GOS ตอนที่ 108 – บุกเดี่ยว
“ดูจากท่าทีตื่นตระหนกของคุณ ฉันขอเดาว่ามีเรือโจรสลัดแวะมาเยี่ยมพวกเราใช่รึเปล่า? และแน่นอนว่ามันเป็นเรือโจรสลัดของดองกี้โฮเต้แฟมิลี่”
เมื่อโรจาจ้องมองไปยังท่าทีตื่นตระหนกของนาวาเอก เขาก็ยิ้มออกมา และกล่าวขัดจังหวะก่อนที่นาวาเอกจะพูดจบ
เมื่อนาวาเอกได้ถูกขัดจังหวะ และได้ยินคำกล่าวของโรจา ท่าทีตื่นตระหนกและวิตกกังวลของเขาก็ค่อยๆลดน้อยลง
“ท่าน .. นี่ท่านรู้แล้ว?‘
“ไม่หรอก ก็แค่เดาเท่านั้นเอง”
โรจาหยิบดาบขาวฮิรุที่วางอยู่ข้างๆขึ้นมา พร้อมๆกับดวงตาที่เป็นประกายก่อนที่จะลุกขึ้นยืน แล้วคิดในใจว่า
‘ในที่สุดก็มาเสียที’
หลังจากที่นาวาเอกเดินนำเขาขึ้นมายังดาดฟ้าเรือ โรจาก็เห็นว่ามีเรือลำหนึ่งแล่นอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก และธงของเรือลำนั้น เป็นธงประจำกลุ่มของดองกี้โฮเต้แฟมิลี่!
“ท่านครับ .. นั่น .. นั่นคือเรือของกลุ่มโจรสลัดดองกี้โอเต้แฟมิลี่!”
ใบหน้าของนาวาเอกอีกคนที่พึ่งเดินมาอยู่ข้างๆโรจาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก แม้ว่าโรจาจะแข็งแกร่งและดุดัน แต่ฝ่ายตรงข้ามเป็นถึงกลุ่มโจรสลัดดองกี้โฮเต้แฟมิลี่ในแกรนไลน์!
มีคนเคยกล่าวเอาไว้ว่า ผู้นำของดองกี้โฮเต้แฟมิลี่ โดฟลามิงโก้นั้นมีค่าหัวถึง 340 ล้านเบรี่ ซึ่งเพียงแค่ค่าหัวก็ของเขาก็เพียงพอที่จะทำให้ทหารเรือในเขตเวสต์บลูตกอยู่ในความหวาดกลัว!
ในความเป็นจริง
หากไม่ใช่เพราะสถานะเดิมของโดฟลามิงโก้ที่เป็นถึงคนของเผ่ามังกรฟ้า ซึ่งมีความสัมพันธ์อันละเอียดอ่อนกับรัฐบาลโลกค่าหัวของเขาคงเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสองเท่า! อาจจะเป็น 700 ล้าน หรือ 800 ล้านเบรี่ไปแล้วก็ได้!
เรือรบอีก 3 ลำก็ตกอยู่ในความวุ่นวายเช่นกัน แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นเรือโจรสลัดเพียงลำเดียวเท่านั้น แต่ธงประจำกลุ่มดองกี้โฮเต้แฟมิลี่ ที่ลอยเด่นสะดุดตาอยู่บนเรือ ทำให้เหล่าทหารเรือต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนัก
เรือโจรสลัดใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ พร้อมกับบรรยากาศที่เริ่มกดดันมากขึ้น
“พวกดองกี้โฮเต้คงจะโกรธแค้น … และบุกมาโจมตีเรือของพวกเรา ..”
พลเรือตรีไทกะจ้องมองไปยังเรือโจรสลัดที่กำลังใกล้เข้ามา พร้อมๆกับเหงื่อเย็นเยียบที่ผุดขึ้นมาบนหน้าผาก
ศัตรูคือดองกี้โฮเต้แฟมิลี่ ที่มีชื่อเสียง แตกต่างจากกลุ่มโจรสลัดเก็กโคอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าทางฝั่งเขา จะมีเรือรบอยู่ถึง 4 ลำ แต่ไทกะก็ยังอดไม่ได้ที่จะตึงเครียดและตื่นตระหนก
ในเวลานี้
โรจายืนอยู่บนดาดฟ้าของเรือรบขนาดกลาง และกำลังจ้องมองไปยังเรือโจรสลัดดองกี้โฮเต้
เมื่อเรือโจรสลัดเข้ามาถึงระยะที่เหมาะสม โรจาก็ได้ใช้ฮาคิสังเกตกวาดออกไปทันที เพื่อตรวจสอบว่าสิ่งที่เขากังวลนั้นจะเกิดขึ้นหรือไม่
“ดูเหมือนว่าฉันจะคิดถูก โดฟลามิงโก้ไม่ได้มาจัดการด้วยตัวเอง แต่ส่งผู้บริหารระดับสูงคนอื่นมาแทน”
โรจาจ้องมองไปยังชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่บนเรือโจรสลัด และอดไม่ได้ที่จะแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย
ชายที่โรจาจ้องมองไปนั้นยืนอยู่แถวหน้าสุดบนดาดฟ้าเรือ และเป็นหนึ่งในสี่ผู้บริหารสูงสุดของดองกี้โฮเต้แฟมิลี่!
ไดอาเมนเต้!
ดองกี้โฮเต้แฟมิลี่นั้นจะมีสี่กลุ่ม ได้แก่ ข้าวหลามตัด โพแดง โพดำ และดอกจิก ในตอนภารกิจต่อสู้ โรจาได้ร่วมมือกับสโมคเกอร์เอาชนะ เหลาจี ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่สมาชิกหลักของกลุ่มข้าวหลามตัด
แต่คราวนี้ คนที่โรจาจะต้องต่อสู้ด้วยคือหัวหน้าของกลุ่มข้าวหลามตัด — ไดอาเมนเต้!
นาวาเอกจ้องมองไปยังเรือโจรสลัดฝ่ายตรงข้ามด้วยความกระวนกระวายใจ ก่อนที่จะหันมาพูดกับโรจาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือว่า
“ท่านครับ เรือโจรสลัดใกล้ที่จะแล่นเข้ามาในระยะปืนใหญ่แล้ว พวกเราเตรียมที่จะเริ่มเปิดฉากยิงเลยดีไหมครับ?”
“ไม่ต้องยิงปืนใหญ่ นี่คือคำสั่ง คุณแค่รอดูอยู่เงียบๆก็พอ!”
โรจาออกคำสั่งด้วยประโยคที่ค่อนข้างหยาบคายเล็กน้อย
พูดจบ โรจาก็กระทืบเท้าเบาๆ พร้อมกับกระโจนขึ้นไปบนท้องฟ้า
โรจาไม่มีความคิดที่จะให้ทหารเรือเหล่านี้ช่วยเหลือเขา หากเป็นโจรสลัดในเขตทะเลเวสต์บลูก็ยังพอว่า แต่อีกฝ่ายคือโจรสลัดกลุ่มดองกี้โฮเต้ ซึ่งเป็นโจรสลัดที่แข็งแกร่ง หากเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาสอดมือเข้ามายุ่ง เกรงว่ามันคงสร้างผลเสียมากกว่าผลดี!
เพียงแค่ลูกเรือโจรสลัดที่อยู่บนเรือลำนั้น ไม่ต้องถึงมือไดอาเมนเต้ ก็เพียงพอที่จะบดขยี้เหล่าทหารเรือในสังกัดของโรจา
โลกใบนี้คือโลกที่ผู้แข็งแกร่งเป็นใหญ่ ซึ่งเมื่อเผชิญหน้ากับเหล่าผู้แข็งแกร่ง การใช้ยุทธวิธีธรรมดาๆนั้น แทบจะไม่ส่งผลใดๆ และเป็นเพียงการฆ่าตัวตายทางอ้อมเท่านั้น !
วิซ วิซ–!
ร่างของโรจากระโดดไปมากลางอากาศ ราวกับลูกวอลเลย์บอลที่กำลังกระเด้ง และพุ่งตรงไปยังเรือโจรสลัดดองกี้โฮเต้
เก็ปโปนั้นเป็นหนึ่งในหกวิชาโรคุชิกิที่กินพละกำลังร่างกายค่อนข้างมาก หากเป็นก่อนหน้านี้เขาคงเฝ้ารอให้เรือโจรสลัดเข้ามาใกล้กว่านี้จึงจะใช้เก็ปโป เพื่อรักษาพละกำลังร่างกายเอาไว้
แต่ในตอนนี้
เมื่อระบบจิตวิญญาณแห่งดาบของเขาก้าวเข้าสู่ขั้นสี่ และได้รับคุณสมบัติเสริม ‘พละกำลังร่างกาย’ ที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้เขายังตระหนักได้อีกว่า เก็ทสึงะ เท็นโช และสกิลอื่นๆที่มาจากระบบจิตวิญญานแห่งดาบนั้น ไม่ได้กินพละกำลังร่างกายใรการใช้งาน แต่มันกิน ‘พลังวิญญาณ’ ในการใช้งานต่างหาก นั่นจึงทำให้โรจาไม่จำเป็นที่จะต้องพะวงเรื่องพละกำลังร่ายกาย เหมือนอย่างในอดีตอีกต่อไป
“ท่านผู้บัญชาการมีคำสั่งห้ามไม่ให้ทุกคนระดมยิงปืนใหญ่!”
เมื่อนาวาเอกเห็นว่าโรจาใช้เก็ปโปมุ่งหน้าไปยังเรือโจรสลัด เขาก็รีบเอ่ยคำสั่งของโรจาออกไปทันที แต่ในเวลาเดียวกันสายตาของเขาที่จ้องมองไปยังโรจานั้นก็เต็มไปด้วยความตึงเครียด
นาวาเอกยังจำฉากที่โรจาสามารถสะบั้นเรือจนขาดเป็นสองท่อนได้อย่างชัดเจน ด้วยความแข็งแกร่งของโรจาเพียงคนเดียวก็เหนือล้ำยิ่งกว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาทุกคนรวมกันเสียอีก
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ หากโรจาพ่ายแพ้แก่ศัตรู ทางฝั่งกองทัพเรือก็แทบจะไม่มีโอกาสชนะในศึกนี้ได้เลย!
ศึกในครั้งนี้ พวกเขาจะสามารถเอาชนะได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับโรจาเพียงคนเดียว!
ปัจจุบันทุกคนบนเรือรบของโรจาต่างไม่มีใครสงสัยในชื่อเสียงและความแข็งแกร่งของเขาเลยแม้แต่คนเดียว! แต่เมื่อพลเรือตรีไทกะได้ยินนาวาเอกประกาศคำสั่งของโรจา เขาก็รู้สึกตกใจและเอ่ยถามว่า
“ท่านผู้บัญชาการต้องการที่จะออกไปต่อสู้เพียงลำพังอย่างงั้นหรือ?”
ทั้งไทกะและเหล่าทหารเรือจำนวนมากต่างกัดริมฝีปากแน่นจนมีเลือดไหลออกมา ถึงจะเจ็บใจ แต่พวกเขาก็ไม่มีทางช่วยอะไรโรจาได้เลยในสถานการณ์เช่นนี้
ช่องว่างความแข็งแกร่งมันห่างชั้นกันมากเกินไป
ก่อนหน้านี้
กลุ่มโจรสลัดเก็กโคได้มอบความพ่ายแพ้ให้แก่อดีตผู้บัญชาการ และคราวนี้คู่ต่อสู้ของผู้บัญชาการฐานคนใหม่คือกลุ่มโจรสลัดดองกี้โฮเต้แฟมิลี่ ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าแข็งแกร่งกว่ากลุ่มเก็กโคไม่รู้ตั้งกี่เท่า!
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งจนน่าสยดสยองเหล่าทหารเรือเกือบทั้งหมด แทบจะไม่มีมีความมั่นใจที่จะต่อต้านพวกมัน และได้แต่ฝากความหวังไว้ที่โรจาเพียงคนเดียว
ช่างเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดนัก
เรือรบสี่ลำ ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนใดๆได้เลย กระสุนปืนใหญ่ที่มีก็แทบจะไร้ค่า เพราะหากยิงมันออกไปก็อาจจะถูกโรจาจนเขาบาดเจ็บก่อนที่จะไปถึงเรือของข้าศึก
หากโรจาไม่สามารถคว้าชัยชนะในศึกครานี้ได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาก็คงไม่อาจคว้าชัยชนะมาได้เช่นกัน
“ท่านผู้บัญชาการ .. ได้โปรด คว้าชัยชนะมาให้ได้นะครับ!”
ทหารเรือบางคนหลังจากที่พบว่าพวกเขาไม่สามารถช่วยอะไรโรจาได้เลย พวกเขาจึงทำได้แค่เพียงกำหมัดแน่น พร้อมกับจ้องมองไปยังแผ่นหลังของโรจาและได้แต่อธิฐานในจิตใจ