…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ถังซิ่วที่แววตาจังคงเต็มไปด้วยความหนาวและความเกลียดชังในหัวใจของเขาที่ยังไม่หายไป ดังนั้นเขาจึงกระทืบข้อมือของอันธพาลที่ละคนให้แหลกระเอียดภายใต้การจ้องมองของทุกคน

“ไอ้พวกแมลงที่ทำลายสังคมที่ข่มเหงคนไม่มีทางสู้และหลีกหนีคนแข็งแกร่ง ในเมื่อพวกแกไม่มีความเกรงกลัวต่อกฎหมายก็ดี ฉันก็จะตอบโต้ด้วยความรุนแรงและจะทำให้แกไม่สามารถที่จะหยิบจับอาวุธได้อีกตลอดชีวิต ดังนั้นพวกแกก็จงใช้เวลาที่เหลือในชีวิตในการเสียใจสิ่งที่พวกแกได้กระทำแล้วกัน ”

อันธพาลกว่า20คนที่โดนหักกระดูกนั้นกำลังสั่นเทาอย่างรุนแรงพร้อมเสียงโอดครวญที่กำลังดังขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับเสียงกระดูกที่แตกหัก บางคนที่กลัวได้วิงวอนขอร้องถังซิ่วแต่เขาก็ทำเหมือนไม่ได้ยินเสียงเหล่านั้นแม้แต่น้อย

การแสดงออกของความสยดสยองปรากฏขึ้นบนผิวหน้าของชายวัย30 เขาไม่ได้วิ่งหนีไปหลังจากได้รับบาดเจ็บและมองไปที่ถังซิ่วด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นกลัว อย่างไรก็ตามเมื่อได้เห็นการกระทำที่โหดร้ายและไร้ปรานีของถังซิ่วนั้น เขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่ไม่ได้หันหลังและหนีไปเมื่อซักครู่นี้

“แก … อย่าเข้ามาใกล้ฉัน!”

ชายคนนั้นก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็วพร้อมตะโกนออกมาในขณะที่ถังซิ่วกำลังเดินมาทางเขาทีละก้าว

ถังซิ่วเผยให้เห็นถึงรอยยิ้มของปีศาจพร้อมเคลื่อนไหวทันที เขาปรากฏตัวอยู่หน้าชายคนนั้นในพริบตาพร้อมกับเหวี่ยงฝ่ามือไปตบหน้าของชายคนนั้นอย่างรุนแรงที่ตามมาด้วยเสียงแตกหนักของกระดูกที่แก้มของเขา ร่างของชายคนนั้นหมุนหลายตลบก่อนที่จะตกลงมากระแทกกับพื้นดิน ถังซิ่วยังคงไม่หยุดมือและเดินไปที่ชายที่กำลังสลบอยู่พร้อมกับทำลายข้อมือของเขา

‘ถ้าไม่ล่วงเกินฉัน ฉันก็จะไปล่วงเกินพวกมัน ถ้ามันกล้าล่วงเกินฉัน ฉันจะสนองคืนเป็นสิบเท่า’

นี่คือหลักการของถัวซิ่วและขีดจำกัดของเขา ไทหลงได้ล้ำเส้นของเขาเนื่องจากมันได้ไปทำร้ายซูหลิงหยุนซึ่งเป็นแม่ของเขา หากใครกล้าด่าแม่ของเขานั้น ถังซิ่วจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อฆ่ามันแต่ตอนนี้กลับมีใครบางคนที่กล้าลงมือทำร้ายแม่ของเขา นี่เป็นการกระตุ้นความโกรธของถังซิ่วอย่างแท้จริง

ทันใดนั้นท่าทางของถังซิ่วก็เปลี่ยนไป เขาตระหนักดีว่าพนักงานรักษาความปลอดภัยจำนวน5-6คนกำลังวิ่งออกมาจากด้านในของโรงพยาบาลพร้อมที่ช๊อตไฟฟ้า เขาไม่รีรอที่จะกลืนตัวเองเข้าไปกับฝูงชนและหายตัวไปอย่างรวดเร็วทางด้านนอกของเข้าโรงพยาบาล

หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลมีชื่อว่า “เฉินเต่า” และวันนี้เขาโกรธมากเพราะมีอันธพาลหลายคนอยู่ในบริเวณของโรงพยาบาลและแม้กระทั่งทำให้คนได้รับบาดเจ็บ

อย่างไรก็ตามเมื่อเขาได้รับรายงานว่ามีอันธพาลท้องถิ่นกว่า20คนกำลังรุมทำร้ายเด็กหนุ่มอยู่นอกโรงพยาบาลนั้น เขาก็รีบนำพนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลมาที่นี่ทันที

“เกิดอะไรขึ้น?”

เฉินเต่ามองอย่างโง่งมมาที่ฉากที่ตัวเองกำลังเผชิญ เครื่องหมายคำถามได้ปรากฏอยู่กลางหน้าผากของเขา รายงานไม่ได้บอกว่ามีอันธพาลท้องถิ่นกว่า20คนได้รุมทำร้ายเด็กหนุ่มไม่ใช่หรอ?แล้วทำไมพวกอันธพาลเหล่านี้ถึงได้นอนจมกองเลือดอยู่หละ?

ชายชราคนหนึ่งที่มีอายุประมาณ70 ​​ปีได้เดินเข้าไปใกล้ยังเฉินเต่าและคนของเขาอย่างระมัดระวังขณะที่พูดด้วยเสียงต่ำว่า

“พวกคุณทั้งหมดเป็นหน่วยรักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลงั้นหรือ? โชคดีจริงๆที่พวกคุณมาสายมิฉะนั้นคงไม่มีใครที่จะสั่งสอนเหล่าอันธพาลพวกนี้แทนพ่อแม่ของพวกเขา เด็กหนุ่มคนนั้นเป็นเทพเจ้าอย่างแท้จริง ถูกคนรุมทำร้ายกว่า20คนแต่กลับล้มพวกเขาทั้งหมดได้ในพริบตา ตาเฒ่าคนนี้เคยได้ดูหนังเกี่ยวกับกังฟูมากมากมายแต่หนังพวกนั้นยังไม่สามารถเทียบเท่ากับฉากที่เห็นในวันนี้ได้แม้แต่น้อย ”

เฉินเต่าชี้ไปที่นักเลงวัยหนุ่มที่กำลังร่ำไห้อยู่บนพื้นขณะที่ถามด้วยความไม่เชื่อว่า

“คุณหมายถึงว่า … อันธพาลเหล่านี้โดนเด็กหนุ่มคนนั้นจัดการ?”

ชายชราพูดพร้อมพยักหน้าว่า

“แน่นอนอยู่แล้ว!ทุกๆคนที่อยู่ที่นี่ก็ได้เห็นเช่นเดียวกัน! เขาสามารถรับมือกับอันธพาลที่ติดอาวุธพร้อมกันถึง20คนได้และยิ่งไปกว่านั้นเขายังได้พูดว่า ในเมื่อคนเหล่านี้ไม่กลัวตำรวจหรือกฎหมายแล้ว เขาก็จะตอบโต้กลับไปด้วยความรุนแรงเพื่อทำลายเนื้อร้ายในสังคมเช่นกัน ”

เฉินเต่าส่ายหัวแล้วพูดว่า

“คุณปู่ อย่าล้อเล่นกับผมสิ!แม้ว่าคนๆหนึ่งจะสุดยอดแค่ไหนแต่เขาก็ไม่มีทางที่จะรับมือคนพร้อมกันกว่า20คนในเวลาเดียวกันได้หรอกนะ เด็กหนุ่มคนนั้นได้มีคนมาช่วยเหลือหรือเปล่า?”

ป้าวัยกลางคนใกล้เคียงตอบด้วยรอยยิ้ม

“ผู้ช่วย? จะไปมีได้อย่างไร!เด็กหนุ่มคนนั้นเป็นคนจัดการพวกเขาทั้งหมด! คุณนี่ไม่รู้อะไรเลย เขานั้นเป็นเหมือนบลูซลีที่มาเกิดใหม่และเป็นเหมือนเด็กหนุ่มที่ถูกเทพสงครามเข้าสิง เขาเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วพร้อมกับพลังที่แข็งแกร่ง หากว่าพวกคุณซักคนในหน่วยรักษาความปลอดภัยนี้มีพลังของเขาสักครึ่ง…………ไม่สิ สัก1/10แล้วละก็ คนๆนั้นคงสามารถที่จะดูแลความปลอดภัยทั่วทั้งโรงพยาบาลได้อย่างง่ายดาย ”

“…”

เส้นเลือดเริ่มโผล่ขึ้นมาบนใบหน้าของเฉินเต่า

หลังจากนั้นเขาก็ได้รับการยืนยันว่าผู้ที่ทำร้ายเหล่าอันธพาลพวกนี้ให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้นเป็นเพียงเด็กหนุ่มคนนึงเท่านั้นและหลังจากที่ได้ตรวจสอบแล้วและไม่พบกับเด็กคนดังกล่าวแล้ว เฉินเต่าก็เตะไปที่ชายหนุ่มที่นอนอยู่บนพื้นอย่างโหดร้ายแล้วตะโกนออกคำสั่งของเขาว่า

“พาพวกมันเข้าไปในโรงพยาบาล! พวกมันทั้งหมดได้รับบาดเจ็บและโรงพยาบาลของเราไม่สามารถเห็นพวกมันที่บาดเจ็บสาหัสแล้วไม่ทำอะไรเลยไม่ได้! อย่างไรก็ตามก็ให้ถามมันด้วยว่าพวกมันมีเงินจ่ายค่ารักษากันไหม! ถ้าพวกมันไม่มีก็ไม่ต้องไปรักษาเนื้อร้ายของสังคมอย่างพวกมัน! ”

(*เตะเขาแล้ว พาเขาไปโรงพยาบาล ตรรกะอะไรของเอ็งเนี้ย)

“ตกลง!”

หน่วยรักษาความปลอดภัยคนอื่นๆได้ทำหน้าที่แบบไม่ค่อยใส่ใจอันธพาลเหล่านี้ พวกเขาลากขาของพวกมันเข้าไปในโรงพยาบาลอย่างโหดเหี้ยมราวกับว่าสิ่งที่พวกเขากำลังลากอยู่นั้นเป็นสุนัขที่ตายแล้ว

(*55555555 ทำแบบนี้ปล่อยแม่งตายด้านนอกเหอะ)

ภายในห้องผู้อำนวยการโรงพยาบาล…

หลี่ฮงจี้นั้นเป็นคนที่ติดบุหรี่เป็นอย่างมาก เขาล้วงเข้าไปในตู้เพื่อหาซองบุหรี่ที่ยังไม่ได้ถูกแกะและจากนั้นเขาก็หยิบมันขึ้นมาสูบ ในห้วงความคิดของเขาในตอนนี้นั้นกำลังนึกถึงภาพของโรงพยาบาลแห่งนี้ที่กำลังได้รับชื่อเสียงจากการที่มีหมออัจฉริยะอย่างถังซิ่ว เขาจะต้องสร้างแรงสั่นสะเทือนอย่างใหญ่หลวงในวงการแพทย์ที่เมืองแห่งนี้อย่างแน่นอน

“ไม่! มันไม่ใช่แค่นี้ มันไม่ใช่แค่เมืองนี้เท่านั้น มันจะต้องเป็นวงการแพทย์ของทั่วประเทศ ชื่อเสียงของโรงพยาบาลของเราจะต้องโด่งดังขึ้นด้วยใช่ไหม ? ตาเฒ่าคนนี้ก็ได้ทำงานอยู่ที่นี่มานานและในที่สุดก็ได้ทำผลงานอะไรดีๆให้กับโรงพยาบาลบ้างซะที ”

หลีฮงจี้ยิ้มขณะที่กำลังคิดด้วยใบหน้าสดใส มันเหมือนกับว่าเขาได้พบกับฤดูใบไม้ผลิที่สองที่จะมาถึงในชีวิตของเขา

“ก๊อกก๊อก…”

ประตูห้องของเขาถูกเคาะ

หลี่ฮงจี้เงยหน้าขึ้นมองที่ประตูและเห็นหลงเซ้งหยูกำลังยืนอยู่ที่นั่น เขาถามด้วยความประหลาดใจว่า

“เซ้งหยูทำไมหลานถึงมาอยู่ที่นี่?”

หลงเซ็งหยูเข้ามาในห้องทำงาน เขาฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า

“ลุงหลี่ ก่อนที่ลุงจะวางสายไปนั้นลุงยังพูดไม่จบด้วยซ้ำ ต่อมความอยากรู้อยากเห็นของผมได้ถูกสะกิดและมันอดไม่ได้ที่จะไม่รีบมาที่นี้! ลุงถามผมเกี่ยวกับถังซิ่วทางโทรศัพท์และบอกผมน้องชายถังได้ฉีกหน้าศิษย์น้องของลุงบนเกาะจิงเหมิน!ดังนั้นผมก็กลัวว่าลุงจะไปแก้แค้นแทนศิษย์น้องยังไงหละ! ”

หลี่ฮงจี้ที่ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีพร้อมตอบกับไปว่า

“ตาเฒ่าคนนี้เป็นคนใจแคบอย่างงั้นหรอ? นอกจากนี้ลุงยังตระหนักดีเกี่ยวกับเรื่องของที่ว่าความสามารถของศิษย์น้องของลุงไม่เก่งเท่าถังซิ่ว เขาไม่สามารถที่จะรักษาอาการเจ็บป่วยแปลกๆของเด็กน้อยคนนึงได้แต่กลับเห็นว่าถังซิ่วนั้นยังคงเป็นเด็กหนุ่ม เขาจึงได้พูดคำที่ไม่เหมาะสมออกไป หากว่าทำตัวแย่กับใครแล้ว คนเหล่านั้นก็จะตอบกลับด้วยการปฏิบัติที่แย่คืนมา ดังนั้นลุงจะไปทำเรื่องให้มันยากสำหรับถังซิ่วทำไมกันหละ?ไอเด็กคนนี้นี่!เธอดูถูกลุงอย่างงั้นหรอ?! ”

หลงเซ้งหยูรีบตอบกลับพร้อมกับหัวเราะว่า

“อ้านี่มันเป็นแบบนี้นี่เอง ผมคิดน้อยไปเองนั่นแหละ คนที่เป็นถึงลุงหลี่จะไปคิดอย่างงั้นได้อย่างไรเนอะ ผมต้องขอโทษลุงด้วยแล้วเดี๋ยวผมจะรีบกลับบ้านไปขโมยไวน์ Wuliangyeอายุ20 ปีจากคอลเลคชั่นไวน์ของพ่อมาให้ ”

อายุกว่า20ปี ?

ไวน์ชั้นเลิศอย่างWuliangyeกว่า20 ปี?และเพื่อนเก่าของเขายังมีไวน์นี่ที่มีอายุกว่า20ปี?

หลี่ฮงจี้สบถออกมาด้วยความโกรธว่า

“ไอแก่ระยำหลงฮานเหวินเอ้ย ก่อนหน้านี้ไอ้เจ้านั่นได้กล้าหลอกลวงฉันและเอาแต่ไวน์ขยะพวกนั้นมาให้ฉันดื่มงั้นหรอ ? แย่จัง … อ๊า อ๊ะหลานเซ้งหยูสุดที่รักของลุง ลุงต้องขอช่วยให้หลานไปขโมยมาให้ลุงแล้วหละ ตราบใดที่หลานสามารถขโมยไวน์นั่นมาให้ลุงได้ ลุงฉันจะยกเว้นค่าใช้จ่ายทุกอย่างสำหรับถังซิ่วและจะเพิ่มจำนวนของพยาบาลที่จะดูแลแม่ของเขา ”

หลังจากที่พูดจบ เขาก็พูดต่อว่า

“ถ้าหลานสามารถขโมยมาได้ถึง2ขวด ลุงจะใช้การรักษาที่ดีที่สุดของโรงพยาบาลของเรากับแม่ของถังซิ่วและเราจะจ้างถังซิ่วมาเป็นหมอประจำในโรงพยาบาลของเราและจะจัดการเรื่องเอกสารทั้งหมดของเขาและทำให้เขาสามารถจัดการเรื่องผู้ป่วยภายนอกทั้งหมด เป็นไง ?”

“ฮึ……”

หลงเซ้งหยูนั้นกำลังวิเคราะห์ทุกอย่างที่ได้ยินจากคำพูดของหลี่ฮงจี้ก่อนที่ดวงตาของเขาจะเบิกกว้างและถามออกมาด้วยความประหลาดใจว่า

“ถังซิ่วเป็นหมอ? ลุงไม่ได้ล้อผมเล่นใช่ไหม? ”

“หลานคิดว่าลุงคนนี้จะล้อเล่นทำไมกัน? ไม่เพียงแค่เขานั้นมีความรู้ทางการแพทย์เท่านั้นแต่เขานั้นเรียกได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์อย่างแท้จริง! ลุงกับศิษย์น้องของลุงนั้นเป็นศิษย์ของหมอศักดิ์สิทธิ์แต่ก็ยังไม่สามารถรักษาอาการป่วยที่แปลกๆได้แต่เขากลับทำมันได้ หลานคิดว่าเขาสุดยอดไหมหละ? ”

หลงเซ้งหยูก็ตกตะลึงหลังจากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างอ่อนโยนและพูดว่า

“ลุงหลี่ ก่อนหน้านี้ผมก็รู้ว่าถังซิ่วนั้นสุดยอดอยู่แล้วแต่ผมไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะสุดยอดถึงขั้นท้าทายสวรรค์ได้แบบนี้ ผมกับเขาได้รู้จักกันเมื่อไม่นานมานี้แต่ก็บ่อยครั้งที่ผมเริ่มได้ยินความสำเร็จระดับตำนานของเขา ผมค้นพบว่าเขานั้นเป็นคนที่เราไม่สามารถที่จะหยั่งถึงได้และแถบไม่มีอะไรเลยที่เขาทำไม่ได้! ”

“ท่านผู้อำนวยการ เกิดอุบัติเหตุขึ้น”

ในห้องนั้นได้ทีหมอที่สวมเสื้อสีขาวได้วิ่งเข้ามา

หลี่ฮงจี้ขมวดคิ้วขณะที่เขาตะโกนด้วยน้ำเสียงลึกๆว่า

“เธอกำลังตื่นตระหนกกับอะไร?ออกไปข้างนอกเดี๋ยวนี้และเคาะประตู…”

ท่าทางของหมอคนนั้นเปลี่ยนไปเป็นหวาดกลัวอย่างรวดเร็วก่อนเขาจะเดินออกไปนอกห้องอย่างเชื่อฟัง หลี่ฮงจี้ได้ใช้ประโยชน์จากเรื่องก่อนหน้านี้แล้วพูดทันทีว่า

“หลานเซ็งหยู หลานตกลงไหม ? หากว่าได้ไวน์2ขวดนี้แล้วถังซิ่วจะเป็นไปได้อย่างราบลื่น”

“ผมสัญญา!”

หลงเซ้งหยูกัดฟันของเขาขณะที่เขาพยักหน้าและตอบตกลง ถึงแม้ว่าพ่อของเขาจะเก็บไวน์Wuliangyeชั้นเลิศนี้ไว้เพียงแค่สองขวดเท่านั้น แต่เขาตัดสินใจว่าหลังจากขโมยมันมาแล้วเขาก็จะบอกพ่อของเขา ส่วนเรื่องที่พ่อของเขาจะไปแย่งกลับคืนมาหรือหาวิธีไปดื่มด้วยกันนั้นไม่ใช่เรื่องของเขาอีกต่อไปแล้ว

แผนการที่ชั่วร้ายของหลี่ฮงจี้ได้ประสบความสำเร็จอย่างราบลื่นดังนั้นอารมณ์ของเขาจึงดีขึ้นและเมื่อเขาได้ยินเสียงเคาะประตู เขาจึงโบกมือและพูดว่า

“เข้ามา!เธอต้องการจะบอกอะไรกับฉัน?ถึงได้ทำให้เธอมีสภาพที่หวาดผวาแบบนี้? ”

หมอรีบตอบอย่างรวดเร็วว่า

“ท่านผู้อำนวยการ ก่อนหน้านี้ที่ผมกำลังจะออกไปจัดการเรื่องต่างๆภายนอกนั้นก็ได้เห็นอันธพาลกว่า20คนอยู่ที่หน้าประตูโรงพยาบาลและกำลังรุมทำร้ายเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ผมคิดว่าเด็กหนุ่มคนนั้นจะต้องเป็นคุณถังซิ่วอย่างแน่นอน คุณถังที่คุณและผมเพิ่งไปเจอมาก่อนหน้านี้ ”

ท่าทางของหลี่ฮงจี้และหลงเซ้งหยูเปลี่ยนไปแถบจะพร้อมกัน พวกเขาเป็นห่วงถังซิ่วไปอย่างมากพร้อมรีบวิ่งไปที่ประตูทางออกอย่างรวดเร็ว

“เธอได้แจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแล้วหรือยัง?”

“หัวหน้าเฉินได้นำทีมรักษาความปลอดภัยไปที่นั่นแล้ว อย่างไรก็ตามท่านผู้อำนวยการอย่าเพิ่งรีบวิ่งไป ! ผมยังบอกคุณไม่หมดเกี่ยวกับเรื่องนี้! ”

หมอที่สวมชุดสีขาวได้โห่ร้องออกมา

หลี่ฮงจี้ที่กำลังวิ่งออกไปนั้นได้พูดออกมาว่า

“วิ่งไปแล้วก็บอกไปด้วยสิ!!”

หมอที่สวมชุดสีขาวนั้นได้ฝืนยิ้มออกมาเพราะเขาเห็นได้ถึงความห่วงใยที่ผู้อำนวยการนั้นมีต่อถังซิ่วเป็นอย่างมาก นั้นทำให้เขารู้สึกช๊อคก่อนที่เขาจะวิ่งตามหลี่ฮงจี้ไปแล้วพูดว่า

“ท่านผู้อำนวยการ จริงๆแล้วผมเองก็ได้ดูการต่อสู้ที่เกิดขึ้นข้างนอกเช่นกัน อันธพาลเหล่านั้นกว่า20คนที่ได้รุมทำร้ายคุณถังนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งหมดส่วนคุณถังนั้นไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนแม้แต่เล็กน้อย ตอนนี้อันธพาลเหล่านั้นได้ถูกหามเข้ามารักษาตัวในโรงพยาบาลของเราทั้งหมดโดยหน่วยรักษาความปลอดภัยของเราแล้ว “