“แม่, ผมกลับมาแล้ว ! ”
เมื่อเห็นร้านอาหารอยู่ห่างๆ, ถังซิ่วเรียกออกไปด้วยน้าเสียงที่อ่อนโยน
แต่แล้ว,รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็กระตุกทันที
เพราะว่า,หลังจากที่เขาตะโกนเรียกมันไม่เหมือนปกติที่แม่ของเขาควรจะเป็น,จริงๆแล้วแม่ควรจะรีบวิ่งออกมาทักทายเขาทว่าทันทีที่เพื่อนบ้านได้ยินเสียงเรียกของเขาก็กลับถอนหายใจด้วยความสงสาร
“อย่าบอกนะว่าเกิดเรื่องขึ้นในร้าน ?”
หลังจากที่เห็นการตอบสนองของเพื่อนบ้านของเขา, หัวใจของเขาก็เต้นรัว “ตึ้บๆทำให้เขารีบวิ่งเข้าไปในร้านอาหารทันที
เมื่อถังซิ่วเข้าไปในร้านอาหาร,เขาเห็นแต่ร้านอาหารที่กระจุยกระจาย ข้าว และ ชามละเลงอยู่เต็มพื้นห้องโถง โต๊ะและ เก้าอี้ที่ถูกทำลายรวมถึงร้านอาหารที่เละไม่มีชิ้นดี
ในทิศทางของห้องครัวก็จะได้ยินเสียง “ตึ๊งๆ” ของค้อนปอนด์เป็นระยะๆและเสียงอ้อนวอนและร้องไห้
เมื่อได้ยินเสียงที่ส่งของมาจากห้องครัวถัง ซิ่วก็จุดประกายความโกรธขึ้นมาในดวงตาทันทีและรีบตรงเข้าไปในนั้น
“พี่ใหญ่เฮ่ย, ได้โปรดอย่าทุบอีกเลย ของในห้องครัวนั้นล้วนเป็นของครอบครัวเรา ถ้าพี่ทุบทำลายแบบนี้เราก็ไม่มีทางทำมาหากินแล้ว”
เมื่อถังซิ่วเข้ามาถึงห้องครัวก็ได้เห็นภาพของแม่ที่กำลังดึงแขนของชายวัยกลางคน, ด้วยใบหน้าที่มีแต่น้ำตา
“เหอะ, ตอนนี้รู้แล้วสินะที่จะอ้อนวอนขอโทษ, ก่อนหน้านี้ฉันบอกไปแล้วว่าก่อนกลางเดือนนี้สิบวันให้จ่ายค่าคุ้มครองมาห้าพัน ,นี้ก็สิ้นเดือนแล้ว เงินก็ไม่เห็นมีซักแดงเดียว,คิดว่าคำแนะนำของเราเป็นคำพูดลอยๆอย่างงั้นเรอะ ? อย่างนั้นมันก็ต้องทุบร้านนี้ซ ทุบมันให้เละ ถ้าไม่ให้บทเรียนที่ตลอดชีวิตนี้เธอจะไม่มีวันลืมเธอก็คงจะไม่สนใจคำเตือนของเราสินะ ? ”
ชายวัยกลางคนพูดทั้งได้สะบัดมือของเขาทำให้ซูหลิงหยุนล้มลงไปกองอยู่ตรงพื้น
ได้ยินแค่เสียง “เพล้ง” ดังลั่น, ในเวลาเดียวกันหม้อต้มน้ำร้อนก็ได้หล่นละเลงอยู่เต็มพื้นไหลไปทั่วทุกพื้นที่
“แม่, ระวังน้ำร้อนลวก ! ”
เมื่อเห็นน้ำร้อนกำลังไหลมาใกล้ร่างแม่ของเขา, ถังซิ่วได้กระโจนเข้ามาในห้องครัวเพื่อช่วยพยุงแม่ของเขา
“ซิ่วน้อยลูกกลับมาแล้ว…… ทานอะไรมาหรือยัง ? แม่จะทำของอร่อยๆให้กินเดี๋ยวนี้เลย ”
ซูหลิงหยุนพูดด้วยอาการตื่นกลัวหลังจากที่ถังซิ่วได้พยุงตัวเธอขึ้นมา
หลังจากที่ซูหลิงหยุนพบจบเธอพึ่งนึกได้ถึงสถานการณ์ปัจจุบันของร้านอาหารตัวเองถึงได้แต่ยืนต้วมเตี้ยมอยู่กับที่
เครื่องใช้ในครัวได้ถูกทำลายโดยพวกของเฮ่ยทั้งหมดโดยสมบรูณ์ทำให้แม้จะเป็นข้าวผัดธรรมดาๆยังไมส่ามารถจะทำให้ถังซิ่วได้.
เมื่อมองไปยังใบหน้าของแม่ที่แสดงสีหน้าที่สิ้นหวังออกมาก็ทำให้เขารู้สึกเศร้าใจไปทันที
ในหัวใจของถังซิ่วแล้วซูหลิงหยุนนั้นไม่ได้แค่บรรลุหน้าที่ความเป็นแม่เพียงอย่างเดียวแต่ยังทำหน้าที่เป็นเหมือนพ่อให้กับเขาด้วย
“แม่, ผมยังไม่หิวเรารีบกลับบ้านไปทานข้าวเย็นด้วยกันเถอะ ”
ถังซิ่วที่นัยน์ตาแดงกล่ำพูดพลางกอดร่างที่บอบบางของมารดาตัวเอง
“กลับบ้านเรอะ ? ยังจะคิดเรื่องกลับได้อีกเรอะ ? ,วันนี้ถ้าไมได้ห้าพันดอลลาร์พวกแกแม่ลูกอย่าหวังจะได้ไปไหนทั้งนั้น!!! ”
คนรูปร่างกำยำวัยกลางคนพูดขัดการสนทนาของแม่ลูก
ซูหลิงหยุนตัวสั่นเทาเมื่อได้ยินคำพูดของชายรูปร่างกำยำ เธอรีบเอาถังซิ่วเข้ามากอดในอ้อมอกพร้อมพูดว่า
“ พี่ใหญ่เฮ่ย , เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับลูกของฉัน ,ขอร้องได้โปรดปล่อยลูกฉันไปเถอะ ,ขอเวลาแค่หนึ่งวัน พรุ่งนี้เวลานี้ฉันจะยื่น เงินห้าพันดอลลาร์ให้พี่เองกับมือ! ”
“ถ้าเอาเงินห้าพันดอลลาร์มาให้ฉันไม่ได้วันนี้, พรุ่งนี้จะไม่ใช่ราคาเท่านี้! ”
เฮ่ยกล่าวด้วยสีหน้าดูถูกเหยียดหยามต่อซูหลิงหยุน
“พี่ใหญ่เฮ่ย, ผมจำได้ว่าก่อนหน้านี้ร้านของเราต้องจ่ายค่าคุ้มครองเพียงแคส่องพันต่อเดือนเองไม่ใช่หรอ? ทำไมอยู่ดีๆเดือน นี้ถึงขึ้นเป็นห้าพันหละ ?”
ถังซิ่วพูดพลางจูงแม่มาหลบอยู่ด้านหลัง
“นี่เป็นเรื่องของฉันกับแม่ของแก ,ใช่เรื่องที่แกจะมาสอนฉัน ? ”
เมื่อเห็นดังนั้นคนข้างหลังเฮ่ยซานอย่างอันธพาลผมสีเขียวจึงตะโกนออกมาพร้อมกระโดดเข้ามาจะตบถังซิ่ว
ก่อนที่มือจะมาถึงถังซิ่วก็ได้หยิบแก้วแทงไปที่ข้อมือของชายคนนั้นส่งผลให้เลือดสาดกระจายโดยทันที
ตั้งแต่แรกเริ่ม, ชายคนนั้นไม่คิดว่าจะได้รับประสบการณ์ขมขื่นแบบนี้ ข้อมือของเขาใช้การไม่ได้อีกแล้วและได้แต่กรีดร้องด้วยความ เจ็บปวด
แม้ว่านักเรียนในห้องเรียนสิบจะยั่วยุเขา, ถังซิ่วก็ไม่ปริปากแม้แต่น้อย, ไม่ใช่เพราะว่าถังซิ่วนั้นควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดีแต่เป็นเพราะว่าในสายตาของเขานั้น พวกนักเรียนในห้องสิบล้วนเป็นแค่เด็กเท่านั้น , พวกเขาไม่ได้ล่วงเกินขีดจำกัดของถังซิ่วเท่านั้นเอง
แต่ว่าคนพวกนี้นั้นล้วนต่างออกไป, พวกมันไม่ได้แค่ทำลายร้านอาหารที่แม่เขาดูแลเอาใจใส่อย่างดีแต่ยังทำให้แม่ของเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่หมดทางสู้โดยไม่คำนึงถึงจิตใจและได้ก่อให้เกิดความเสียหายทางร่างกายกับแม่ของเขานี่ทำให้ความโกรธของเขาประทุออกมาหรือจะให้พูดอีกอย่างก็คือแม่ของเขานั้นคือขีดจำกัดของเขา ใครก็ตามที่ทำแม่ของเขามันจะต้องถูกจัดการ
ในหมู่อันธพาลพวกนี้ ตั้งแต่ที่ได้ทำกับร้านอาหารของแม่เขาพวกมันก็ถูกขึ้นบัญชีดำไว้หมดแล้ว ยังไมรวมที่พวกมันผลักแม่ของเขา ลงไปที่พื้นอีก
ก่อนที่อันธพาลคนอื่นๆจะตอบสนองได้ทัน,ถังซิ่วก็ได้เตะไปที่เข่าของอันธพาลคนก่อนหน้านี้ทำให้เขาต้องคุกเข่าลงพร้อมกับเหยียบลงไปที่ใบหน้าของอีกฝ่ายทำให้มันไม่แม้แต่จะเปล่งเสียงได้อีกเลย
“ ไอ้เด็กเวร, แกกล้าที่จะกำแหงต่อหน้าพวกเรางั้นรึ นี่แกยังอยากมีชีวิตอยู่อีกไหม ? ”
“ไอ้ระยำ,ปล่อยพี่น้องของข้าเดี๋ยวนี้, ไม่อย่างนั้นพ่อจะหักขาเอ็ง !!!”
………
หลังจากนึกได้ว่าพี่น้องของมันถูกถังซิ่วกระทืบถึงได้ทำใมห้พวกอันธพาลคนอื่นๆก็ไม่สามารถระงับความโกรธของตัวเองได้, พวกมัน เกือบจะพุ่งเข้าไปจัดการกับถังซิ่วแล้วและมีแค่เฮ่ยซานเท่านั้นที่ยังยืนนิ่งขณะที่ดวงตาปรากฏความสงสัยในตัวถังซิ่ว ตัวเขานั้นได้เข้ามาอยู่ในพื้นที่เก่าเฮ้อจี้ (Hejie Old area)กว่ายี่สิบปี ,รู้ตั้งแต่ ก ถึง ฮ ในพื้นที่แถบนี้ทั้งหมด, ต่อให้มีร้านมาเปิดใหม่เขาก็สามารถรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับร้านนั้นได้ทั้งหมด
จากสิ่งที่เฮ่ยซานรู้มาคือ, ร้านอาหารของซูหลิงหยุนนั้นมาจากพื้นที่ชนบท ,ทำงานมามากมายก่อนจะเปิดร้านอาหาร ,ยกก้อนอิฐ แบกถุงปูนซีเมนต์, เก็บขยะ,ทำงานในร้านขายของ ,ส่งอาหารหรืออะไรก็ตามที่สามารถทำเงินได้ ต่อให้จะเป็นงานที่สกปรกยังไง ผู้หญิงคนนี้ก็จะทำเพื่อให้ได้เงินมาเลี้ยงถังซิ่ว
ก่อนหน้านี้หนึ่งเดือน, มีผู้ชายใส่แว่นกันแดดคนหนึ่งได้มาหาเขา และจ่ายเงินให้1แสนดอลลาร์เพื่อให้จัดการกับร้านค้าของแม่ลูกซู หลิงหยุนและถังซิ่ว
แม้ว่าเฮ่ยซานจะรู้สึกสงสารกับประสบการณ์ที่ยากลำบากของซูหลิงหยุนแต่ทั้งนั้นทั้งนี้เขาไม่ได้เป็นญาติหรือเกี่ยวข้องอะไรกับเธอและนั่นทำให้เขาเลือกที่จะเผชิญหน้าและจัดการกับสองแม่ลูกคู่นี้ด้วยเงิน 1 แสน ดอลลาร์.
“ลูกชายของซูหลิงหยุนไม่ได้เป็นเด็กเพี้ยนหรอกเรอะ ? จากที่ได้สังเกตการณ์มาสมองมันต้องมีปัญหาไม่ใช่หรอ ? ทำไมวันนี้มันถึงได้ปากดีเช่นนี้ ? นอกจากนั้นยังจัดการพวกเราอย่างโหดเหี้ยม ,มันไม่มีท่าทีว่าจะเป็นเด็กเพี้ยนเลยไม่ใช่หรือไง ? !!!”
จริงๆแล้วคำขอของชายใสแว่นกันแดดคนนั้นที่ให้จัดการกับซูหลิงหยุนนั้นเป็นแค่ตัวล่อเพื่อให้ไปจัดการกับถังซิ่ว
“เด็กเพี้ยน ยังไงมันก็ยังเพี้ยน ,พวกเรามีกันตั้ง 7 คน , เด็กปัญญาอ่อนนี่กล้าหาเรื่องเราเองเลยนี่มันไม่ได้ดูสถานการณ์ปัจจุบันเลยใช่ไหม ?”
ทันใดนั้น , เฮ่ยซานก็ได้ทอดสายตาไปทางซูหลิงหยุน
ก่อนหน้านี้เฮ่ยซานไม่เคยได้ตั้งใจมองซูหลิงหยุนเลย,เขาคิดเพียงแค่ว่าเธอเป็นคนที่น่าสงสาร , นิสัยก็น่าให้ความเคารพ ,วันนี้เขาได้ลองมองเธอดูดีๆก็พบว่าเธอมีหน้าตาที่ดีเอาเรื่องหากเทียบกับผู้หญิงที่เขาได้เคยเจอมาทำให้เขาเกิดความคิดชั่วๆขึ้นมาทันที
ถ้าหากซูหลิงหยุนนั้นเลือกที่จะเป็นผู้หญิงของเขา เขาก็คงไม่เริ่มทำแบบนี้กับเธอ, น่าเสียดายที่เธอเป็นคนดันทุรัง
ในขณะนี้ที่อันธพาลทั้ง 5 คนได้กระโจนเข้าใส่ ถังซิ่วกลับไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัวแม้แต่น้อยแต่กลับเป็นใบหน้าตื่นเต้นซะงั้น
เห็นแค่เพียงถังซิ่วกำลังจัดการกับชายทั้ง 5 คน, ไมนานเขาก็ฟาดขาไปที่ชายคนหนึ่ง ทำให้กระโจนลงไปในหม้อต้มน้ำร้อนส่งผลให้ชายคนนั้นกรีดร้องด้วยเสียงทรมาน
ก่อนที่ชายอีกคนจะต่อยเข้าที่ใบหน้าของถัง ซิ่วเขาก็ได้ใช้ 2 นิ้วแทงไปที่ข้อมือของชายคนนั้นเพื่อหยุดหมัดของชายคนนั้นกลางอากาศ
หลังจากที่จัดการชายทั้ง 5 คนเสร็จเรียบร้อย, ถัง ซิ่ว ก็ได้เปล่งเสียงออกมาว่า
“ เฮ่ยซาน ,ร้านของเราเกือบทั้งหมดถูกทำลายเพราะพวกแก,ตอนนี้เรามาคงต้องมาหารือเรื่องค่าชดเชยกันหน่อยว่าไหม !!!