GOS ตอนที่ 8 – แข็งแกร่งกว่าที่คิด

 

“บนเกาะนี้ .. มีโจรสลัดรึเปล่า?”

 

เหล่าทหารเรือฝึกหัดต่างจ้องมองเข้าไปยังเกาะ และเมื่อได้ยินเสียงคำรามดังลอดออกมาพวกเขาก็เริ่มที่จะรู้สึกกลัว

 

พลเรือโท แสยะยิ้มออกมา ก่อนที่จะกล่าวว่า

 

“โจรสลัด? ไม่ ไม่ พวกคุณยังอ่อนแอเกินไปที่จะสู้กับพวกมัน โจรสลัดนั้นเป็นพวกที่โหดร้าย สิ่งที่อยู่ภายในเกาะแห่งนี้เหมาะกับการประเมินผลการต่อสู้ของพวกคุณ!”

 

“ภารกิจในการประเมินผลการต่อสู้ของพวกคุณก็คือ ฆ่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนเกาะแห่งนี้ ที่เปล่งเสียงออกมา ไม่จำกัดการใช้อาวุธ ยกเว้นอาวุธหนัก ส่วนอาวุธปืนสามารถนำเข้าไปได้!”

 

“ทุกๆสิ่งมีชีวิตที่พวกคุณล่าจะกลายเป็นคะแนนให้กับคุณ ยิ่งมันแข็งแกร่ง ก็จะยิ่งได้คะแนนเยอะ และเช่นกัน ถ้ามันอ่อนแอ คะแนนที่ได้ก็จะน้อยตามไปด้วย และแน่นอนว่าพวกคุณสามารถ ‘ร่วมทีม’ กันได้แต่คะแนนจะต้องถูกแบ่งออกมาเท่าๆกันตามจำนวนสมาชิกทั้งหมดในทีม”

 

พลเรือโท กล่าว

 

ใบหน้าของพลเรือโท ค่อนข้างจริงจัง จึงทำให้บรรยากาศเงียบลงไปชั่วขณะ

 

แม้ว่าพวกเขาจะเป็นทหารเรือฝึกหัด แต่พวกเขาก็เป็นเพียงคนธรรมดา จึงช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่สบายใจเมื่อได้ยินเรื่องนี้

 

มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังคงสงบเหมือนกับเดรค

 

ใบหน้าของโรจาปรากฏความประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะกล่าวว่า

 

“การประเมินในครั้งนี้ไม่ใช่การต่อสู้กับโจรสลัด แต่เป็นการต่อสู้กับสัตว์ร้าย?”

 

ความจริงแล้วการ์ปจะต้องรู้เรื่องนี้แน่ๆ แต่โรจาก็ไม่ได้เอ่ยถามเขา

 

พลเรือโท ดูเหมือนจะพอใจกับท่าทีของทหารเรือฝึกหัดในตอนนี้ หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเขาก็กล่าวต่อว่า

 

“บนเกาะแห่งนี้มีอุปกรณ์เฝ้าระวังอยู่ทุกแห่ง รวมไปถึงบนท้องฟ้า”

 

“อุปกรณ์เฝ้าระวังเหล่านี้นอกจากจะใช้เป็นตัวบันทึกข้อมูลของสัตว์ร้ายที่พวกคุณฆ่าแล้ว มันยังคอยแจ้งเตือนเมื่อพวกคุณอยู่ในภาวะวิกฤตอีกด้วย ทางเราจะส่งทีมกู้ภัยไปช่วยทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเราเข้าไปช่วยแล้ว คนๆนั้นก็จะถูกตัดสิทธิ์!”

 

“แต่ …”

 

พลเรือโท กล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า

 

“นั่นก็ยังไม่รับประกันความปลอดภัยของทุกคนอยู่ดี! เพราะบางทีเมื่อพวกคุณพบเจอกับสัตว์ร้ายที่แข็งแกร่งพวกคุณอาจถูกมันทุบตีทันทีที่พบเจอ! และมันอาจจะสายเกินไปก่อนที่ทีมกู้ภัยจะไปถึง!”

 

“ช่วงเวลาการประเมินในครั้งนี้คือ สามวัน! หลังจากผ่านไปสามวันแล้ว พวกเราจะรวมตัวกันอีกครั้ง ตอนนี้ฉันขอให้พวกคุณทุกคนโชคดี!”

 

หลังจากพูดจบพลเรือโท ก็จากไปอย่างไม่แยแสพร้อมกับสั่งให้ลูกน้องแจกจ่ายอาหารแห้งให้กับเหล่าทหารเรือฝึกหัด

 

ทหารเรือธรรมดานั้นจะไม่ได้เข้าร่วมการประเมินแบบนี้ อย่างไรก็ตามสำหรับทหารเรือฝึกหัดที่มาจากศูนย์ใหญ่กองทัพเรือมารีนฟอร์ด ทุกคนจะต้องเข้ารับการประเมินผลกราต่อสู้ในครั้งนี้ โดยพวกเขาให้เหตุผลว่า : การจะเป็นยอดคนได้จำเป็นที่จะต้องยอมเสียเลือดเสียเนื้อบ้าง!

 

ไม่นานนักเหล่าทหารเรือฝึกหัดก็ขึ้นมาบนเกาะ

 

พวกเขาส่วนใหญ่เลือกที่จะพกอาวุธปืนไปด้วย มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ไม่ได้พกปืนไป อย่างเช่น โรจาและเดรค

 

อาวุธของเดรคนั้นมีเพียงดาบและขวานเท่านั้น ส่วนโรจามีเพียงโฮโนะสึกิ

 

น้อยคนนักที่ไม่พกอาวุธปืน และเมื่อเหล่าทหารเรือฝึกหัดเห็นว่าเดรคไม่ได้พกปืนมาด้วย พวกเขาก็ต่างมองเดรคด้วยความหวาดกลัวและความอิจฉา

 

นั่นก็เพราะเดรคนั้นแข็งแกร่ง และเขาคงมั่นใจอย่างมากว่าอาวุธปืนนั้นไม่จำเป็นสำหรับเขา — ในสายตาของเดรคอาวุธปืนธรรมดาๆนั้นไร้ประโยชน์!

 

ในเวลานี้โรจาก็เดินลงจากเรือรบแล้วเช่นกัน

 

และหลายๆคนก็เผลอมองเขาอย่างไม่ตั้งใจ ทันใดนั้นพวกเขาก็ต้องรู้สึกประหลาดใจเมื่อพบว่าโรจานั้นไม่ได้นำอาวุธปืนมาด้วย บนตัวของโรจานั้นมีเพียงอาวุธดาบเท่านั้น!

 

แต่สายตาที่พวกเขาจ้องมองโรจานั้นแตกต่างจากสายตาที่พวกเขาจ้องมองเดรคอย่างสิ้นเชิง เพราะเดรคนั้นแข็งแกร่ง จึงไม่จำเป็นต้องพกปืนติดตัว แต่สำหรับโรจานั้นมันคงเป็นเพียงแค่ความเย่อหยิ่ง!

 

นี่เจ้าโรจามันไม่รู้รึไงว่าการประเมินในครั้งนี้อันตรายขนาดไหน?

 

บางทีอาจจะถึงตายเลยก็ได้!

 

ใบหน้าของเหล่าทหารเรือฝึกหัดต่างเปลี่ยนเป็นน่าเกลียด ในขณะที่บางคนกำลังจ้องมองโรจาราวกับเป็นเพียงคนงี่เง่า

 

“เฮ้ นี่นายอยากตายรึไง?”

 

ฮินะกล่าวออกมาเมื่อเห็นแบบนั้น  

 

ฮินะนั้นไม่สามารถทนนิ่งเฉยได้ เธอจึงเตือนเขา

 

“ฉันแนะนำว่านายควรพกปืนไปด้วย เพราะการประเมินผลการต่อสู้ในครั้งนี้อันตรายมาก”

 

เมื่อได้ยินเสียงฮินะ โรจาก็จ้องมองไปยังเธอ และรู้สึกว่าใบหน้าของฮินะนั้นดูคุ้นๆ ทันใดนั้นเขาก็จำเธอได้! เธอคนนี้คือ ฮินะที่กินผลปีศาจโอริโอริสายพารามีเซียเข้าไป!

 

แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอยังไม่ได้กินมัน

 

“ปืนไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับฉัน ฉันเลยไม่พกมัน”

 

โรจายักไหล่พร้อมกับจ้องมองฮินะ

 

ถึงแม้ในโลกใบนี้ จะมีบางคนที่แข็งแกร่งแต่ก็ยังใช้อาวุธปืน แต่เส้นทางแห่งดาบของโรจานั้นไม่จำเป็นที่จะต้องใช้มัน ยิ่งไปกว่านั้นปืนธรรมดานั้นไร้ประโยชน์สำหรับเขา

 

“นี่นาย!”

 

แม้ว่าโรจาจะพูดความจริงออกไป แต่ฮินะก็ไม่เชื่อ เธอคิดว่าโรจานั้นเป็นเพียงคนโง่เง่า ก่อนที่จะไม่กล่าวอะไรออกมาอีก แล้ววิ่งหายเข้าไปในป่า

 

เมื่อเห็นท่าทีของฮินะ โรจาก็อดไม่ได้ที่จะกลอกตา เขารู้สึกหมดหนทางจริงๆ เขาก็แค่พูดความจริงทำไมเธอต้องโกรธด้วย?

 

โรจาส่ายหัว ก่อนที่จะเดินตรงเข้าไปในป่า

 

 

บนเรือรบ

 

ภายในห้องกว้างที่เต็มไปด้วยหน้าจอ ที่กำลังฉายภาพเหตุการณ์ทั้งหมดบนเกาะอยู่

 

ภายในห้องมีทหารเรืออยู่หลายสิบคน พวกเขากำลังเฝ้าดูหน้าจอต่างๆ เพื่อบันทึกคะแนนของทหารเรือฝึกหัดแต่ละกลุ่ม พร้อมทั้งเตรียมการช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุวิกกฤต

 

ส่วนอดีตพลเรือเอกที่ตอนนี้กลายเป็นหัวหน้าครูฝึกของค่ายชั้นยอด — เซเฟอร์ นั้นกำลังยืนอยู่ในลักษณะไขว้แขน ขณะที่เหลือบมองไปยังหน้าจอต่างๆพร้อมกับมองการ์ปที่กำลังสวาปามอาหารอยู่

 

“นั่นญาติของนายที่ชื่อโรจาใช่ไหม?”

 

เซเฟอร์ถามขณะที่ชี้ไปยังหน้าจอ หน้าจอหนึ่ง

 

“ใช่”

 

การ์ปตอบแค่สั้นๆ ราวกับว่าเขาไม่ห่วงโรจาเลยแม้แต่น้อย แต่ควาจริงแล้วเขานี่แหละที่กังวลเรื่องโรจามากที่สุด

 

“ฉันได้ยินมาว่านายช่วยฝึกฝนเขาตลอดทั้งเดือนที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่าเขาจะอยู่อันดับท้ายๆของค่ายฝึก การที่เขาจะได้เข้าร่วมกับค่ายชั้นยอดคงเป็นเรื่องยาก”

 

เซเฟอร์จ้องมองหน้าจอที่แสดงภาพโรจากำลังเดินเข้าไปในป่าพลางส่ายศีรษะของเขา

 

เดือนเดียวมันสั้นเกินไป … ถึงแม้คนที่ฝึกให้เขาจะเป็นการ์ปก็ตาม แต่ต้องไม่ลืมนะว่าโรจานั้นอยู่อันดับท้ายๆของค่ายฝึก เขาไม่มีทางแข็งแกร่งขึ้นในระยะเวลาสั้นๆอย่างแน่นอน

 

อย่างไรก็ตาม

 

ในเมื่อเป็นญาติของการ์ป เซเฟอร์ก็ไม่ได้รังเกียจอะไรที่จะรับโรจาเข้ามาฝึกฝนในค่ายชั้นยอด เพราะเขานั้นเป็นเพื่อนกับการ์ปมาหลายสิบปีแล้ว

 

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เซเฟอร์ เจ้าเด็กเหลือขอนั่นแข็งแกร่งกว่าที่นายคิด”

 

เมื่อการ์ปได้ยินเซเฟอร์กล่าว เขาก็กลืนอาหารลงท้อง ก่อนที่จะหัวเราะออกมา

 

“โอ้ จริงหรือ? งั้นฉันจะรอดู”

 

เมื่อได้ยินการ์ปตอบกลับมา เซเฟอร์ก็กล่าวตอบและไม่คิดจะเถียงอะไรกับการ์ปอีก ก่อนที่จะหันกลับไปเฝ้ามองหน้าจออีกครั้ง