GOS ตอนที่ 136 – โยนทิ้งไปให้หมด!

 

ดวงตาของโรจาที่กำลังงัวเงียได้จ้องมองไปยังแฮนค็อกแล้วกล่าวว่า

 

“โอ้ ในที่สุดเธอก็กลับมาได้ซะที เตียงขอเธอนี่มันนุ่มสบายกว่าบนเรือรบเสียอีก ดังนั้นฉันขอนอนบนเตียง ส่วนเธอก็นอนบนพื้นข้างล่างไปนะ”

 

กล่าวจบ

 

โรจาก็นอนหันไปอีกด้านหนึ่ง โดยไม่สนใจรอยเส้นเลือดที่ผุดขึ้นมาเต็มหน้าผากของแฮนค็อกที่ดูราวว่าจะระเบิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

 

“ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!!”

 

เสียงกรีดร้องดังก้องออกมาจากพระราชวังจนสั่นสะเทือนไปทั่วท้องเกาะอเมซอนลิลลี่ เกือบทุกคนบนเกาะได้ยินเสียงนี้ ส่วนเหล่านักรบหญิงและผู้พิทักษ์จำนวนมากได้รีบวิ่งตรงเข้าไปในพระราชวังทันที

 

แต่

 

พวกเธอยังไม่ทันได้วิ่งเข้าไปในพระราชวัง ก็พลันเกิดกลิ่นอายอันน่าสยดสยองกวาดกระจายออกไปทั่ว

 

นี่คือจิตคุกคามของฮาคิราชันย์

 

พริบตาเดียว

 

เหล่าผู้พิทักษ์ หรือแม้แต่เหล่านักรบหญิงทั้งเกาะอเมซอลลิลลี่ทั้งที่กำลังวิ่งมา นอนหลับอยู่บนเตียง หรือกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ ทุกคน พลันชะงักค้างไป ก่อนที่จะหมดสติและล้มลงโดยฝีมือของโรจา

 

“ผู้หลักผู้ใหญ่ไม่เคยสอนหรือยังไง? อย่าออกมาวิ่งเล่นในเวลากลางคืน แต่ควรประพฤติตัวเป็นเด็กดีแล้วนอนหลับอยู่เฉยๆ”

 

โรจายืนอยู่ตรงหน้าต่างห้องนอนแฮนค็อก พลางเหลือบมองลงไปยังเกาะเบื้องล่างที่บัดนี้มีเพียงความเงียบสงบ ก่อนที่จะหันกลับมามองยังแฮนค็อกที่กำลังโถมโจมตีอย่างบ้าคลั่ง

 

“เธออาละวาดมาสักพักแล้วนะ … รู้สึกเหนื่อยบ้างรึยัง?”

 

ปัง—!

 

คำตอบของแฮนค็อกที่มอบให้แก่โรจาคือเท้าที่วาดแหวกสายลมเย็นยะเยียบ

 

“หรือว่าอยากจะมานอนบนเตียงด้วยกัน?”

 

โรจายกมือขึ้นมากันเท้าของแฮนค็อก ก่อนที่จะส่ายหัวออกมาแล้วกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า

 

“ลืมมันเถอะ ฉันยกเตียงนี้ให้เธอก็ได้ ถ้าเธอไม่สบายใจ”

 

กล่าวจบ โรจาก็กระโดดออกจากหน้าต่างห้องนอน และหายลับไปโดนไม่สนแฮนค็อกที่กำลังเผยให้เห็นถึงท่าทีที่ยากจะอธิบาย

 

แฮนค็อกคิดว่าในเวลานี้เธอกำลังจะเป็นบ้า

 

ใครเหนื่อย เหนื่อยอะไร?

 

แล้วใครจะมันไปนอนบนเตียงกับแกได้อย่างสบายใจ?

 

ในเวลานี้แฮนค็อกรู้สึกว่าแม้ตัวเธอจะแล่นเรือออกไปสู้รบบนทะเลมาหลายปี ยังไม่เท่ากับช่วงเวลาที่อยู่กับโรจาเพียงแค่ครึ่งวัน ซึ่งเหนื่อยมาก เหนื่อยมากจริงๆ

 

ส่วนเตียงที่โรจาพึ่งนอนไปเมื่อครู่ แฮนค็อกได้โยนมันออกจากหน้าต่างบานที่เขากระโดดหายไป ก่อนที่จะตรงกลับยังบัลลังก์ที่ตั้งอยู่กลางพระราชวัง

 

ระหว่างทางเดินเต็มไปด้วยเหล่าผู้พิทักษ์และนักรบหญิงที่นอนหมดสติและตกอยู่ในอาการโคม่าโดยฝีมือของโรจา แฮนค็อกส่ายหัวเพียงเล็กแต่ไม่ได้สนใจคนเหล่านั้น ก่อนที่เธอจะล้มตัวลงนอนบนบัลลังก์นุ่มๆ

 

หากไม่ได้พักผ่อน ร่างทั้งร่างของเธอคงพังทลายลงแน่ๆ

 

แม้บนบัลลังก์จะนุ่ม แต่มันก็ไม่สะดวกสบายเท่ากับบนเตียง อย่างไรก็ตาม แฮนค็อกก็ยังคงนอนหลับอย่างสนิท อาจเป็นเพราะว่าคราวนี้โรจาไม่ได้ปรากฏตัวออกมาก็เป็นได้

 

ดูเหมือนว่าตราบใดที่โรจา ไม่ปรากฏตัวขึ้นมาก่อกวนเธอ ไม่ว่าจะนอนบนบัลลังก์ หรือนอนบนพื้น เธอก็สามารถหลับลงได้อย่างสนิท

 

แต่

 

หลังจากที่ตื่นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น แฮนค็อกก็ต้องพบกับฝันร้ายอีกครั้ง

 

“โอ้อาหารเช้าของเธอดูน่ากินดีนี่”

 

“เธอจะไปอาบน้ำอย่างนั้นหรือ ฉันขอไปด้วยสิ”

 

“อ้าววันนี้ก็ไม่อาบหรอ? ฉันมาที่นี่ได้หลายวันแล้วนะ แต่ยังไม่เคยเห็นเธออาบน้ำเลย ระวังมีกลิ่นตัวนะ”

 

แม้จะไม่ใช่การข่มขู่ แต่ทุกครั้ง ..

 

แต่ทุกครั้ง โรจาก็มักจะปรากฏตัวขึ้นใน ‘เวลาที่พอเหมาะพอเจาะ’ และทำตัวเหมือนว่ากำลังเดินอยู่ภายในบ้างของตัวเอง วันๆเขาเอาแต่เดินเล่นไปมารอบๆพระราชวังและพูดคุยกับเธออย่างเป็นกันเอง

 

และทุกครั้งที่โรจาปรากฏตัว แฮนค็อกก็จะอาละวาดจนพระราชวังบริเวณนั้นถูกทำลาย เหล่านักรบหญิงของเกาะอเมซอนลิลลี่ต้องเปลี่ยนหน้าที่ของพวกเธอมาเป็นช่างซ่อมพระราชวังที่พังยับเยินแทน

 

ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมถึงไม่มีนักรบหญิงคนไหนหยุดโรจาน่ะหรือ

 

เหตุผลก็ง่ายๆ เพราะไม่มีใครหยุดเขาได้นั่นเอง นอกจากนี้โรจายังครอบครองฮาคิราชันย์ หากพวกเธอพยายามทำอะไรที่ผิดสังเกตุจนเขาจับได้ โรจาจะส่งพวกเธอลงไป ‘นอน’ ทันที

 

การกระทำของโรจานั้นนับว่าไม่เห็นหัวของแฮนค็อก เธอรู้สึกว่าโรจาได้กลายเป็นฝันร้ายของเธอ จนแฮนค็อกกลายเป็นคนหวาดระแวง ไม่ว่าเธอจะมองไปทางไหน ก็จะพบเห็นแต่ใบหน้าของโรจา

 

กล่าวได้ว่า

 

แม้ใบหน้าของโรจาจะไม่ได้ดู หล่อเหลาหรือขี้เหร่ หรืออาจจะเรียกได้ว่าดูธรรมดาๆเสียด้วยซ้ำ แต่เธอกลับพบว่าใบหน้านี้ตามหลอกหลอนเธอในจิตใจอยู่ตลอดเวลา

 

หลายวันต่อมา

 

ไม่ว่าจะในยามที่เธอหลับตาหรือลืมตา แฮนค็อกก็แทบจะกังวลและหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลาว่าโรจาจะปรากฏตัวออกมาเมื่อไหร่ ในเวลานี้เธอแทบจะทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว

 

ภายในพระราชวัง

 

แฮนค็อกกำลังนั่งอยู่เงียบๆ พร้อมกับหมุนแก้วไวน์ในมืออย่างช้าๆ ขณะที่จู่ๆโรจาก็ปรากฏตัวขึ้นข้างๆเธอพร้อมกับหยิบแก้วไวน์จากในมือของเธอขึ้นมาจิบ ก่อนที่จะนั่งลงข้างๆแล้วกล่าวว่า

 

“รสชาตินุ่มละมุนจริงๆ”

 

“ …”

 

แฮนค็อกจ้องมองไปยังโรจา แต่คราวนี้เธอไม่ได้มีท่าทีคลุ้มคลั่งและอาละวาดอีกต่อไป

 

“เป็นอะไรไป คราวนี้ไม่บอกให้ฉันออกไปแล้วหรอ?”

 

โรจายิ้มให้เธอ ก่อนที่จะนั่งลงแล้วยื่นเอกสารที่ใช้เซ็นชื่อเพื่อรับตำแหน่ง7เทพโจรสลัด และบอกให้แฮนค็อกคืนสภาพลูกน้องทั้งหมดของเขาให้กลับมาเป็นปกติ แล้วเขาจะจากไปทันที นี่คือข้อตกลงเดิมของเขา แต่เนื่องจากแฮนค็อกนั้นยังคงดื้อรั้น เขาจึงต้องอยู่ที่นี่มาจนถึงทุกวันนี้

 

ดวงตาสีฟ้ากระจ่างใสของแฮนค็อกจ้องมองไปยังโรจาด้วยแววตาที่ซับซ้อน และนี่เป็นครั้งแรกที่น้ำเสียงของเธอไม่แฝงไปด้วยความโกรธหรือตะโกนใส่เขา แถมยังใช้สรรพนามที่ใช้เรียกโรจาต่างออกไปจากเดิม

 

“ทำไมผู้ชายแบบ ‘นาย’ ถึงทำงานให้กับพวกรัฐบาลโลก … ”

 

จากการที่ได้พูดคุยกันเล็กๆน้อยๆเป็นเวลาหลายวัน ทำให้เธอเข้าใจว่าโรจานั้นเป็นพวกทำอะไรตามแต่ใจตนเอง โดยไม่สนว่ามันจะส่งผลกระทบต่อทุกคนหรือไม่

 

โรจานั้นเป็นคนที่มักจะทำอะไรตามใจตัวเอง และไม่ใช่คนประเภทที่ใครจะสั่งก็สั่งได้

 

นี่ดูเหมือนว่าจะเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมฮาคิราชันย์ของโรจาถึงมีพลังอำนาจมากกว่าของคนอื่นๆ โรจานั้นเป็นบุคคลที่โดดเด่น แต่เขากลับเป็นทหารเรือและทำงานรับใช้รัฐบาลโลก … แฮนค็อกไม่สามารถเข้าใจได้เลยจริงๆ

 

“ฮ่า ฮ่า …”

 

เมื่อเห็นว่าแฮนค็อกไม่มีความตั้งใจที่จะต่อสู้และอาละวาดอีกต่อไป โรจาก็หัวเราะออกมาแล้วกล่าวว่า

 

“ใครบอกเธอว่าฉันทำงานรับใช้รัฐบาลโลก?”

 

“แล้วนาย …”

 

คิ้วของแฮนค็อกขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เพราะเธอไม่คาดคิดว่าคำตอบของโรจาจะออกมาเป็นแบบนี้ แต่เธอก็ยังไม่สามารถเข้าใจเหตุผลที่โรจามาเป็นทหารเรืออยู่ดี

 

“ในโลกใบนี้ ไม่มีใครสามารถสั่งฉันได้ ไม่ว่าจะเป็นกองทัพเรือหรือรัฐบาลโลก หากฉันต้องการที่จะทำอะไร ฉันจะก็จะทำ หากไม่ต้องการ ก็จะไม่ทำ ทุกสิ่งทุกอย่างฉันจะทำตามที่หัวใจเรียกร้องเท่านั้น”

 

“ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมฉันถึงได้มาเป็นทหารเรือ นั่นก็เป็นเพราะว่าฉันคิดว่าการเป็นทหารเรือมันน่าสนใจยังไงล่ะ”

 

โรจากล่าวขณะที่หมุนไวน์ในแก้วอย่างช้าๆ พลางขบคิดอะไรบางอย่างแล้วกล่าวว่า

 

“หวังว่าคำตอบนี้คงจะทำให้เธอพอใจ”

 

เพราะมันน่าสนใจเลยไปเป็นทหารเรืออย่างนั้นหรือ?

 

“หรืออีกนัยนึงก็คือ คุณต่อต้านรัฐบาลโลก … ”

 

โรจายิ้มออกมา ก่อนที่จะพูดขัดแฮนค็อก

 

“เธอรู้จักกองกำลังปฏิวัติรึเปล่า?”

 

“รู้จัก”

 

แฮฺนค็อกพยักหน้า แม้ว่าเธอจะเป็นคนดื้อรั้นและเอาแต่ใจ แต่จริงๆแล้วเธอก็ไม่ใช่คนโง่ เธอได้เรียนรู้หลายสิ่ง และหลายอย่าง เพียงแต่เธอไม่ได้กล่าวออกมาและจงใจทำตัวดื้อรัน และโอนอ่อนไปตามอารมณ์ของตัวเอง

 

“ผู้นำของกองกำลังปฏิวัติที่ชื่อว่า มังกี้ D ดราก้อน ส่วนชื่อของฉันคือ มังกี้ D โรจา”

 

โรจายิ้มให้แฮนค็อก พร้อมกับเอาชื่อลูกพี่ลูกน้องของเขามาแอบอ้างอย่างผิดมโนธรรม