Ep.950 – ตั๊กแตนมิติ

 

ฉินเฟิงส่งเสียงตอบรับเป็นระยะๆ ฟังจบขบคิดสักพักแล้วกล่าว “ทางที่ดี คุณควรประกาศออกไป ว่าให้คนจากสถานชุมชนขนาดเล็กมารวมตัวกันที่นี่ มิฉะนั้นในกรณีที่เกิดกองทัพสัตว์ร้ายบุกเข้ามาจริงๆ ผมกลัวว่าสถานชุมชนเหล่านั้น จะถูกพวกมันเหยียบย่ำ ประชากรถูกกลืนกินไม่เหลือแม้แต่กระดูก!”

 

หวูฉิงเฟิงมองมายังสีหน้าการแสดงออกที่จริงจังของฉินเฟิง ในหัวใจเขาเริ่มรู้สึกหนักอึ้ง

 

“มันจะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นจริงๆหรือ?”

 

การอพยพอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ใช่เรื่องที่จะมาพูดล้อกันเล่น! เพราะเหตุการณ์หลังจากนั้นจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวง

 

ที่แน่ๆเลยก็คือ หลังจบภัยพิบัติจำเป็นต้องใช้เงินทุนจำนวนมหาศาลในการฟื้นฟู และจะมีผู้คนมากมาย อดตายเพราะไม่สามารถจ่ายไหว

 

“ก็ยังดีกว่าปล่อยให้พวกเขาถูกกองทัพสัตว์ร้ายกวาดล้างไม่เหลือซักคนเดียว!” ฉินเฟิงกล่าว

 

“เข้า- เข้าใจแล้ว!” หวูฉิงเฟิงล่าถอย และสั่งการออกไป ครึ่งชั่วโมงต่อมา เลเวล S ที่ชื่อฟางโจวก็มาถึง

 

รูปลักษณ์ของเขา ปรากฏว่าดูแก่กว่าหูซานเสียอีก แต่เพราะทั้งสองเป็นคนที่หลงถิงเรียกมารับภารกิจ ฉะนั้นมั่นใจได้ว่าแข็งแกร่ง ฉินเฟิงกับฟางโจวเชคแฮนด์กัน พำนักชั่วคราวในเมืองฉิงเฟิง

 

“ภัยพิบัติครั้งนี้ เทียบกับเมื่อ 200 ปีที่แล้ว มันดูจะร้ายแรงกว่าซะอีก!” ฟางโจวพูดพลางถอนหายใจ เอนหลังลงบนเบาะที่นั่งของเขา ท่าทีคล้ายคนชราไม้ใกล้ฝั่ง

 

“ถ้าไม่ใช่เพราะเกิดเหตุร้ายแรงขนาดนี้ ฉันคงไม่คิดออกมาดู แต่ไม่นึกเลย ว่าในพันธมิตรหัวเซี่ยตอนนี้ จะปรากฏรุ่นเยาว์ที่ยอดเยี่ยมเช่นคุณ”

 

“อาวุโสฟางยกย่องกันเกินไปแล้ว!”

 

“ฮ่าฮ่า ไม่ต้องถ่อมตัวไปหรอก ก่อนเดินทาง ฉันได้หาข้อมูลเกี่ยวกับคุณมาบ้างแล้ว เอาจริงๆถ้ามีคุณอยู่ด้วย เกรงว่าฉันอาจไม่ต้องลงมือด้วยซ้ำ น่าเสียดายจริงๆ อยากมีชีวิตอยู่สักอีกหลายปี เฝ้าดูคลื่นลูกใหม่เช่นคุณ … ”

 

“อาวุโสฟาง ถ้าคุณต้องการ ผมยังมีผลึกโลหิตจากมิติธารโลหิตขายให้ บางทีมันอาจช่วยคุณได้”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ไม่ ไม่ ไม่จำเป็นหรอก ฉันยังสบายดี คุณมีน้ำใจจริงๆ”

 

การสนทนาระหว่างทั้งสองค่อนข้างเป็นไปในทิศทางที่ดี ฉินเฟิงไม่คาดคิดว่าฟางโจวจะรู้จักตนเอง หากรู้แบบนี้ เขาคงถามหูซานถึงความเป็นมาของฟางโจวไว้ก่อนแล้ว แต่ตอนนี้มันคงไม่เหมาะที่จะถามออกไป

 

ในเวลานั้นเอง จิตสำนึกของไป๋หลีคล้ายสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง หันขวับไปมองบนท้องฟ้าไกล

 

“มาแล้ว!” ไป๋หลีเชี่ยวชาญรูนมิติ ดังนั้นแม้ปฏิกิริยาจะเกิดขึ้นอีกด้านหนึ่งของรอยแยกมิติ เธอก็สามารถตรวจจับมันได้ ดังนั้นช่วงเวลาที่อีกฝ่ายเคลื่อนไหว ไป๋หลีรู้ตัวทันที

 

สิ้นเสียงไป๋หลี รอยแยกมิติสีดำบนท้องฟ้า ปรากฏเคียวทมิฬขนาดใหญ่ทิ่มออกมา เพ่งมองดีๆดูคล้ายส่วนขาของแมลง ตามมาติดๆด้วยร่างอันสูงใหญ่กว่าสิบเมตร

 

ปรากฏว่าผู้มาเยือนมีรูปลักษณ์คล้ายกับตั๊กแตนขยายใหญ่

 

แต่สัตว์ร้ายตรงหน้า น่าสยดสยองชนิดตั๊กแตนธรรมดาเทียบไม่ติด ทั้งตนทั้งร่างของมันปกคลุมไปด้วยแสงสีเงิน เปลือกนอกแข็งแกร่งทนทานอย่างหาที่เปรียบมิได้ ให้ความรู้สึกราวกับเพชร และบนเท้าของแมลงทุกตัว แต่ละข้างผุดพรายไปด้วยหนามแหลมคม สะท้อนแสงวาววับราวกับใบมีด บนแผ่นหลังเป็นปีกคู่ใส เงางามจับตา ราวกับว่าสามารถใช้ตัดมิติได้

 

เมื่อตั๊กแตนตัวแรกปรากฏกาย ตั๊กแตนตัวอื่นๆก็เริ่มก้าวตามออกมามากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ กระพือปีกเสียงหึ่งๆ ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า

 

“แค่มองก็รู้แล้วว่ามันไม่ง่ายเลยหากคิดจัดการ … ” ฟางโจวถอนหายใจ เอ่ยอย่าแช่มช้า

 

ฉินเฟิงย่อมตระหนักถึงอันตราย มิฉะนั้นในชีวิตก่อนคงไม่มีเมืองมากมายล่มสลายลง แค่จำนวนของสัตว์ร้ายที่รุกราน ก็เพียงพอที่จะกลบกลืนผืนฟ้า

 

“เป็นตั๊กแตนมิติ!” สีหน้าของไป๋หลีกลายเป็นมืดมน

 

“มันเป็นสัตว์ร้ายประเภทไหน? มีจุดอ่อนอะไรรึเปล่า” ฉินเฟิงเอ่ยถาม

 

ไป๋หลีตอบว่า “ท่ามกลางมิตินับไม่ถ้วน มันคือสัตว์ร้ายที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ ขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ร้ายที่รุกรานมิติอื่นเพื่อกัดกินแก่นพลังงานของดวงดาว!”ไป๋หลีกล่าว แต่ขบคิดอยู่พักหนึ่งเอ่ยต่อว่า “แต่สำหรับพวกเรา อาจเป็นโชคดีในโชคร้าย เพราะตั๊กแตนมิติพวกนี้ มันกลัวไฟ!”

 

เป็นความโชคดีในโชคร้ายจริงๆ แกนกลางของดาวโลก ดูเหมือนจะมีคุณสมบัติธาตุไฟ แต่หลังจากผ่านพ้นวันเวลามานานหลายหมื่นปี เปลือกนอก(พื้นดิน)ของมันผสานรวมเข้ากับอักษรรูนอื่นๆอีกนับไม่ถ้วน จนกลายเป็นโลกใหม่ ที่สิ่งมีชีวิตอย่างมนุษย์สามารถอาศัยอยู่ได้

 

“แต่ในฝูงตั๊กแตนมิติ ดูเหมือนจะมีตัวหนึ่งที่ทรงพลังมาก!” ไป๋หลีหรี่ตามองฝูงตั๊กแตนบนท้องฟ้า ซึ่งเวลานี้ปรากฏขึ้นจนนับจำนวนเป๊ะๆด้วยสายตาไม่ได้แล้ว

 

“โลกใดก็ตามที่ตั๊กแตนมิติบุกเข้ามา มันจะตัดมิติคงค้างไว้อย่างนั้นตลอดเวลา หากปล่อยทิ้งไว้ จะมีสัตว์ร้ายมากมายเข้ารุกราน นี่เป็นวิธีหนึ่งในการล่าของตั๊กแตนมิติ โดยเฉพาะเมื่อพวกมันต้องเผชิญกับสิ่งมีชีวิตที่ทำให้รู้สึกถึงอันตราย เราจำเป็นต้องหยุดไม่ให้พวกมันทำแบบนั้น แต่ด้วยจำนวนขนาดนี้ … ”

 

ฉินเฟิงเข้าใจ เพราะไม่ว่าจะมองยังไง จำนวนตั๊กแตนมิติที่บุกเข้ามา มีอย่างน้อยก็เกินหมื่นตัว และความแข็งแกร่งของตั๊กแตนมิติแต่ละตน ล้วนเหนือกว่าเลเวล C ขึ้นไปทั้งสิ้น

 

ในฝูง ตั๊กแตนที่มีความสูงมากกว่า 50 เมตรสมควรเป็นเลเวล B , สูงเกิน 100 เมตรสมควรเป็นเลเวล A ซึ่งอย่างหลังน่าจะมีประมาณหลักร้อย

 

ณ ขณะนี้ ภายในรอยแยกมิติขนาดใหญ่ สิ่งมีชีวิตมหึมาคืบคลานออกมา ความยาวลำตัวของมัน น่าจะมากกว่า 300 เมตร ทันทีที่ปรากฏ กลิ่นอายของมันแพร่กระจายออกมา และเกรงว่ากลิ่นอายนี้จะโชยไกลออกไปจนคนทั้งโลกสัมผัสได้

 

กลิ่นอายของแมลงมิติระดับจักรพรรดิเลเวล S!

 

สัตว์ยักษ์มิติน่าหวาดกลัวเพียงใดน่ะหรือ? ก็ลองดูไป๋หลีสิ สัตว์ร้ายที่ครอบครองความสามารถเช่นเดียวกัน ย่อมสามารถพลิกตลบทั้งมิติได้อย่างสมบูรณ์

 

ถึงจุดนี้ ฝูงตั๊กแตนเริ่มบินลงจากฟ้า เนื่องจากระยะทางมันไกลเกินไป จึงไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

 

ผู้ใช้พลังเลเวล S สามารถรับรู้และใช้พลังสมาธิตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นผ่านพลังสมาธิก็จริง แต่ผู้ใช้พลังเลเวล A ไม่มีความสามารถถึงขนาดนั้น พวกเขาทำได้เพียงดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านภาพดาวเทียม ตรวจสอบสถานการณ์ของพันธมิตรวู้ดแลนด์

 

ดาวเทียมจากทั่วโลก เบนหัวมายังทิศทางของพันธมิตรวู้ดแลนด์ พวกเขาเห็นฝูงตั๊กแตนแตกฮือลงจากท้องฟ้า บางส่วนตกลงในทุ่งล่า บางส่วนร่อนลงในเมืองของพันธมิตรวู้ดแลนด์โดยตรง จากนั้นกระพือปีก สร้างรอยแยกมิติขึ้นทุกหย่อมหญ้า

 

ไม่กี่อึดใจต่อมา สัตว์ร้ายได้คืบคลานออกจากหนึ่งในรอยแยกมิติ มันมีความสูงกว่า 20 เมตร ลักษณะคล้ายเป็นเผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญา

 

เป็นสิ่งมีชีวิตเผ่ายักษ์ลาวา!

 

“ใครกันที่บังอาจเปิดรอยแยกมิติในพระราชวังของบิดา!!”

 

ยักษ์ลาวาคำรามด้วยความโกรธ

 

ฝั่งตั๊กแตนมิติ หลังจาเปิดรอยแยกมิติแล้ว และเมื่อเห็นเผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญามาถึง พวกมันก็เตลิดหนีไป ทิ้งมนุษย์ที่กำลังตื่นตระหนกไว้เบื้องหลัง

 

ยักษ์ลาวาเมื่อหาศัตรูไม่เจอ ก็กระทืบเท้าด้วยความโกรธ ตึกรามในสถานชุมชนพังทลายลงพร้อมกับมัน คนธรรมดาร่ำไห้ ไม่มีความสามารถที่จะต่อต้าน ผู้ใช้พลังวิ่งหนีไปทุกทิศทาง ความแข็งแกร่งของพวกเขาต่ำเกินไป จะรับมือยักษ์ลาวาที่มีความแข็งแกร่งในเลเวล A ได้อย่างไร?

 

และฉากคล้ายคลึงกันนี้ ปัจจุบันเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า ดินแดนกว่าครึ่งของพันธมิตรวู้ดแลนด์ ล่มสลายลง

 

สมาชิกของพันธมิตรวู้ดแลนด์ ติดต่อขอความช่วยเหลือจากทั่วทุกมุมโลก

 

ฉินเฟิงคลิกหมายเลขสื่อสารของหลงถิง แต่เขารู้ว่าเวลานี้หลงถิงกำลังยุ่งมาก ดังนั้นบันทึกคำพูดส่งเป็นข้อความออกไป

 

“ท่านผู้นำหลิงถิง ผมต้องการเข้าสนับสนุนพันธมิตรวู้ดแลนด์ ตั๊กแตนมิติพวกนี้ จะต้องถูกฆ่านอกพรมแดนของพันธมิตรหัวเซี่ย!”

 

คำพูดของฉินเฟิงฟังดูชอบธรรมยิ่ง ทั้งๆที่ในความเป็นจริง เขาทราบดีแก่ใจ ว่าตนไปเพราะหมายคว้าโอกาสในการยกระดับ

 

สัตว์ร้ายพวกนี้ น่าจะเพียงพอให้ความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขาก้าวสู่เลเวล A3 !

 

ไม่นาน หลงถิงก็ตอบข้อความกลับมา

 

“ฉันอนุมัติ!”

 

คำที่ฉินเฟิงต้องการ ได้รับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!