…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ซางซินหยาได้ข่มความรู้สึกโกรธเอาไว้ในใจก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“ฉันตกลง นาทีละ100 นายเอาโทรศัพท์มา !”

“…”

ถังซิ่วได้ยื่นโทรศัพท์ของเขาไปให้เธอ

ซางซินหยาที่ได้โทรศัพท์ไปนั้นก็ได้เดินออกไปข้างๆพร้อมโทรไปหาเบอร์หนึ่งพร้อมพูดอะไรบางอย่าง หลังจากที่เธอวางสายและกำลังจะเอาโทรศัพท์มาคืนนั้นก็นึกขึ้นถึงเรื่องความลับที่ถังซิ่วพูดมาก่อนหน้านี้ได้จึงได้เปิดประวัติผู้โทรทันที

หลังจากผ่านไปสองนาทีเธอก็เห็นประวัติการโทรทั้งหมดพร้อมด้วยชื่อที่เธอคุ้นเคย

โอหยางลูลู่ ?

เฉินซีซ่ง ?

ชูยี่ ?

ไป่เถา ?

เธอจำเบอร์ของโอหยางลูลู่ได้ดีและเธอก็เปิดดูประวัติทันทีและเมื่อเห็นที่ตัวเลขเหล่านั้นก็ทำให้เธอรู้สึกไม่อยากจะเชื่อจริงๆ

เบอร์นี่มัน…..

จริงๆงั้นหรอ ?

ซางซินหยาได้หันหน้ากลับมามองที่ถังซิ่วก่อนที่จะเดินกลับมาหาเขาแล้วถามออกมาว่า

“นายชื่อว่าอะไร”

ถังซิ่วก็ได้ตอบกลับไปว่า

“ก่อนที่จะถามชื่อคนอื่นก็ควรจะมีมารยาทในการแนะนำตัวเองก่อนนะ ”

ลมหายใจของเธอหยุดชะงักลงก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า

“นายมันตัวประหลาดจริงๆ ช่างมันเถอะ ฉันชื่อซางซินหยาเป็นนักร้อง นายล่ะ ?”

“ถังซิ่ว เป็นนักเรียน!”

ซางซินหยาเองก็ได้พูดออกมาว่า

“เห็นแล้วว่านายยังเด็กฉันก็พอจะเดาได้ว่านายน่าจะเป็นนักเรียน อย่างไรก็ตามนายรู้จักกับโอหยางลูลู่ด้วยงั้นหรอ ? เธอเป็นคนของเกาะจิงเหมิน อย่าบอกนะว่านายก็เป็นคนของที่นั่น ? ”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“เปล่า เราเป็นแค่เพื่อนกัน”

ซางซินหยาเองก็ได้ถามออกมาด้วยความสงสัยว่า

“นายกับโอหยางลูลู่เป็นเพื่อนกันงั้นหรอ ? ทำไมฉันไม่เห็นเคยได้ยิน ? ”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“บางที่เพราะฉันอาจจะไม่ค่อยสำคัญในหัวใจของเธอดังนั้นจึงไม่มีค่าพอที่จะพูดถึง เอาล่ะ ช่วงเวลาของคำถามจบลงแล้ว เธอน่าจะเอาโทรศัพท์คืนมาให้ฉันได้แล้ว ? ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อกี้เธอใช้ไป4นาที เอามา400หยวน ขอบคุณ”

ซางซินหยาได้ยื่นโทรศัพท์กลับไปให้ถังซิ่วก่อนที่จะพูดออกมาเสียงเบาๆว่า

“นั่น…..เรามาพูดอะไรกันหน่อยได้ไหม ? ฉันและนายเองก็เป็นเพื่อนของโอหยางลูลู่ดังนั้นมันเป็นโชคชะตาที่เราต้องมาเจอกัน ”

ถังซิ่วได้ส่ายศีรษะพร้อมพูดว่า

“เอามาให้ครบทุกหยวน ! เอาเงินมา !”

ซางซินหยาเองก็โกรธเป็นอย่างมากก่อนที่จะพูดว่า

“นายจะไถเงินจนตายเลยหรือไง ห๊า ?”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“เงินตราเป็นสิ่งที่ดี มันสามารถใช้ซื้อเครื่องดื่ม ซื้ออาหาร เลี้ยงดูพ่อแม่ เลี้ยงดูลูกสะใภ้ เลี้ยงดูลูก…….”

“พอ พอ พอ !!!!!!”

ซางซินหยาได้พูดออกมาโดยไม่รู้ว่าควรจะหัวเราหรือร้องไห้ดี

“ใครจะไม่รู้บ้างหละว่าเงินเป็นสิ่งที่ดี ! แต่ยังไงเราก็เป็นเพื่อนของโอหยางลูลู่เหมือนกันนะ ยิ่งไปกว่านั้นฉันเองก็รู้จักกับไป่เถาและชูยี่เช่นกันแม้กระทั่งนายใหญ่ของบริษัทร้อยคุณธรรมเภสัช เฉินซีซ่งก็ด้วย เรามีเพื่อนร่วมกันตั้งหลายคน ไม่เคยได้ยินคำพูดที่ว่าเพื่อนของเพื่อนก็คือเพื่อนงั้นหรอ ? ในเมื่อเราเป็นเพื่อนกันก็อย่าพูดถึงเรื่องเงินเลย มันทำร้ายความรู้สึกของฉัน”

ถังซิ่วได้ยิ้มออกมาเหมือนคนบ้าก่อนที่จะถามว่า

“เรารู้จักกันงั้นหรอ ? ”

“เฮื้อกก….”

ซางซินหยานั้นถึงกับเหวอไปโดยทันที

ถังซิ่วได้พูดต่อว่า

“อย่าได้คิดจะสร้างความสัมพันธ์กับฉัน เอาเงินมาได้แล้ว เร็วๆ !”

ซางซินหยาได้มองไปที่ถังซิ่วด้วยความโกรธอีกครั้ง เธอได้ฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า

“ฉันไม่มีเงิน กระเป๋าเงินของฉันหายไปไม่เช่นนั้นฉันคงไม่มาแอบอยู่ที่นี่หรอก”

ถังซิ่วได้ถามออกมาว่า

“เธอจะไม่จ่ายหนี้งั้นหรอ ? ”

ซางซินหยาก็ได้ตอบกลับไปด้วยความโกรธว่า

“นายคิดว่าฉันเหมือนคนที่ไม่จ่ายหนี้งั้นหรอ ?”

ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยใบหน้าที่จริงจังว่า

“ดูจากการกระทำของเธอแล้วฉันว่าน่าจะใช่ !”

เมื่อได้ยินคำพูดของถังซิ่วนั้นก็ทำให้อารมของเธอปั่นป่วนทันที เธอรีบแบมืออกมาแล้วพูดว่า

“เอาโทรศัพท์ของนายมา ฉันจะโทรศัพท์”

ถังซิ่วได้พูดต่อว่า

“เงินก่อนหน้านี้เองก็ยังไม่จ่ายแล้วทำไมฉันต้องให้เธอล่ะ ? นี่ยังไม่รวมเรื่องที่เธอแอบดูรายชื่อผู้ติดต่อของฉันเลยนะ ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับเธอ!!!”

ซางซินหยาเองก็ได้โกรธจัด

“ใครจะอยากไปดูกันเล่า !!!! เอาโทรศัพท์มา!!หากว่าอยากจะได้เงินก็ส่งมันมา”

ถังซิ่วเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะยื่นโทรศัพท์ให้กับเธอ

ซางซินหยาที่ได้รับโทรศัพท์มานั้นก็กดโทรหาโอหยางลูลู่โดยทันทีหลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงตอบรับที่ดังออกมาเพราะเธอกดเปิดลำโพง

“สุดที่รัก คิดถึงฉันหรอ ? ฉันเองก็คิดถึงคุณเหมือนกัน ! หรือว่าใจเราตรงกันนะ ? ”

ซางซินหยาถึงกับหวาดผวาส่วนถังซิ่วเองก็รู้สึกหมดหนทางเช่นกัน

“แค่ก แค่ก….”

ซางซินหยาได้ไอออกมาหลายครั้งก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“ลูลู่ นี่ฉันซางซินหยา”

“อ๊า….. ? ซินหยา ? เธ …เธอ ….ทำไมถึงได้ใช้เบอร์ของถังซิ่งโทรมาได้ล่ะ ? เธอ….อ๊ากกก น่าขายหน้า! เรื่องเมื่อกี้นั้นเป็นเรื่องหยอกล้อเท่านั้น ! อ๊า…..”

เสียงครางที่ช๊อคของโอหยางลูลู่ได้ดังออกมาจากปลายสาย

ซางซินหยาเองก็ได้พูดขึ้นว่า

“ไม่ต้องเป็นห่วง! เราเป็นพี่น้องกันฉันจะไม่หัวเราะเธอหรอก ! อย่างไรก็ตามเธอรู้จักกับถังซิ่วนี่จริงงั้นหรอ ? ฟังจากคำพูดของเธอแล้วดูเหมือนว่าจะรู้จักเขาดี ? ”

โอหยางลูลู่ได้ตอบกลับไปว่า

“รู้จักดีไหมไม่รู้แต่ฉันรู้ทั้งหมดว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ในหัว ……”

เสียงของเธอได้หยุดลงเพราะเธอเพิ่งตระหนักว่าคำพูดของเธอมันสามารถทำให้เข้าใจผิดได้อย่างง่ายดาย

ซางซินหยาเองก็ได้รู้สึกแปลกๆก่อนที่จะหันกลับไปสังเกตถังซิ่วแล้วพูดออกมาว่า

“ดูเหมือนว่าเธอจะสนิทสนมกับเขาน่าดูจริงๆ เขาน่าจะไว้หน้าเธออยู่บ้างใช่ไหม ? ช่วยฉันหน่อยสิเมื่อกี้ฉันเพิ่งยืมโทรศัพท์มาจากเขาและกำลังโดนเขาถูกขูดเลือดขูดเนื้อ เธอช่วยพูดกับเขาหน่อยสิว่าฉันจะคืนเงินให้เขาในภายหลัง”

โอหยางลูลู่เองก็ได้พูดออกมาด้วยความเขินอายว่า

“ซินหยาเธออย่าพูดไร้สาระ!ฉันและถังซิ่วเป็นเพื่อนกันเท่านั้น ! ยังไงก็ตามเธอรู้จักเขาได้ยังไง ? แล้วเธออยู่ที่ไหน ? ”

ซางซินหยาก็ได้ตอบกลับไปว่า

“สนามบินเมืองสตาร์ซิตี้ เจอกันโดยบังเอิญ”

โอหยางลูลูเองก็ได้ถามออกมาว่า

“แล้วถังซิ่วไปที่สนามบินทำไมกัน ? ”

ซางซินหยาเองก็ได้ตอบกลับไปว่า

“เธอถามฉันแล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไง ? เธอรีบๆบอกเขาหน่อยสิ”

โอหยางลูลู่ได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า

“เธอส่งโทรศัพท์กลับไปให้เขา ! ฉันจะบอกเขาเอง ”

ซางซินหยาเองก็ได้ส่งโทรศัพท์กลับไปให้ถังซิ่วก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“นายไปคุยกับเธอ !”

ถังซิ่วได้รับโทรศัพท์กลับมาพร้อมมองไปที่สายตาหงุดหงิดของซางซินหยา เขาพูดออกมาว่า

“ลูลู่ คราวหน้าคราวหลังก็ระวังคำพูดของเธอบ้างเดี๋ยวคนอื่นจะเข้าใจผิดกัน คำพูดก่อนหน้านี้นั้นฉันได้ยินหมดแล้ว ในเมื่อเขาเป็นเพื่อนกับเธอก็ช่างมันเถอะ ! เอาล่ะ แค่นี้นะ ”

โอหยางลูลู่ได้พูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว นายจะมาที่เกาะจิงเหมินนี่งั้นหรอ ? หากว่านายจะมาที่นี่ฉันจะได้ไปรอรับที่สนามบิน ”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“ป่าว ฉันจะไปที่จินซิตี้ !”

โอหยางลูลู่เองก็ถามออกมาด้วยความสงสัยว่า

“ไปทำอะไร ? มีเรื่องอะไรดีที่นั่นงั้นหรอ ?”

ถังซิ่วก็ได้ตอบกลับไปว่า

“มันทีสิ่งของที่ฉันต้องการอยู่ !”

โอหยางลูลู่ก็ได้ถามขึ้นมาว่า

“นายจะให้ฉันไปเป็นเพื่อนไหม ? ”

ถังซิ่วตอบกลับอย่างขบขันว่า

“เธออยู่ที่เกาะจิงเหมิน ฉันอยู่เมืองสตาร์ซิตี้ เธอจะไปยังไง ? เธอไปจัดการเรื่องของธุรกิจของเราเถอะจะได้เห็นผลลัพธ์เร็วๆ อ่อใช่ หากว่าเธอมาที่นี่ก็ให้ไปหาคังเซี่ยนเลยแล้วกัน ตอนนี้คังเซี่ยนเป็นผู้มีอำนาจเทียบเท่าฉัน”

โอหยางลูลู่ได้พูดออกมาว่า

“ฉันไม่ไปเจอเธอได้ไหม ? อ๊า ยัยนั่นมันคิดไม่ซื่อกับนาย”

ถังซิ่วได้ถามออกมาว่า

“เธอคิดไม่ซื่อกับฉันยังไงกัน ? ”

“นี่…..”

โอหยางลูลู่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะโอดโอยออกมาว่า

“ฉันคิดว่าเธอมักจะอยู่กับนายและมีจุดประสงค์ที่ชั่วร้ายแถมรูปลักษณ์ของเธอเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าฉันเลย ฉันคิดว่าเธอเสแสร้งเกินไป ”

ถังซิ่วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาพร้อมกับพูดว่า

“ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเธอเป็นเหมือนนางสนมที่กำลังอิจฉากันนะ ? จะสร้างฮาเร็มที่แย่งชิงความโปรดปรานกันก็ดีเหมือนกัน เอาล่ะฉันต้องรีบขึ้นเครื่องแล้ว”

ซางซินหยาที่นั่งฟังบทสนทนาของพวกเขานั้นก็รับรู้ได้ทันทีว่าเพื่อนรักของเธอนั้นหลงรักถังซิ่วเข้าให้แล้ว เธอรู้จักกับโอหยางลูลู่มากว่า7-8ปีแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นลูลู่แสดงท่าทางแบบนี้ต่อหน้าผู้ชาย

เมื่อเห็นว่าถังซิ่ววางสายแล้วนั้นเธอเองก็รู้สึกเริ่มสนใจในตัวของถังซิ่วแล้วเช่นกัน เธอถามออกมาว่า

“ฉันไม่คิดเลยว่าเพื่อนรักของฉันที่หยิ่งยโสเองก็ยังจะมีใจให้กับนาย ถังซิ่ว นายไปที่จินซิตี้ทำไมงั้นหรอ ? ฉันเองก็จะไปที่นั่นเหมือนกันแต่น่าเสียดายที่เอกสารหายไปทั้งหมดไม่เช่นนั้นก็คงได้ไปกับนาย”

ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า

“ไม่ไปน่ะดีแล้ว ฉันเป็นคนที่ไม่ชอบเป็นที่สังเกตและไม่ต้องการให้คนคอยจับจ้อง !”

ซางซินหยาเองก็ถึงกับหมดคำพูดทันที

ยอดชายอย่างถังซิ่วนี่เธอไม่รู้เลยว่าควรจะพูดอะไรกับเขาดี !

ถังซิ่วได้ยืนขึ้นก่อนที่จะพูดว่า

“เอาล่ะ เดี๋ยวก็ต้องขึ้นเครื่องแล้ว ฉันไปล่ะ !”

เมื่อพูดจบเขาก็เขาเงินออกมา200หยวนก่อนที่จะวางไว้บนโต๊ะแล้วพูดว่า

“กาแฟนี้ถือว่าฉันเลี้ยงและหากว่าในชีวิตนี้ยังมีโอกาสได้เจอกันอีกก็เอาเงินมาชดใช้ฉันด้วยล่ะ ”

“เดี๋ยวก่อน !”

ซางซินหยาที่ได้เห็นการกระทำของถังซิ่วนั้นก็รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากก่อนที่จะพูดต่อว่า

“ฉันถามคำถามอะไรหน่อยได้ไหม ?”

ถังซิ่วก็ได้ตอบกลับมาว่า

“ว่ามาสิ ”

ซางซินหยาเองก็ได้ถามต่อว่า

“ก่อนหน้านี้ฉันเองได้เห็นประวัติการโทรของนายและเห็นชื่อเฉินซีซ่งอยู่ นายสนิทกับเขางั้นหรอ ? ”

ถังซิ่วก็ได้ตอบกลับไปว่า

“ก็พอใช้ได้ !”

ซางซินหยารีบพูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“ในเมื่อนายสนิทกับเขาฉันขอช่วยอะไรหน่อยได้ไหม ? ฉันต้องการจะคุยกับเขาหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่สามารถติดต่อเขาได้เลย เขาดูเหมือนจะเป็นคนที่งานยุ่งตลอดเวลาแม้จะนัดเขาเองก็ยังต้องรอตั้งหลายวัน”

ถังซิ่วก็ได้ถามขึ้นมาว่า

“ไม่ใช่ว่าเธอก็รู้จักเขางั้นหรอ โทรหาเขาก็จบแล้ว !”

ซางซินหยาได้ฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า

“โทรแล้วและไปพบแล้วด้วยแต่เขาไม่ว่างเลย”

ถังซิ่วได้ถามต่อว่า

“เธอจะให้ฉันช่วยอะไรงั้นหรอ ?”

ซางซินหยาเองก็ได้พูดว่า

“ฉันรู้ว่าบริษัทของเขานั้นทำเกี่ยวกับสมุนไพรและฉันต้องการสมุนไพรล้ำค่าตัวหนึ่ง ฉันจะพูดกับนายตรงๆว่าพ่อของฉันป่วยด้วยโรคประหลาดๆและต้องการสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์นี้”

ถังซิ่วได้ถามออกมาว่า

“ต้องการสมุนไพรอะไร ?”

“แม่น้ำอสรพิษ”

ซางซินหยาได้ตอบกลับไป

ท่าทางของถังซิ่วเปลี่ยนไปทันทีก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“สมุนไพรนี้มีไว้รักษาแค่โรคเดียวเท่านั้นและมันคือโรคมิติเพลิง อย่าบอกนะว่าพ่อของเธอเป็นโรคนี้ ? ”