GOS ตอนที่ 69 – แต้มคุณูปการ

 

“แต่ ..”

 

“พลเรือโทยามาคาจิ ฉันคิดว่าเราควรเคารพในการตัดสินใจของโรจา”

 

เมื่อเห็นว่ายามาคาจิต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง คาร์ลที่ยืนอยู่ข้างๆเขาก็รีบเอ่ยออกมาทันที

 

ยามาคาจิหันไปมองคาร์ล ก่อนที่จะหันมามองโรจา จากนั้นก็ส่ายหัวอย่างหมดหนทาง แล้วกล่าวว่า

 

“ตกลง ในเมื่อเป็นการตัดสินใจของเธอ … โรจา! เธอจะต้องระมัดระวังตัวเองให้มากนะ ถึงแม้เธอจะมีพละกำลังอันแข็งแกร่ง แต่การปราบปรามโจรสลัดค่าหัว 200 ล้านแบรี่ในนิวเวิร์ลไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

 

“นอกจากนี้กลุ่มโจรสลัดดาบเงินนั้นโหดร้ายป่าเถื่อนเป็นอย่างมาก พวกมันเคยแม้แต่ฆ่าคนทั้งเกาะมาแล้ว!”

 

เมื่อได้ยินคำเตือนของยามาคาจิ ดวงตาของโรจาก็เป็นประกายเล็กน้อย

 

“ผมเข้าใจแล้ว! ขอบคุณสำหรับคำเตือนนะครับ”

 

กล่าวจบ โรจาก็หันหลังและเดินออกจากสำนักงาน

 

ยามาคาจิจ้องมองแผ่นหลังของโรจาที่กำลังเดินจากไป ก่อนที่จะส่ายหัวแล้วกล่าวว่า

 

“เขาช่างเหมือนกับการ์ปซังจริงๆ … เหมือนในด้านที่เป็นคนมุทะลุ …”

 

ข้างๆยามาคาจิ ที่ปรึกษาคาร์ลยังคงมีท่าทีนิ่งเฉยราวกับไม้ตายด้าน แต่ในจิตใจของเขา กลับเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะแห่งความสะใจ

 

เดิมที คาร์ลคิดว่าแผนการของเขาได้ล้มเหลวไปแล้ว แต่เขาไม่คาดคิดเลยว่าโรจาจะเลือกเส้นทางที่ยากลำบาก! ไม่ยอมเลือกชะลอการประเมินเพื่อเลือกโจรสลัดอ่อนแอเป็นเป้าหมาย! แต่ดันเลือกหนึ่งในกลุ่มโจรสลัดที่โหดเหี้ยมป่าเถื่อนที่สุด!

 

โรจานั้นสามารถเหวี่ยงกำปั้นจนทะลุเครื่องจักรทดสอบพละกำลังได้ ซึ่งนั่นหมายความว่าความแข็งแกร่งของเขาน่าจะพอๆกับยศพลเรือโท! ถึงแม้ว่าโรจาจะเลือกกลุ่มโจรสลัดกลุ่มอื่นที่มีค่าหัว 200 ล้านเขาก็คงจะไม่ได้รับอันตรายอะไรมากมายนัก

 

แต่เวลานี้ … มันไม่เหมือนกัน!

 

กลุ่มโจรสลัดดาบเงินนั้นไม่ใช่กลุ่มโจรสลัดปกติ! พวกมันจะไม่หนีเมื่อเจอกับกองทัพเรือ! แต่พวกมันเลือกที่จะต่อสู้! และเมื่อเกิดการต่อสู้อันดุเดือดรุนแรงขึ้นแล้วโรจาประมาท เขาก็อาจจะถึงขั้นเสียชีวิตในการประเมินการในด่านที่ 2 นี้เลยก็ได้! ถึงแม้คาร์ลเพียงจะต้องการเพียงแค่สร้างปัญหาเล็กๆน้อยให้โรจา แต่เขาก็ยินดีที่จะให้เกิดสถานการณ์ที่พึ่งกล่าวมาเช่นกัน

 

 

กลุ่มโจรสลัดดาบเงิน เป็นกลุ่มโจรสลัดที่อยู่ในนิวเวิร์ล

 

ภารกิจปราบปรามกลุ่มโจรสลัดดาบเงินถูกมอบหมายให้ หน่วย G-4 หลังจากที่เลือกเป้าหมายเรียบร้อยแล้ว โรจาก็ถูกส่งตัวไปไปยังหน่วย G-4 ทันที

 

“หืม …มีเล่าบิงที่ต้องการจบการศึกษาจากค่ายชั้นยอดมาที่นี่? ภารกิจของเขาคือปราบปรามกลุ่มโจรสลัดดาบเงินร่วมกับพวกเรา แต่กัปตันของกลุ่มโจรสลัดดาบเงินนั้นมีค่าหัวถึง 200 ล้านแบรี่ …”

 

ณ ครึ่งหลังของแกรนไลน์(นิวเวิร์ล) ภายในฐานของหน่วย G-4

 

พลเรือโทบาสทิลกำลังจ้องมองไปยังโรจา ทั้งใบหน้าและดวงตาของเขาเผยให้เห็นถึงความประหลาดใจ

 

บาสทิลนั้นเคยเป็นลูกศิษย์ของเซเฟอร์ และเคยเป็นหนึ่งในเล่าบิงจากค่ายชั้นยอดเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงคุ้นเคยกับการประเมินการจบการศึกษาของค่ายชั้นยอดดี แต่หลังจากได้รับการข่าวจากศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ด เกี่ยวกับเหตุผลที่โรจาเดินทางมาเขาก็เต็มไปด้วยความรู้สึกประหลาดใจ

 

“เมื่อไหร่พวกเราถึงจะออกเดินทาง?”

 

ถึงแม้จะอยู่ต่อหน้าพลเรือโทบาสทิล แต่โรจาก็ยังคงมีท่าทีไม่แยแส ใบหน้าของเขายังคงดูสงบและอ่อนโยน ไม่รู้สึกกดดันใดๆทั้งสิ้น — โรจานั้นเคยเผชิญหน้ากับจอมพลเรือเซนโงคุมาแล้ว ดังนั้น เพียงแค่พลเรือโทคนหนึ่ง ไม่มีทางที่จะกดดันเขาได้!

 

“ … ตอนนี้แหละ”

 

พลเรือโทจ้องมองไปยังโรจาอย่างลึกซึ้ง ก่อนที่จะกล่าวว่า

 

“กลุ่มโจรสลัดดาบเงินได้ปล้นเรือพาณิชย์ลำหนึ่ง นอกจากนี้ ทุกคนในเรือยังถูกฆ่าเรียบไม่มีเหลือ ตอนนี้ฉันกำลังจะส่งเรือรบออกไปเพื่อปราบปรามพวกมัน”

 

“เข้าใจแล้ว”

 

โรจาพยักหน้าก่อนที่จะหันหลังกลับ และเดินออกจากประตูไป

 

พลเรือโทบาสทิลจ้องมองแผ่นหลังของโรจาที่กำลังเดินหายลับไป ก่อนที่จะส่ายหัวแล้วกล่าวว่า

 

“เจ้าเด็กเปรต … มันไม่รู้รึไงว่าโจรสลัดค่าหัว 200 ล้าน กับ 100 ล้านนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ฉันไม่เข้าใจจริงๆว่าทางศูนย์ใหญ่คิดอะไรอยู่ถึงได้ส่งมันมา”

 

บาสทิลกล่าวพลางอ่านเอกสารข้อมูลของโรจา แต่แล้วจู่ๆ ท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไป พร้อมกับเกิดประกายระยิบระยับขึ้นในแววตาของเขา

 

“เดี๋ยวสิ …”

 

“มังกี้ D โรจา … มังกี้ D … หรือว่าเจ้าเด็กนี่กับการ์ป … ถ้าอย่างงั้นก็ไม่น่าแปลกใจที่มันถูกส่งมาที่นี่”

 

ตอนแรก พลเรือโทบาสทิลต้องการที่จะโทรไปสอบถามรายละเอียดว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่จากทางศูนย์ใหญ่ แต่ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้บอกเรื่องของโรจากับคนอื่นๆบนเรือรบ บาสทิลหยิบเด็น เด็น มูชิขึ้นมาทันทีก่อนที่จะกดโทรออก ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเคร่งเครียด ..

 

 


ณ ฐานกองทัพเรือหน่วย G-4

 

เรือรบขนาดใหญ่ได้เตรียมพร้อมที่จะออกจากท่า ทหารเรือนับไม่ถ้วนต่างถืออาวุธไว้ในมือขณะที่บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด

 

เมื่อต้องไปจับกุมโจรสลัดที่มีค่าหัวมากกว่า 200 ล้านแบรี่  การเดินทางในครั้งนี้จึงมียศพลเรือตรีร่วมเดินทางไปด้วยถึง 3 คน แม้แต่ยศพลเรือโทบางครั้งก็ยังถูกส่งออกไปด้วยเช่นกัน

 

ในหน่วย G4 นั้นมียศพลเรือโทอยู่เพียงแค่ 2 คนเท่านั้น หนึ่งในนั้นคือพลเรือโทบาสทิลที่มีสถานะเทียบเท่ากับผู้บัญชาการกองทัพเรือในฐานแห่งนี้ ซึ่งเขามีหน้าที่คอยออกคำสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นจำนวนมาก

 

โดยทั่วไปแล้วบาสทิลจะไม่ออกไปปราบปรามโจรสลัดด้วยตัวเอง แต่เขาจะส่งพลเรือโทอีกคนหนึ่งไป อย่างไรก็ตาม พลเรือโทที่ว่านั้นไม่ได้อยู่ที่นี่ ในตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงส่งพลเรือตรีออกไปแทน และเมื่อรู้ว่าในครั้งนี้จะมีโรจาร่วมเดินทางไปด้วย บาสทิลจึงส่งพลเรือตรีออกไปเพิ่มจากในตอนแรก 3 คน เป็น 5 คน

 

เดิมที พลเรือโทบาสทิลกำลังลังเลอยู่ว่าเขาควรจะออกไปด้วยตัวเองดีหรือไม่ แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจส่งพลเรือตรีออกไปแทน ส่วนตัวเองก็จะเฝ้าดูอยู่ที่ฐาน

 

บนเรือรบ

 

พลเรือตรีทั้ง 5 คนได้มาถึงแล้ว และกำลังตระเตรียมทุกสิ่งทุกอย่างให้พร้อม แต่ก่อนที่จะทันได้ออกเรือ พวกเขาก็ได้รับข่าวว่าจะมี ‘ทหารเรือที่มีสถานะพิเศษ’ ไปร่วมทำภารกิจกับพวกเขาด้วย

 

และด้วยคำว่าสถานะพิเศษทำให้พลเรือตรีทั้งห้าคนที่อยู่บนเรือรบรู้สึกงงงวยเป็นอย่างมาก ก่อนที่จะหันไปมองหน้ากันและกัน

 

‘ทหารเรือสถานะพิเศษ ??’

 

ผ่านไปครู่หนึ่ง

 

โรจาก็เดินขึ้นมาบนเรือรบท่ามกลางสายตาของเหล่าพลเรือตรีที่ตอนนี้กำลังตกตะลึงอยู่

 

ที่พลเรือตรีตกตะลึงนั้นก็ไม่น่าแปลก เนื่องจากโรจากำลังอยู่ในช่วงการประเมินการจบการศึกษา ดังนั้นเขาจึงยังไม่มีเครื่องแบบทหารเรือ และยังคงใส่ชุดของทหารเรือฝึกหัดอยู่

 

“ถ้าเรือรบลำนี้กำลังจะออกไปทำภารกิจปราบปรามกลุ่มโจรสลัดดาบเงิน นั่นก็หมายความว่าฉันไม่ได้ขึ้นเรือผิดลำ … โอ้ลืมบอกไป ฉันพร้อมแล้ว ถ้าพวกคุณพร้อมก็ออกเดินทางได้เลย”

 

โรจากล่าวพลางจ้องมองไปยังพลเรือตรีที่กำลังตกตะลึง ก่อนที่จะยักไหล่ แล้วเดินเข้าไปในห้องโดยสาร

 

เงียบ …

 

ทั้งพลเรือตรีและทหารเรือคนอื่นๆต่างหันไปมองหน้ากันและกัน หลังจากที่โรจาเดินหายเข้าไปในห้องโดยสาร ความโกลาหลก็เกิดขึ้นมาทันที

 

“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน? ทหารเรือฝึกหัด??”

 

“มีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า เจ้าบ้านั่นมันไปเอาความกล้าแบบนี้มาจากไหน?”

 

ใบหน้าของพลเรือตรีและคนอื่นๆบนเรือรบต่างเต็มไปด้วยความสับสน

 

หลังจากที่ลองติดต่อกลับไปที่ฐาน และยืนยันซ้ำแล้วซ้ำอีก พวกเขาก็ได้ทราบว่าทหารเรือฝึกหัดคนนี้ที่ถูกเรียกว่า ‘ทหารเรือสถานะพิเศษ’ นั้นถูกส่งมาจากศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ด นอกจากนี้ถึงแม้พวกเขาจะมียศสูงกว่า แต่ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปสั่งอะไรโรจาได้!

 

ด้วยเหตุนี้

 

ใบหน้าของเหล่าพลเรือตรีและทหารเรือคนอื่นๆจึงเปลี่ยนเป็นน่าเกลียด

 

นี่เขามาเก็บแต้มคุณูปการใช่หรือไม่??

 

ในกองทัพเรือ ทุกครั้งที่ออกทะเลและสามารถปราบปรามโจรสลัดได้ จะได้รับแต้มคุณูปการ ถึงแม้แต้มคุณูปการจะไม่สามารถนำไปใช้เลื่อนยศได้ แต่มันก็สามารถนำไปแลกเปลี่ยนเป็นทรัพยากรต่างๆได้

 

ยิ่งแต้มคุณูปการเยอะ ก็ยิ่งแลกทรัพยากรดีๆได้มากขึ้น

 

กองทัพเรือนั้นมีฐานที่ตั้งกระจัดกระจายอยู่ทั่วโลก อิทธิพลของพวกเขาจึงมากกว่าพวกโจรสลัดอย่างไม่ต้องสงสัย และแน่นอนว่ารวมไปถึงในด้านทรัพยากรเช่นกัน ซึ่งแต้มคุณูปการนั้นสามารถนำไปแลกทรัพยากรที่ว่าได้! ไม่ว่าจะเป็น ผลปีศาจสายโซออน หรือแม้แต่ผลปีศาจสายโลเกีย!!

 

อย่างไรก็ตาม การที่จะแลกผลปีศาจได้นั้นจะต้องมีแต้มคุณูปการเป็นจำนวนมาก ซึ่งการมีแต้มคุณูปการเป็นจำนวนมากก็หมายความว่าพวกเขานั้นแข็งแกร่ง! และเมื่อแข็งแกร่งถึงขนาดนั้นก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาพลังจากผลปีศาจแล้วก็ได้!!

 

แต่จู่ๆโรจาซึ่งเป็นทหารเรือฝึกหัดจากศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ด กลับถูกส่งมายังหน่วย G4 ที่กำลังจะไปปราบปรามโจรสลัดที่มีค่าหัวมากกว่า 200 ล้านแบรี่! และที่สำคัญพวกเขายังไม่มีสิทธิ์สั่งโรจาอีก นั่นไม่ได้หมายความว่าโรจาสามารถซ่อนตัวอยู่บนเรือรบ จากนั้นก็ปล่อยให้พวกเขาสู้กับโจรสลัด เพื่อเก็บแต้มคุณูปการไปฟรีๆหรอกหรือ?

 

นี่คือสิ่งที่เรียกว่าทำนาบนหลังคนใช่หรือไม่? คอยนั่งๆนอนๆสบายๆเพื่อเก็บแต้มคุณูปการ นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน??

 

นอกจากนี้ดูเหมือนว่าเขาจะมีคนใหญ่คนโตคอยหนุนหลังอยู่ ขนาดที่แม้แต่ผู้บัญชาการฐาน หน่วย G-4 ก็ยังทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่

 

“ลืมซะเถอะ เขาไม่ใช่คนที่พวกเราแตะต้องได้”

 

“แม้แต่ผู้บัญชาการฐานหน่วย G-4 ของพวกเราก็ยังทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ .. นี่มันเรื่องจริงงั้นหรือนี่ ..”

 

พลเรือตรีและทหารเรือคนอื่นๆต่างส่ายหัวออกมา ถึงแม้ในหัวใจจะเต็มไปด้วยความโกรธ แต่พวกเขาก็ไม่ได้แสดงมันออกมา และเลิกให้ความสนใจเรื่องนี้อีกต่อไป