…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

เมืองสตาร์ซิตี้

หลังจากที่ถังซิ่วและโปรเฟสเซอร์ฮูได้มาถึงนั้นก็ได้พบกับเฉินซีซ่งที่มารออยู่ก่อนแล้ว

“ท่านอาจารย์ ท่านกลับมาแล้ว !”

เฉินซีซ่งได้แสดงความเคารพต่อถังซิ่วก่อนที่จะกวาดสายตาไปทางโปรเฟสเซอร์ฮู

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“อื่ม ข้าเสร็จเรื่องที่ต้องทำแล้วจึงได้รีบกลับมา คังเซี่ยนได้แจ้งข้าถึงเรื่องนั้นแล้วและเจ้าทำได้ดีมาก ตอนนี้ข้ากำลังขาดเงินอย่างมากและกำลังรอคอยบทสรุปของโครงการนั่นเพื่อจะฟื้นสภาพการเงินของข้า”

เฉินซีซ่งได้ฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า

“ท่านอาจารย์ ศิษย์จะจะจำให้ขึ้นใจและจะไปบอกกับหลงฮายเหวินและคนอื่นๆ”

ถังซิ่วได้แนะนำออกมาว่า

“เขามีชื่อว่า……ช่างมันเถอะ เจ้าเรียกเขาว่าโปรเฟสเซอร์ฮูเลยแล้วกัน ! เป้าหมายที่ฉันได้ไปจินซิตี้ในครั้งนี้นั้นก็เพื่อพบกับเค้าอย่างไรก็ตามเจ้าต้องหาสมุนไพรที่เขาขอให้เร็วที่สุดเพราะมันก็เกี่ยวข้องกับชีวิตที่เหลืออยู่ของเขาด้วย”

เฉินซีซ่งได้ตอบกลับไปว่า

“ศิษย์ได้ส่งคนไปจัดการเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ที่ท่านโทรหามาเมื่อวานนี้ คาดว่าน่าจะได้คำตอบในสามวัน”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“เรื่องนี้ก็เอาตามที่เจ้าสะดวกเลยแล้วกัน อย่างแรกก็ไปส่งข้าที่วิลล่าแล้วพาเขาไปซะ หากว่าเขายังอยากอยู่ที่เมืองนี้ก็หาที่พักให้เขาแต่หากว่าเขาต้องการจะกลับก็ช่วยส่งคนไปซื้อตั๋วให้เขาด้วย”

“ตกลง !”

เฉินซีซ่งได้พยักหน้าอย่างนอบน้อม

โปรเฟสเซอร์ฮูเองที่อยู่ข้างๆนั้นถึงกับรู้สึกช๊อคเมื่อได้ยินการสนทนาของทั้งคู่

เขารู้ถึงสถานะของเฉินซีซ่งดีว่ามันสูงแค่ไหน ก่อนหน้านี้เขาได้กลับไปทีบ้านและสืบสวนบริษัทของเขาทั้งหมด ในที่สุดเขาก็พบว่าทรัพย์สินด้วยรวมของเฉินซีซ่งนั้นมีมากกว่าหมื่นล้านถึง2-3เท่า

ณ ตอนนี้เขารู้สึกสงสัยถึงสถานะของถังซิ่วเป็นอย่างมาก !

โครงการเมืองประตูทิศใต้

หลังจากที่ถังซิ่วกลับมาแล้วก็พบว่าแม่ของเขากำลังนั่งเล่นอยู่กับกู่หยินและมีหญิงสายและหญิงวัยกลางคนกำลังทำความสะอาดบ้านเช่นกัน

“คุณแม่ แล้วพี่สาวมู่ไปไหน ? ”

ซูหลิงหยุนได้ตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มว่า

“ลูกแม่ แม่มาถึงที่นี่ตั้งแต่เมื่อวานแล้วเพราะแม่เห็นว่าลูกได้ออกไปนอกเมืองนี้ดังนั้นแม่จึงมาที่นี่เพื่ออยู่เป็นเพื่อนหยินหยินน้อย พี่สาวใหญ่นั้นได้ไปนอกพื้นที่กับอาจารย์ทั้งสี่แล้ว เธอบอกว่าจะใช้เวลาประมาณ1อาทิตย์ ก่อนหน้าที่เธอจะออกไปนั้นก็ได้จ้างแม่บ้านชั่วคราวมาให้เรา”

ถังซิ่วได้พยักหน้าก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“ในวิลล่านี้มีสองที่ที่ไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดนะ ที่แรกคือห้องทำงานของผมและอีกห้องคือโกดังเก็บของ”

“เข้าใจแล้ว”

“รับทราบ”

แม่บ้านทั้งสองได้พยักหน้าตอบตกลง

ถังซิ่วเองก็ได้หันหน้าไปทางกู่หยินด้วยรอยยิ้มพร้อมพูดว่า

“การเรียนพิเศษเป็นอย่างไรบ้าง ?”

กู่หยินเองก็ได้ตอบกลับไปว่า

“หนูได้เรียนภาคเช้าไปแล้ว อาจารย์เองก็ได้บอกมาว่าการเรียนในตอนเช้านั้นคือช่วงที่สมองปลอดโปร่งที่สุดดังนั้นเขาจึงได้มาตั้งแต่เช้า อ่อใช่ ท่านอาจารย์ ข้าขอเงินหน่อยได้ไหม ? ”

ถังซิ่วได้ตอบกลับด้วยความประหลาดใจว่า

“เจ้าขอเงินไปทำไมงั้นหรอ ?”

กู่หยินก็ได้ตอบกลับไปว่า

“หนูได้ยินอาจารย์สอนคณิตศาสตร์พูดว่ามีนักเรียนของพวกเขาคนหนึ่งที่ล้มป่วยอย่างหนักและทางครอบครัวเองก็มีปัญหาด้านการเงินดังนั้นนักเรียนหลายคนของการเรียนพิเศษจึงได้บริจาคเงินให้แก่เขา หนู….หนูเองก็ต้องการที่จะบริจาคเงินเหมือนกัน”

ถังซิ่ได้ถามออกมาว่า

“แล้วเจ้าได้ถามแม่ของเจ้าหรือยัง ?”

ท่าทางของกู่หยินดูเศร้าลงเล็กน้อยก่อนที่จะพูดว่า

“หนูได้บอกคุณแม่ไปแล้วแต่เธอไม่ให้ ! เธอบอกว่าหนูต้องพึ่งพาความสามารถของตัวเองก่อนที่จะใช้ช่วยคนอื่น บอกว่าหนูต้องตั้งใจเรียนและบ่มเพาะพลังเพื่อจะได้มีความสามารถมากๆและช่วยพวกเขาด้วยพลังของตัวเอง”

ถังซิ่วได้พยักหน้าก่อนที่จะพูดว่า

“แม่ของเจ้าพูดถูกแล้วอย่างไรก็ตามข้าก็สามารถให้เงินเจ้าได้”

“จริงหรอ ?”

ดวงตาของกู่หยินเปร่งประกายก่อนที่จะถามออกมาด้วยความประหลาดใจ

ถังซิ่วก็ได้ตอบกลับไปว่า

“อาจารย์เคยโกหกเจ้างั้นหรอ ? ”

กู่หยินได้ส่ายศีรษะทันทีพร้อมกับพูดด้วยท่าทางจริงจังว่า

“ท่านอาจารย์ไม่เคยโกหกหนู!”

ถังซิ่วได้หยิกไปที่แก้มของเธอด้วยความพึงพอใจก่อนที่จะมองไปที่ซูหลิงหยุนแล้วพูดว่า

“คุณแม่ หลังจากนี้ก็พักอยู่ที่นี่นะเพราะผมยังมีเรื่องมากมายที่ต้องจัดการและไม่มีเวลากลับมาที่นี่มากนัก”

ซูหลิงหยุนได้ตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า

“ได้เลย แม่จะอยู่ที่นี่เพื่อดูแลหยินหยินเอง”

ถังซิ่วได้พูดต่อว่า

“แม่ไม่จำเป็นต้องหมกอยู่แต่ในวิลล่านะ หากว่าแม่อยากจะไปที่ร้านอาหารเมื่อไหร่ก็ไปได้เพราะหลังจากที่เธอเรียนเสร็จแล้วแม่ก็พาเธอออกไปด้วยเลย หยินหยินนั้นจะเบื่อเอาถ้าอยู่แต่ที่นี่”

ซูหลิงหยุนเองก็ได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า

“โอเค แม่เข้าใจแล้ว ลูกไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก!”

ถังซิ่วได้พยักหน้าก่อนที่จะจะการกับเรื่องของเขาที่ชั้นสอง ที่ห้องทำงานของเขานั้นมีสิ่งของล้ำค่าอยู่มากมายและเขาตัดสินใจว่าจะต้องซื้อตู้นิรภัยแล้ว

อินเตอร์เน็ตนั้นเป็นสิ่งที่ดีมากและตอนนี้เองเขาก็เริ่มชินกับการใช้มัน หลังจากที่ค้นหาอยู่ครู่หนึ่งเขาก็ได้สั่งซื้อตู้นิรภัยขนาดครึ่งหนึ่งของความสูงคนและหลังจากเสร็จสิ้นการซื้อขายนั้นเขาก็ได้เก็บโทรศัพท์ทันที

หลังจากทานข้าวเที่ยง

ถังซิ่วได้ออกจากวิลล่าของเขาพร้อมเดินทางไปที่โรงบ่มที่เขาเพิ่งซื่อ โครงสร้างของอาคารเปลี่ยนไปอย่างมาก รถบรรทุกได้เข้าออกสถานที่แห่งนั้นอย่างไม่หยุดหย่อน

“บางทีฉันน่าจะซื้อที่ข้างๆด้วย !”

ถังซิ่วได้ยิ้มออกมาอย่างขมขื่นก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรหาเขวียนหน้าบาก

“บอส ? ”

เสียงของเขวียนหน้าบากได้ถูกส่งมาทางปลายสาย

ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า

“ฉันอยู่ที่หน้าทางเข้าของโรงบ่ม นายอยู่ที่ไหนกัน ? ”

เขวียนหน้าบากเองก็ได้ตอบกลับไปว่า

“ผมอยู่ข้างใน ! บอสรอสักครู่ ผมกำลังรีบออกไป”

หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที

เขวียนหน้าบากที่เนื้อตัวมอมแมมและเปียกโชกไปด้วยเหงื่อได้เดินออกมาพร้อมกับชายสองคนที่ถังซิ่วไม่คุ้นหน้า พวกกำลังใส่หมวกป้องกัน

“บอส คุณมาเพื่อดูงาน ? ”

เขวียนหน้าบากก็ได้ปวดเหงื่อของเขาก่อนที่จะถามออกมาด้วยเสียงหัวเราะ

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“ฉันมาดูความก้าวหน้า พวกเขาคือ ……”

เขวียนหน้าบากได้แนะนำตัวพวกเขาอย่างรวดเร็วว่า

“พวกเขาเป็นพนักงานช่างที่หัวหน้าคังได้ส่งมา นี่คือหลี่หยางและหลูเหว่ย พวกเขานั้นน่าถึงมากเพราะหากว่าผมไม่ได้ความช่วยเหลือจากพวกเขาแล้วผมคงจะต้องปวดหัวมากแน่นอน!”

“บอส !”

“สวัสดีครับบอส !”

หลี่หยางและหลูเหว่ยได้เรียกออกมาพร้อมกัน

พวกเขานั้นได้สงสายตาที่ตกตะลึงออกมาเพราะพวกเขาไม่คิดเลยว่าบอสของพวกเขาจะอายุน้อยเช่นนี้

ถังซิ่วได้พยักหน้าก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“สวัสดี ตอนนี้โรงบ่มไปถึงไหนแล้ว ? แล้วเฟสแรกของมันนั้นเสร็จเรียบร้อยหรือยัง ? ”

หลี่หยางเองก็ได้ตอบกลับไปว่า

“อย่างมากก็ใช้เวลาประมาณสองเดือนเพื่อให้เสร็จสิ้นเฟสแรกแล้วหลังจากนั้นก็เริ่มทดสอบเครื่องจักรและวิเคราะห์ปัญหาของไวน์”

ถังซิ่วได้เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาพลางส่ายศีรษะว่า

“มันช้าเกินไป บอกคังเซี่ยนว่าให้เธอเพิ่มทีมก่อสร้างและต้องปรับปรุงที่นี้ให้เสร็จภายในครึ่งเดือนและจะต้องผลิตล๊อตแรกภายในเดือนนี้ บอกเธอไปว่าไม่จำเป็นต้องสนว่าจะใช้เงินเท่าไหร่ตราบใดที่เราสามารถผลิตได้ก็จะสามารถหาเงินมาได้อย่างแน่นอน”

หลี่หยางและหลูเหว่ยได้มองไปที่กันและกันอย่างว่างเปล่าและไม่อยากจะเชื่อคำพูดของถังซิ่ว

เขวียนหน้าบากผู้ซึ่งเชื่อทุกอย่างของถังซิ่วนั้นก็ได้พูดออกมาอย่างจริงจังว่า

“บอส ผมจะไปรายงานให้หัวหน้าคังทันทีพร้อมกับจะต้องทำตามแผนการที่คุณตั้งไว้ให้ได้”

ถังซิ่วได้ตบไปที่บ่าของเขาพร้อมกับพูดว่า

“ไหนพาฉันไปดูข้างในหน่อยสิ!”

“รับทราบ !”

หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงถังซิ่วก็ได้สำรวจพื้นที่โรงบ่มทั้งหมดและนั่นก็ทำให้ถังซิ่วรู้สึกพึงพอใจ แม้ว่าที่ทำงานนั้นยังจะไม่สามารถใช้การได้แต่สำนักงานและที่พักของพนักงานนั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว

เขวียนหน้าบากเองก็ได้แนะนำออกมาว่า

“บอส นี่เป็นที่ทำงานที่เราได้ก่อสร้าง แม้ว่าด้านนอกจะดูผุพังและด้านในนั้นสะอาดและเรียบร้อยมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือสามารถใช้ได้8-10อย่างไม่มีปัญหา หัวหน้าคังเองก็ได้ทำตามคำร้องของคุณโดยการซื้อวัตถุดิบการบ่มมาไว้และผมเองก็ได้เริ่มบ่มมันตามสูตรที่คุณให้มาแล้ว ”

ถังซิ่วก็ได้ถามออกมาว่า

“มีตัวอย่างไหม ? ”

เขวียนหน้าบากเองก็ได้ตอบกลับไปว่า

“ยังมีอยู่2ขวด”

ถังซิ่วก็ได้ตอบกลับไปว่า

“ไหนพาฉันไปชิมหน่อยสิ”

เขวียนหน้าบากเองก็ได้ตอบตกลงพร้อมกับรีบวิ่งไปหยิบตัวอย่างที่อยู่ในโรงงานมาทันทีแล้วยื่นให้แก่ถังซิ่ว

“บอส นี่เป็นไวน์ที่ผมลองบ่มขึ้น คุณลองชิมดูสิ”

ถังซิ่วได้หยิบแก้วมาแล้วดื่มมันก่อนที่เขาจะส่ายศีรษะแล้วพูดว่า

“รสชาติดีอยู่หรอกแต่ยังห่างไกลกับที่ฉันหวังไว้ นายได้ใช้วัตถุดิบตามสูตรที่ฉันให้ไปทั้งหมดหรือเปล่า ?”

เขวียนหน้าบากเองก็ได้พยักหน้าแล้วพูดว่า

“เหมือนกันเปะๆเลย”

ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยความประหลาดใจว่า

“นั่นมันแปลกๆนะหากว่าจะให้พูดตรงๆคือสิ่งที่ฉันหวังเอาไว้มันจะต้องมีรสชาติดีกว่านี้อย่างน้อยก็หลายเท่า มันจะต้องเก็บกลิ่นและเพิ่มความอยาก นี่มันมีปัญหาตรงไหนกัน ? ”

เขวียนหน้าบากเองก็ได้ถามออกมาด้วยความสงสัยว่า

“ไวน์ที่บอสพูดนั้นมันจะไปมีอยู่บนโลกนี้ได้อย่างไร นอกจากหยดน้ำค้างจากสวรรค์ มันจะไปมีไวน์ยี่ห้ออื่นที่ทำได้ขนาดนั้นได้ไง ? ”

หยดน้ำค้างจากสวรรค์ ?

ถังซิ่วได้จำชื่อที่เขวียนหน้าบากพูดขึ้นทันทีพร้อมกับดวงตาที่เปล่งประกายแล้วหันหน้าไปมองที่หลี่หยางก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“เปลี่ยนจากพวกข้าวธรรมดาเป็นข้าวเหนียวดูและไปหาใบไผ่มา เอามันไปบ่มพร้อมกันด้วย อย่างลืมล่ะว่าต้องเอามันไปบ่มพร้อมกับไวน์หลังจากที่ล้างมันให้สะอาดแล้ว ”

เขวียนหน้าบากเองก็ได้พยักหน้าแล้วพูดว่า

“ผมจะจัดการทันที ! หลังจากที่เราออกไปซื้อวัตถุดิบแล้วเราจะทดสอบมันอีกครั้ง!”

ถังซิ่วได้พยักหน้าก่อนที่จะพูดออกมาอย่างจริงจังว่า

“เขวียนหน้าบาก ตอนนี้ธุรกิจอื่นๆของฉันยังทำเงินได้ไม่มากและตอนนี้ฉันทำได้แค่ใช้จ่ายเท่านั้นดังนั้นฉันขอให้นายระมัดระวัง ฉันรับรองเลยว่าการที่นายมาอยู่กับฉันนั้นจะต้องมั่งคั่งอย่างแน่นอน”