GOS ตอนที่ 42 – ภารกิจต่อสู้

 

เช้าวันรุ่งขึ้น

 

โรจาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่เบาสบายอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกเบาสบายที่ว่านี่ไม่เพียงแต่สบายกายเท่านั้น แม้แต่จิตวิญญาณข้างในก็ยังรู้สึกเบาสบายไปด้วย

 

ช่วงฝึกนรกตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่ร่างกายเท่านั้นที่แข็งแกร่งขึ้น แม้แต่จิตวิญญาณก็ยังพลอยแข็งแกร่งขึ้นตามไปด้วย

 

ที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือทุกๆการเสริมความแข็งแกร่งให้ระบบจิตวิญญาณแห่งดาบ พลังโจมตีเพิ่มขึ้นขึ้นถึง 15 แต้ม!

 

ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะแต้มสเตมิน่าแต่ละแต้มนั้นได้มาจากการฝึกฝนอย่างหนัก จึงทำให้เพิ่มพูนขึ้นอย่างมากเมื่อได้รับการเสริมความแข็งแกร่ง

 

ไม่เพียงแต่พลังโจมตีเท่านั้น แม้แต่จิตวิญญาณก็เริ่มแข็งแกร่งและแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ทำให้บางครั้งโรจาก็มีความคิดแปลกปรากฏขึ้นมาในจิตใจว่าแท้จริงแล้วระบบจิตวิญญาณแห่งดาบเป็นเพียงแค่สิ่งที่เขาจินตนการขึ้นมาหรือมันเป็นสิ่งที่เรียกว่า ‘ระบบ’ จริงๆ

 

หรือบางทีมันจะเป็นอย่างอื่น?

 

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงความคิดที่ผ่านเข้ามาในจิตใจของโรจาบ้างเป็นครั้งคราว ซึ่งแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่สามารถหาคำตอบได้ โรจาจึงโยนความคิดพวกนี้ทิ้งไปก่อน ตอนนี้รู้เพียงแค่ว่าระบบจิตวิญญาณแห่งดาบได้ถูกหลอมรวมเข้ากับจิตวิญญาณของเขา และมันช่วยให้เขาแข็งแกร่งขึ้น แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว

 

 

ณ ศูนย์บัญชาการใหญ่กองทัพเรือ

 

ตรงบริเวณหน้าป้อมปราการยักษ์ มีเรือรบขนาดใหญ่จำนวนมากจอดเทียบท่าอยู่

 

และบนเรือรบขนาดใหญ่ เหล่าทหารเรือต่างก็กำลังขนของขึ้นเรือด้วยความวุ่นวาย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการออกเดินทางในครั้งนี้

 

การต่อสู้ที่แท้จริงจะเริ่มต้นจากท่าเรือแห่งนี้!

 

และแน่นอนว่าเรือรบเหล่านี้ ไม่ได้มีไว้ให้สำหรับทหารเรือเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีไว้ให้ค่ายชั้นยอดใช้ยอดออกไปทำภารกิจต่อสู้อีกด้วย! — ในตอนนี้เหล่าเล่าบิงกำลังขึ้นเรือเพื่อไปทำภารกิจต่อสู้

 

บนเรือรบของค่ายชั้นยอด นอกจากเหล่าเล่าบิงแล้ว ทหารเรือคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นกะลาสีหรือต้นหน หรือแม้แต่คนทำความสะอาดบนเรือ พวกเขาจะไม่เข้าร่วมภารกิจต่อสู้ไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น

 

คราวนี้โรจาไม่ได้มาถึงเป็นคนสุดท้ายเหมือนในตอนการประเมินผลการต่อสู้ แต่เขามาถึงเป็นคนแรกๆ โรจาในตอนนี้กำลังยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือและจ้องมองออกไปยังท้องทะเลที่ส่องประกายระยิบระยับ

 

“โลกใบนี้ช่างกว้างใหญ่ ฉันถูกส่งมายังโลกใบนี้มาสักพักแล้ว แต่ได้ล่องเรือออกทะเลเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นเอง (ในตอนการะประเมินผลการต่อสู้) … ฉันอยากเห็นทิวทัศน์ของโลกให้มากกว่านี้”

 

โรจากล่าว พลางจ้องมองท้องทะเลที่ยาวเหยียดไปจนถึงเส้นขอบฟ้า ก่อนที่จะกำหมัดแน่น แล้วกล่าวต่อว่า

 

“บางที .. การมองทิวทัศน์เหล่านั้นจากเบื้องบนลงมา อาจจะเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมที่สุดเลยก็ได้ ..”

 

“โอ้ … น้ำเสียงของนายดูเหมือนว่ากำลังกังวลอยู่นะ”

 

โรจาหันไปตามเสียง ก่อนที่จะพบว่าได้มีหญิงสาวผมฟ้าที่เหมือนกับสีของน้ำทะเลกำลังยืนอยู่ข้างเขา หญิงสาวคนนี้ใส่ผ้าคลุมไหล่ผืนเล็กๆ ด้วยใบหน้ารูปไข่ และหุ่นอันสมส่วน บวกกับพื้นหลังที่เป็นท้องทะเลยิ่งทำให้เธอดูสวยและสง่างามมากขึ้น

 

เธอยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะกล่าวต่อว่า

 

“ถ้าฉันเข้าใจไม่ผิด … นายกำลังจะบอกว่าต้องการที่จะมองโลกใบนี้จากเบื้องบนเหมือนกับเหล่าพลเรือเอกอย่างงั้นสินะ?”

 

โรจาจำได้ทันทีว่าเธอคือใคร

 

ไอน์

 

ไอน์เป็นผู้ใช้พลังจากผลโมโด โมโด สายพารามีเซีย และเป็นลูกศิษย์ของเซเฟอร์  และในเนื้อเรื่องวันพีช เธอยังเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ที่เซเฟอร์ถูกโจมตีอีกด้วย

 

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ยังไม่เกิดเหตุการณ์ที่เซเฟอร์ถูกโจมตี และโรจาก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอได้กินผลปีศาจเข้าไปหรือยัง

 

“ก็อาจจะเป็นอย่างนั้น”

 

โรจายิ้มแล้วตอบกลับไปแบบลวกๆ

 

ไอน์จ้องมองโรจาด้วยสายตาแปลกๆ ก่อนหน้านี้ได้ยินน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลของโรจา แต่มันก็แฝงไปด้วยความมั่นใจอันแรงกล้าเช่นกัน และเมื่อเธอได้ยินคำตอบของโรจา ยิ่งทำให้เธอรู้สึกว่าโรจาช่างเป็นคนที่ยากจะคาดเดาได้ว่าคิดอะไรอยู่

 

ความจริงแล้ว เป้าหมายที่แท้จริงของโรจา ไม่ใช่แค่เพียงได้เป็นพลเรือเอกแล้วได้มองท้องทะเลอันกว้างใหญ่จากในมุมสูงเท่านั้น แต่เขายังมีเป้าหมายอื่นอีก อย่างไรก็ตาม เขาไม่มีความจำเป็นต้องบอกไอน์

 

“พิลึกคน …”

 

ไอน์พึมพำออกมา แต่เมื่อเธอนึกถึงเหตุการณ์ในตอนที่โรจาปลดปล่อยเปลวเพลิงออกมา แล้วโค่นเวรี่ กู๊ดได้ในกระบวนท่าเดียว ดวงตาของเธอก็เป็นประกายในขณะที่เธอจ้องมองเขา

 

ขณะที่ไอน์ยังจ้องมองโรจาด้วยสงสัย และอยากที่จะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเขาให้มากขึ้น ในตอนนั้นเอง — เซเฟอร์ก็ได้ขึ้นมาบนเรือรบ

 

“เซเฟอร์เซนเซย์”

 

“เซเฟอร์เซนเซย์!”

 

บรรดาเหล่ากะลาสีและต้นหนเรือที่อยู่บนเรือรบได้กล่าวทักทายเซเฟอร์ด้วยความเคารพ

 

เซเฟอร์หันไปทักทายเหล่าทหารเรือ ก่อนที่จะถามออกไปว่า

 

“เตรียมพร้อมแล้วใช่ไหม?”

 

“พร้อมแล้วครับ! ขาดเพียงแค่น้ำดื่มอีกสองถัง”

 

“ดีมาก”

 

เซเฟอร์กล่าว พยางพยักหน้าด้วยความพอใจ จากนั้นก็กวาดสายตาไปยังสโมคเกอร์และเหล่าเล่าบิงในค่ายชั้นยอด ก่อนที่สายตาของเขาจะไปหยุดลงที่โรจากับเดรค

 

“เนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกที่เด็กใหม่ในค่าย ได้เข้าร่วมภารกิจต่อสู้ ดังนั้นฉันเลือกภารกิจที่มีระดับความยาก‘ค่อนข้างต่ำ’มาให้ในครั้งนี้ เป้าหมายของพวกเราในครั้งนี้คือทะเลเซาท์บลู เป็นกัปตันโจรสลัดที่มีค่าหัว 63 ล้านแบรี่”

 

เมื่อได้ยินคำอธิบายของภารกิจต่อสู้ในครั้งนี้ สโมคเกอร์แและเหล่าเล่าบิงก็ยังคงมีท่าทีสงบ แตกต่างจากฮินะและเหล่าเด็กใหม่ที่เต็มไปด้วยความประหม่า

 

ค่าหัว 63 ล้านแบรี่ …

 

แม้ว่าโจรสลัดที่เป็นเป้าหมายในครั้งนี้จะมีค่าหัวไม่ถึง 100 ล้านแบรี่ แต่เขาก็ยังเป็นคนที่สามารถผ่านครึ่งแรกของแกรนไลน์ได้ ฮินะไม่คาดคิดเลยว่าภารกิจต่อสู้ของเธอในครั้งแรกก็ต้องเจอกับโจรสลัดระดับนี้ ที่สำคัญเมื่อกี้เธอได้ยินเซเฟอร์บอกว่าระดับความยากค่อนข้างต่ำ??

 

ทหารเรือในค่ายชั้นยอด … ช่างแตกต่างกับทหารเรือจากค่ายสามัญอย่างสิ้นเชิง

 

เซเฟอร์จ้องมองไปยังเหล่าเด็กใหม่ด้วยใบหน้าเคร่งขรึม

 

สำหรับเด็กใหม่ นี่คือการเผชิญหน้ากับพวกโจรสลัดเป็นครั้งแรก นี่จึงนับว่าเป็นการต่อสู้ครั้งสำคัญของพวกเขา เซเฟอร์กังวลอย่างมากเกี่ยวกับประสิทธิภาพการต่อสู้ของเด็กใหม่ในศึกครั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรจา

 

ถึงแม้ว่าการประเมินผลการต่อสู้ในครั้งแรก หรืองานประลองในครั้งนี้สอง ประสิทธิภาพที่เขาแสดงออกมาจะยอดเยี่ยม — แต่นั่นมันก็แค่การฝึก และแตกต่างไปจากการต่อสู้จริงที่ต้องเผชิญหน้ากับเลือดและความตาย

 

มีเพียงคนส่วนน้อยเท่านั้นที่เคยมีประสบการต่อสู้นองเลือดมาก่อนที่จะสมัครเข้ามาเป็นทหารเรือ

ในการต่อสู้จริงครั้งแรก พวกเด็กใหม่มักจะสำแดงความแข็งแกร่งออกมาได้เพียง 70 – 80 เปอร์เซ็นเท่านั้น และพวกเขาก็จะยิ่งสำแดงพลังได้น้อยลงเมื่อเห็นเลือดและศพกระจายอยู่รอบๆ

 

ในมุมมองของเซเฟอร์ ถ้าพวกเขาสามารถสำแดงความแข็งแกร่งออกมาได้ 70 เปอร์เซ็นก็นับว่าดีมากแล้ว แต่ถ้าหากพวกเขาสามารถสำแดงความแข็งแกร่งออกมาได้ 100 เปอร์เซ็นจะเป็นเรื่องที่ดีมากๆ

 

“นี่คือการต่อสู้จริงๆ และความตายอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะพวกเด็กใหม่ในการต่อสู้ครั้งแรกพวกเธอมักจะเป็นกลุ่มที่มีโอกาสบาดเจ็บและล้มตายมากที่สุด ถึงแม้ว่าฉันจะอยู่ด้วย แต่ฉันจะไม่เข้าไปช่วยถ้ามันไม่อันตรายถึงชีวิต อย่างไรก็ตาม … ฉันไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น — เข้าใจใช่ไหม!”

 

“เข้าใจครับ/ค่ะ!”

 

เด็กใหม่เกือบทุกคนเมื่อได้ยินคำกล่าวของเซเฟอร์ สีหน้าของพวกเขาก็เผยให้เห็นถึงความตึงเครียด

 

อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกของพวกเด็กใหม่ที่กำลังตึงเครียดช่างแตกต่างกันเป็นอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับพวกเล่าบิง

 

โรจาแอบสังเกตุเห็นว่า สีหน้าของพวกเล่าบิงไม่เผยให้เห็นถึงความตึงเครียดแม้แต่น้อย กลับกัน … สีหน้าของพวกเขากลับเต็มไปด้วยความปรารถนา!

 

แม้แต่โรจาที่ปกติมักจะเยือกเย็นเนื่องจากจิตวิญญาณของเขาหลอมรวมเข้ากับจิตวิญญาณแห่งดาบก็ยังเต็มไปด้วยความร้อนรุ่ม !

 

‘ได้เวลาฟาร์มแต้มสเตมิน่าแล้ว!!’