
เป่ยเฟิงวาดพลิกข้อมือสร้างลำแสงยิงกระจายออกมาดูสวยงาม ลำแสงวิ่งผ่านอากาศราวกับห่าฝน เป็นพลังเข่นฆ่าที่น่าตื่นตระหนกนัก
“ข้าเกรียดความใจดีของตัวเองนัก ครั้งที่แล้วข้าปล่อยเจ้าไป แต่ครั้งนี้ข้าจะไม่ให้อภัยเจ้า!!” ใบหน้าเด็กน้อยเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยวและหนักแน่น