…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

หลังจากที่โอหยางลูลู่ได้วางสายลงแล้วนั้น เธอก็ได้หันไปมองที่หวังฮู่พร้อมพูดว่า
“ฉันรู้ว่าแกมีชื่อเสียงอยู่บ้านด้านตะวันตกเฉียงเหนือ เพื่อนเก่าของฉันก็ยังเคยได้ยินชื่อของฉก แต่แกคงไม่คิดว่าจะออกไปได้อย่างงายดายทั้งๆที่ได้กระทำผิดต่อฉันในวันนี้ใช่ไหม? “
ชายหนุ่มรูปร่างกำยำได้พูดด้วยความชิงชังว่า
“พูดอะไรเลอะเทอะ”
โอหยางลูลู่ไม่พูดขณะที่เธอกอดอกของเธอแล้วโน้มตัวลงบนโซฟาพร้อมมองไปที่พวกเขาอย่างไม่แยแส หลังจากที่เธอได้เห็นความแข็งแกร่งของพวกเขาแล้วเธอก็ค่อนข้างกลัวว่าถังซิ่วที่กำลังรีบมาจะเป็นคู่มือของพวกเขาได้ไหม
“ผู้บ่มเพาะพลังนั้นแข็งแกร่ง ? “
โอหยางลูลู่ครุ่นคิดอยู่ภายในใจ
ชายหนุ่มร่างกำยำหันไปทางเหว่ยเฉาและโบกมือขณะที่เขาพูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆว่า
“นายน้อยเหว่ย ดูเหมือนว่าคุณจะจากบ้านไปนานเกินไปหน่อยนะ ดูเหมือนว่าผู้คนจะไม่รู้จักชื่อของคุณแล้ว ไม่ใช่ว่าตระกูลของคุณมีอำนาจมาก ? คนของที่นี้ไม่แม้แต่จะเห็นแก่หน้าพ่อของคุณด้วยซ้ำ “
หน้าของเหว่ยเฉาในตอนนี้นั้นได้แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงไปถึงหู เขาได้มองไปที่โอหยางลูลู่และฮ่วงดู่เดาอย่างร้ายยิ่งกว่าเดิม เขาตัดสินใจแล้วว่าเมื่อจบเรื่องนี้จะต้องทำให้เธอทั้งสองเข็ดหลาบอย่างแน่นอน
20 นาทีต่อมา
ถังซิ่วปรากฏตัวนอกห้องส่วนตัว เมื่อเขาเข้ามาในห้องแล้ว คิ้วของเขาก็ขมวดลงทันทีเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนอนกองอยู่ทั่วทุกที่พร้อมกับที่ได้เห็นชายหนุ่มรูปร่างกำยำกำลังเหยียบย่ำหนึ่งในพวกเขาอยู่
ท่าทางของเขาเริ่มเย็นยะเยือก เขามองไปที่โอหยางลูลู่แล้วถามเธอว่า
“เธอไม่เป็นไรนะ?”
ตาของโอหยางลูลู่สว่างขึ้นขณะที่เธอพุ่งออกมาจากโซฟาและชี้ไปที่ชายทั้งสามแล้วพูดว่า
“ฉันไม่เป็นไร เจ้าพวกอันธพาลพวกนี้มันป่าเถื่อนมาก มันอยากให้พวกเรา …”
สายตาของถังซิ่วนั้นเย็นชาเป็นอย่างมาก ที่โอหยางลูลู่ออกมาดื่มในคืนนี้นั้นเป็นเพราะเขาได้ยึดบ้านของเธอไป เขาสามารถบอกได้เลยว่าเธอที่กำลังบอกว่าไม่เป็นไรนั้น แต่หน้าผากของเธอเป็นรอยแดงพร้อมมีรอยเท้าอยู่ตามตัวนั่นแสดงให้เห็นว่า เธอได้ถูกทุบตีมาอย่างแน่นอน
“ใครเป็นคนตีเธอ?”
หนุ่มรูปร่างกำยำกำลังจะลุกขึ้นยืนแต่ชายอีกคนได้ลุกขึ้นมา ก่อนที่จะเดินไปหาถังซิ่วพร้อมด้วยท่าทางดูถูกและพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยว่า
“อะไรของแก? แกคิดว่าจะทำตัวเป็นฮีโร่เพื่อปกป้องสาวสวย ? แถมแกยังมาแค่คนเดียวเนี่ยนะ ? “
“เปรี้ยง…”
ถังซิ่วเตะอัดไปที่หน้าอกของชายหนุ่มคนนั้นด้วยความเร็วดั่งสายฟ้า ถึงรูปร่างของเขานั้นไม่ได้ดูกำยำเหมือนชายหนุ่มคนนั้น แต่โต๊ะได้หักออกทันทีพร้อมกับเสียงกระแทกที่ดังสนั่น
“ยังมีใครอีก ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้”
ถังซิ่วพูดด้วยน้ำเสียงทารุณเป็นอย่างมากพร้อมกับน้ำเสียงเย็นชา
ท่าทางของชายหนุ่มรูปร่างกำยำและคนอื่นๆเปลี่ยนไปทันที แม้จะบอกว่าลูกเตะของถังซิ่วนั้นเป็นการโจมตีแบบฉับพลันนั้น แต่ความเร็วของมันนั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก พวกเขาไม่สามารถที่จะเห็นมันได้อย่างชัดเจนถึงแม้ว่าพวกเขาจะจ้องมองที่เขา
“ผู้เชี่ยวชาญ!”
พวกเขาพยักหน้าพร้อมกัน พวกเขาได้มีประสบการณ์ต่อสู้มานับไม่ถ้วน พวกเขาได้ก้าวออกมาสองก้าวพร้อมพูดกับถังซิ่วที่อยู่ตรงหน้าว่า
“ฉันเป็นคนทุบตีเธอเอง ! แกเป็นเทพองค์ไหนกันหละ ? ถึงได้มายุ่งเรื่องของคนอื่นนัก!? “
ถังซิ่วไม่ตอบหรือถามสถานะของฝ่ายตรงข้าม เขาเร่งฝีเท้าของตัวเองพร้อมพุ่งไปข้างหน้า4-5เมตรในพริบตาและเหวี่ยงหมัดใส่หน้าชายหนุ่มคนหนึ่งอย่างรุนแรงพร้อมส่งลูกเตะไปที่อีกคน
“กร๊อบบบ แกร๊บบบ, โคร๊มม, เปรี้ยงง!”
เสียงที่ชัดเจนของกระดูกที่แตกหักพร้อมเสียงกรีดร้องของชายหนุ่มเหล่านั้นที่ตามมาอย่างชัดเจน
หมัดของถังซิ่วที่กำลังจะฟาดใส่ชายหนุ่มคนนั้นได้ถูกป้องกันโดยขาและแขนของชายรูปร่างกำยำ แต่ร่างกายของถังซิ่วได้บิดไปมาพร้อมเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วและไปโผล่อยู่ด้านข้างของชายหนุ่มคนนั้นพร้อมปล่อยหมัดใส่เขาดั่งดาวตก
“กร๊อบบบ แกร๊บบบบบ…”
ชายหนุ่มรูปร่างกำยำคนนั้นโห่ร้องออกมา แขนของเขาได้แหลกละเอียดด้วยกำปั้นที่แข็งดั่งหินผาของถังซิ่ว ชายหนุ่มได้เดินถอยไปข้างหลังครั้งแล้วครั้งเล่าและถูกบังคับให้หลังชนฝา ท่าทางของเขาเปลี่ยนไปอย่างมากพร้อมกำลังทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวด ถังซิ่วฟาดเท้าใส่เขาอย่างดุเดือดราวกับว่ามันเป็นแส้ เขาฟาดไปที่ใบหน้าของชายหนุ่มคนนั้น พร้อมอัดหัวเขาลงไปกับพื้น นั้นทำให้ขาของเขาชี้ขึ้นพร้อมหัวที่ฝังอยู่ในพื้น
ถังซิ่วพ่นลมหายใจอย่างเย็นชาออกมา พร้อมมองไปที่ชายหนุ่มที่กำลังหมดสติ เขายกชายคนนั้นขึ้นด้วยมือข้างเดียวพร้อมตบอย่างรุนแรงไปที่ใบหน้าของเขา
“เพี้ย เพี้ย เพี้ย…”
ชายหนุ่มรูปร่างกำยำได้ถูกตบไปมากกว่า10ครั้ง นั้นทำให้แก้มของเขาเริ่มบวมขึ้นในขณะที่เขาถูกปลุกให้ตื่นโดยฝ่ามือนั้น
ถังซิ่วโยนเขาไปที่มุมนึงอย่างง่ายดายพร้อมพุ่งไปหาชายหนุ่มที่เหลือ เขาทรมานชายหนุ่มทั้งสองภายใต้สายตาของทุกๆคนในห้อง เขาทุบตีอย่างโหดเหี้ยมและทำให้พวกเขากรีดร้องโหยหวนไปทั่วทั้งห้องพร้อมกับขอความเมตตาให้หยุดตีพวกเขา
ฮ่วงดู่เดาวิ่งไปทางด้านข้างพร้อมดึงแขนของโอหยางลูลู่ เธอเหวอไปชั่วขณะหนึ่งที่ได้เห็นถังซิ่วกำลังทุบตีชายหนุ่มเหล่านั้นอย่างทารุณ ในแววตาของเธอในตอนนี้นั้นเหมือนกำลังมีประกายไฟกำลังถูกจุดขึ้น
“สุดยอดไปเลย เขาเจ๋งมาก!”
“เขาเป็นยอดชายในหมู่ผู้ชายและเป็นชายระดับสูงในหมู่ชายระดับสูง!”
“ให้ตายเถอะ ฉันรู้สึกตื่นเต้นจริงๆ ฉันเริ่มชอบเขาเข้าให้แล้ว! ลูลู่ เธอห้ามแย่งเขากับฉันนะ!ฉันตกหลุมรักกับเขาเข้าให้แล้ว!”
“ดี ตีพวกเขา! ตีพวกเขาอีก อย่างงั้นแหละ …”
โอหยางลูลู่กำลังมองไปที่ชายหนุ่มทั้งสามที่กำลังถูกทารุณอย่างหนักด้วยการแสดงออกที่ตกตะลึง จากนั้นเธอก็มองไปที่ถังซิ่วที่ย้ายร่างไปนั่งอยู่บนโซฟาราวกับว่าเขาเป็นเมฆที่ถูกพัดไปตามลม นั่นทำให้หัวใจของเธอก็เต้นระรัว
ใช่! เขาเจ๋งจริงๆ!
ถังซิ่วในสายตาของเธอต้องนี้นั้นเป็นเหมือนอัศวินที่สวมชุดเกราะทองที่ส่องแสงพร้อมกำลังเหยียบเมฆสายรุ้งเพื่อมาช่วยสาวสวย เธอไม่ได้ยินแม้กระทั่งสิ่งที่ฮ่วงดู่เดาพูดด้วยซ้ำ
หลี่เสวี่ยหมิงที่กำลังกระสับกระส่ายและกังวลอยู่กับฉากตรงหน้านี้ทำอะไรไม่ถูก เขาคิดว่าโอหยางลูลู่จะขอความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสของตระกูลและให้พวกเขาจัดการเรื่องพวกนี้ซะอีก กลับกลายเป็นว่า มีเจ้าหนูจากที่ไหนไม่รู้มาจัดการชายหนุ่มทั้งสามอย่างทารุณ
น่ากลัว!
แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
ลึกลงไปในหัวใจของเขากำลังตะโกนชื่นชมออกมา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหมดที่จ้างมานั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญทุกคนที่ได้รับการฝึกอบรมมา หากพวกเขาพบกับอันธพาลหรือแก๊งข้างถนน พวกเขาก็สามารถจัดการได้2-3คนอย่างง่ายดาย แต่ชายหนุ่มทั้งสามคนนั้นมีความแข็งแกร่งถึงขั้นที่สามารถล้มเจ้าหน้าที่ได้กว่า10คน
ถังซิ่วคว้าเบียร์ขวดหนึ่งไว้แล้วเปิดฝาพร้อมจิบมัน เขามองไปที่โอหยางลูลู่แล้วพูดว่า
“ฉันจัดการพวกมันให้แล้ว ตอนนี้เธอพอใจหรือยัง? ถ้าเธอยังไม่พอใจ เธอก็สามารถทุบตีพวกเขาต่อได้แต่โปรดจำไว้ว่าเธอไม่สามารถฆ่าพวกเขาได้ ฉันเป็นเพียงคนไม่มีอำนาจพอที่จะสามารถฆ่าคนได้ แน่นอนว่าในเมื่อตระกูลของเธอมีอำนาจนั้น เธอก็สามารถฆ่าพวกมันได้เลยแต่เธอต้องเป็นคนรับผิดชอบเอง! “
โอหยางลูลู่กลืนน้ำลายของเธอ ดวงตาที่มืดมนของเธอเริ่มสว่างไสว จากนั้นเธอก็มองไปที่ชายหนุ่มที่แข็งแรงและคนอื่นๆที่พยายามตะเกียกตะกายและลุกขึ้นแต่ก็ล้มลงเรื่อยๆ จากนั้นเธอก็หยิบขวดขึ้นมาและหันกลับไปหาเหว่ยเฉาผู้ซึ่งใบได้เปลี่ยนเป็นซีดขาวเหมือนกระดาษไปแล้ว เธอหัวเราะแล้วพูดออกมาว่า
“แกบอกเราว่าเหว่ยกุยเซ้งเป็นพ่อของแกใช่มั้ย? ครอบครัวของแกคือเจิดจรัสกรุ๊ปงั้นหรอ? นั้นเป็นเหตุผลให้แกหยิ่งผยองและโม้ไปทั่วและไม่สามารถมองเห็นภูเขาไท? นั้นทำให้แกไปหมกอยู่กับไอ้อันธพาลสามตัวนี้?… “
ขวดได้แตกแตกกระจายพร้อมเลือดที่กระเด็ดออกมา
โอหยางลูลู่ได้เหวี่ยงขวดใส่เหว่ยเฉาทั้งหมดหกขวดจนทำให้เขาหมดสติไปพร้อมเดินไปที่ชายหนุ่มอีกคนและกรีดลงบนใบหน้าของเขา
สิ่งที่น่าสนใจนั้นคือ บาดแผลนั้นได้เป็นรูปตัว “X”
“ปัง…”
ประตูห้องส่วนตัวถูกเปิดขึ้นและชายอายุประมาณ30ปีวิ่งมาพร้อมกับชายอีก4คนที่ดูแข็งแกร่งเป็นอย่างมากโดยเฉพาะชายวัยกลางคน
“ลูลู่ น้องไม่เป็นอะไรใช่ไหม … “
เมื่อโอหยางเหล่ที่กำลังวิ่งเข้ามาพร้อมกับกำลังเห็นน้องของตัวเองกำลังกรีดใบหน้าของคนอื่นนั้น คำพูดของเขาก็ได้ชะงักทันทีโอหยางลูลู่ตอบด้วยเสียงหัวเราะว่า
“พี่ใหญ่ ฉันสบายดี”
เมื่อมองไปที่ฉากภายในห้องส่วนตัวแล้ว โอหยางเหล่ก็พูดด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำว่า
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ ?เธอส่งข้อความมาหาพี่ว่าโดนใครบางคนทุบตี มันอยู่ที่ไหน?”
โอหยางลูลู่ชี้ไปที่ชายหนุ่มที่รูปร่างกำยำพร้อมกับตอบด้วยความโกรธว่า
“เป็นมันค่ะพี่ มันตะโกนให้ฉันไปกับเขาคืนนี้ เขาข่มขู่ฉันด้วยคำหยาบคายและดูหมิ่น “
โอหยางเหล่ก้าวไปข้างหน้า เขาต้องการที่จะปลุกชายทั้งสี่ขึ้นมาและทารุณพวกเขาอีกครั้ง อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นสภาพที่น่าอนาถของคนเหล่านี้แล้ว ในที่สุดเขาก็ไม่ได้ลงมือ
มันน่าอนาถ!
น่าอนาถเป็นอย่างมาก!
เขานึกไม่ออกเลยว่าใครกันที่ลงมือทำร้ายพวกเขาถึงแม้ว่าพวกเขานั้นยังไม่ถูกฆ่าแต่ก็ใกล้ตายเต็มทีแล้ว
เมื่อรู้ว่าโอหยางเหล่เป็นพี่ชายของโอหยางลูลู่,ถังซิ่วได้วางขวดในมือลงและพูดเบาๆว่า
“โอหยางลูลู่ เนื่องจากพี่ชายของเธอมาแล้ว ฉันจะกลับไปก่อน ฉันได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ของคืนนี้ไปกับเรื่องสำคัญมากแล้วและกำลังจะได้พักผ่อนอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเธอโทรมา! “
โอหยางลูลู่ได้วิ่งไปขวางทางถังซิ่วไว้อย่างรวดเร็ว ทัศนคติของเธอตอนนี้และก่อนหน้านั้นแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงขณะที่เธอยิ้มอย่างสง่างามและพูดว่า
“นายทำเรื่องสำคัญเสร็จงั้นหรอ?ฉันสามารถกลับไปกับนายได้ไหม? นายก็เห็นหนิว่าฉันถูกทำร้ายแล้วฉันก็จำเป็นต้องกลับไปหายาอีก “
ถังซิ่วพยักหน้าแล้วพูดว่า
“ดี เธอสามารถกลับไปกับฉันได้!”
โอหยางเหล่กำลังมองไปที่โอหยางลูลู่และถังซิ่วด้วยการแสดงออกที่โง่เขลา เนื้อหาในบทสนทนาของพวกเขาทำให้เขาตกใจ
กลับไปด้วยกัน?
พวกเขาอยู่ในความสัมพันธ์?
พวกเขาอยู่ด้วยกันแล้วหรือ?
ร่างกายของโอหยางเหล่สั่นขณะที่เขารีบหยุดโอหยางลูลู่และถามว่า
“รอก่อนน้องพี่ เธอไม่ได้สร้างปัญหาแต่ก็ยังไม่ได้บอกพี่อย่างชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย!นอกจากนี้ ผู้ชายคนนี้เป็นใคร? เธอบอกว่าจะกลับไปด้วย ? เธอทั้งสองอยู่ด้วยกันหรือ? “
โอหยางลูลู่หรี่ดวงตาของเธอและตอบด้วยรอยยิ้มว่า
“พี่ใหญ่หนูจะบอกพี่เกี่ยวกับเรื่องนี้ในภายหลัง พี่เพียงแค่ปลุกพวกเขาให้ตื่นขึ้นและทำให้พวกคลานออกไปจากที่แห่งนี้ อ่าใช่ ช่วยฉันพาเพื่อนหนู ฮ่วงดู่เดากลับบ้านไปด้วย ตอนนี้มันดึกแล้วและหนูไม่ต้องการให้ใครบางคนที่หนูไม่สามารถไว้ใจได้พาเธอกลับไป “
โอหยางเหล่ตะโกนด้วยโกรธออกมาว่า
“เธอยังไม่ได้ตอบคำถามก่อนหน้านี้ของพี่!”
โอหยางลูลู่พูดด้วยเสียงหัวเราะว่า
“พี่ใหญ่ ทำไมพี่ถึงโกรธหละ!พี่ไม่ได้บอกให้ฉันหาแฟนให้เร็วๆดังนั้นฉันจะได้รีบแต่งงานสักทีหนิ!และเขาเองก็ดีมาก! “
“เธอ…”
โอหยางเหล่เหวอไปครู่หนึ่ง
โอหยางลูลู่มองไปที่การแสดงออกของพี่ชายที่ยอมแพ้ รอยยิ้มของเธอเริ่มหนาขึ้นแล้วพูดว่า
“อืม อืม หนูจะบอกพี่ก็ได้! เขาชื่อถังซิ่ว เป็นผู้ช่วยชีวิตของหนูและหากวันนี้ถ้าไม่ได้เขาแล้วละก็ หนูอาจถูกทารุณโดยอันธพาลพวกนี้!เขาอาศัยอยู่ในวิลล่าของหนูดังนั้นหนูเลยจะกลับไปกับเขา “

“เขาอาศัยอยู่ในบ้านของเธอ!!!!!? !!”