…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ฮั่นชิงหวูเองก็ได้เถียงขึ้นมาว่า

“ตอนแรกฉันเองก็คิดแบบนั้นแต่เพื่อนของฉันเพิ่งจะกลับมาจากต่างประเทศและไม่ได้กลับมาที่นี่ถึง5ปีแล้ว ฉันกลัวว่าเธอจะได้รับอุบัติเหตุระหว่างอยู่ที่เมืองนี้”

ถังซิ่วได้พูดต่อว่า

“งั้นก็ให้เธอตามคุณไปที่เซี่ยงไฮ้ก็สิ้นเรื่องแล้วนิ !”

ฮั่นชิงหวูได้พูดต่อว่า

“ตอนนี้เธออยู่บนเครื่องแล้วและฉันก็ไม่สามารถติดต่อเธอได้จนกว่าเครื่องของเธอจะลงยิ่งไปกว่านั้นคือการที่ฉันไปที่เซี่ยงไฮ้นั้นเพราะมีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการ เธอไม่เหมาะที่จะตามฉันไปด้วย”

ถังซิ่งเองก็ได้เถียงออกมาว่า

“อย่าบอกนะว่าคุณรู้จักผมแค่คนเดียวในเมืองนี้น่ะ ? ผมเป็นแค่เด็กนักเรียนนะจะว่างไปอยู่กับเธอได้อย่างไร ? ”

ฮั่นขิงหวูได้หัวเราะออกมาแล้วพูดว่า

“อย่าพูดถึงเรื่องที่เธอยุ่งเลย การสอบเข้าก็จบลงแล้วด้วยและก็ไม่มีอะไรเหลือนอกจากเที่ยวเล่น ? ถังซิ่ว ในสองเดือนมานี้ฉันได้อะลุ่มอล่วยเธอไปตั้งกี่ครั้งแล้ว ? ช่วยฉันสักครั้งจะเป็นอะไรไป ? ”

อะลุ่มอล่วย ?

ถังซิ่วมองไปที่ฮั่นชิงหวูด้วยความไม่อยากจะเชื่อพร้อมพูดว่า

“ครูฮั่น อาหารนั้นสามารถกินอะไรก็ได้แต่คุณไม่สามารถพูดอะไรก็ได้นะ คุณอะลุ่มอล่วยให้ผมตอนไหน ? ”

ฮั่นชิงหวูได้ตอบกลับไปว่า

“อย่าบอกนะว่าการที่เธอหนีเรียนไปตั้งหลายครั้งนั้นไม่ใช่เพราะฉันอนุญาต? ไม่ใช่ว่าฉันเองก็เป็นคนให้เธอกลับบ้านได้ก่อนทุกวันงั้นหรอ ?”

ถังซิ่วถามออกมาด้วยความประหลาดใจว่า

“นั่นก็นับด้วยหรอ ? ”

“แน่นอนอยู่แล้ว !”

ฮั่นชิงหวูได้แสดงใบหน้าที่จริงจังออกมา

ถังซิ่วต้องยื้มออกมาอย่างขมขื่นก่อนที่เขาจะตอบไปว่า

“ก็ได้ ก็ได้ โชคร้ายจริงๆเลยโว้ย พูดมาสิว่าเพื่อนของคุณชื่อว่าอะไร ? แล้วผมจะติดต่อหล่อนอย่างไร ? เรามาทำสัญญากันก่อนว่าไม่ว่าผมจะสร้างความบันเทิงให้เธออย่างไรคุณก็ห้ามกลับมาบ่น”

ฮั่นชิงหวูได้ตอบกลับด้วยความประหลาดใจว่า

“ได้เลย ! แน่นอนอยู่แล้วว่าฉันรู้สึกขอบคุณมากๆที่เธอยอมช่วยแล้วฉันจะไปตำหนิเธอเพื่ออะไรกันล่ะ ? เธอไม่จำเป็นต้องติดต่อหล่อนเพราะหล่อนจะติดต่อมาเองเมื่อถึงที่นี่ ฉันต้องไปก่อนแล้ว เครื่องของฉันจะออกตอนบ่าย ”

ถังซิ่วได้โบกมือของเขาพร้อมกับกำลังจะเดินออกไปนอกห้อง

ฮั่นชิงหวูที่นึกได้ว่าลืมอะไรไปนั้นก็รีบหยิบกระเป๋าเงินออกมาพร้อมกับหยิบเงินและยื่นให้แก่ถังซิ่ว

“นี่ เงิน5พันหยวน เธอใช้เงินนี่เพื่อสร้างความบันเทิงให้หล่อนแล้วกัน หากว่าไม่พอก็โทรมาหาฉันนะ ”

ถังซิ่วไม่ได้ปฏิเสธมันพร้อมกับรับเงินมาแล้วยัดเข้าไปในกางเกงของเขาทันที

ช่วงบ่าย

ถังซิ่วได้ทานข้าวที่ร้านอาหารก่อนที่จะไปยังตลาดของโบราณเพราะเขาต้องการจะสร้างแหวมิติอยู่นานแล้วและไปที่นั่นก็เพื่อที่จะลองโชคของตัวเองเผื่อว่าเขาจะสามารถหาวัตถุดิบในการสร้างมันได้จากที่นั่น

อย่างไรก็ตาม!หลังจากที่เขาใช้เวลาตลอดช่วงบ่ายนั้นก็ไม่สามารถหาซื้อวัตถุดิบอะไรได้เลยแต่เขาเองก็ได้พบของโบราณดีๆมากมายทว่าราคาของมันนั้นก็สูงเป็นอย่างมาก เขาเองก็ไม่ใช่นักสะสมจึงไม่ได้สนใจมันมากนัก

หลังจากที่กลับมาถึงวิลล่าของเขาแล้วก็ได้รับสายแปลกๆจากผู้หญิงคนหนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็ได้รับรู้ว่าเธอคือเพื่อนของฮั่นชิงหวู

“เธอหาโรงแรมพักได้เลยแล้วฉันจะตามไปที่นั่น”

ถังซิ่วได้บอกเธอไปแบบนั้นก่อนที่จะวางสาย

สนามบินเมืองสตาร์ซิตี้

สาวรูปร่างสูงได้เดินออกมาจากทางเดินพร้อมกับเป็นที่จับจ้องของผู้โดยสารทุกคน เธอสวมกระโปรงสั้นๆพร้อมกับเสื้อรัดรูปตัวเล็กๆ สร้อยเงินและแว่นกันแดดสีชมพู สิ่งที่สุดยอดที่สุดคือริมฝีปากสีแดงจ้าของเธอ

มือข้างหนึ่งของเธอได้ถือกระเป๋า louis Vuitton รุ่น limited edition พร้อมกับอีกข้างหนึ่งที่กำลังลากกระเป๋าเดินทาง

“ชิงหวูไม่ว่างงั้นหรอถึงได้ให้เด็กนักเรียนพาฉันเที่ยวแบบนี้ เด็กนั่นไม่มีความสุภาพแม้แต่น้อย ทั้งๆที่รู้ว่าฉันจะมาถึงแล้วแต่กลับไม่มาคอยฉันที่สนามบิน”

เฉินเหว่ยได้กระทืบเท้าเล็กน้อยก่อนที่จะเดินไปที่ลานจอดรถแท๊กซี่

โรงแรมไคเซอร์

โรงแรมระดับ5ดาวของที่นี่แม้ว่ามันจะไม่ได้เลิศหรูอะไรมากนักแต่ก็มีพื้นที่กว้างและสูงเป็นอย่างมาก หลังจากเข้าไปแล้วก็พบว่ามันสูงอย่างน้อยก็50-60เมตรเลยทีเดียว

หลังจากที่เฉินเหว่ยได้เปิดห้องชั้นสูงแล้วเธอก็เข้าไปอาบน้ำและสวมเสื้อโคช ขณะนั้นเองที่เสียงออดห้องก็ดังขึ้น

“กว่าจะมาถึง ”

เฉินเหว่ยได้แอบกระซิบออกมา หากว่าเธอไม่ได้หิวอยู่นั้นก็คงจะไม่ยอมเปิดให้อย่างแน่นอน เธอรู้อย่างดีว่าคนที่มาที่นี่ได้นอกจากฮั่นชิงหวูแล้วก็มีเพียงแค่นักเรียนคนนั้น

ประตูได้เปิดขึ้น

เฉินเหว่ยได้มองไปที่ถังซิ่วก่อนที่จะหันหลังกลับเข้าไปในห้องแล้วพูดว่า

“ในที่สุดก็มาได้สักที ฉันหิวจะตายอยู่แล้ว เข้ามา !”

ถังซิ่วได้เห็นฉากตรงหน้านั้นก็ถึงกับงงโดยทันที เขาเองก็ไม่ได้คิดว่าจะเป็นสถานการณ์แบบนี้ เขาส่ายศีรษะเล็กน้อยก่อนที่จะไปนั่งอ่านหนังสือบนโซฟาที่อยู่ภายในห้อง

เฉินเหว่ยไม่ได้สนใจถังซิ่วแม้แต่น้อย แม้ว่าเธอเองจะเพิ่งป่าวประกาศออกมาว่าหิวจนจะตายอยู่แล้วนั้นแต่ตัวเองก็ยังคงยุ่งอยู่กับการแต่งหน้า หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงเธอก็ได้ไปหยิบกระเป๋าของเธอแล้วพูดว่า

“เสร็จแล้ว!”

ถังซิ่วเองก็ได้ถามออกมาว่า

“”ไปไหน ? ”

เฉินเหว่ยพูดออกมาด้วยท่าทางหงุดหงิดว่า

“แน่นอนอยู่แล้วว่าไปทานข้าวไง ! นายไม่เห็นหรือว่านี้มันผ่านมาตั้งกี่ชั่วโมงแล้ว ฉันหิวจะตายอยู่แล้ว ”

ถังซิ่วถึงกับพูดไม่ออก

เขามาถึงตั้งนานแล้วแต่ใครกันล่ะที่ใช้เวลาแต่งหน้าอยู่ถึงหนึ่งชั่วโมง แต่ตอนนี้กลับมาโทษเขางั้นหรอ ?

ช่างมันเถอะ สุภาพบุรุษต้องไม่เถียงกับผู้หญิง

เธอเป็นเพื่อนที่ดีของฮั่นชิงหวูและเขาเองก็ต้องดูแลเธอเพียงแค่สองวันเท่านั้น รอให้ฮั่นชิงหวูกลับมาก่อนเถอะแล้วเขาจะรีบบอกลาเธอทันที เขาจะไม่ต้องเจอเธออีกแล้ว !!

เมิ่ือคิดถึงตรงนี้แล้วเขาก็ได้เดินไปที่มุมเตียงก่อนที่จะยกโทรศัพท์ขึ้นมาและกำลังจะโทรไปยังหมายเลขนึง

เฉินเหว่ยได้รีบพูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“นั่นนายกำลังจะทำอะไรน่ะ ? ”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“เธอไม่ชอบให้มันดึกไม่ใช่หรอ ? ฉันก็จะสั่งอาหารของโรงแรมมาให้เธอไง หลังจากทานเสร็จแล้วก็รีบๆเข้านอนซะ ฉันต้องรีบกลับบ้าน ”

เฉินเหว่ยได้พูดออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อว่า

“ห้ามโทรไปสั่งโดยเด็ดขาด นี่นายไม่รู้หรือไงว่าอาหารของโรงแรมมันรสชาติห่วยแค่ไหน ? นายจะต้องพาฉันออกไปทานอาหารที่ร้านที่อร่อยที่สุดในเมืองนี้ ”

คิ้วของถังซิ่วขมวดเข้าหากันพร้อมพูดออกมาว่า

“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าร้านอาหารที่อร่อยๆของเมืองนี้อยู่ที่ไหน หากว่าเธอไม่ต้องการทานอาหารของโรงแรมงั้นเราก็จะออกไปหาร้านอาหารเล็กๆทานกัน เธอเพิ่งจะลงจากเครื่องก็จะต้องรีบๆนอนแล้วพรุ่งนี้จะได้มีแรงจะเที่ยวเล่น”

เฉินเหว่ยได้ส่ายศีรษะทันทีพร้อมกับพูดว่า

“ไม่ ไม่ ไม่ ฉันยังไม่เหนื่อย ฉันได้นอนมามากแล้ว หน้าที่ของนายคือการเป็นไกด์ให้ฉัน ฉันอยากจะทานอะไรหรือไปที่ไหนนายก็ต้องพาฉันไป ”

“ฉันไม่ใช่พ่อเธอนะ !”

ถังซิ่วแอบกระซิบอยู่ภายในใจก่อนที่จะเดินตามหลังเฉินเหว่ยไป

โรงแรมนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีผู้อยู่อาศัยพลุกพล่าน ฝั่งตะวันออกก็จะเป็นย่านการค้าส่วนฝั่งตระวันตกก็จะเป็นย่านอาหารที่โด่งดัง

เขารู้สึกแปลกๆทันทีหลังจากที่พาเฉินเหว่ยมาที่ย่านอาหารแห่งนี้ เขาเองไม่ค่อยรู้จักที่นี่นักถึงแม้ว่าเขาจะเคยผ่านอยู่บ้างและพบว่าที่นี่เองก็มีร้านอาหารชั้นสูงอยู่มากมาย

“อยากจะทานอะไร เลือกมาเดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง”

ถังซิ่วที่ได้เดินอยู่ข้างๆเฉินเหว่ยนั้นก็ได้พูดออกมาเบาๆหลังจากที่เห็นเธอมองไปรอบๆ

เฉินเหว่ยได้ตอบกลับอย่างไม่พอใจว่า

“ฉันจะไปรู้ได้อย่างไรเล่า ? นายต้องเป็นคนนำฉันไป ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารหรือขนมข้างทางก็ตาม ”

ถังซิ่วได้ส่ายศีรษะของเขาก่อนที่จะพูดว่า

“ฉันไม่รู้เรื่องที่นี่เลย อย่าลืมสิว่าฉันยังเป็นเพียงแค่เด็กนักเรียนเท่านั้น ไม่มีโอกาสได้มาในที่แบบนี้หรอก ”

เฉินเหว่ยได้พูดออกมาด้วยความประหลาดใจว่า

“ไม่ใช่ว่านักเรียน……….โอเคฉันเข้าใจล่ะ ที่นี่ไม่เหมือนที่ต่างประเทศและเด็กนักเรียนเองก็คงจะเป็นพวกหัวแก้วหัวแหวนสินะ ในเมื่อไม่รู้ก็เลือกเอาแถวนี้เลยแล้วกัน”

ถังซิ่วได้ถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นท่าทางเจ้าหญิงของเธอ เขารู้สึกต่อต้านเธอเป็นอย่างมากแต่อย่างไรก็ตามมันเป็นเพียงแค่เวลาสองวันเท่านั้น

ในที่สุดเมื่อเธอได้ชิมขนมหลากหลายชนิดแล้วก็ได้เดินเข้าไปในร้านอาหารจีนที่ชื่อว่าฮูหนาน ถังซิ่วเองก็ได้เดินตามเธอเข้าไปก่อนที่จะสั่งทุกอย่างที่อยากทาน สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือถึงแม้ว่าเธอจะมีรูปร่างที่ผอมเพรียวแต่เธอกลับทานได้อย่างมหาศาล ปริมาณอาหารที่เธอสามารถทานได้นั้นมากกว่าเขาเสียอีก

ผ่านไปไม่นานหลังจากนั้นเธอก็ได้สั่งอาหารมาเพิ่มอีกพร้อมกับเบียร์อีกสองขวด

“ยังกินอีกงั้นหรอ ? เธอไม่กลัวว่าจะอ้วนบ้างหรือไง ? ”

ถังซิ่วได้ถามออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

เฉินเหว่ยมองกลับมาที่ถังซิ่วด้วยแววตาที่ดุร้ายก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“นายเป็นผู้ชายแน่หรอ ? เกิดมาผู้ชายก็ต้องกินให้หมดทุกทิศทุกทาง แม้ว่าก่อนหน้านี้ฉันจะได้ทานขนมไปแล้วแต่มันก็เป็นเพียงแค่ขนมเท่านั้น สำหรับฉันคือ หากว่ายังไม่อิ่มก็จะต้องทานจนกว่าจะอิ่ม”

อัศจรรย์!

หลังจากที่เบียร์ทั้งสองขวดได้ตกถึงท้องเธอนั้น อาหารทั้งหมดที่อยู่บนโต๊ะก็ถูกเธอกวาดเรียบก่อนที่จะตบพุงพร้อมกับพูดออกมาว่า

“อ๊า นี่แหละรสชาติอาหารบ้านเรา ! ก่อนหน้านี้ต้องกินแต่นม ขนมปัง บาร์บีคิว ฉันล่ะอยากจะอ้วกจริงๆ ”

ถังซิ่วได้ตั้งฉายาให้เธอไว้ในใจว่า “ถังข้าว”ก่อนที่จะถามออกมาว่า

“ตอนนี้เธอเองก็มีความสุขกับอาหารและเครื่องดื่มแล้ว ถึงเวลาที่เราจะกลับโรงแรมได้หรือยัง ? ”

เฉินเหว่ยได้ถามออกมาว่า

“กลับไปแล้วยังไงต่อ ? นอนเยอะๆมันเสียช่วงเวลาของความเป็นหนุ่มสาว การที่นายกินอิ่มแล้วนอนนั้นเป็นกิจวัตรของหมู !!! ไปกันเถอะ เราจะไปที่บาร์กัน วันนี้พี่สาวจะพานายไปเลี้ยงที่บาร์แล้วเรามาดูคนเต้นรูดเสากัน”

ถังซิ่วได้ขมวดคิ้วทันทีก่อนที่จะพูดว่า

“ฉันไม่สนใจ”

เฉินเหว่ยได้พูดแกล้งออกมาว่า

“เธอมันเป็นเด็กจริงๆ หรือว่าจะกลัวว่าฉันจะไปฟ้องฮั่นชิงหวูงั้นหรอ ? สบายใจได้ พี่สาวคนนี้รับประกันเลยว่าจะไม่หักหลังนายอย่างแน่นอน ! ไปที่บาร์กันเถอะ !”

ถังซิ่วได้ตอบกลับอย่างจริงจังว่า

“ฉันไม่ชอบไปที่บาร์จริงๆ !!!!!”