………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

โรงพยาบาลแพทย์จีนเมืองสตาร์ซิตี้…

แขนซ้ายของบั่นโฉวกำลังใส่เฝือกและห้อยไว้โดยผ้าพันแผล สามารถเห็นเลือดกำลังซึมออกมาจากผ้าพันแผลได้อย่างชัดเจน หัวของดิ่งซี่เองก็ถูกพันไว้โดยผ้าพันแผลเช่นกัน อาการบาดเจ็บของเขานั้นจะต้องหนักมากอย่างแน่นอนพร้อมกับเลือดซึมออกมาเช่นกัน นอกจากนี้แล้วคนอื่นๆก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกับแต่ว่าก็ดีกว่าอาการของบั่นโฉวและดิ่งซี่

ทั้งสี่คนนั่งอยู่ที่ประตูทางเดินขณะสูบบุหรี่และคอยเฝ้าระวังห้องผู้ป่วย# 405อยู่ตรงกันข้ามเพราะกลัวว่าคนที่ทำร้ายพวกเขาจะกล้ามาที่นี่และก่อเหตุฆาตกรรม

“พี่ใหญ่โฉว!บอสพูดว่าอย่างไรบ้าง? ”

ดิ่งซี่ที่เห็นว่าบั่นโฉวได้รับโทรศัพท์นั้นได้ถามออกมาอย่างรวดเร็ว

บั่นโฉวตอบด้วยน้ำเสียงที่นุ่มลึกว่า

“บอสบอกว่าจะรีบมาที่นี่โดยทันที!”

ดิ่งซี่และคนอื่นๆแอบรู้สึกโล่งใจเพราะพวกเขารู้ถึงความสามารถในการต่อสู้ของถังซิ่วดีถึงแม้ว่าพวกเขายังไม่รู้รายละเอียดเฉพาะเกี่ยวกับถังซิ่วเนื่องจากเขานั้นสามารถอาศัยอยู่ในเมืองประตูทิศใต้ได้ก็แสดงว่าจะต้องมีเส้นสายที่มีอำนาจมากอย่างแน่นอน พวกเขาคิดว่าปัญหานี้จะเป็นเรื่องง่ายสำหรับถังซิ่วอย่างแน่นอน

บั่นโฉวได้พูดว่า

“ดิ่งซี่ นายลองโทรหาเสี่ยวดงดูสิแล้วถามเขาเกี่ยวกับเรื่องการสืบสวนเป็นอย่างไรบ้าง ? ไอ้คนชื่อไทนั้นต้องมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดาแน่นอนเพราะมันสามารถรวบรวมวัยรุ่นเป็นจำนวนมากได้ เราไม่สามารถโยนทุกสิ่งทุกอย่างไปให้บอสจัดการได้ ถ้าภูมิหลังของศัตรูของเราแข็งแกร่งมากเราทั้งหมดก็ต้องจัดการมันให้ได้”

“ถูกต้อง! ชีวิตของเราเปลี่ยนเพิ่งจะเปลี่ยนไปได้เล็กน้อยและฉันบอกได้เลยว่ามันเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ชีวิตที่ดีได้เริ่มใกล้เข้ามาทุกวัน บอสนั้นดีกับเรามากๆ เราจะต้องไปจัดการพวกมันให้หมด !”

ชายหนุ่มอีกคนได้ดีดก้นบุหรี่ลงไปที่พื้นพร้อมกระทืบมันและตะโกนออกมาอย่างดัง

“หุบปากซะ!” (*คืองงว่ามันจะบอกให้หุบปากทำไม – -* หรือโกรธที่เสียงดัง 55555)

บั่นโฉวตะโกนด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมความโกรธ

เด็กหนุ่มคนนั้นแค่พ้นลมหายใจออกมาแต่จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ในดวงตาของเขาได้ถูกจุดประกายขึ้นแล้ว

ดิ่งซี่หยิบโทรศัพท์ออกมา หลังจากนั้นก็โทรไปยังเบอร์หนึ่ง เขาได้พูดคุยกับใครบางคนแล้ววางสายพร้อมพูดด้วยเสียงต่ำว่า

“เสี่ยวดงได้สืบและยืนยันภูมิหลังของอีกฝ่ายแล้ว ไอ้ไทหลงได้เปิดบริษัทก่อสร้างและแต่ละที่นั้นมีพวกคนงานอยู่มาก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือมันมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกหัวหน้าแก๊งค์อันธพาล นี่สามารถพูดได้ว่ามันมีอำนาจมากทีเดียว”

บั่นโฉวหัวเราะเยาะว่า

“แม้ว่ามันจะเป็นคนร่ำรวยและมีอำนาจแล้วไงล่ะ? บอสของเราได้ให้ที่พักพิงแก่เรา ให้โอกาสเราได้เปลี่ยนแปลงชีวิต เราไม่สามารถลืมเรื่องนี้ได้และเราไม่สามารถปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปได้ เราไม่ใช่คนที่ดีและเราได้เห็นเลือดมามากถ้าหากว่าบอสไม่สามารถจัดการกับไทหลงได้ เราจะซ่อนตัวและมองหาโอกาสที่จะฆ่าไอ้ไทหลงนั้น ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถฆ่ามันได้ เราก็ต้องทำให้มันต้องจ่ายหนี้นี้ด้วยความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส หลังจากนั้นเราค่อยหนีไปอยู่ในสถานที่ห่างไกลและปกปิดตัวตนของเราเพื่อใช้ชีวิตต่อไป ”

“นี่…”

วัยรุ่นที่ได้รับบาดเจ็บอีก2คนกำลังลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่พวกเขาจะตัดสินใจได้ จากนั้นพวกเขาก็ตอบด้วยเสียงที่ลึกซึ้งว่า

“ไอแม่เย็ดนั้น แม้ว่าเราจะต้องใช้ชีวิตที่เหลืออย่างยากลำบากเราก็จะไม่มีทางทำให้มันมีชีวิตที่ดีขึ้นได้”

“ฉันจะคนนำและรับผิดชอบเรื่องมีดเอง”

ดิ่งซี่พ้นลมหายใจออกมาหลายครั้ง แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดออกมานั้นแต่เขากำลังคิดถึงความไว้วางใจที่ถังซิ่วมอบให้กับพวกเขาและนึกถึงชีวิตใหม่ที่เขามอบให้และนึกถึงการดูแลที่ดีจากซูหลิงหยุน สิ่งเหล่านี้ทำให้เขายิ่งแค้นไทหลงมากกว่าเดิม

ที่หนึ่งในคลับเฮ้าส์หรูในเมืองสตาร์ซิตี้

ภายในห้องส่วนตัวที่ตกแต่งอย่างหรูหรา ไทหลงกำลังสูบซิการ์ของเขาอยู่ ในขณะที่มือข้างหนึ่งกำลังถือไพ่ที่กำลังเล่นกับชายวัยกลางคน3คนและรอบตัวพวกเขามีสาวสวยกว่า7-8คนล้อมรอบพวกเขาและเสิร์ฟชาอย่างอ่อนโยนตีพร้อมนวดไหล่และถูหลังของพวกเขา

หญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่บนตักของชายวัยกลางคนคนหนึ่งขณะที่กำลังป้อนองุ่น เมื่อเห็นไพ่ของไทหลงที่เปิดออกมานั้น ชายวัยกลางคนได้ส่ายหัวของเขา เขายิ้มออกมาในขณะที่พูดว่า

“เจ้าแก่ไท,โชคดีของคุณดีมากๆ!เกมนี้คุณชนะ ! ดูเหมือนว่าการเห็นเลือดของเรานั้นต่างกัน! ครั้งหน้าฉันจะพาใครบางคนมาเพื่อเล่นกับคุณ! ล้างคอรอไว้ได้เลย ครั้งหน้าฉันจะต้องชนะอย่างแน่นอน ”

ไทหลงพูดด้วยเสียงหัวเราะเยาะ

“บล๊า,จู๋ของฉันยังเจ็บอยู่เลยตอนนี้! ไม่เคยคิดเลยว่าไอ้ผู้หญิงราคาถูกนั่นกล้าที่จะเตะจู๋ของฉัน แม้ว่ามันจะดูเหมือนแม่ชีแต่ฉันสามารถบอกได้ว่ามันต้องสวยมากๆตอนที่ยังสาวๆ น่าเสียดายจริงๆที่มันอายุมากเกินไปและไม่สามารถปลุกอารมณ์ของฉันได้ ไม่อย่างงั้นฉันจะทำให้มันร้องไห้บนเตียงถึงสามวันสามคืนอย่างแน่นอน ”

ชายวัยกลางคนพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยว่า

“เจ้าแก่ไท,อย่าโม้ให้มากไปหน่อยเลย!อย่าว่าแต่3วัน3คืนเลยแค่สามชั่วโมงฉันก็คิดว่านายไม่น่าจะทนได้แล้วและไอ้สามชั่วโมงนั้นคงต้องอยู่ภายใต้ผลของยาชะลอการหลั่งด้วย ฮ่า ฮ่า ”

“ฮ่าฮ่า … ”

ชายวัยกลางคนที่เหลือได้หัวเราะอย่างเต็มที่ พวกเขามองไปที่ไทหลงด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยการหยอกล้อ

ไทหลงจ้องที่พวกเขาและโยนไพ่ทิ้งไปบนโต๊ะ จากนั้นมือของเขาก็ดึงสาวข้างๆมาและฉีกเสื้อผ้าของเธออกทันทีพร้อมสอดใส่เธอทันที

“เจ้าแก่นี่… ”

ชายอีกทั้ง3คนมองกันด้วยความตกใจในขณะที่ยิ้มอย่างฝืนๆออกมา พวกเขาไม่เคยคิดว่าไทหลงจะไม่สามารถยอมรับการหยอกล้อและกระตุ้นได้ เขาได้แสดงถึง”พลังแห่งฤดูใบไม้ผลิ” และพิสูจน์ความสามารถของเขาต่อหน้าทุกคน

“ริ้งงงงงงงงงงริ้งงงงงงงงง… ”

โทรศัพท์ของไทหลงที่วางไว้บนโต๊ะข้างหน้าเขาก็ดังขึ้น

หญิงสาวที่กำลังโดน……ได้คว้าโทรศัพท์ด้วยรอยยิ้มและมองไปที่มันหลังจากนั้นก็ส่งให้ไทหลง

“เกิดอะไรขึ้น?”

ไทหลงได้ถามขึ้นขณะที่เอายังไม่หยุดเคลื่อนไหว

“พี่ใหญ่หลง ผมเพิ่งได้ยินมาว่ามีใครบางคนกำลังสืบสวนภูมิหลังของพี่ ”

เสียงที่มีความเคารพได้ดังออกมาจากโทรศัพท์

ไทหลงหยุดการเคลื่อนไหวของเขาและนั่งลงบนเก้าอี้พร้อมถามด้วยเสียงลึกว่า

“ภูมิหลังของฝ่ายนั้นหละ?”

“ปัจจุบันยังไม่ชัดเจน!”

อารมณ์ของไทหลงได้หมดลงไปในมันมีหลังจากได้ยินเสียงจากโทรศัพท์ เขารีบใส่กางเกงทันทีพร้อมดึงผู้หญิงคนนั้นไปนั่งด้านข้างขณะที่เขามองไปที่คนที่กำลังจ้องแบบงงงวยมาที่เขา จากนั้นเขาก็พูดด้วยเสียงเยาะเย้ยว่า

“มีคนสืบสวนเบื้องหลังของฉัน!พร้อมน้องชายคนเล็กของฉัน ”

ชายวัยกลางคนที่กำลังกินองุ่นได้ขมวดคิ้วและพูดเบาๆว่า

“นี่เป็นเรื่องที่ไม่ดีเท่าไหร่นะ อย่างคำพูดที่ว่า อย่ากลัวขโมยที่ขโมยบ่อยๆแต่จงกลัวขโมยที่มีการวางแผน คุณได้ไปก่อกวนใครเข้า ? มีใครที่มีอำนาจที่คุณได้ไปรุกรานเมื่อเร็วๆนี้? ”

ไทหลงส่ายหัวของเขาและตอบว่า

“งานในโครงการก่อสร้างเป็นไปอย่างราบรื่นและมีบางคนเฝ้าอยู่ที่นั่นพร้อมฉันยังได้ทำข้อตกลงกับพวกเขา นอกจากนี้คนเหล่านั้นยังรู้เรื่องภูมิหลังของฉันดี มันไม่จำเป็นสำหรับพวกเขาที่จะสืบสวนฉัน ในช่วงนี้เองฉันก็ยังไม่ได้ทำตัวประเจิดประเจ้อนักและยังไม่ได้ไปล่วงเกินใครแม้แต่น้อย ”

ผู้ชายที่ตัวใหญ่โตได้พูดออกมาทันทีว่า

“คุณไม่ได้ล่วงเกินใครได้อย่างไร? คุณเพิ่งไปทำร้ายผู้หญิงคนหนึ่งจนเข้าโรงพยาบาลไป? บางทีเธออาจจะมีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดาหรือเปล่า? ”

ไทหลงพูดด้วยเสียงเยาะเย้ยว่า

“เป็นไปไม่ได้! ฉันได้ถามมาแล้วและเห็นได้ชัดว่าผู้หญิงนั่นมาจากชนบท เป็นแม่หม้ายและเด็กกำพร้า นอกจากนี้เธอได้อาศัยธุรกิจร้านอาหารของเธอเพื่อหาเลี้ยงชีพ ฉันจะไปล่วงเกินเทพเจ้าองค์ไหนเข้าหละ?ถึงได้กล้าที่จะสืบสวนภูมิหลังของฉัน? ”

ชายวัยกลางคนพูดเบาๆว่า

“ถ้าไม่ใช่เธอแล้วคุณก็ต้องระมัดระวังมากๆ ใครจะรู้ได้หละว่าคนเหล่านั้นอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับหญิงที่คุณได้หักแขนไป?! ตอนนี้ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นคือใคร อย่าลืมว่าศัตรูในที่มืดเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด ”

ไทหลงเงียบครู่หนึ่งขณะที่เขาโทรไปยังเบอร์หนึ่งและหลังจากเสร็จแล้วก็พูดว่า

“พวกคุณทั้งหมดคงจะไม่ได้ยุ่งอยู่ใช่ไหม ช่วยฉันหาว่ามันใคร! พวกคุณมีเส้นสายเป็นอย่างมากและน่าจะรู้ว่าเขาคือใคร! ”

“เยี่ยม!”

ชายทั้งสามคนเหลือบไปมองกันและกันพร้อมพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียง

ก็ใช่ที่พวกเขาเป็นเพื่อนของไทหลง แต่นั้นก็เป็นเพราะผลประโยชน์ทางธุรกิจที่มีด้วยกัน หากว่าสืบสวนแล้วฝ่ายตรงข้ามไม่ได้มีอำนาจอะไร พวกเขาก็จำเป็นที่จะต้องช่วยไทหลงจัดการแต่หากว่ามันตรงกันข้ามกัน พวกเขาก็พร้อมที่จะถอนตัวทันที

โรงพยาบาลแพทย์จีนเมืองสตาร์ซิตี้

ถังซิ่วออกจากรถของหลงซูเหยาและให้เธอกลับทันที เขาไม่สนใจเรื่องข้อเสนอที่สุภาพของเธอก่อนหน้านี้เนื่องจากว่าความสัมพันธ์ของพวกเขายังไม่ถึงจุดที่จะสามารถขอความช่วยเหลือจากเธอได้

เมื่อเขารีบขึ้นไปที่ชั้น6ของโรงพยาบาลและมาถึงประตูห้องหมายเลข 405 หลังจากที่เขาได้เห็นบั่นโฉวและดิ่งซี่นั่งยองๆอยู่ที่ประตูทั้งสองข้าง ถังซิ่วเดินไปอย่างรวดเร็วและถามด้วยท่าทางมืดมนว่า

“พวกนายบาดเจ็บมากไหม?”

เมื่อได้เห็นถังซิ่วแล้วนั้น พวกเขาก็มีความสุขเป็ฯอย่างมาก ในขณะที่ได้ยินคำถามของถังซิ่วนั้นยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกอบอุ่นยิ่งขึ้นไปอีก

บั่นโฉวได้พูดว่า

“บอส อาการบาดเจ็บของเรานั้นไม่เป็นไรมากพักฟื้นซักพักก็น่าจะหายแล้ว แต่บอสใหญ่เพิ่งได้รับการผ่าตัดไปเมื่อคืนนี้เนื่องจากกระดูกแขนของเธอแตกหัก ผมกลัวว่าแขนข้างขวาของเธอจะไม่สามารถยกอะไรได้ซักระยะหนึ่งแต่เรื่องอื่นก็ไม่น่าจะมีปัญหา ”

แตกหัก?

ร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ?

จิตสังหารอันหนาวเหน็บทะลักออกมาจากสายตาของเขา เขาพยักหน้าและเปิดประตูห้อง405 เมื่อเขาเดินเข้ามาเขาก็ได้กลิ่นเหม็นที่ไม่เป็นที่พอใจนัก ห้องพักนี้มีผู้ป่วยอยู่สามเตียงนอกจากนี้ยังมีญาติผู้ป่วยหลายคนที่กำลังส่งเสียงดัง

“คุณแม่ แม่เป็นอย่างไร?”

ถังซิ่วได้เดินมาที่เตียงของซูหลิงหยุนก่อนที่จะถามออกมาด้วยความกังวล

เมื่อได้เห็นถังซิ่วแล้วซูหลิงหยุนที่กำลังนอนหงายอยู่บนเตียงก็ได้ส่ายหน้าทันทีพร้อมพูดว่า

“ลูกแม่ แม่สบายดี แล้วบั่นโฉวและคนอื่นๆล่ะ? แม่บอกพวกเขาว่าแม่สบายดีและไม่ต้องบอกลูกเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่มันกลับกลายเป็นว่าพวกเขาไม่ได้ฟังแม่เลย ”

ถังซิ่วส่ายหัวและพูดว่า

“ผมเป็นคนสั่งให้พวกเขาแจ้งทันทีถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับแม่! ด้วยเหตุผลบางอย่างเมื่อวานนี้ผมจึงไม่สามารถรับสายได้ทัน ดังนั้นผมถึงได้มาสาย”

ซุหลิงหยุนได้ตอบกลับไปว่า

“ลูกแม่ ลูกเหลือเวลาอีกไม่นานเท่านั้นก่อนการสอบเข้าเรียน ลูกต้องไม่ปล่อยให้สิ่งนี้ส่งผลต่อการเรียนของลูก ตั้งแต่ที่มีบั่นโฉวและคนอื่นๆอยู่แล้วลูกก็ไม่จำเป็นต้องดูแลแม่ที่นี่ ลูกรีบกลับไปโรงเรียน ซะ”

ถังซิ่วส่ายหัวและพูดว่า

“แม่ ผมรู้เรื่องทุกอย่างที่เกิดจากอุบัติเหตุครั้งนี้แล้วและผมจะไม่ปล่อยไอ้สกุลไทอย่างแน่นอน แม่ไม่จำเป็นต้องซ่อนความจริงจากผมตั้งแต่ที่บั่นโฉวได้เล่าให้ผมฟังหมดแล้ว แม่ไม่ต้องเป็นห่วง!ผมสามารถทำให้บั่นโฉวเปลี่ยนตัวเองได้ก็สามารถทำให้คนที่ทำร้ายแม่มาคุกเข่าต่อหน้าแม่ได้แน่นอน ขอแค่แม่ต้องพักผ่อนเยอะๆส่วนเรื่องอื่นๆนั้นผมจะเป็นคนจัดการเอง ”

ซูหลิงหยุนร้องตะโกนออกมาอย่างกระสับกระส่ายว่า

“ลูกแม่ ลูกห้ามทำอะไรไร้เหตุผลโดยเด็ดขาด พวกเขาเป็นคนที่มีอำนาจและลูกไม่สามารถล่วงเกินได้และนอกจากนี้แล้ว ตราบใดที่แม่ยังคงอยู่ที่โรงพยาบาลสักระยะหนึ่ง ความโกรธของคนเหล่านั้นน่าจะหายไปในที่สุดและพวกเขาคงไม่มาก่อกวนเราอีกต่อไป “