GOS ตอนที่ 6 – เข้าร่วมการประเมินผลการต่อสู้

 

ช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา โรจาฝึกฝนแบบส่วนตัวกับการ์ป และเขาไม่ได้ปรากฏตัวในค่ายฝึกเลยแม้แต่ครั้งเดียว จนเหล่าทหารเรือฝึดหักต่างลืมเลือนเขา

 

และในช่วงเวลาเดียวกันก็ได้มีเรื่องๆหนึ่งถูกพูดต่อๆกันมาราวกับไฟลามทุ่ง เรื่องนี้ถูกแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในค่ายทหารเรือฝึกหัด

 

“นายรู้เรื่องนี้รึยัง? การประเมินผลการต่อสู้ประจำปีกำลังจะเริ่มต้นขึ้น!”

 

“แน่นอนว่าฉันได้รู้เรื่องนี้แล้ว การฝึกทั้งหมดของพวกเราทั้งหมดที่ผ่านมา ก็เพื่อเตรียมพร้อมรับการประเมินผลการต่อสู้ในครั้งนี้ … และฉันยังได้ยินมาอีกด้วยว่า ถ้าสามารถคว้าอันดับ1 หรือ ถ้าสามารถต่อสู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พวกเราจะได้เข้าไปฝึกในค่ายชั้นยอดและได้รับการฝึกฝนจากอดีตพลเรือเอกเซเฟอร์!!”

 

เมื่อกล่าวถึงอดีตพลเรือเอกเซเฟอร์ ใบหน้าของพวกเขาก็เผยถึงความเคารพและความตื่นเต้น

 

ค่ายมีรีนฟอร์ดนั้นไม่ได้สถานรับเลี้ยงเด็ก แต่เป็นสถานที่ฝึกฝนทหารเรือเพื่อต่อสู้เสี่ยงชีวิตกับเหล่าโจรสลัด! โดยเฉพาะศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ดที่เป็นศูนย์ฝึกชั้นยอด!

 

ดังนั้น

 

ศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ดจึงจัดงานประเมินผลการต่อสู้ทุกปี และทหารเรือฝึกหัดทุกคนจะต้องมีส่วนร่วม!

 

ค่ายฝึกจะถูกแบ่งออกเป็นค่ายสามัญและค่ายชั้นยอด สำหรับค่ายสามัญนั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 10 กลุ่ม และมีพลเรือตรี 10 คน คอยทำหน้าที่ครูฝึกแต่ละกลุ่ม ส่วนค่ายชั้นยอดนั้น มีเพียงกลุ่มเดียว

 

หลังจากจบการฝึกแล้วนั้น ยศสูงสุดจากที่จบจากค่ายสามัญนั้นสูงแค่เพียงนาวาเอกเท่านั้น! แต่เมื่อจบการฝึกจากค่ายชั้นยอดแล้วทุกๆคนมักจะได้แต่ตำแหน่งสำคัญๆ!

 

และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือครูฝึกของค่ายชั้นยอดนั้นเป็นถึงอดีตพลเรือเอก เซเฟอร์!

 

การได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มชั้นยอดนั้นเป็นเหมือนดั่งความฝันสำหรับทหารเรือฝึกหัดทุกคน เพราะเหล่าพลเรือเอกในปัจจุบัน ทั้ง ไก่ฟ้า(อาโอคิยิ) ลิงเหลือง(คิซารุ) และหมาแดง (อาคาอินุ) ต่างก็ได้รับการฝึกฝนจากค่ายชั้นยอดโดยมีอดีตพลเรือเอกเซเฟอร์เป็นผู้ฝึกสอน!

 

ทุกคนต่างอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นเมื่อนึกถึงเรื่องนี้

 

นอกจากนี้ยังมีคนอีกส่วนหนึ่งจากค่ายฝึกสามัญที่รู้ตัวว่าพวกเขาไม่อาจเอื้อมเข้าไปยังค่ายฝึกชั้นยอดได้ ดังนั้นพวกเขาจึงพูดคุยกันว่าใครจะเป็นคนได้เข้าไปฝึกยังค่ายชั้นยอดแทน

 

“ฉันคิดว่า เดียซเดรค (X เดรค) จากค่ายฝึกสามัญที่ 5 น่าจะเป็นคนที่ได้อันดับ 1!”

 

“เดรค? นั่นก็จริง ไม่มีใครเอาชนะหมอนั่นได้ ช่องว่างความแข็งแกร่งระหว่างเขาและพวกเรานั้นมีมากเกินไป และฉันยังได้ยินมาว่า เดรคได้เอาชนะทหารเรือฝึกหัดที่เก่งที่สุดจากกลุ่ม 8 ในการประลองอีกด้วย!”

 

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ช่วยไม่ได้เลยที่ใบหน้าของพวกเขาจะเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

 

แม้กระทั่งคนที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม 8 ยังต้องสยบแทบเท้า เดรค ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขานี่แหละคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในปีนี้

 

“นั่นก็จริง แต่ถ้าเดรคได้ไปอยู่ในกลุ่มชั้นยอดแล้ว เขาจะยังคงเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่อีกรึเปล่า?”

 

จู่ๆก็มีคนกล่าวขึ้นด้วยความสงสัย

 

เมื่อได้ยินแบบนั้น เหล่ากลุ่มคนที่กำลังพูดคุยกันอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

 

“แข็งแกร่งที่สุด? นี่แกไม่รู้รึไงว่าในกลุ่มชั้นยอดนั้นมันมีแต่พวกสัตว์ประหลาด?”

 

เมื่อเห็นว่าคนที่ถามได้พูดเรื่องโง่เง่าออกมา ราวกับว่าเขาไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับกลุ่มชั้นยอด ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่เขา

 

เมื่อทหารเรือฝึกหัดคนนั้นเห็นว่ามีสายตาหลายคู่กำลังจ้องมองมาที่เขา เขาก็สูดหายใจลึก พร้อมกับกล่าวออกมาด้วยใบหน้าจริงจังว่า

 

“ฉันได้ยินมาว่าคนที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มชั้นยอดนั้นมีชื่อว่า ‘สโมคเกอร์’ และเขาได้กินผลโมคุโมคุเข้าไป”

 

“รู้ใช่ไหมว่านั่นหมายความว่ายังไง?”

 

หลังจากนั้น ก็ได้เกิดความเงียบขึ้น

 

แต่ทันทีที่พวกเขาเข้าใจว่ามันหมายความว่ายังไง ดวงตาของพวกเขาก็เป็นประกายทันที

 

“ผลโมคุโมคุ นั่นมันผลปีศาจสายโรเกียที่แข็งแกร่งที่สุดใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่มีใครเอาชนะเขาได้!”

 

“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน? ทำไมเจ้าสโมคเกรอ์มันถึงยังคงเป็นทหารเรือฝึกหัดอยู่วะเนี่ย?”

 

“ถ้านี่เป็นเรื่องจริงฉันคิดว่าคงไม่มีใครสามารถเอาชนะเขาได้”

 

 

ณ ลานฝึก

 

ในเวลาเที่ยงตรงที่ดวงอาทิตย์ลอยอยู่เหนือกลางศีรษะ

 

โรจาในขณะนี้กำลังใช้มือทั้งสองกำดาบโฮโนะสึกิของเขาอยู่ พร้อมกับกำลังฝึกซ้อมท่าฟันดาบอย่างต่อเนื่อง จนแขนของเขาเริ่มที่จะชาจนแทบไร้ความรู้สึก แต่โรจาที่ไร้ซึ่งความเหนื่อยล้าก็ยังคงฝึกต่อไป

 

ฝึกต่อไปเรื่อยๆจนร่างกายถึงขีดจำกัด จากนั้นเขาก็จะทะลวงขีดจำกัดนั้นเสีย ทำแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

แต่นับว่ายังโชคดี

 

เพราะเขามีการ์ปคอยแนะนำ จึงทำให้เขายังคงสามารถฝึกต่อไปได้ แม้ว่ามันจะเป็นอะไรที่ยากลำบากก็ตาม

 

เนื่องจากโรจานั้นมีระบบจิตวิญญาณแห่งดาบ ดังนั้นเขาจึงสนใจในวิชาและการใช้ดาบ และมักจะปรึกษาการ์ปเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

และคำตอบที่ได้รับจากการ์ปมันเกินยิ่งกว่าความคาดหวังของเขาเสียอีก

 

การ์ปบอกกับโรจาว่า นักรบทุกคนนั้นมีแนวแทงเป็นของตัวเอง เส้นทางแห่งดาบของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไป

 

แต่ขั้นตอนการฝึกฝนการใช้ดาบนั้นไม่แตกต่างกันมากนัก นั่นคือฝึกออกกำลังแขนให้แข็งแรง และฝึกฝนความเร็วในการเคลื่อนที่

 

ส่วนวิชาโรคุชิกินั้น จริงอยู่ว่ามันจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้ได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ควรที่จะพึ่งพามันตลอดเวลา

 

แม้ว่าการ์ปจะไม่ใช่นักดาบ แต่เขาก็เป็นบุคคลที่แข็งแกร่งที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดและได้พบเจอกับนักดาบที่แข็งแกร่งมาแล้วมากมาย

 

ดังนั้น

 

หลังจากได้รับคำตอบจากการ์ป โรจาในตอนนี้จึงเน้นฝึกฝนเพื่อเสริมความแข็งแกร่งที่จำเป็นสำหรับผู้ใช้ดาบ

 

และนั่นคือเหตุผลที่โรจากำลังยืนฝึกตวัดดาบอยู่ในตอนนี้

 

ทันใดนั้นเอง จู่ๆการ์ปก็เดินเข้ามายังลานฝึก และโบกมือมายังเขาแล้วกล่าวว่า

 

“โรจาวันนี้พอแค่นี้แหละ”

 

“เอ๋?”

 

โรจาหยุดฝึกตวัดดาบ ก่อนที่จะจ้องมองไปยังการ์ปด้วยสายตาแปลกๆ

 

นั่นก็เพราะเดือนนี้ทั้งเดือนที่เขาได้รับการฝึกฝนจากการ์ป การ์ปก็บังคับให้เขาฝึกอย่างบ้าคลั่งและไม่เคยบอกให้เขาพักเลยแม้แต่ครั้งเดียว แล้วทำไมจู่ๆการ์ปถึงบอกให้เขาพักล่ะ?

 

เมื่อเห็นว่าโรจาทำหน้าแปลกๆ การ์ปก็เอานิ้วถูจมูกของเขาก่อนที่จะกล่าวว่า

 

“การประเมินผลการต่อสู้จะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ และทหารเรือฝึกหัดทุกคนจะต้องเข้าร่วม”

 

แน่นอนว่าการ์ปสามารถจัดการให้โรจาไม่ต้องเข้าร่วมการประเมินครั้งนี้ก็ได้ แต่เขาก็ไม่ต้องการที่จะทำเช่นนั้น

 

เพราะถึงแม้ว่าความสามารถและความตั้งใจของโรจาจะเป็นของจริง แต่เขาก็ยังต้องได้รับประสบการณ์จากการต่อสู้ที่แท้จริงเสียก่อน — การจะเป็นยอดคนได้จำเป็นที่จะต้องยอมเสียเลือดเสียเนื้อบ้าง!

 

“การประเมินผลการต่อสู้?”

 

เมื่อได้ยินคำกล่าวของการ์ป ดวงตาของโรจาก็เป็นประกาย ก่อนที่เขาจะเอามือลูบปากแล้วยิ้มบางออกมา

 

เพราะเป็นเวลานานมาแล้วที่โรจาค้นพบว่าถ้าเขาฝึกฝนโดยการต่อสู้จริง แต้มสเตมิน่าของระบบจิตวิญญาณแห่งดาบจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างน้อยก็สองเท่า!

 

ซึ่งแน่นอนว่าโรจาจะไม่ปฏิเสธการประเมินการต่อสู้ในครั้งนี้อย่างแน่นอน

 

โรจานั้นต้องการทดสอบขอบเขตความแข็งแกร่งของตัวเขาในปัจจุบันนี้ และก็มีเพียงวิธีเดียวที่จะตอบสนองความต้องการของเขาได้ นั่นก็คือต้องต่อสู้ในสถานการณ์จริง!

 

ตอนนี้ระบบจิตวิญญาณแห่งดาบของเขา เสริมความแข็งแกร่งขึ้นมาจนเป็น +6 แล้ว ถึงแม้มันจะยังคงห่างไกลจาก ขั้นห้า ที่จะสามารถใช้สกิล ชิไค ได้ก็ตาม แต่มันก็ใกล้ที่จะวิวัฒนาการเป็นขั้นที่สามแล้ว และโรจาเชื่อว่าเมื่อเขาวิวัฒนาการเป็นขั้นที่ สามก็อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างขึ้น!

 

ดังนั้นโรจาจึงเฝ้ารอคอยที่จะเข้าร่วมการประเมินผลการต่อสู้ที่จะถึงนี้อย่างใจจดใจจ่อ!