…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ในห้องอาหาร , เมื่อฮวงซูได้ยินคำพูดของแอนดี้นั้นก็ทำให้เขาถึงกับแอบกระซิบอยู่ภายในใจว่า ‘มีที่รักที่ดีขนาดนี้ก็น่าจะมีความสุขแน่นอนอยู่แล้ว เขาไม่รู้เลยว่าถังซิ่วนั้นทำได้อย่างไร ไม่ใช่แค่มากด้วยทักษะความสามารถแต่ยังทำให้เหล่าผู้หญิงที่สวยขนาดนี้ถึงกับยอมยกตัวเองให้แก่เขา’

ไม่นานนัก

เมื่อคังเซี่ยนรู้ว่าแอนดี้นั้นอยู่กับถังซิ่วเธอจึงได้รีบมาที่ห้องนี้อย่างรวดเร็ว เธอและหลงเจิ้งหยูนั้นได้เคยเจอกันก่อนแล้วและถึงเธอจะไม่รู้จักคนที่เหลือก็ตาม เธอก็ยังยิ้มทักทายแก่พวกเขาแล้วนั่งลงข้างๆแอนดี้

“บอส ! ฉันทำงานที่บริษัทจนสายตัวแทบขาดแต่คุณกลับมานั่งสบายใจอยู่นี่ มันไม่แฟร์เลยจริงๆ หรือว่าคุณจะไปร่วมงานประมูลเพื่อการกุศลกับฉันไหม ? ”

คังเซี่ยนได้ถามออกมาด้วยรอยยิ้มขณะที่มองไปที่ถังซิ่ว

ถังซิ่วได้ส่ายหัวและกำลังเตรียมที่จะพูดแต่กลับถูกขัดโดยหลงเจิ้งหยูว่า

“ใช่งานการกุศลที่ถูกจัดขึ้นโดยหยานเหว่ยหลานหรือเปล่า ? ฉันเองก็ต้องการที่จะเข้าร่วมอยู่เหมือนกันแต่ติดว่าต้องต้อนรับพวกเขาทั้งสองคนนี้ ในเมื่อนายต้องไปงั้นฉันก็จะไปร่วมสนุกด้วย! เฟย์ฉาน ฮวงซู พวกนายเองก็ต้องมาด้วย แม้ว่าสตาร์ซิตี้จะไม่สามารถเทียบกับบลูซิตีได้แต่มันต้องมีอะไรที่พอจะน่าสนใจอย่างแน่นอน”

เฟย์ฉานและฮวงซูได้พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

ถังซิ่วนั้นได้มองไปที่คนอื่นๆก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า

“ในเมื่อเป็นอย่างนั้นฉันเองก็คงต้องเข้าร่วมสินะ จริงๆแล้วฉันเองยังไม่รู้ถึงจุดประสงค์ของงานครั้งนี้เลยด้วยซ้ำ”

เฟย์ฉานได้ยืนขึ้นพร้อมพูดออกมาว่า

“จริงๆแล้วมันมีจุดประสงค์อยู่ทั้งหมดสองข้อด้วยกัน ข้อแรกคือการบริจาคเงินและข้อที่สองคือผู้ที่มีสิทธิในการเข้าร่วมงานนั้นมักจะเป็นคนมีชื่อเสียงหรือเหล่าลูกหลานคนที่มีอำนาจเพื่อพบปะกัน ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นความรู้สึกสนใจของถังซิ่วก็ได้สลายหายไปอย่างสิ้นเชิง อย่างไรก็ตามเพราะเขาได้ตอบตกลงไปแล้วจึงไม่ใช่เรื่องดีที่จะผิดสัญญา

เฟย์ฉานได้พูดด้วยรอยยิ้มว่า

“พวกนายกินกันไปก่อนแล้วกัน ฉันจะต้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเพราะหากว่าแต่งตัวอย่างงี้ละก็ ฉันจะต้องถูกเตะออกมาอย่างแน่นอน”

หลังจากผ่านไปหลายนาที

เมื่อคนทั้งหมดได้รับประทานอาหารกันหมดแล้วก็ได้ขึ้นลิฟท์ไปที่ห้องจัดงานที่อยู่ที่ชั้น18 คังเซี่ยนนั้นมีบัตรเชิญเข้างานอยู่แล้วแต่หลงเจิ้งหยูเองก็เป็นถึงนายน้อยของหลงกรุ๊ปและนั่นทำให้ไม่มีใครกล้าขวางทางของเขาและเดินเข้าไปในงานกันทุกคน

แสงไฟได้สาดส่องไปทั่วทุกพื้นที่ ในห้องโถงนี้นั้นเต็มไปด้วยผู้คนมากมายกว่า100คน พวกเขาทั้งหมดนั้นแต่งตัวดูดีมีฐานะและแสดงถึงมารยาทของผู้ดีเป็นอย่างมาก มันจะเป็นเรื่องที่ยากมากหากจะเลียนแบบพวกเขา

การมาถึงของพวกเขานั้นได้สร้างความสนใจให้กับผู้คน

ถึงขั้นที่ว่ามีเหล่าผู้คนที่กำลังถือแก้วไวน์แดงของตัวเองได้เดินเข้ามาทักทายกันอย่างไม่หยุดหย่อย แม้ว่าหลงเจิ้งหยูนั้นจะเป็นนายน้อยคนโตของหลงกรุ๊ปและได้รับการชื่นชมในแวดวงธุรกิจแต่ก็ไม่สามารถเทียบได้กับคังเซี่ยนเลยแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นถังซิ่วที่อยู่ข้างๆเธอนั้นพวกเขาก็รู้สึกสงสัยในสถานะของเขามากแต่เธอเองก็ไม่ได้เปิดเผยถึงเรื่องนี้

ขณะนี้ถังซิ่ว เฟย์ฉานและฮวงซูได้ไปนั่งที่โซฟาที่อยู่ใกล้ๆ

“เหมือนกับว่าฉันได้เห็นฉากที่อยู่ในทีวีเลยนะ”

หลังจากที่ถังซิ่วนั่งลงก็ได้พูดออกมาด้วยความชื่นชม

เฟย์ฉานและฮวงซูเองได้มองไปที่กันและกันด้วยความรู้สึกที่ไม่รู้ว่าพวกเขาควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีเพราะพวกเขาสามารถรู้ได้ทันทีว่านี่เป็นครั้งแรกที่ถังซิ่วได้เข้างานชั้นสูงแบบนี้

“พี่ชายถัง วันนี้นั้นมีหญิงสาวชื่อดังมากมายมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ถึงแม่กระทั้งผู้จัดงานเองก็ได้เชิญเหล่าดารามากมายมาที่งานนี้ นายลองมองไปทางนั้นสิ เธอเป็นดาราที่ได้แสดงในละครหลายเรื่องแม้ว่าเธอนั้นจะเป็นดาราชั้นสองแต่ก็มีผู้คนมากมายที่โปรดปรานเธอ”

ฮวงซูได้ชี้ไปที่หญิงสาวคนหนึ่งที่มีรูปร่างดึงดูดสาวตาด้วยแววตากระหาย

ถังซิ่วได้มองตามที่เขาชี้ไป เขาไม่รู้จักเธอคนนั้นพร้อมกับส่ายหัวแล้วพูดว่า

“ฉันเองยังต้องไปเรียนอยู่ดังนั้นจึงไม่ค่อยสนใจเรื่องความยั่วยวนของหญิงสาวเท่าไหร่นัก หากว่านายชอบก็ไปจีบเธอได้เลยแต่ฉันขอเตือนไว้ก่อนนะว่าอย่าไปจีบคนที่มีผู้ติดตามไม่อย่างนั้นนายจะโดนเกลียดเอาได้”

ความรู้สึกอึดอัดได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฮวงซูก่อนที่เขาจะฝืนยิ้มแล้วพูดออกมาว่า

“พี่ชายถัง แม้ว่าฉันจะชอบผู้หญิงที่สวยงานนั้นแต่ก็ไม่ใช่ว่าเห็นปุ๊ปก็จะเข้าไปจีบเลยนะ เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้นั่นก็เป็นเพราะว่าผู้ติดตามของนาย………… น่าดึงดูดจนเกินไป ”

ถังซิ่วได้ส่ายศรีษะของเขาพร้อมยิ้มออกมา

หญิงสาวที่งดงามนั้นเขาได้เห็นมามากและพวกเหล่าเทพธิดาพวกนั้นก็เป็นเพียงแค่คนรับใช้ของเขา รูปลักษณ์ของพวกเธอนั่นไม่ได้ด้อยไปกว่าแอนดี้แม้แต่น้อยและอาจจะสวยกว่าด้วยซ้ำ แต่การที่เขาเลือกคู่ครองนั้นไม่ใช่เลือกจากหน้าตาของเธอแต่เป็นระดับพลังและอุปนิสัย

แต่น่าเสียดาย !

เขาตัดสินใจพลาดไปและไม่เคยคิดเลยว่าผู้หญิงคนนั้นจะหักหลังเขาในที่สุด

นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ถังซิ่วไม่คิดจะยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงมากนัก ในอนาคตนั้นเขาก็จะทำเพียงแค่หาผู้หญิงมาคลอดลูกของเขาเพื่อความต้องการของแม่เท่านั้น เขาไม่คิดจะปักใจเชื่อผู้หญิงคนไหนอีกต่อไปแล้ว

หลังจากผ่านไปหลายนาที

ถังซิ่วที่กำลังรู้สึกเบื่อและอยากจะกลับไปนั้นก็ได้เห็นแอนดี้ที่กำลังวิ่งมาพร้อมด้วยมือที่ถือขนมมามากมายก่อนที่เธอจะนั่งข้างๆเขาด้วยแววตาที่เบิกกว้างแล้วพูดออกมาว่า

“บอส คุณทานของพวกนี้สิ นี่เป็นขนมหวานที่ฉันเลือกเองกับมือเลยนะ ”

ถังซิ่วพยักหน้าพร้อมกับรับขนมของเธอมาทานแล้วถามออกมาว่า

“ไม่ใช่ว่าเธอต้องมาเป็นเพื่อนคังเซี่ยนงั้นหรอ ? แล้ววิ่งมาที่นี่ทำไม ? ”

แอนดี้ได้พูดต่อว่า

“ฉันได้เข้างานมาเยอะแล้วและไม่ค่อยสนใจงานเหล่านี้มากนัก ผู้ชายพวกนั้นมันเป็นแค่คนหื่นกามที่เขาแต่จ้องฉันด้วยสวยตาน่ารังเกียจ ฉันรู้สึกรำคาณเป็นอย่างมากเพราะฉันนั้นเป็นที่รักของบอส ฉันจะไปให้พวกเขามองฉันได้อย่างไรกันล่ะ”

“ค๊อก ค๊อก ………”

เฟย์ฉานที่กำลังดื่มไวน์แดงอยู่นั้นได้สำลักออกมาทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของแอนดี้พร้อมกับที่เขาเงยหน้าขึ้นไปมองที่เธอและถังซิ่ว

นัยน์ตาของฮวงซูเองก็ได้เบิกกว้างและคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เขามองไปที่ถังซิ่วด้วยความรู้สึกชื่นชมพร้อมพูดออกมาว่า

“พี่ชายถัง นายนั้นเป็นพ่อพระที่จุติมาเกิดใหม่อย่างแท้จริง โลลิชั้นดีขนาดนี้ หากว่าเธอยอมให้กับฉันละก็ ต่อให้ฉันมีอายุน้อยลงสามปีฉันก็ยอม ”

ถังซิ่วยิ้มออกมาเบาๆพร้อมพูดว่า

“แอนดี้ก็แค่พูดล้อเล่นเท่านั้น อย่าไปคิดจริงจังมาก”

ฮวงซูเองก็ได้พูดต่อว่า

“พี่ชายถัง นายนี่มันโชคดีจริงๆ โครตของความโชคดีเลยก็ว่าได้ ! นายรีบพาเธอไปที่เตียงได้แล้วอย่ามาให้เธอยืนปลุกอารมณ์ฉันอยู่ตรงนี้”

ถังซิ่วไม่ได้พูดอะไรต่อพร้อมมองออกไปที่ห่างๆ

เฟย์ฉานเองก็ได้มองไปที่ถังซิ่ว แอนดี้ก่อนที่จะมาหยุดที่ฮวงซูก่อนที่จะถามออกมาด้วยความสับสนว่า

“ฉันสับสนเป็นอย่างมาก นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? ”

ฮวงซูฝินยิ้มออกมาพร้อมพูดว่า

“จะเรื่องอะไรอีกล่ะ ? สาวสวยอย่างแอนดี้ถึงกับอ้อนวอนเพื่อเป็นที่รักของเขาแต่ถังซิ่วกลับปฏิเสธเธอ ของดีขนาดนี้คงมีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่กล้าผลักไสไล่ส่ง ”

เฟย์ฉานมองไปที่ถังซิ่วด้วยความไม่อยากจะเชื่อก่อนที่จะชื่นชมเขาออกมาว่า

“การที่นายนั้นยังสามารถควบคุมตัวเองได้นั้นถือว่านายเป็นยอดชายอย่างแท้จริง แม้ว่าฉันจะไม่สามารถไปถึงระดับของนายได้แต่ฉันบูชานายจริงๆ ! ไอดอลขอฉันคาราวะนายสักครั้งเถอะ ”

ถังซิ่วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เขาค้นพบว่าการที่ได้อยู่กับเฟย์ฉานและฮวงซูนั้นก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจทีเดียว การที่สามารถอยู่กับพวกเขานั้นทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข

“สาวน้อย ดื่มกับฉันหน่อยได้ไหม ?”

เสียงเชื้อเชิญได้ดังออกมาจากหมู่คน เขาเป็นชายที่สวมชุดสีขาวพร้อมทรงผมที่ดูดีพร้อมกับแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในตัวเอง เขาเดินมาที่แอนดี้พร้อมกับพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม

แอนดี้ได้เหลือบตามองไปที่เขาก่อนที่จะพูดออกมาอย่างสงบว่า

“ฉันไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ขอบคุณ”

ถังซิ่วมองไปที่เธอแบบแปลกๆเพราะในมือของเธอนั้นกำลังถือแก้วไวน์และเห็นว่ามันมีไวน์แดงอยู่ในนั้นก่อนที่ปากของเขาจะกระตุกหลายครั้ง

พูดเรื่องตลกอะไรกัน ?

นั่นมัน !

เป็นวิธีปฏิเสธที่ป่าเถื่อนและพิเศษเป็นอย่างมาก !

ชายหนุ่มคนนั้นไม่คิดเลยว่าแอนดี้จะกล้าปฏิเสธเขาด้วยข้ออ้างแบบนี้ก่อนที่ใบหน้าของเขาจะเปลี่ยนเป็นโกรธด้วยความอับอายพร้อมพูดออกมาว่า

“หากว่าฉันเดาไม่ผิดเธอคงจะเป็นคนรับใช้ของคังเซี่ยน ? ฉันเห็นแก่หน้าของคังเซี่ยนหรอกนะถึงได้มาแสดงมิตรภาพกับเธอแต่คนรับใช้อย่างเธอถึงกับกล้าเหิมเกริมได้ขนาดนี้ เธอไปเอาความมั่นใจพวกนี้มาจากไหนกัน ? เธอเชื่อไหมว่าคำพูดไม่กี่คำจากฉันก็สามารถทำให้คังเซี่ยนไล่เธออกได้ ? ”

แอนดี้ได้มองไปที่เขาเหมือนกำลังมองไอโง่ตัวหนึ่งพร้อมคล้องแขนถังซิ่วแล้วพูดออกมาว่า

“ฉันไม่เชื่อหรอก หรือนายจะลองไหม ? ”

ชายหนุ่มคนนั้นโกรธจัดเป็นอย่างมากก่อนที่จะเรียกพนักงานให้ไปเรียกคังเซี่ยนมาที่นี่ ผ่านไปไม่นานคังเซี่ยนก็ได้มาถึงที่นี่ด้วยความรู้สึกประหลาดใจ

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นหรอ ? ”

ชายหนุ่มคนนั้นได้พูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“หัวหน้าคัง คุณจำผมได้ไหม ? ผมคือรองหัวหน้าของบริษัทความงามเมสิย่า เกี่ยวกับเรื่องสิ้นค้าของคุณและเราเองก็ยังได้เคยทานข้าวด้วยกันไง”

คังเซี่ยนได้พยักหน้าพร้อมพูดว่า

“ฉันจำได้แล้ว คุณคือหัวหน้าหวู”

ดวงตาของหวูฉานขวิงได้เป็นประกายทันทีเพราะการที่คังเซี่ยนสามารถจำเขาได้นั้นถือว่าเป็นเกียรติที่ใหญ่หลวงมากพร้อมกับมองไปที่แอนดี้แล้วพูดออกมาว่า

“หัวหน้าคัง ผมมีคำขอร้องและไม่ทราบว่าคุณจะช่วยผมได้หรือไม่ ? ”

คิ้วของเธอขมวดขึ้นทันทีพร้อมพูดออกมาว่า

“เรื่องอะไรอย่างงั้นหรอ ? ”

หวูฉานขวิงได้ชี้ไปที่แอนดี้ทันทีพร้อมพูดออกมาด้วยความสุขว่า

“คุณไล่เธออกได้ไหม? พนักงานคนนี้ดูเหมือนจะชอบสร้างปัญหา ผมคิดว่าการเก็บเธอไว้นั้นเหมือนเป็นหายนะชัดๆ หากว่าคุณยังเก็บเธอไว้นั้น ผมคิดว่าการร่วมมือของบริษัทเราคงจะไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่นัก”

คังเซี่ยนได้ตอบกลับไปด้วยท่าทีที่เย็นชาว่า

“คุณกำลังขู่ฉันงั้นหรอ ? ”

หวูฉานขวิงพูดอย่างรวดเร็วว่า

“มันไม่ใช่อย่างงั้น หัวหน้าคังคุณกำลังเข้าใจผิด ผมแค่ขอความช่วยเหลือจากคุณเท่านั้น”

คังเซี่ยนได้พูดต่อว่า

“คำขอของคุณนั้นใหญ่เกินไปและฉันจะไม่ทำมัน จริงๆแล้วต่อให้ฉันไล่เธอออกไปก็ไม่มีผลอยู่ดีเพราะเธอเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทเราและที่มากไปกว่านั้นคือฉันเองก็จะมาบอกคุณว่าบริษัทของเรานั้นจะไม่ร่วมสัญญากับบริษัทของคุณอีกต่อไป หลังจากที่คุณกลับไปแล้วก็ช่วยแจ้งให้พี่สาวของคุณทราบด้วย”