…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ไม่มีอะไรในขอบเขตจิตสัมผัสที่สามารถหลุดรอดไปจากสายตาเขาได้ไม่ว่าจะเป็นเศษอาหารที่อยู่ในรูหรือแม้กระทั่งหมดที่อยู่บนพื้นเขาก็สามารถรับรู้ถึงมันได้แต่เขากลับไม่พบหนุ่มผมขาวและผู้หญิงคนนั้น

ถังซิ่วไม่เชื่อว่าคนเหล่านั้นจะเร็วขนาดนั้นเพราะทั้งโรงแรมเองก็ได้ถูกตำรวจตรึงพื้นที่เอาไว้หมดแล้วแม้ว่าพวกเขาจะบินดีก็ยังไม่สามารถหายตัวไปได้เร็วขนาดนี้

แต่ พวกเขาไปอยู่ไหนกัน ?

ถังซิ่วได้สังเกตอย่างช้าๆทีละคน เขารู้ว่ามันน่าจะต้องมีวิธีที่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ได้อย่างแน่นอนเพราะหากว่าเด็กหนุ่มคนนั้นยังผมสีขาวก็จะเป็นที่เตะตาเป็นอย่างมาก หากว่าเขาต้องการจะหลบหนีไปโดยไม่ให้ใครรู้ก็จะต้องจัดการกับเรื่องผมของเขาก่อน

ใช่จริงๆด้วย

หลังจากที่เขาได้สังเกตอย่างรอบคอบแล้วก็พบผู้ต้องสงสัยสองคนแต่รูปลักษณ์ของพวกเขานั้นเปลี่ยนไปอย่างมากทว่าถังซิ่วเองก็มั่นใจอย่างมากว่าชายและหญิงที่สวมชุดช่างนั้นเป็นชายผมขาวและหญิงคนนั้นอย่างแน่นอน

ถังซิ่วที่กำลังจะหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเฉิงเสวี่ยเหม่ยนั้นก็ชะงักไปครู่หนึ่งเพราะเขารู้ว่าที่นี่มีกล้องวงจรปิดอยู่ทั่วทุกที่และหากว่าเขาได้แจ้งเรื่องนี้กับเธอ ความลับของเขาจะต้องถูกเปิดเผยอย่างแน่นอน

“ช่างมันเถอะ ฉันถือซะว่าทำงาเพื่อสังคมแล้วกัน ”

ถังซิ่วได้ถอนหายใจออกมาก่อนที่จะเดินออกไปนอกห้อง

เฉินเหว่ยที่กำลังอยู่บนเตียงพร้อมกับคลุมโป่งตัวเองไว้ด้วยผ้าห่มนั้นได้จ้องมองไปที่การกระทำของถังซิ่วพร้อมกับถามออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“นายจะออกไปไหนงั้นหรอ ? ”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“ฉันจะออกไปจัดการเรื่องบางอย่าง เธออยู่ในห้องนี่แหละห้ามออกไปไหนนะไม่เช่นนั้นเธออาจจะถูกจับเป็นตัวประกันโดยพ่อค้ายาเหล่านั้น”

“พ่อค้ายา ? ”

สมองของเธอปั่นป่วนเป็นอย่างมากและคิดไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้พร้อมกับถามออกมาว่า

“นายมีส่วนกับเรื่องนี้ด้วยงั้นหรอ ? แล้วพ่อค้ายาพวกนี้เกี่ยวกับพวกที่เราเจอที่บาร์ด้วยไหม ? ”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“ใช่แล้ว ตำรวจได้ข้อมูลมาว่าที่นี่เป็นที่กบดานของพ่อค้ายาจากคนที่พวกเขาจับได้จากบาร์ เธอจำไว้เลยนะว่าห้ามออกไปโดยเด็ดขาดเพราะพวกมันฆ่าได้โดยไม่กระพริบตาด้วยซ้ำ นอกจากจะมีปืนพกแล้วพวกเขาก็ยังมีปืนกลเบาด้วย”

ท่าทางของเฉินเหว่ยได้กลายเป็นซีดเผือดโดยทันที เธอรีบวิ่งออกมาจากเตียงพร้อมกอดแขนถังซิ่วไว้แล้วพูดว่า

“นายห้ามออกไปโดยเด็ดขาด !”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“ฉันมีเรื่องที่ต้องจัดการ”

เฉินเหว่ยเองก็ได้ตะโกนออกมาว่า

“ไม่ว่านายจะมีเรื่องสำคัญอะไรก็ห้ามออกไปจากห้องนี้โดยเด็ดขาด นายเป็นแค่เด็กมัธยมที่กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยเท่านั้น อย่าได้ไปโชว์พลังต่อหน้าตำรวจสาวสวยคนนั้น ฮั่นชิงหวูได้มอบหมายให้นายมาปกป้องความปลอดภัยของฉันนะ ”

ถังซิ่วได้พูดออกมาอย่างราบเรียบว่า

“ตราบใดที่เธอไม่ออกไปจากห้องนี้เธอก็จะปลอดภัยอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นคือฉันเองก็รู้สถานการณ์ภายนอกเป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นอย่าได้มาขวางฉัน”

“ฉันจะขวางนาย !”

เฉินเหว่ยเองก็ได้ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ

ถังซิ่วถอนหายใจก่อนที่จะทำให้เธอหมดสติด้วยความเร็วปานสายฟ้า หลังจากนั้นก็โยนเธอขึ้นไปบนเตียงแล้วออกจากห้องทันที

ที่ทางเดินชั้นสอง

พนักงานที่สวมหมวกพร้อมชุดช่างกับกำลังเดินทอดน่องอยู่ที่บริเวณชั้นสอง ข้างๆเขาก็มีหญิงที่มีเครื่องสำอางเต็มหน้าของเธอ ทุกๆครั้งที่พวกเขาพบว่าตำรวจกำลังวิ่งมาก็จะทำทีเป็นคนความสะอาดห้องเหล่านั้น

“ฉันรู้สึกเหมือนเรากำลังถูกจ้องมอง”

ชายคนนั้นได้หยุดการก้าวเดินพร้อมกับปรากฏประกายแห่งความเย็นชาขึ้นในดวงตาของเขา แม้ว่าเขาจะเป็นคนต่างประเทศแต่ก็สามารถพูดภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่วจนแถบไม่แตกต่างจากคนในพื้นที่เลย

หญิงคนนั้นก็ได้พูดขึ้นว่า

“มันเป็นเรื่องปกติเพราะที่ทางเดินนี่เต็มไปด้วยกล้องวงจรปิดที่ตำรวจกำลังเฝ้าดูอยู่ตลอดเวลา รอให้ฉันขึ้นไปทำลายกล้องที่ชั้นสิบก่อนแล้วคุณก็อาศัยจังหวะนั้นหลบหนีออกไป ”

ชายคนนั้นก็ได้ตะโกนกลับไปว่า

“หุบปาก ! หากว่าเราทำลายกล้องพวกนั้นก็จะเหมือนการเปิดเผยที่อยู่ของพวกเรา เธออยู่กับฉันและตราบใดที่เราสามารถไปถึงชั้นใต้ดินได้เราก็จะรอดแล้ว”

หญิงคนนั้นได้ส่ายศีรษะก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“ตำรวจพวกนั้นไม่ได้โง่ พวกเขาได้ปิดทางเข้าออกของที่นี่หมดแล้วแม้ว่าเราจะฝ่าออกไปก็คงจะยาก ชีวิตของคุณนั้นมีค่ากว่าฉันมากดังนั้นคุณจะต้องรอดออกไปให้ได้และฉันเชื่อว่าตราบใดที่คุณสามารถรอดออกจากโรงแรมนี้ได้ตำรวจก็จะไม่มีทางหาคุณพบแน่นอน ! ”

ชายคนนั้นได้มองไปที่หญิงวัยกลางคนพร้อมกับพูดออกมาว่า

“หากว่าเธอตาย ฉันจะทำทุกวิถีทางเพื่อนำกระดูกของเธอกลับไปจัดงานศพให้ได้และหากว่าเธอรอดฉันให้สัญญาเลยว่าเธอจะมีชีวิตที่เต็มไปด้วยเกียรติและความมั่งคั่ง ”

“ฉันจะจำให้ขึ้นใจ!”

หญิงคนนั้นก็ได้แยกทางกับชายหนุ่มทันที กึ๋นของเธอนั้นถือว่าใหญ่มากเพราะหลักจากที่เธอขึ้นลิฟท์มาแล้วก็ไม่ลังเลที่จะพุ่งเข้าใส่พนักงานสองคนที่ทางเดินพร้อมกับปาดคอพวกเขาด้วยมีดในมือทันที

“โคร๊ม….”

เธอนั้นว่องไวเป็นอย่างมากหลักจากที่เธอฆ่าพนักงานทั้งสองแล้วก็ได้ทำลายกล้องวงจรปิดทันทีก่อนที่จะพังประตูเข้าไปในห้องและฆ่าทุกคนไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง

ผ่านไปเพียงแค่สองนาที

เธอฆ่าคนไปกว่า11คนและทำลายกล้องวงจรปิดทั้งหมด

ที่ห้องควบคุมตรงชั้นสี่ เติ้งเจี้ยนหมินและเฉิงเสวี่ยเหม่ยได้อยู่ที่นี่พร้อมกับกำลังหาร่องรอยของพ่อค้ายาเหล่านั้นแต่อย่างไรก็ตามเมื่อภาพกล้องหลายตัวดับไปนั้นก็ทำให้ท่าทางของสนสังเกตการณ์นั้นเปลี่ยนไปทันที

“ตรวจพบผู้ต้องสงสัย ก่อนที่เธอจะทำลายกล้องวงจรปิดนั้นก็ได้ฆ่าพนักงานไปสองคน เวรเอ้ย ชั้นที่ 24 ”

พนักงานรักษาความปลอดภัยได้ตะโกนออกมา

เติ้งเจี้ยนหมินและเฉิงเสวี่ยเหม่ยได้มาดูที่ภาพเหล่านั้น มันแสดงให้เห็นว่ามีผู้ร้ายอยู่ที่ชั้น24และนอกจากนี้เธอไม่ได้แค่ทำลายกล้องเท่านั้นแต่กลับฆ่าแขกและพนักงานอย่างสบายใจ

เฉิงเสวี่ยเหม่ยได้คว้าวิทยุสื่อสารมาโดยทันทีพร้อมกับตะโกนออกมาอย่างดังว่า

“มันอยู่ที่ชั้น 24 ทุกๆหน่วยรีบไปสกัดที่ชั้น23-24-25โดยทันที จำไว้ว่านอกจากคนร้ายจะทำลายกล้องไปนั้นเธอก็ได้ฆ่าผู้บริสุทธิ์ด้วย เธอสวมเสื้อผ้าของช่างและไม่ได้มีแค่มีดเท่านั้น ”

ความว่องไวของตำรวจเองก็รวดเร็วเป็นอย่างมาก พวกเขาใช้เวลาไม่นานก็สามารถไปสกัดกั้นตามจุดต่างๆ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาถึงนั้น กล้องได้ถูกทำลายไปถึงชั้น40และเธอจะฆ่าคนทุกครั้งก่อนที่จะทำลายกล้อง

จิตสัมผัสของถังซิ่วได้ปกคลุ่มไปทั่วทั้งพื้นที่ เขารู้ถึงการกระทำของผู้หญิงคนนี้ดีว่าจงใจที่จะเปิดทางให้ชายหนุ่มคนนั้นหนีแต่เขาเองก็ทนดูเธอฆ่าคนอยู่เฉยๆไม่ได้เพราะภายใน7-8นาทีมานี้เธอได้ฆ่าไปกว่า20คนแล้ว

เมื่อหญิงคนนั้นได้ทำลายกล้องตัวที่ชั้น40ไปเธอก็ได้เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งปรากฏอยู่ตรงหน้าของเธอ เธอรีบพุ่งไปทางเขาโดยทันที

“ตายซะ …….”

มีดที่คมกริบได้วาดผ่านลำคอของอีกฝ่ายอย่างรุนแรงแต่กลับพลาดอย่างไม่น่าเชื่อ

เกิดอะไรขึ้น

ท่าทางของเธอเปลี่ยนไปทันทีพร้อมกับเหวี่ยงขาแล้วอีกมือหนึ่งก็ได้หยิบปืนขึ้นมาและเล็งไปที่ฝ่ายตรงข้ามพร้อมกับลั่นไกโดยทันที ขาข้างที่เธอเหวี่ยงออกไปนั้นรู้สึกเหมือนว่ามันไปกระแทกกับก้อนหินใหญ่ยักษ์ซึ่งทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก

ฟิ้ว!

ฝ่ามือได้วาดผ่านมาพร้อมกับปืนในมือของเธอได้ไปอยู่ในมือของอีกฝ่ายเรียบร้อยแล้ว

นัยน์ตาของหญิงคนนั้นถึงกับหดเล็กลงก่อนที่จะถอยหลังกลับไปพร้อมตะโกนออกมาว่า

“แกเป็นใคร ? แก……”

แน่นอนอยู่แล้วว่าคู่ต่อสู้ของเธอนั้นคือถังซิ่ว

จิตสังหารได้แผ่พุ่งออกมาจากตัวของถังซิ่วพร้อมกับพูดว่า

“คนที่ฉันต้องการนั้นไม่ใช่เธอแต่เป็นไอ้หนุ่มหัวขาวนั่นต่างหากแต่การที่เธอฆ่าแขกเหล่านี้นั้นฉันเองก็คงจะปล่อยให้เธอมีชีวิตต่อไปไม่ได้”

เมื่อพูดจบร่างกายของถังซิ่วก็หายไปโดยทันทีก่อนที่จะไปปรากฏอยู่ตรงหน้าของเธอพร้อมชกไปที่ลำคอและเตะเข้าที่ท้องของเธอ

ถังซิ่วรู้ดีว่าถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ออกแรงมากแต่ก็ไอ้โง่นี่ต้องตายอย่างแน่นอน ดังนั้นผู้หญิงคนนั้นก็ได้ตายลงตั้งแต่ที่ถังซิ่วรัวหมัดใส่เธอแล้ว

“หือ ?”

ท่าทางของถังซิ่วเปลี่ยนไปทันทีเมื่อพบว่าชายหนุ่มคนนั้นได้ไปถึงที่จอดรถชั้นใต้ดินแล้ว

“เขาต้องการจะขับรถหนีงั้นหรอ?”

ถังซิ่วรู้ดีว่าทางเข้าและทางออกได้ถูกปิดเอาไว้หมดแล้วไม่ว่าเขาจะเก่งแค่ไหนก็ไม่มีทางหนีออกไปได้อย่างแน่นอน แต่ท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง

“เขาไม่ต้องการจะขับรถหนี หรือเขาจะหนีไปทางช่องระบายอากาศ ? เวรเอ้ย ก่อนหน้านี้ได้มีคนมาเคลื่อนย้ายมันไป ที่ทางออกของช่องระบายอากาศก็น่าจะมีพรรคพวกของมันรออยู่แน่นอน ไอ้นี่มันมีลูกเล่นเยอะจริงๆเลยให้ตายเถอะ……”

เป็นงั้นจริงๆด้วย!

มันเป็นอย่างที่ถังซิ่วได้คาดการณ์ไว้ หลังจากที่ชายหนุ่มหัวขาวได้เปิดประตูระบายอากาศและคลานออกไปตามทางนั้นก็พบว่าทางออกมันอยู่ที่บล็อกใกล้ๆกับโรงแรมและเมื่อชายคนนั้นออกมาได้ก็มีรถมารอรับเขาอยู่แล้ว

“ตามไม่ทันแน่ๆ!”

ถังซิ่วได้ส่ายศีรษะของเขาไปมาพร้อมกับยอมแพ้