GOS ตอนที่ 126 – การโจมตีรูปแบบที่สามของเซมบงซากุระ คาเงโยชิ

 

ตูม ตูม ตูม–!

 

เสียงปะทะกระหึ่มดังกึกก้อง พร้อมๆกับกลีบดอกซากุระที่กระจัดกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง

 

โรจายังคงโจมตีออกไปอย่างต่อเนื่อง และพยายามควบคุมเปลวเพลิงไปพร้อมๆกับควบคุมกลีบดอกซากุระ ถาโถมเข้าโจมตีจากทุกทิศทาง

 

แต่พวกมันก็ล้วนถูกเป่ากระเด็นด้วยกำปั้นของการ์ป

 

ในเวลานี้ โรจาได้เข้าใจแจ่มแจ้งแล้วว่าทำไมการ์ปถึงเป็นหนึ่งในบุคคลอันดับต้นๆที่แข็งแกร่งที่สุดในท้องทะเล! ไม่ว่าจะเป็นร่างกายที่ฝึกฝนจนแข็งแกร่งถึงขีดสุด หรือการใช้ฮาคิโจมตีและป้องกันได้อย่างชำนาญ การ์ปล้วนสามารถใช้มันได้ราวกับว่าฮาคินั้นเป็นหนึ่งเดียวกับร่างกาย — ผิดปกติ! การ์ปนี่มันเป็นพวกผิดปกติ เหนือมนุษย์ชัดๆ!

 

เมื่อการ์ปต้องเผชิญหน้ากับเซมบงซากุระ คาเงโยชิ

 

แทนที่เขาจะใช้ฮาคิเกราะบีบอัดเข้าไปทั่วร่างกาย เพื่อป้องกันกลีบดอกซากุระ การ์ปกลับใช้เพียงแค่โคกะบีบอัดลงไปยังส่วนใดส่วนที่จะปะทะกับกลีบดอกซากุระเท่านั้น ทำให้พลังงานฮาคิที่เขาสูญเสียไปนั้นมีเพียงน้อยนิด

 

การที่สามารถใช้ฮาคิได้อย่างชำนาญถึงระดับนี้ นับว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดาๆ เพราะเมื่อเทียบกับการที่จะต้องใช้โคกะบีบอัดลงไปทั่วร่างกายแล้ว นี่มันเป็นความชำนาญที่อยู่เหนือขึ้นไปอีกระดับหนึ่งเลย!

 

มิใช่เพียงแค่ฮาคิเกราะเท่านั้นที่โดดเด่น แต่การที่การ์ปสามารถระบุได้ว่ากลีบดอกซากุระจะโจมตีลงตรงไหนได้นั้น นั่นหมายความว่าฮาคิสังเกตุของเขาก็โดดเด่นไม่แพ้กัน!

 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า การ์ปนั้นเป็นผู้ชำนาญฮาคิระดับสูง

 

บังไคเซมบงซากุระ คาเงโยชิ ของโรจา  ไม่สามารถทำอันตรายใดๆแก่การ์ปได้ แม้กระทั่งจุดเล็กๆการ์ปก็ยังสามารถป้องกันมันได้อย่างสมบูรณ์ กลีบดอกซากุระส่งผลแค่เพียงทำให้การ์ปเสียสมาธิไปเล็กน้อย และถอยหลังไปไม่กี่ก้าวเท่านั้น! … และในเวลานี้ การ์ปก็ยังไม่คิดที่จะตอบโต้เขาเลยด้วยซ้ำ!!

 

“ดี .. ดีมาก ยังมีวิชาดาบหรือพลังอะไรที่ยังไม่ได้โชว์ออกมาอีกไหม”

 

การ์ปยังคงเหวี่ยงกำปั้นออกไปทำลายเปลวเพลิงและกลีบดอกซากุระที่ยังคงถามโถมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ตัวเขาในตอนนี้นั้นกำลังหัวเราะออกมาด้วยความสุข — นี่มันนานแค่ไหนแล้วนะที่เขาไม่ได้ต่อสู้อย่างสนุกสนานแบบนี้!

 

การต่อสู้กันในครั้งนี้ทำให้ร่างกายของการ์ปกลับมากระปรี้กระเปร่า ทั้งเส้นเอ็นและกระดูกที่ไม่ได้ใช้งานแบบจริงๆจังๆมาเนิ่นนานจนฝืดเคือง ในที่สุดก็เริ่มกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

 

“นี่มันช่างดีจริงๆ”

 

พลังวิญญาณของโรจาค่อยๆลดน้อยลงเรื่อยๆจนเขาเริ่มเกิดความเหนื่อยล้า จนในที่สุดโรจาต้องสูดหายใจลึก และเอื้อมมือออกไปตรงหน้า

 

ฟุ้ม–!

 

กลีบดอกซากุระที่กำลังโปรยปรายได้กลับมารวมตัวกันรอบๆโรจา ก่อนที่จะหลอมรวมกันกลายเป็นดาบเล่มหนึ่ง ตามมาด้วยประกายแสงสว่างวาบ — วินาทีต่อมา พลันปรากฏปีกสีขาวขนาดยักษ์ขึ้นโดยมีดาบที่อยู่เบื้องหน้าเป็นจุดศูนย์กลาง และในเวลาเดียวกัน โรจาก็บีบอัดฮาคิลงไปแปรเปลี่ยนใบดาบและปีกคู่ยักษ์ให้เป็นสีดำหมึก!

 

“เซมบงซากุระ คาเงโยชิ รูปแบบที่สาม …”

 

“ชูเคย์ — ฮาคุเทย์เค็น!!”*

 

*(เงาสุดท้าย — ดาบจักรพรรดิขาว)

 

การใช้วิชานี้ ทำให้พลังวิญญาณของโรจาถึงขีดจำกัดโดยสมบูรณ์ ขณะเดียวกันเขาก็ได้บีบอัดฮาคิเกราะทั้งหมดที่มีลงไปด้วย ส่งผลให้เกิดบรรยากาศและกลิ่นอายอันน่าสยดสยองฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ

 

การ์ปสามารถรับรู้ได้พลังอำนาจที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากดาบในมือของโรจาได้อย่างชัดเจน เขาอดไม่ได้ที่จะเผยให้เห็นสีหน้าอันเคร่งขรึม และจดจ่ออยู่กับมัน

 

วิซ—!

 

ครู่ต่อมา โรจาก็พุ่งตรงไปเข้าหาการ์ป และใช้พละกำลังทั้งหมดที่มี ฟาดฟันออกไปในคราเดียว!

 

การฟาดฟันในครั้งนี้ มิใช่มีเพียงแค่วิชา ฮาคุเทย์เค็น เท่านั้น แต่ในขณะเดียวกัน โรจายังได้ปลดปล่อยเก็ทสึงะ เท็นโชออกมาในการโจมตีครั้งนี้ด้วย! เขาได้ปลดปล่อยพลังจากดาบฟันวิญญาณทั้งหมดที่มีออกมา(ยกเว้นพลังเปลวเพลิง) และยังบีบอัดฮาคิเกราะลงไป!

 

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีแบบทุ่มสุดตัวของโรจา การ์ปก็ยังคงใช้กำปั้นเหวี่ยงเข้าต่อสู้!

 

บิซ–!

 

คมดาบและกำปั้นได้พุ่งเข้าประสานงากัน ก่อนที่ทั้งสองจะพลันหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ — ครู่ต่อมา ก็พลันเกิดคลื่นอัดอากาศอันน่าสยดสยองกวาดกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง

 

ตูม—!

 

พริบตาเดียว กลีบดอกซากุระก็ปลิวว่อนขึ้นไปเต็มท้องฟ้า โดยมีโรจาและการ์ปเป็นจุดศูนย์กลาง! แรงปะทะอันน่าสยดสยองได้แผ่กระจายออกไปทั่วทั้งเกาะ จนบังเกิดระลอกคลื่นขนาดยักษ์กระเพื่อมลงไปในท้องทะเล

 

ผ่านไปเป็นเวลานาน

 

ในที่สุดแรงอัดอากาศและคลื่นทะเลที่กระเพื่อมอย่างบ้าคลั่งก็ได้หยุดลง

 

ใจกลางเกาะ ตรงกลางระหว่างทั้งสอง บัดนี้ ได้ปรากฏเกิดหลุมลึก พร้อมทั้งรอยแตกร้าวของผืนดินที่ดูราวกับเป็นใยแมงมุมกระจัดกระจายออกไปทั่ว!

 

เวลานี้ ดาบในมือของโรจาได้กลับคืนสู่สภาพเดิมกลายเป็นดาบขาวฮิรุ สองมือของเขายังคงกระชับด้ามดาบเอาไว้ แม้ตามร่างกายของเขาจะไม่มีบาดแผล แต่โรจารู้สึกเหน็ดกลับเหนื่อยจนแทบจะคุมสติและยืนต่อไปไม่ไหว

 

เบื้องหน้าโรจา การ์ปก็ยังคงยืนอยู่ในจุดเดิมเช่นกัน และไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย

 

เพียงแต่

 

ในแววตาของการ์ป ที่กำลังจ้องมองลงไปยังโรจาในขณะนี้ กลับเผยให้เห็นถึงความประหลาดใจ! แม้แต่หัวใจของเขาก็ยังรู้สึกสั่นสะท้าน!!

 

ในตอนท้ายของการปะทะ การ์ปสัมผัสได้ถึงพลังอำนาจจากภายในตัวของโรจา ดังนั้นเขาจึงไม่ยั้งมือ และเหวี่ยงหมัดออกไปด้วยกำลังทั้งหมดที่มี

 

กำปั้นของการ์ปได้บดขยี้เก็ทสึงะ เท็นโชจนแตกเป็นเสี่ยงๆ แต่เมื่อกำปั้นของเขาปะทะเข้ากับ ฮาคุเทย์เค็นของโรจา การ์ปกลับพบว่ากำปั้นของเขาไม่สามารถทำลายมันลงได้!

 

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ

 

ฮาคิเทย์เค็นของโรจานั้นมีพลังอำนาจเทียบเท่ากับกำปั้นที่ปลดปล่อยออกไปแบบเต็มกำลังของเขา!!

 

หากไม่นับเรื่องพลังป้องกัน และ ความว่องไว แต่มองจากในแง่ของพลังโจมตีเพียงอย่างเดียว พลังโจมตีของการ์ปและโรจาในครั้งนี้นั้นแทบจะเสมอกัน!

 

การ์ปนั้นเป็นคนที่มีพละกำลังแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แม้แต่ตัวของเขาเองก็ทราบดี ขนาดสามพลเรือเอก อาโอคิยิ อาคาอินุ และคิซารุ ก็ยังต้องสยบอยู่ภายใต้กำปั้นที่ระเบิดออกมาแบบเต็มกำลังของเขา! แม้จะไม่ถึงกับทำให้พวกนั้นได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ต้องกระเด็นถอยหลังกลับไปอย่างแน่นอน

 

อย่างไรก็ตาม โรจาที่อยู่เบื้องหน้าเขากลับไม่กระเด็นถอยกลับไปเลยแม้แต่ก้าวเดียว!

 

เมื่อเห็นฉากนี้ หัวใจขอการ์ปจึงอดไม่ได้ที่จะสั่นไหว

 

“เจ้าเด็กเหลือขอ … แกเติบโตขึ้นมากจริงๆ”

 

มองไปยังโรจาที่กำลังถือดาบด้วยความเหนื่อยล้าและหอบหายใจอย่างหนัก แม้จะเป็นเพียงการระเบิดพลังทั้งหมดที่มีในร่างกายของมาในระยะเวลาสั้นๆ แต่ดวงตาของการ์ปก็เป็นประกาย และเผยให้เห็นถึงความพึงพอใจและความสุข

 

แต่การ์ปหารู้ไม่ว่า การที่โรจาหอบหายใจอย่างหนักนั้น มิใช่เป็นเพราะเขาฝืนใช้พละกำลังร่างกายจนหมด แต่มันเป็นเพราะพลังวิญญาณของเขาถูกใช้ออกไปจนหมดต่างหาก จิตวิญญาณของเขาจึงเกิดความเหนื่อยล้าถึงขีดสุด จนมันส่งผลโดยตรงต่อร่างกาย..

 

“ถูกหยุดเอาไว้ได้ …”

 

ในการโจมตีครั้งสุดท้าย โรจาได้เกิดความปรารถนาอย่างแรงกล้าในจิตใจ ว่าเขาจะต้องชนะ!  มันจึงส่งผลโดยตรงต่อจิตวิญญาณของโรจา และส่งผลให้พลังโจมตีในครั้งสุดท้ายของเขาพุ่งสูงขึ้นมากกว่าปกติ

 

แต่สุดท้าย ด้วยการทุ่มสุดตัว โรจากลับไม่สามารถทำให้การ์ปถอยหลังไปได้เลยแม้แต่ก้าวเดียว!

 

นี่ยิ่งทำให้โรจาเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งถึงขอบเขตความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้

 

ในแง่ของพลังโจมตีของเขาแบบเต็มกำลังอาจจะมีความแข็งแกร่งพอๆกับพลังโจมตีของการ์ปและพอๆกับสามพลเรือเอก!

 

แน่นอนว่าโรจายังคงมีปัญหาในเรื่องพลังป้องกัน เพราะถ้าการ์ปเลือกที่จะโจมตีเขาแล้วล่ะก็ .. พริบตาเดียวเขาก็คงจะพ่ายแพ้ให้แก่กำปั้นของการ์ปไปเรียบร้อยแล้ว!

 

หากเขาต้องป้องกันการโจมตีองการ์ปด้วยเซมบงซากุระไปตลอดแล้วล่ะก็ … มันคงจะไม่ดีแน่ๆ เพราะนั่นหมายถึงพลังวิญญาณที่จะต้องถูกสูบออกไปอย่างมหาศาล ที่สำคัญใครจะรู้ว่าการ์ปจะระเบิดกำปั้นอันรุนแรงแบบนั้นออกมาได้อีกกี่ครั้ง

 

พละกำลังร่างกายและฮาคิของการ์ปนั้นคงถูกฝึกฝนจนอยู่ในระดับสูงสุด จนอาจจะเรียกได้ว่าผิดปกติ — ในที่สุดโรจาก็เข้าใจว่าทำไมการ์ปถึงสามารถไล่ล่า โกล D โรเจอร์ไปได้สุดขอบโลก เพราะเมื่อใครก็ตามที่จะต้องเผชิญกับกำปั้นเหล็กของการ์ป มันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ฝ่ายตรงข้ามจะรู้สึกถึงความไร้พลังอำนาจของตนเอง

 

การ์ปนั้นนับได้ว่าเป็นบุคคลอันดับต้นๆที่ยืนอยู่ในจุดสูงสุดในด้านพละกำลังและพลังป้องกันอย่างแท้จริง

 

ต่างกันเพียงแค่ ในด้านพละกำลัง ดูเหมือนว่าทางฝั่งของหนวดขาวจะเหนือกว่า ส่วนทางด้านพลังป้องกัน ไคโดซึ่งเป็นอมตะ และสามารถฟื้นฟูร่างกายของตัวเองให้กลับมาได้ จึงนับได้ว่าไคโดนั้นเหนือกว่าการ์ปในด้านนี้

 

หากว่าคู่ต่อสู้ในคราวนี้ของโรจาเป็นอาโอคิยิ หรืออาคาอินุที่เป็นพวกใช้พลังจากผลปีศาจสายโลเกีย โรจาคาดว่าเขาคงจะสามารถต้านทานและต่อสู้อย่างหนักหน่วงกับทั้งสองได้อย่างน้อยก็ภายในระยะเวลาสั้นๆ

 

แต่เบื้องหน้าเขา —คนที่โรจากำลังเผชิญหน้าอยู่นั้นคือการ์ป มันจึงเป็นการยากที่จะต้านทาน

 

ในทางกลับกัน สิ่งที่สร้างปัญหาให้โรจาที่สุดนั้นไม่ใช่พละกำลังร่างกายของการ์ป แต่มันกลับเป็นความชำนาญในการใช้ฮาคิของการ์ปต่างหาก

 

“ไม่ว่าจะเป็นในด้านฮาคิ พละกำลังร่างกาย และวิชาดาบ ของฉันในตอนนี้มันยังคงอ่อนแออยู่หากเทียบกับเหล่าผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆในท้องทะเล .. ฉันจะต้องเพิ่มความแข็งแกร่งของพวกมันให้มากกว่านี้ …”

 

ในหัวของโรจากำลังคิดถึงเรื่องนี้ตลอดเวลา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ต่อสู้กับหนึ่งในสุดยอดผู้ซึ่งแข็งแกร่งที่สุดในโลก ประสบการณ์ในครั้งนี้มีความสำคัญต่อตัวเขามาก

 

โรจาคิดว่าหากเขาเสริมความแข็งแกร่งให้ระบบจิตวิญญาณไปจนถึง +10 ในขั้นสี่ และสามารถตวัดดาบเดียวซ้อนทับกันได้ 15 ครั้งแล้วล่ะก็ … ความแข็งแกร่งของเขาก็คงจะอยู่ในระดับเดียวกับพลเรือเอกได้อย่างแท้จริง!

 

เมื่อเวลานั้นมาถึง ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับการ์ป เขาก็คงยังต่อสู้กันได้อย่างสูสี และเมื่อระบบจิตวิญญาณแห่งดาบของเขาที่วิวัฒนาการไปถึงระดับที่ห้าแล้วล่ะก็…

 

เมื่อคิดถึงจุดนี้โรจาเผยรอยยิ้มออกมา

 

พร้อมกับดวงตาที่เปล่งประกายราวกับว่ากำลังลุกไหม้

 

เมื่อเวลานั้นมาถึง โลกวันพีก็จะได้รู้ว่าใครคือแน่ ที่เป็นผู้แข็งแกร่งที่สุด!!