…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

“คุณถังผู้จริญ เราโชคดีจริงๆที่เราเพิ่งมาถึงที่นี่แท้ๆแต่ได้ฆ่าสัตว์ร้ายระดับ2มากมายถึงขนาดนี้ ฉันคิดว่ามันเพียงพอแล้วหละ เราควรจะกลับกันเลยดีไหม? ”

พรตเฒ่าซือยี่ได้ถามถังซิ่วในขณะที่เขาเช็ดคราบเลือดที่มุมปากของเขาด้วยรอยยิ้ม

ถังซิ่วได้ถามกลับว่า

“ไหนคุณบอกว่าจะมาหาแร่ที่มีค่าด้วยไม่ใช่หรือ?”

พรตเฒ่าตอบด้ายรอยยิ้มฝืนๆว่า

“ถ้าเราต้องการหาแร่ที่มีค่านั้น เราจำเป็นต้องเข้าสู่ห้วงลึกของเกาะนี้เท่านั้น คุณถังผู้เจริญไม่กลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับอันตรายบนเกาะงั้นหรอ? ”

“นี้…”

ถังซิ่วจ้องมองอย่างว่างเปล่าสักครู่ก่อนที่เขาจะละทิ้งความตั้งใจของเขาที่จะหาแร่นี้ แม้ว่าการที่จะเอาลูกเสือนั้นก็ต้องเข้าไปในถ้ำเสืออยู่แล้ว แต่ถ้าหากรู้ว่ามันจะนำไปสู่ความตายของเขาแล้วยังต้องการที่จะไปเอามันอีกนั้น ถ้าไม่ใช่สมองมีปัญหาก็คงต้องเดินละเมอไปแน่นอน หนึ่งคือเขาไม่ใช่คนที่สมองมีปัญหา สองคือเขาไม่เดินละเมอแน่นอน เขาก็จะไม่กัดไปมากกว่าที่เขาจะเคี้ยวได้และทำอะไรบางอย่างที่เกินกว่าความสามารถของเขา

อย่างน้อย … เขาจะไม่ทำมันตอนนี้!

หลังจากที่เงียบไปสักครู่แล้ว ถังซิ่วได้พูดอย่างจริงจังว่า

“หากเป็นเช่นนั้นแล้วเราจะกลับบ้านกัน เราจะยกศพเหล่านี้เข้าไปในเรือให้หมดก่อน! ”

แม้ว่าเหมี่ยวเหวินถังจะมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย แต่เขาก็ยังตื่นเต้นอยู่เรื่อยๆเมื่อได้ยินคำพูดของถังซิ่วและพรตเฒ่า เขารีบพูดออกมาว่า

“กลับบ้านตอนนี้? ถึงแม้ว่าเราได้ล่าและฆ่าสัตว์ร้าย 24 ตัว แต่เราเพิ่งมาถึงที่นี้มันน่าจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายถ้าเรากลับไปตอนนี้ ฉันเพิ่งพูดคุยพี่เซ่าว่าเราอยู่อีกสักสองสามวันและมองหาสัตว์ร้ายอีกครั้งเพื่อที่เราจะสามารถฆ่าพวกมันได้มากขึ้น ”

พรตเฒ่ายิ้มพลางส่ายหัวและพูดว่า

“การพบฝูงจระเข้ขาวเหล่านี้นั้นถือได้ว่าเป็นโชคของเรา แม้ว่าอาณาเขตมังกรแห่งความชั่วร้ายนี้อาจมีสัตว์ร้ายอื่นๆอยู่แต่ก็ไม่มากนัก ฝูงจระเข้ขาวนั้นเป็นสัตว์ที่ดุร้ายรุนแรงและหวงดินแดน ฉันคิดว่าพวกมันคงจะไม่ยอมให้สัตว์ร้ายอื่นๆอาศัยอยู่ที่นี่แน่ หากการตาดเดาของฉันนั้นไม่ผิดไป สัตว์ร้ายตัวอื่นๆในน่านน้ำเหล่านี้อาจถูกฆ่าหรือขับไล่โดยฝูงจระเข้ขาวเหล่านี้ไปหมดแล้ว ”

“นี่ … ”

เหมี่ยวเหวินถังพูดไม่ออก

ถ้าเป็นถังซิ่วที่ได้พูดออกมา บางทีเขาอาจจะแย้งนิดหน่อยเพราะถังซิ่วเป็นเด็กและมีประสบการณ์น้อยเกินไป แต่พรตเฒ่านั้นแก่กว่าเขาและเขาก็มีประสบการณ์มากมาย โดยไม่คำนึงถึงประสบการณ์หรือการวางตัวนั้นทำให้เขาเคารพ

เซ่างหมิงเซิงพูดพร้อมหัวเราะออกมาว่า

“ตั้งแต่ที่พรตเฒ่าได้พูดมาอย่างนั้นแล้ว เราจะกลับไป! มีสัตว์ร้ายระดับ2กว่า24ตัวและเราจะแบ่งกันคนละ6ตัวเท่าๆกัน น่าจะเป็นที่พอใจของทุกคน ”

เหมี่ยวเหวินถังพูดอย่างไม่เต็มใจว่า

“แต่เรายังไม่ได้พบแร่ที่ล้ำค่าเลย ไม่ใช่ว่าพรตเฒ่าได้บอกว่าที่นี้มีมันอย่างนั้นหรอ ”

พรตเฒ่าซือยี่ได้ตอบว่า

“มันมีแร่ล้ำค่าเหล่านั้นอยู่จริงๆแต่คุณถังผู้เจริญได้มีลางสังหรณ์ว่าบนเกาะนั้นมีสัตว์ที่ดุร้ายกว่านี้มาก! ดังนั้นแทนที่จะปฏิเสธและไม่ยอมรับมัน ฉันเลือกที่จะเชื่อคำพูดของเขา เราไม่โลภและกลายเป็นคนที่ไม่เคยพอใจเพราะความโลภ ”

“เราจะกลับไป!”

เหมี่ยวเหวินถังไม่อยากโต้แย้ง ส่วนเรื่องของความโลภนั้นเขาเองก็ไม่อยากพูดถึงมันเพราะยังไงก็ตาม มนุษย์จะยอมตายเพื่อความมั่งคั่งเช่นเดียวกับนกจะอาหาร ที่ๆมีวิกฤตนั้นมักจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอ เมื่อใดก็ตามที่มีอันตรายก็ต้องมีความมั่งคั่ง

หลังจากผ่านไป 2ชั่วโมง ศพของจระเข้ขาวทั้ง24ศพได้ถูกขนย้ายขึ้นเรือสินค้าไปทั้งหมด เมื่อเห็นซากศพของจระเข้ขาวนั้น พวกลูกเรือทุกคนตกใจทันที แต่เนื่องจากเหมี่ยวเหวินถังได้ทำสัญญาที่จะทำให้พวกเขาปิดปากสนิทและจะให้ผลตอบแทนบางอย่างกับพวกเขา นั้นจึงทำให้เหล่าลูกเรือทำเป็นไม่เห็นสิ่งต่างๆ

ระหว่างทางกลับไปยังเกาะหมิงเหมินจากทะเลจีนใต้นั้น ถังซิ่วได้ถามเหมี่ยวเหวินถังและคนอื่นๆเกี่ยวกับสถานการณ์สมุนไพรสมุนไพรของเกาะและผลที่ได้ทำให้เขาประหลาดใจมาก หลังจากเดินทางกลับมายังเกาะนั้น เขาได้มอบหมายให้เหมี่ยวเหวินถังเป็นคนจัดส่งศพของจระเข้ขาวเหล่านั้นไปยังเมืองประตูทิศใต้ที่เมืองสตาร์ซิตี้ ขณะที่เขาไปตลาดสมุนไพรสมุนไพรของเกาะ

เนื่องจากภูเขาแม่น้ำและแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติจำนวนมากได้แผ่ขยายออกไปทั่วแผ่นดินใหญ่ของประเทศ ทำให้มีสมุนไพรมากมายได้สูญพันธุ์ไปในปัจจุบัน แต่เกาะจิงเหมินนั้นแตกต่างออกไปเพราะมันตั้งอยู่ในทะเลจีนใต้ที่มีเกาะมากมายอยู่ใกล้เคียง ซึ่งมีหลายเกาะที่ไม่เคยมีคนไปอยู่อาศัยเป็นเวลาหลายปี พวกมันยังคงมีสมุนไพรที่มีค่ามากมายอยู่ที่นั่นและเมื่อมันได้ถูกเก็บเกี่ยวโดยมนุษย์แล้วนั้น สมุนไพรเหล่านั้นก็จะถูกส่งมายังตลาดสมุนไพรของเกาะโดยทันที

ดังนั้น

ตลาดสมุนไพรของเกาะจิงเหมินจึงมีขนาดใกล้เคียงกับตลาดสมุนไพรของเซี่ยงไฮ้และเมืองของจักรพรรดิ บางครั้งก็มีสมุนไพรที่มีคุณค่าอย่างมากซึ่งทำให้ผู้ซื้อรายใหญ่และพ่อค้าส่วนผสมยาต่างๆเข้ามามีส่วนร่วมในตลาด

สะอาดและเรียบร้อย

นี่เป็นความประทับใจครั้งแรกของถังซิ่วเมื่อเขามาถึงตลาดสมุนไพรสมุนไพรของเกาะ บูธถูกวางไว้ทั้งสองข้างของถนนที่กว้างพร้อมกับเจ้าของร้านที่อยู่เบื้องหลังบูธทักทายผู้เข้าชมสินค้าทั้งหมด ถังซิ่วได้เห็นรูปแบบของตลาดสมุนไพรแล้วและตลาดทั้งหมดถูกแบ่งออกเป็น4พื้นที่โดยแบ่งออกเป็นโซน A, B, Cและ D

พื้นที่ AและBเป็นพื้นที่ของบูธที่สองด้านของถนนสี่สายจะมีบูธขายยามากกว่า1,000 บูธ

พื้นที่CและDเป็นพื้นที่ร้านค้าซึ่งมีอยู่บนถนนทั้งสี่สายเช่นกันแต่มีเพียง500ร้านค้าเท่านั้น

เขายังคงมีเงินอยู่90ล้านหยวนในบัญชีของเขา เงินนี่อาจจะดูเหมือนมากแต่ในความเป็นจริงนั้นมันน้อยมากหากเขาต้องการที่จะซื้อสมุนไพรที่มีค่าเช่นโสมป่าอายุ พันปีที่มีราคาสูงมากจนทำให้น่าใจหายและสำหรับส่วนผสมสมุนไพรที่มีค่าอื่นๆนั้น ราคาก็อาจจะไม่แตกต่างกันซักเท่าไรนัก

ดังนั้นถังซิ่วจึงเดินไปรอบๆในพื้นที่บูธ ครั้งก่อนที่เขาได้ไปตลาดสมุนไพรนั้นคือตลาดที่ตั้งอยู่ในเมืองสตาร์ซิตี้ซึ่งทำให้เขาได้รับดอกไม้ล้ำค่าอย่างดอกบลัดท๊อป

จำนวนสมุนไพรที่เขาต้องการในตอนนี้นั้นเยอะเป็นอย่างมาก ในอีกด้านหนึ่งเขาก็ต้องเก็บส่วนผสมสมุนไพรเพื่อกลั่นน้ำยาระฆังทอง และในทางกลับกันเขายังต้องซื้อส่วนผสมยาเพื่อกลั่นน้ำยารวมพลังวิญญาณอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาระฆังทองหรือน้ำยารวมพลังวิญญาณนั้น เขารู้ว่ามันยากมากที่จะรวบรวมส่วนผสมสมุนไพรทั้งหมดที่เขาต้องการ แต่เขายังสามารถทดแทนส่วนผสมด้วยสมุนไพรอื่นๆที่มีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน

“น้องชาย คุณมาที่นี่เพื่อซื้อส่วนผสมสมุนไพร?”

ชายวัยกลางคนที่มีหนวดเคราเข็นรถเข็นของเขาได้ถามออกมาเมื่อมองเห็นถังซิ่ว

ถังซิ่วตอบเขากลับว่า

“ใช่แล้ว!

ชายวัยกลางคนที่ไว้เคราพูดด้วยเสียงหัวเราะว่า

“น้องชายต้องการซื้อส่วนผสมสมุนไพรเยอะมากใช่หรือไม่? ถ้าเป็นเช่นนั้นทำไมไม่จ้างฉันที่เป็น “คนรับขนสินค้า”หละ?ราคาถูกมากนะ ”

คนเข็นรถ?

ถังซิ่วถามด้วยความสับสนในใจเล็กน้อย หลังจากได้ยินคำอธิบายของชายวัยกลางคนที่ไว้เคราแล้วเขาก็เข้าใจว่า “คนรับขนสินค้า”เป็นบริการที่นำเสนอโดยบางคนสำหรับผู้ที่มาซื้อสมุนไพรเป็นจำนวนมาก ในขณะที่พวกเขาเดินตามผู้ซื้อไปพร้อมกับรถเข็นของพวกเขาเพื่อช่วยยกสมุนไพร เขาไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะถามออกมาว่า

“เท่าไหร่?”

ผู้ชายวัยกลางคนที่ไว้เคราเครารีบพูดว่า

“100หยวนต่อ2ชั่วโมงถ้าคุณซื้อเต็มรถเข็นสมุนไพรเท่านั้น 200หยวนต่อ5 ชั่วโมง ถ้าคุณซื้อมากกว่าหนึ่งรถเข็นละก็ ผมขอแนะนำให้ใช้แพคเกจเหมาวันละ 500 หยวนต่อวัน ”

ถังซิ่วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า

“คุณคุ้นเคยกับตลาดสมุนไพรแห่งนี้ใช่มั้ย?”

ชายวัยกลางคนที่ไว้เคราตอบด้วยรอยกว้างว่า

“ใช่ ฉันคุ้นเคยมาก ฉันเป็นคนรับเข็นที่นี่มากว่า 8 ปีแล้ว ฉันจึงรู้ว่าร้านไหนมีสมุนไพรที่ดีและร้านไหนไม่ ฉันมีความชัดเจนว่าร้านสมุนไพรมีอะไรบ้างและร้านไหนมีสมุนไพรที่มีคุณค่าของแท้ หากคุณซื้อบริการรับขนสินค้าของฉัน ฉันจะรับผิดชอบในการเป็นไกด์ของคุณและอธิบายให้คุณฟังเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดสมุนไพรแห่งนี้ ”

ถังซิ่วได้ตอบว่า

“ผมจะให้คุณ1,000หยวน คุณจะเป็นคนรับขนสินค้าของผมสำหรับวันนี้ ”

สองเท่า?

ชายวัยกลางคนไว้เครามีความสุขมาก การแสดงออกของเขากลับกลายเป็นความเคารพมากขึ้นและพูดด้วยรอยยิ้มว่า

“น้องชายช่างเป็นคนดีฉันมีชื่อว่า,เซ่าด่าซวง ฉันจะทำให้การใช้จ่ายของคุณคุ้มค่า คุณต้องการสมุนไพรอะไรบ้าง?คุณสามารถบอกฉันได้เลยและฉันจะพาคุณไปที่นั่นอย่างรวดเร็ว ”

ถังซิ่วส่ายหัวแล้วพูดว่า

“คุณมากับผมก่อน! ถ้าผมไม่สามารถหาและซื้อสมุนไพรที่ต้องการได้แล้ว คุณค่อยแนะนำผม ”

“โอเค!”

ชายวัยกลางคนไว้หนวดเคราปฏิบัติตามอย่างมีความสุข

อีกสองชั่วโมงต่อมาถังซิ่วได้ซื้อส่วนผสมทั้งหมดที่จำเป็นในการกลั่นน้ำยาระฆังทองคำและแต่ระอย่างนั้นเขาได้ซื้อมาอย่างละสิบเท่า รถเข็นขนาดเล็กกำลังจะเต็มไปหมด

“ฮะ?”

เมื่อถังซิ่วเพิ่งจะเสร็จสิ้นการซื้อขายครั้งล่าสุดและเตรียมที่จะซื้อสมุนไพรอื่นต่อไปเพื่อเอามากลั่นน้ำยารวมพลังวิญญาณนั้น เขาก็เห็นทันทีว่าในช่วงจุดศูนย์กลางของบริเวณนั้นล้อมรอบไปด้วยผู้คนจำนวนมาก ผู้คนจำนวนมากวิ่งออกจากทุกทิศทางไปยังที่แห่งนี้

ชายวัยกลางได้มองตามสายตาของถังซิ่วขณะที่เขาส่ายหน้าอย่างกะทันหันและกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ฝืนๆว่า

“แม่ที่อายุ100 ปีสามารถเลี้ยงลูกได้ 80คน แม่เป็นมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก นี่ครั้งที่เท่าไหร่แล้วหนะ? ครั้งที่16ได้ไหม? ”

ถังซิ่วถามกลับทันทีว่า

“หมายความว่ายังไง?”

ชายวัยกลางคนที่เคราเครากล่าวว่า

“เมื่อ 2 ปีที่แล้วแม่และลูกสาวก็มาที่ตลาดสมุนไพรของเรา แม่ของเธออายุ 40 ปีในเวลานั้นเธอและลูกสาวของเธอยังเด็กมากและน่าสงสารมาก! เธอทนทุกข์ทรมานจากโรคที่แปลกประหลาดและจากความเจ็บปวด เพื่อที่จะรักษาความเจ็บป่วยของลูกสาว แม่ได้เดินทางไปยังเมืองสำคัญต่างๆในประเทศโดยมองหาหมอที่มีชื่อเสียงทุกแห่ง อย่างไรก็ตามแม้ว่าเธอจะได้พบแพทย์ฝรั่งหรือหมอจีนหลายหมื่นคนแล้ว แต่ก็ไม่มีใครสามารถรักษาอาการป่วยแปลกๆของลูกสาวเธอได้เลย ”

“ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ เธอมักจะมาพร้อมกับลูกสาวของเธอและใช้เวลาในจุดศูนย์กลางของตลาดสมุนไพรนี้ พร้อมขอร้องกับแพทย์ทุกคนให้รักษาอาการเจ็บป่วยของลูกสาวเธอ เธอยังประกาศว่าทุกคนที่สามารถรักษาลูกสาวของเธอได้ เธอจะให้สินทรัพย์ที่เธอมีทั้งหมดมูลค่ากว่าล้านหยวน

“2 ปีที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่เธอไม่สามารถที่จะหาหมอที่จะมารักษาลูกของเธอได้ แต่เธอก็ได้ใช้เงินเหล่านั้นไปเกือบหมดแล้ว เป็นเวลา 2เดือนนับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เธอมาที่นี่ ครั้งสุดท้ายที่มานั้น เธอมีเงินเพียงไม่กี่แสนหยวนเท่านั้นดังนั้นตอนนี้เธอควรจะเหลือไม่ค่อยมากนัก ”

ถังซิ่วมองไปที่ชายวัยกลางคนที่ไว้เคราอย่างงุนงง หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าโศกและเจ็บปวด มือของแม่ที่รักและห่วงใย เคลื่อนที่ไปตามเสื้อที่เขาสวมใส่อยู่ ค่อยๆติดกระดุมก่อนที่เขาจะออกไปและเตือนเขาให้อย่ากลับบ้านช้า

แม่เป็นมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก

และคนที่เขาคิดถึงมากที่สุดเมื่ออยู่ในดินแดนแห่งนิรันด์กว่า10,000 ปีนั้นก็คือแม่ของเขา สิ่งที่เขาถืออยู่บนฝ่ามือนั้นตกลงไปกระแทกกับพื้นทันทีเนื่องจากปากของเขาไม่สามารถพูดคำว่า”แม่”ได้!

ในเวลานี้ความเมตตาของเขาได้ทะลักออกมา …

“รีบไปที่นั่นกันเถอะ!”

หลังจากที่เขาพูดเสร็จแล้ว เขาก็รีบเดินไปที่ศูนย์กลางระหว่างบูธกับพื้นที่ร้านค้า

ในศูนย์กลางสี่เหลี่ยมขนาดกลางมีการสร้างแท่นยกจากพื้นสูงครึ่งเมตรขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตลาดสมุนไพรอยู่ที่นั่น เตียงโทรมๆที่มีเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆกำลังขดตัวอย่างหนาวสั่นอยู่ตรงกลางของพื้น20 ตร.ม.

หญิงวัยกลางคนที่สง่างามอยู่ที่ข้างเตียงด้วยใบหน้าที่น่าสงสารและเศร้าหมองขณะที่เธอมองไปรอบๆฝูงชนตลอดเวลาด้วยการแสดงออกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง

” เงินมีเหลืออยู่แค่ 300,000หยวนเท่านั้น ฉันขอร้องว่า หากใครก็ตามที่สามารถรักษาลูกสาวของฉันได้ ฉันจะให้ทุกอย่างที่ฉันมีอยู่ทั้งหมด! เธอนั้นยังเด็กเกินไปที่จะต้องพบเจอกับความเจ็บปวดแบบนี้! ที่นี่คือตลาดสมุนไพรของเกาะจิงเหมินต้องมีแพทย์จีนอยู่บ้างอย่างแน่นอน ได้โปรดช่วยลูกฉันด้วย ฉันขอร้อง~~~! “