…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

(*เปลี่ยนเครื่องรางเป็นกระดาษยันต์แล้วนร้า อ่านเจอในบทนี้พอดี )

ถังซิ่วยักไหล่และพูดอย่างใจเย็นว่า

“ทำในสิ่งที่ตัวเองทำได้แล้วกัน ถึงแม้ว่าสัตว์พวกนั้นยิ่งแข็งแกร่งเท่าไหร่เราก็จะได้รับประโยชน์มากขึ้น แต่เราก็ต้องมีชีวิตอยู่เพื่อจะสนุกกับมัน ”

“ถูกต้องที่สุด”

พรตเฒ่าเห็นด้วยกับคำพูดเหล่านั้น เขาได้ใช้ชีวิตอยู่ได้นานและอายุมากแล้ว และได้เห็นผู้คนนับไม่ถ้วนที่ได้มาซึ่งสมบัติแต่ก็ต้องจ่ายด้วยชีวิตของตัวเอง มันเป็นเหมือนคนกล่าวว่าเงินเป็นสิ่งที่ดี แต่ได้รับมันมาหลังจากที่เราตายแล้วนั้นเป็นสิ่งที่น่าเศร้าที่สุด

หลังจากหันไปเงียบๆครู่หนึ่ง เขาก็มองไปที่ถังซิ่วแล้วพูดว่า

“คุณถังผู้เจริญ พรตเฒ่าคนนี้มีบางอย่างที่ทำให้สับสนในสองสามวันมานี้และต้องการถามคุณแต่ไม่รู้ว่าจะถามดีหรือไม่?”

ถังซิ่วตอบเบาๆว่า

“ว่ามาสิ”

พรตเฒ่าก็ได้ถามว่า

“ระดับพลังบ่มเพาะของคุณนั้นไม่ได้สูงมากแต่ทำไมคุณถึงทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่น่ากลัวดั่งเช่นเมื่อวานนี้ได้? พรตเฒ่าคนนี้ได้อ่านบันทึกโบราณจำนวนมากรวมถึงบันทึกเกี่ยวกับนักบ่มเพาะพลังแต่ก็ไม่เคยมีใครในโลกสามารถทำเช่นนั้นได้ ”

ถังซิ่วได้ตอบเขาว่า

“ฉันเองก็ไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เหมือนกัน”

พรตเฒ่าได้สังเกตถังซิ่วเป็นเวลาครึ่งนาทีและหลังจากที่ได้เห็นใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของถังซิ่วแล้วเขาก็แอบถอนหายใจอยู่ภายในและพูดต่อว่า

“ในเมื่อคุณถังผู้เจริญไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วก็ขอเพียงแค่ลืมมันไปเถอะ พรตเฒ่านี้จะไม่รบกวนคุณถังผู้เจริญอีกต่อไปและกลับไปพักผ่อนก่อน … ”

“คุณไม่สามารถพักผ่อนได้ในขณะนี้”

สายตาของถังซิ่วมองไปไกลๆแล้วพูดออกมาเบาๆ

คิ้วของพรตเฒ่าขมวดขึ้นแล้วถามออกมาว่า

“คุณถังผู้เจริญ ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้น?”

ถังซิ่วชี้ไปที่ทะเลอันไกลโพ้นและพูดว่า

“สัตว์ร้ายพวกนั้นกำลังใกล้เข้ามาจากทะเลห่างออกไปหนึ่งกิโลเมตร เรือสินค้าของเราจอดทอดสมออยู่บนฝั่งและไฟได้ดึงดูดพวกมันมา ไปเรียกเหมี่ยวเหวินถังและเซ่าหมิงเซิงให้ออกมา!!เราจะต้องล่อสัตว์ร้ายพวกนี้ออกไป ”

พรตเฒ่าถามออกมาว่า

“ทำไมเราถึงต้องล่อมันออกไปด้วย?”

“ถ้านายต้องการให้ตัวตนผู้บ่มเพาะของพวกเรานั้นถูกเปิดเผย นายก็สามารถฆ่าพวกสัตว์เหล่านั้นได้อย่างอิสระ”

ลูกเรือ?

เมื่อได้ยินคำพูดของถังซิ่วแล้ว พรตเฒ่าก็ตระหนักได้ทันที

ถังซิ่วมองไปที่หลังจากพรตเฒ่าที่เดินออกไปในขณะที่เขาจะรีบกลับไปที่ห้องของเขาและได้เอาสิ่งที่เขาเตรียมไว้แล้วกระโดดลงมาจากหัวเรือพร้อมกับนิ้วเท้าของเขาที่ค่อยๆแตะลงบนพื้นทะเลเบาๆแล้วพุ่งไปที่ชายฝั่งในเวลาแค่สองลมหายใจ หลังจากที่มาถึงฝั่งแล้วนั้น เขาก็รีบจัดวางค่ายกลทันที

ก่อนที่จะมาถึง

เขาได้เขียนกระดาษยันต์ไว้มากมายพร้อมเตรียมหยกจำนวนมากไว้เป็นรากฐานของค่ายกลและถึงขั้นที่คิดไว้แล้วว่าจะใช้ค่ายกลอะไรในตอนที่มาถึงที่นี่

ค่ายกลป้องกัน!

ค่ายกลเวทย์มนต์!

ค่ายกลสังหาร!

การรวมพลังค่ายกลทั้งสามประเภทไว้เป็นค่ายกลเดียวกันนั้นเป็นรูปแบบที่ง่ายที่สุดในการสร้างค่ายกลเวทย์มนต์สังหาร

การสร้างค่ายกลเหล่านี้นั้นไม่จำเป็นต้องใช้พลังวิญญาณหรือระดับการบ่มเพาะ เมื่อตอนที่เขาอยู่ในจุดสูงสุดของดินแดนแห่งนิรันด์นั้น เขาก็ไม่จำเป็นจะต้องทำอะไรเลย เพียงแค่สบัดข้อมือ เขาก็สามารถวางค่ายกลได้กลางอากาศด้วยความเร็วพริบตาเท่านั้น เขาก็สามารถสร้างค่ายกลที่มีประสิทธิภาพอย่างน่าอัศจรรย์ได้ในทันที

สองนาทีต่อมา

ถังซิ่วได้วางรูปแบบค่ายกลเวทย์มนต์สังหารไว้เรียบร้อยแล้วและได้ใช้หยกและกระดาษยันต์ทั้งหมดที่เขาเอามาไปกว่าครึ่ง

“วิสสสสสสสส…”

ร่างของถังซิ่วเคลื่อนที่ไปในพริบตาและเมื่อเขากลับไปถึงที่เรือบรรทุกสินค้าแล้ว เขาก็ได้เห็นว่าพรตเฒ่าและคนอื่นๆนั้นได้มารออยู่แล้ว เหมี่ยวเหวินถังกำลังถือดาบอยู่อย่างมั่นคงพร้อมกับเซ่าหมิงเซิงที่กำลังปลดปล่อยจิตสังหารออกมาอย่างรุนแรง

“พวกนาย แล้วสัตว์พวกนั้นไปไหน?”

ถังซิ่วได้สังเกตบริเวณรอบๆของทะเลแต่เขาไม่สามารถหาร่องรอยของสัตว์ร้ายใดๆได้เลย

เหมี่ยวเหวินถังชี้ไปที่ทะเลด้านหน้าและพูดว่า

“พวกมันได้ดำน้ำลงไปแล้ว ลูกเรือทั้งหมดกำลังหลับอยู่และฉันได้ปิดไฟทั้งหมดของเรือแล้ว สัตว์ร้ายเหล่านั้นสามารถคาดเดาตำแหน่งโดยประมาณของเรือสินค้าได้แต่พวกมันยังไม่ได้โจมตีเรา ”

ถังซิ่วได้ถามต่อว่า

“แล้วมันเป็นประเภทไหนกัน?”

บนใบหน้าของเหมี่ยวเหวินถังปรากฏรอยยิ้มที่ฝืนๆแล้วตอบว่า

“จระเข้ขาว! เป็นฝูงของจระเข้ขาว! ”

จระเข้ขาว?

ถังซิ่วมองไปที่เหมี่ยวเหวินถังด้วยความรู้สึกมึนงงแล้วถามว่า

“สัตว์ร้ายพวกนั้นมีพลังมากไหม?พวกมันมีระดับสูงมากหรือ? ”

ช่วงที่เขาอยู่ในดินแดนแห่งนิรันด์นั้น เขารู้ว่าสัตว์ร้ายของที่นั่นก็แบ่งเป็นระดับชั้นแต่ว่า เขานั้นไม่รู้ระดับของโลกใบนี้ว่ามันแตกต่างกันแค่ไหน

เหมี่ยวเหวินถังก็ได้ตอบเขากลับว่า

“พวกมันเป็นสัตว์ที่ดุร้ายระดับ2และมีความแข็งแกร่งมาก ถ้าฉันเจอหนึ่งในนั้นฉันอาจจะเผชิญหน้ากับมันได้ แต่ถ้าต้องเผชิญหน้ากับสัตว์2-3ตัวที่เป็นระดับ2ละก็ ฉันคิดว่าการวิ่งหนีเป็นตัวเลือกเดียวสำหรับฉัน ”

ถังซิ่วได้ถามต่อทันทีว่า

“อธิบายให้ฉันเห็นถึงความแตกต่างของสัตว์ร้ายเหล่านี้หน่อยสิ”

“นายไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้งั้นหรอ?”

เหมี่ยวเหวินถังถามด้วยความประหลาดใจ

ถังซิ่วส่ายหัวและพูดว่า

“ไม่รู้เลยซักนิด”

เหมี่ยวเหวินถังได้อธิบายว่า

“สัตว์ที่ดุร้ายถูกแบ่งออกเป็นสามชั้น ตัวที่เพิ่งได้รับสติปัญญา พวกมันจะมีพลังและความรวดเร็ว สัตว์ร้ายเหล่านั้นเรียกว่าระดับที่1 ส่วนชั้นที่2คือสัตว์ที่มีสติปัญญาของเด็กอายุ7-8ขวบและสามารถต่อสู้กับสัตว์ระดับที่1กว่า10ตัวได้อย่างสบายๆ สัตว์ร้ายในระดับที่3นั้นมีสติปัญญาของผู้ใหญ่และเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวและหายากมาก พลังโจมตีของมันก็ทรงพลังอย่างยิ่งแม้ว่าฉันและพี่เซ่าจะร่วมมือกันก็ไม่สามารถที่จะต่อกรกับมันได้หรอก ฉันไม่เคยพบกับสัตว์ร้ายระดับ3แต่เคยได้พบกับระดับสองแค่เพียง2ครั้งและตอนที่ฉันได้เจอสัตว์ระดับที่2นั้น ระดับพลังการบ่มเพาะของฉันยังไม่สูงมากนักจึงได้แต่วิ่งหนีทั้งสองครั้ง ”

พรตเฒ่าส่ายหัวแล้วพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“นอกจากนี้ยังมีสัตว์ที่ร้ายระดับ4อีกด้วย ฉันได้เห็นบันทึกในหนังสือบันทึกโบราณ มันมีบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าสัตว์ที่ร้ายระดับที่4ได้ปรากฏตัวและระบาดทั่วโลก สัตว์ร้ายชนิดนี้เรียกว่าสัตว์ประหลาด ความแรงของร่างกายและความเร็วของร่างกายไม่เพียงแต่จะมหาศาลเท่านั้น แต่พวกมันยังสามารถควบคุมพลังแห่งธรรมชาติและใช้เวทมนตร์ได้ ”

“มันมีอยู่จริงหรือ?”

การแสดงออกของความสับสนเกิดขึ้นในจิตใจของเหมี่ยวเหวินถังและเซ่าหมิงเซิง

นักพรตเฒ่าก็ได้ตอบพวกเขากลับไปว่า

“ใช่!

ถังซิ่วได้พูดต่อว่า

“ฉันเข้าใจแล้ว เราต้องระมัดระวังและใส่ใจกับความปลอดภัยของเราเป็นอันดับแรก เมื่อจระเข้ขาวปรากฏตัวขึ้น เราจะล่อพวกมันไปทาง10,000เมตรตามแนวชายฝั่งทันที ฉันได้วางค่ายกลเอาไว้ที่นั่น ดังนั้นมันคงจะง่ายขึ้นเมื่อต้องฆ่าพวกมัน”

“เยี่ยม!”

ทั้งสามคนมีความสุขเป็นอย่างมาก

10 นาทีต่อมา ท่าทางของถังซิ่วและคนอื่นๆเปลี่ยนไปเนื่องจากมีจระเข้ขาวกว่า20ตัวที่ผิวน้ำและกำลังขึ้นมาจากทะเล ร่างกายของมันนั้นขาวเหมือนหิมะและร่างกายของพวกเขามีขนาดใหญ่กว่าจระเข้ธรรมดาถึงหลายเท่า

“จำนวนสัตว์พวกนี้มากเกินไป เราไม่สามารถล่าช้าหรือติดแหงกกับพวกมันได้ เราต้องรีบล่อให้พวกมันเข้าไปในค่ายกลที่ถังซิ่วได้สร้างเอาไว้โดยเร็ว!”

พรตเฒ่าพูดออกมาระหว่างที่แสดงท่าทางที่สง่าสาม

เซ่าหมิงเซิงกระโดดขึ้นขณะที่ร่างของเขาพุ่งไปราวกับลูกธนูที่ถูกยิงออกมา ขณะที่เขาพุ่งเข้าหาจระเข้ขาวนั้น ดายยาวได้อยู่ในมือของเขาได้เฉือนที่จระเข้ขาวที่อยู่ห่างออกไป10เมตรด้านหน้าของเขาอย่างรวดเร็วและไร้ความปรานี

“บูม ……”

จระเข้สีขาวตัวนี้รู้มานานแล้วว่าเซ่าหมิงเซิงกำลังพุ่งเป้ามาที่มัน ร่างของมันขยับอย่างรวดเร็วเพื่อพยายามหลีกเลี่ยงการโจมตีของเซ่าหมิงเซิง อย่างไรก็ตามความเร็วของเซ่าหมิงเซิงนั้นเร็วมากความไวของดาบนั้นได้ตัดผ่าน้ำทะเลออกเป็นสองส่วนแล้วกระแทกกับจระเข้ตัวนั้นโดยทันที แม้ว่าเซ่าหมิงเซิงจะใช้พลังไปนั้น แต่ก็ทำได้เพียงแค่ทำลายเกล็ดของจระเข้ขาวและมันรับบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น

มีจระเข้ขาวมากกว่า20ตัวที่อยู่ใกล้ๆ พวกมันจ้องไปที่เซ่าหมิงเซิงเป็นเป้าหมายของพวกมัน พร้อมพุ่งเข้าใส่เขาอย่างรวดเร็ว

“วิ่ง…”

เซ่าหมิงเซิงไม่ยืดเยื้อการต่อสู้และรีบถอยกลับมาทันที

ถังซิ่วก้าวอย่างรวดเร็วเหมือนลูกศรขณะที่กุมกระดาษยันต์กระดาษสีเหลืองไว้ในมือ ขณะที่เซ่าหมิงเซิงกำลังวิ่งกลับไปที่ฝั่งเขาได้อัดพลังแห่งดวงดาราลงไปในกระดาษยันต์และซัดมันออกมาทันที แส้สายฟ้าฟาดลงมาใส่จระเข้ที่กำลังไล่ตามมาอย่างรวดเร็ว

“โคร้ม เปรี้ยง โคร้ม … ”

พร้อมกับเสียงโหยหวนของจระเข้มากมายที่ถูกสายฟ้าฟาดขาดเป็นชิ้นๆไป

ในขณะเดียวกันที่สายฟ้าฟาดลงมานั้นมันได้ลงไปในน้ำทะเลด้วยและเนื่องจากน้ำมีลักษณะที่เป็นตัวนำไฟฟ้าจึงส่งผลให้จระเข้ขาวบางตัวอยู่ในบริเวณโดยรอบถูกช๊อตอยู่ครู่หนึ่งและลดความเร็วของมันลง

“ยันต์สายฟ้า?”

ท่าทางของเซ่าหมิงเซิงและคนอื่นๆเปลี่ยนไปเมื่อดวงตาของพวกเขามองไปที่ถังซิ่วด้วยการแสดงออกที่ตกใจอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนที่เดินบนเส้นทางการบ่มเพาะแบบเซียนแต่ก็ไม่สามารถยันต์สายฟ้าเหล่านี้ได้

“อย่ายืนนิ่งอยู่สิ! จระเข้ขาวเหล่านั้นมันโกรธแล้ว เราต้องอาศัยความโกรธของมันล่อให้พวกมันเข้าไปยังค่ายกลที่ฉันได้วางเอาไว้! ”

ถังซิวรีบวิ่งกลับขณะที่เขาพุ่งไปทางด้านซ้ายของชายฝั่ง

ภายในเวลาเกือบ 10 นาที …

ทั้งสี่คนใช้ความพยายามมาก และสามารถล่อจรเข้ขาวมาได้ถึง24ตัว ก่อนถึงหน้าค่ายกลเวทย์มนต์สังหาร ถังซิ่วก้าวเข้าไปในค่ายกลพร้อมกับตะโกนด้วยเสียงลึกว่า

“พวกนายทั้งสามคนตามหลังฉันมา ตั้งใจมองการเดินของฉันให้ดี!และเหยียบตามรอยเท้าของฉัน! ”

“ตกลง!”

ถึงแม้ว่าทั้งสามคนยังไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งของค่ายกลที่ถังซิ่วได้วางเอาไว้นั้น แต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะละเลยและตามหลัง ถังซิ่วไปในค่ายกลเวทย์มนต์สังหารนั้น

จระเข้ขาวกว่า24ตัวคลานออกมาจากทะเลอย่างรวดเร็ว ความเร็วของมันนั้นเหนือกว่าคนธรรมดาหลายเท่า ในเพียงไม่กี่ลมหายใจ พวกเขาก็ได้เข้าไปในค่ายกลเหล่านั้นแล้ว

ด้านในของค่ายกลนั้น ถังซิ่วได้อธิบายเส้นทางพื้นฐานที่สุดเพื่อให้พวกเขาไปยืนประจำตำแหน่งอีกสามแห่ง ส่วนตัวเขาเองนั้นรีบวิ่งไปตามลำพังเพื่อซ่อนตัวอยู่ในตำแหน่งหลักของค่ายกลเพราะถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าก็ตาม แต่เขาก็ยังไม่สามารถเป็นคู่มือกับสัตว์ร้ายระดับ2ได้ ถ้าเขาไม่ได้ใช้ยันต์สายฟ้าของเขานั้น แม้ว่าเขาจะสามารถฆ่าจระเข้ขาวได้ แต่เขาอาจจะต้องจ่ายมันด้วยชีวิตของเขา

ถังซิ่วยืนอยู่ที่ในแหน่งหลังของค่ายกลในขณะที่เขามองไปที่จระเข้ที่อยู่ภายในค่ายกลเทย์มนต์สังหารในขณะที่พวกมันแตกกลุ่มกันเหมือนแมลงวันไร้หัวซึ่งกระจัดกระจายไปทั่วสถานที่ รอยยิ้มได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา ด้วยตำแหน่งของเขานั้นสามารถมองเห็นฉากทั้งหมดภายในค่ายกลได้อย่างชัดเจน แต่คนอื่นๆและจระเข้ขาวไม่สามารถมองเห็นเขาได้

ความสามารถในการต่อสู้ของเซ่าหมิงเซิงและเหมี่ยวเหวินถังนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แม้ว่าในสายตาของถังซิ่วนั้น การเคลื่อนไหวของพวกเขาจะหยาบกระด้างและไม่มีเทคนิคการต่อสู้หรือกลยุทธ์เลย แต่เนื่องจากพลังบ่มเพาะที่สูงของพวกเขา พละกำลังของพวกเขาได้รับการเสริมแกร่งอย่างมาก พวกเขาต่อสู้กันอย่างต่อเนื่องกับจระเข้ขาวตัวเดียวกัน เพราะพวกเขารู้ว่าค่ายกลนั้นทำงานอย่างไรและรีบเคลื่อนที่ไปตามคำแนะนำของถังซิ่ว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่โดนพลังของค่ายกลสกิลฆ่าตายซึ่งแตกต่างจากจระเข้ขาวที่เคราะห์ร้ายเหล่านั้น

ภายในค่ายกล แสงสะท้อนของคมดาบฉายไปทั่วทั้งค่ายกล ทุกๆครั้งที่แสงเหล่านั้นออกมา จระเข้ขาวแต่ละตัวก็จะได้รับอาการบาดเจ็บเพิ่มขึ้น

ส่วนพรตเฒ่านั้นได้โบกที่ปัดฝุ่นในมือของเขาและทุกครั้งที่มันได้ฟาดไปโดนจระเข้เหล่านั้น มันจะส่งเสียงร้องโหยหวนออกมาทันที เห็นได้ชัดว่าการโจมตีทุกครั้งที่เขาส่งออกมานั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก

ครึ่งชั่วโมงต่อมา …

จระเข้ขาว 24 ตัวถูกสังหารทั้งหมด

ทั้งสามคนก็ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

ถังซิ่วได้เอาค่ายกลเวทย์มนต์สังหารออกไปในขณะที่เขามองไปที่ซากศพของจระเข้ขาวเหล่านั้น รอยยิ้มที่พึงพอใจได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาเนื่องจากตามข้อตกลงของพวกเขานั้น สัตว์ร้ายที่ถูกฆ่าทั้งหมดจะถูกแบ่งออกอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งหมายความว่าเขาจะได้รับศพของจระเข้ขาวเหล่านี้6ศพ ศพของจระเข้ขาวระดับ2หนึ่งตัวสามารถช่วยให้ประโยชน์กับเขาจนถึงขั้นสูงสุดของระดับขั้นเสริมสร้างผิวหนังถึงเลยทีเดียว ส่วนอีกห้าตัวที่เหลือนั้นน่าจะพอสำหรับขั้นเสริมสร้างเลือดเนื้อและขั้นเปลี่ยนแปลงกระดูก