GOS ตอนที่ 151 – กระจายออกไปทั่วโลก

 

ไม่กี่วันต่อมา

 

ภายใต้ความสนใจของกองกำลังนับไม่ถ้วน กลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรได้ออกจากอาณาเขตของตน จากนั้นก็กระจายตัวกันออกไปทั่วนิวเวิลด์เพื่อทำลายล้างฐานกองทัพเรือ!

 

ไคโดยังคงยืนยันคำเดิมว่าเขานั้นเกลียดพวกกองทัพเรือ และเขาจะไม่ให้พวกมันย่างกรายเข้ามาตั้งฐานแล้วอาศัยอยู่ในนิวเวิลด์ได้อีกต่อไป!

 

ภายใต้คำสั่งของไคโด เหล่าภัยพิบัติทั้งสาม ไม่ลังเลใจเลยทำตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แจ็คแห่งภัยแล้งที่พ่ายแพ้แก่โรจา และถูกอัดจนจมลงสู่ก้นทะเล ถึงแม้เขาจะไม่ตาย แต่นับว่าเป็นเรื่องน่าอดสูมาก

 

เหล่าภัยพิบัติทั้งสาม ได้แสดงให้โลกได้ประจักษ์ ถึงภัยพิบัติที่แท้จริง ตามสมญานามของพวกเขา

 

ฐานทัพเรือในนิวเวิลด์ฐานใดก็ตามที่พวกเขาย่างกรายเข้าไป ที่นั่นล้วนถูกถอนรากถอนโคนจนสิ้น!

 

และทิ้งไว้เพียงซากปรักหักพัง ที่ดูราวกับพึ่งถูกภัยพิบัติทำลายล้างมา!

 

แต่นับว่าโชคยังดี

 

เนื่องจากกองทัพเรือได้เตรียมพร้อมกับมือกับสถานการณ์นี้เอาไว้ก่อนแล้ว เซนโงคุได้ส่งคำสั่งให้อพยพทหารเรือเกือบทุกคนที่ประจำการอยู่ในนิวเวิลด์ โดยเฉพาะอย่างทหารเรือที่ประจำการอยู่ใกล้กับอาณาเขตของกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูร ที่ได้ถูกอพยพไปตั้งแต่ช่วงแรกๆ

 

ฐานทัพเรือส่วนใหญ่ที่ถูกทำลายไปนั่นเป็นเพียงฐานทัพอันว่างเปล่าเท่านั้น

 

ถึงกระนั้น ข่าวที่ว่าฐานทัพเรือในนิวเวิลด์ได้ถูกทำลายลงอย่างต่อเนื่องก็ได้สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงกับชื่อเสียงของกองทัพเรือ ราวกับลมเปลี่ยนทิศ จากที่ผู้คนต่างพากันชื่นชมกองทัพเรือที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมและต่อเนื่อง เวลานี้หัวใจของเหล่าผู้คนต่างพากันหวาดกลัว และเกรงว่ากองทัพเรือจะถูกทำลายล้างโดยร้อยอสูรไคโดจนหายไปโดยสมบูรณ์

 

ลมเปลี่ยนทิศแบบนี้ ไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย

 

หลังจากที่มีข่าวออกมา แม้ในตอนแรกพวกทหารเรืออาวุโสและเซนโงคุจะคาดการณ์เอาไว้แล้ว แต่หัวใจของพวกเขาก็ยังเต็มไปด้วยความโกรธ

 

กลุ่มโจรสลัดร้อยอสูร ยังไม่หยุดอยู่เพียงเท่านั้น พวกมันประกาศกร้าวว่า หากทำลายฐานทัพเรือทุกฐานในนิวเวิลด์แล้ว เป้าหมายต่อไปของมันคือย่างเท้าออกจากนิวเวิลด์และบดขยี้ฐานทัพเรือทุกฐานที่พบเจอ!

 

พายุได้ทวีความรุนแรงขึ้นแล้ว

 

 

บนเกาะนิรนามแห่งหนึ่ง กลุ่มคนที่กำลังทำงานกันอยู่ต่างพากันพูดคุยและหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน

 

ทันใดนั้น บนท้องฟ้าก็ได้มีหนังสือพิมพ์ที่ส่งจากนกนางนวลตกลงมา คนงานคนหนึ่งที่กำลังหัวเราะอยู่ได้หยิบมันขึ้นมาอย่างไม่ใส่ใจนัก

 

แต่เมื่อเขาเหลือบไปมองมัน สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป พร้อมกับเหงื่อเย็นเยียบที่เริ่มผุดขึ้นมาเต็มหน้าผาก และเผยให้เห็นท่าทีตื่นตระหนก!

 

ปุก …

 

จู่ๆมือของเขาก็ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง และไม่อาจถือหนังสือพิมพ์ที่อยู่ในมือได้อีกต่อไป

 

หนังสือพิมพ์ได้ร่วงหล่นลงบนพื้น พร้อมกับหน้ากระดาษมากมายกระจัดกระจายออกไปทั่ว

 

คนอื่นๆเห็นแบบนั้น พวกเขาต่างก็มองไปยังชายคนดังกล่าวด้วยท่าทีแปลกๆ

 

“เฮ้ เกิดอะไรขึ้น?”

 

ชายคนนั้นค่อยๆหันหน้ามามองคนที่ถามเขาอย่างช้าๆ ก่อนที่จะพึมพำออกมาด้วยน้ำเสียงอันสั่นเทิ้มว่า

 

“เกิด …. เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว … ”

 

และภาพเหตุการณ์แบบนี้ก็ได้เกิดขึ้นพร้อมกันทั่วทั้งโลก

 

ในเวลานี้ มิได้มีเพียงเหล่ากองกำลังทั่วท้องทะเลที่ให้ความสนใจกับข่าวนี้อีกต่อไป แต่เป็นผู้คนทั่วทั้งโลก รวมไปถึงคนธรรมดา ที่ล้วนแล้วแต่ให้เฝ้าติดตามข่าวนี้อย่างใกล้ชิด พวกเขาตกอยู่ในความหวาดกลัว และวิตกกังวลเป็นอย่างมากเกี่ยวกับสงครามที่กำลังจะทวีความรุนแรงขึ้นในขณะนี้!

 

 

ณ อีสต์บลู

 

การ์ปกำลังเล่นกับลูฟี่ โดยการจับเขาโยนขึ้นไปบนอากาศ

 

“ปู่ ฉันว่าฉันนึกอะไรออกแล้วล่ะ!”

 

ลูฟี่มองไปยังการ์ปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ก่อนที่จะกล่าวต่อว่า

 

“ฉันไม่อยากเป็นโจรสลัดแล้ว!”

 

“เยี่ยมไปเลย!”

 

เมื่อได้ยินว่าลูฟี่ที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศ กล่าวว่าไม่อยากเป็นโจรสลัด การ์ปก็รู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก

 

อย่างไรก็ตาม ความสุขของการ์ปก็มีได้ไม่นานนัก เพราะลูฟี่ได้กล่าวประโยคต่อมาออกมาว่า

 

“ฉันไม่อยากจะเป็นโจรสลัดธรรมดาๆ แต่ฉันอยากเป็นราชาโจรสลัดที่ครอบครองวันพีช!”

 

“อ๊า … ! ลูฟี่!”

 

ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขของการ์ปเปลี่ยนเป็นแข็งค้าง ก่อนที่เขาจะคว้าลูฟี่ที่ลอยอยู่กลางอากาศ และง้างแขนเตรียมที่จะมอบกำปั้นแห่งรักให้แก่ลูฟี่แล้วกล่าวว่า

 

“นี่คงไปฟังเรื่องไม่ดีมาจากเจ้าบัดซบผมแดงนั่นมาใช่ไหม ถ้าอย่างนั้น .. วันนี้ฉันจะดัดความคิดแย่ๆนั่นออกไปเอง!”

 

ขณะที่กล่าว การ์ปก็ได้ยกกำปั้นขึ้น และเตรียมที่จะเขกลงไปยังหัวลูฟี่

 

แต่เมื่อกำปั้นของการ์ปกำลังจะประทับลงนั้นเอง คนๆหนึ่งก็รีบวิ่งมาด้วยความกระวนกระวายใจ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว และยื่นหนังสือพิมพ์ให้แก่การ์ป

 

“การ์ปซัง! คุณต้องรีบดูนี่ … ”

 

“โอ้?”

 

คิ้วของการ์ปยกสูงขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะวางลูฟี่ลง แล้วคว้าหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่าน ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เบิกโพลง

 

“ไอ้เจ้าเด็กเหลือขอ โรจา … ได้ทำสิ่งที่เลวร้ายลงไปซะแล้ว”

 

การ์ปได้เดินทางมาถึงอีสต์บลู เมื่อหลายวันก่อน เมื่อมาถึง เขาก็ได้โยนเด็นเด็นมูชิทิ้งไป เพราะเขาขี้เกียจที่จะต้องมาคอยรับฟังรายงานจากทางศูนย์ใหญ่ ดังนั้น เขาจึงพึ่งรู้ว่ามีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นที่นิวเวิลด์

 

ข่าวที่ว่ากลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรได้ประกาศที่จะทำสงครามกับกองทัพเรือได้ถูกตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ แม้แต่หมู่บ้านฟูฉะ อันห่างไกลก็ยังได้รับข่าวนี้!

 

ภายในหนังสือพิมพ์พาดหัวข่าวว่า ‘กลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรกับกองทัพเรือจะทำสงครามขั้นเด็ดขาดกัน ใครจะแพ้ใครจะชนะ?’ นอกจากนี้ภายในหนังสือพิมพ์ยังระบุถึงต้นตอของสงครามในครั้งนี้อีกด้วย

 

หนึ่งในสี่จักรพรรดิ กลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรกำลังจะก่อสงครามเต็มรูปแบบกับกองทัพเรือในเร็วๆนี้! นี่คือหนึ่งในมหาสงครามครั้งใหญ่ที่สุดในโลก และคนที่จุดชนวนสงครามในครั้งนี้ก็คือ โรจา!

 

“ใครคือ โรจา งั้นหรือปู่?”

 

เมื่อลูฟี่จ้องมองไปยังการ์ปที่ไม่เคยเผยให้เห็นท่าทีตกใจแบบนี้มาก่อน ลูฟี่ก็ชะโงกหน้าขึ้นไปดูหนังสือพิมพ์ที่อยู่ในมือการ์ป ก่อนที่จะกระโดดขึ้นดึงเคราของการ์ปและเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย

 

เมื่อการ์ปได้ยินคำถามของลูฟี่ เขาก็สูดหายใจลึก แล้วพยายามสงบหัวใจที่กำลังสั่นไหว ก่อนที่จะหันไปหาลูฟี่แล้วกล่าวว่า

 

“เขาเป็นอาของเธอ และเป็นทหารเรือที่ยอดเยี่ยม”

 

*(สรุปว่าโรจาเป็นอานะครับ เพราะโรจาอายุน้อยกว่าดราก้อน)

 

มุมปากของลูฟี่ยกสูงขึ้น และกล่าวต่อว่า

 

“ทหารเรือ … ไม่! ฉันอยากจะเป็นราชาโจรสลัด!”

 

“ลูฟี่!!”

 

การ์ปกลับมาโกรธอีกครั้ง ก่อนที่จะพับเก็บหนังสือพิมพ์และเขกกำปั้นลงบนหัวของลูฟี่

 

ในเวลาเดียวกัน ขณะที่ลูฟี่ส่งเสียงร้องแปลกๆออกมา ภายในจิตใจของการ์ปก็ได้ปรากฏร่างของโรจาขึ้น

 

เขานั้นอยู่ในอีสต์บลูมาโดยตลอด จนกระทั่งหนังสือพิมพ์ถูกส่งมายังที่นี่ หากกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรและกองทัพเรือได้ก่อสงครามขึ้นในระยะเวลาอันสั้น เกรงว่ามันจะสายเกินไปกว่าเขาจะกลับไปถึง

 

“คว้าชัยชนะมาให้ได้นะ …  เจ้าเด็กเหลือขอ”

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ การ์ปก็หัวเราะออกมา โรจาในเวลานี้มิใช่ลูกนกอินทรีย์ที่ต้องการการดูแลจากพ่อแม่นกอินทรีย์อีกต่อไป สิ่งที่การ์ปทำได้ในขณะนี้ก็คือไว้ใจในตัวโรจา และเชื่อมั่นว่าโรจาจะสามารถเอาชนะสงครามในครั้งนี้ได้เฉกเช่นเดียวกับในตอนที่เขาต่อสู้กับโดฟลามิงโก้

 

 

ในเวลาเดียวกันผู้คนทั่วทั้งโลกต่างตกอยู่ในความหวาดกลัว และวิตกกังวล แม้แต่หัวหน้าของกองกำลังบางกลุ่มก็อยู่ในความตื่นตระหนก แต่ในขณะเดียวกันโจรสลัดบางกลุ่ม เช่นกลุ่มของโดฟลามิงโก้นั้นต่างพากันหัวเราะและปรบมือออกมา

 

หากเทียบกับ 3 จักรพรรดิคนอื่นๆแล้ว สิ่งที่ไคโดไม่ชอบมากที่สุดก็คงจะเป็นในเรื่องกลยุทธ์

 

แต่ในครั้งนี้

 

ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับไคโด เพราะเขากลับใช้กลยุทธ์ บังคับให้กองทัพเรือทั้งหมดกระโดดลงบนกระทะร้อน และเฝ้าดูพวกเขาทำลายฐานทัพไปเรื่อยๆ จนกว่าจะไปถึงศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ด

 

แล้วผลที่ได้น่ะหรือ?

 

กองทัพเรือจึงจำเป็นที่จะต้องออกมาเผชิญหน้ากับพวกเขาโดยตรง! ไม่ใช่มัวหัวหดคอยตั้งรับอยู่ในป้อมปราการอันแข็งแกร่งที่มารีนฟอร์ด!

 

อีกนัยหนึ่งก็คือ ไคโดได้บังคับให้กองทัพเรือมายังนิวเวิลด์ เพื่อก่อสงครามกับเขา!

 

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้กองทัพเรือนั้นอ่อนแอลงราวๆ 30 เปอร์เซ็น แต่30เปอร์เซ็นที่หายไปนั้น จะเปรียบเทียบได้กับอะไรน่ะหรือ — 30 เปอร์เซ็นที่หายไปนั้นมากพอที่จะทำลายล้างดองกี้โฮเต้แฟมิลี่ให้หายวับไปได้โดยสมบูรณ์!

 

ณ นิวเวิลด์

 

เรือของดองกี้โฮเต้แฟมิลี่ ได้แล่นออกไปบนท้องทะเลอย่างไร้จุดหมาย เนื่องจากในเวลานี้โดฟลามิงโก้ได้รับตำแหน่งเป็น 7 เทพโจรสลัดแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นที่จะต้องหวาดกลัวว่ากองทัพเรือจะออกมาตามล่าเขาอีกต่อไป

 

ในเวลานี้ โดฟลามิงโก้กำลังให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวของร้อยอสูรไคโด ผ่านระบบข่าวกรองของดองกี้โฮเต้

 

เมื่อเขาได้รับรายงานมาว่าฐานทัพเรือหลายแห่งได้ถูกทำลายลง โดฟลามิงโก้ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาด้วยใบหน้าชั่วร้าย

 

“ช่างเป็นการแสดงที่น่าดูชมเสียจริงๆ มังกี้ D โรจา ไอ้เจ้าปีศาจน้อย กระตุ้นใครไม่กระตุ้น ดันไปกระตุ้นไคโด นี่แกไม่รู้รึไงว่าแกจะต้องถูกทำลายล้างโดยสมบูรณ์? ฟุฟุฟุฟุฟุฟุฟุ …!”