4/4

 

Ep.896 – เจ้าของมือกระดูก

 

นับแต่ก่อตั้งสถานชุมชนเฟิงหลีจนถึงทุกวันนี้ ผ่านมาแล้วเกือบสี่ปี ตั้งแต่แรกเริ่มฉินเฟิงกลายเป็นผู้ว่าการเขต พัฒนาสถานชุมชนเฟิงหลีอย่างต่อเนื่อง ทำกระทั่งเปิดสาขาตลาดมืด สถานที่แห่งนี้เดิมเนืองแน่นไปด้วยผู้คน

 

แต่หลังจากฉินเฟิงจากไป ชาวชุมชนส่วนใหญ่ก็ออกตาม สถานชุมชนที่เคยรุ่งเรืองถูกปล่อยให้รกร้างว่างเปล่า จำนวนประชากรถดถอยลงอย่างรวดเร็ว จนปีนี้ยังไม่ค่อยฟื้นตัว

 

เรียกได้ว่าแทบไม่ต่างจากสถานชุมชนเฉิงเป่ย แค่ปรับปรุงอาคารให้ดูใหม่กว่าเล็กน้อย แต่จำนวนประชากร , ความแข็งแกร่งของผู้ใช้พลัง ยังคงอ่อนแอ

 

จึงไม่มีผู้ใดคิดฝันเลย ว่าสถานชุมชนธรรมดาสามัญเช่นนี้ วันหนึ่งจะปรากฏสิ่งเลวร้ายน่าสยดสยองขึ้น

 

บนภูเขาพ่อแม่ลูก รอยแยกมิติน่าหวาดกลัวได้เปิดออก กระแสกองทัพซากศพถูกปลุกจากนิทราอย่างต่อเนื่อง

 

ซากศพเน่าเปื่อย , อัศวินดำ , โครงกระดูกเพลิง ทยอยปรากฏขึ้นตัวแล้วตัวเล่า

 

สิ่งไม่มีชีวิตพวกนี้ เพียงเป่าลมหายใจวูบเดียว ก็สามารถทำลายสถานชุมชนได้แล้ว แต่บัดนี้ จำนวนของพวกมันกลับมีเกินกว่า 1,000 ตัวอย่างไม่คาดฝัน

 

แน่นอน ซากศพเหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นกองทัพที่ได้รับการฝึกอบรม พวกมันไม่ได้ไล่เข่นฆ่าไปทุกที่ แต่ยืนหยัดเป็นระเบียบเรียบร้อยบนภูเขาพ่อแม่ลูก มีเพียงซากศพเลเวล C สิบตัวเท่านั้นที่วิ่งลงจากเนินเขา กวาดล้างมนุษย์

 

“หนีเร็ว!”

 

“แม่จ๋า แม่อยู่ไหน!”

 

“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ปีศาจร้ายน่าหวาดกลัวเช่นนี้บุกเข้ามาได้อย่างไร?”

 

ชาวเมืองนับไม่ถ้วนกรีดร้องร่ำไห้ ซากศพเน่าเปื่อยเหล่านั้นไม่จำเป็นต้องออกล่าด้วยซ้ำ เพียงเดินทอดน่องอย่างไม่ใส่ใจ กระจายกลิ่นอายเน่าเปื่อยจากบนร่างของพวกมัน

 

“อ๊าาาา!!”

 

ผู้หญิงคนหนึ่งเผลอสูดดมกลิ่นเน่าเหม็นเข้าปอด เธอยังไม่ทันปิดปากปิดจมูก ดวงตาก็กลอกขึ้นเห็นแต่สีขาว ล้มพับสลบไป ร่างเธอถูกกัดกร่อน ผุพังอย่างรวดเร็ว จากนั้นลืมตา ภายในแววตาเหลือเพียงความขุ่นมัว ค่อยๆคืบคลานขึ้นมา ถูกเปลี่ยนร่างกลายเป็นซากศพเน่าเปื่อยระดับต่ำ

 

อักษรรูนมืดแพร่กระจาย เมืองทั้งเมืองถูกปกคลุมไปด้วยบรรยากาศแห่งความหวาดกลัว

 

ณ ขณะนี้ เหนือสุดของกองทัพซากศพ บนโครงกระดูกสัตว์ยักษ์สีขาวรูปทรงคล้ายช้าง ปรากฏชายหัวล้านคนหนึ่งนั่งอยู่บนหลังมัน

 

ชายคนนี้ผอมแห้งมาก ผอมหนังหุ้มกระดูก แต่น่าแปลกที่ไม่มีริ้วรอยเหี่ยวย่นบนผิวหนังเขาเลย ถ้าจะให้พูดกันตรงๆ สมควรกล่าวว่าผิวหนังพวกนี้น่าจะเป็นของปลอมมากกว่า เพราะมันแข็งทื่อไม่นุ่มนวล ราวกับว่าถูกสร้างมาจากกระดูก

 

มือของเขาเรียวบางมาก ขาวบริสุทธิ์ราวกับหยก แต่มีมือข้างหนึ่งที่เป็นสีฟ้า ไม่เข้าพวกกับส่วนอื่นๆของร่างกาย

 

ตอนนี้ กลิ่นอายของเขาปกคลุมไปทั่วเมืองเฟิงหลี แต่เห็นได้ชัดว่าเจ้าตัวไม่พบสิ่งที่ตนต้องการ

 

“ไปกันเถิด ไม่ใช่ที่นี่!”

 

“รับบัญชามหาจักรพรรดิ!”

 

หนึ่งในอัศวินดำข้างข้างกายจักรพรรดิมารกระดูกกล่าวอย่างนอบน้อม

 

ในที่สุดทหารซากศพก็เริ่มเคลื่อนทัพลงจากภูเขาพ่อแม่ลูก มนุษย์ที่เพิ่งถูกเปลี่ยนเป็นซากศพ และกระจายอยู่ทุกหนแห่ง ก้าวเข้ามารวมกลุ่ม ติดตามมหาจักรพรรดิมารกระดูก

 

“ช้าก่อน!”

 

ทันใดนั้นมหาจักรพรรดิมารกระดูกยกฝ่ามือขึ้นในอากาศ กองทัพซากศพเน่าเปื่อยชะงักทันที

 

ห่างออกไป 10 กิโลเมตร ช่องว่างมิติปรากฏขึ้น ฉินเฟิงไป๋หลีก้าวออกมา

 

พลังการรับรู้ของฉินเฟิงถูกปลดปล่อย แม้ระยะทางจะห่างไกลเป็น 10,000 เมตร แต่ฉินเฟิงก็ยังสัมผัสได้ทันทีถึงการดำรงอยู่อันน่าสยองขวัญนี้

 

และฝั่งมหาจักรพรรดิมารกระดูกเอง เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกถึงการปรากฏตัวของฉินเฟิงเช่นกัน

 

“เป็นเขาจริงๆด้วย!” ฉินเฟิงกล่าว

 

ได้ยินแบบนั้น พลังสมาธิของไป๋หลีกวาดไปหาอีกฝ่ายเช่นกัน เพื่อยืนยันตัวตน

 

ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ไป๋หลีเป็นเพียงสุนัขจิ้งจอกตัวเล็กๆ เป็นฝีมือเธอที่ปิดกั้นรอยแยกมิติ แต่เนื่องจากกลิ่นอายของมหาจักรพรรดิมารกระดูกรุนแรงเกินไป ดังนั้น จนถึงตอนนี้ ไป๋หลีเลยยังสามารถจดจำได้ไม่ลืม

 

“เป็นเจ้าของมือกระดูกข้างนั้น!”

 

ถูกต้อง มหาจักรพรรดิมารกระดูก คือคนๆเดียวกับที่กำลังควานหาศิลานรกในช่วงแรกๆ เวลานั้นฉินเฟิงแสนอ่อนแอ แต่ยังกล้าชิงอาหารจากปากเสือ จนได้รับศิลานรกมาในครอบครอง

 

แม้ว่าภายหลัง จะสูญเสียศิลานรกไปในการต่อสู้กับแซด แต่ฉินเฟิงไม่มีวันลืม

 

เขาไม่คิดเลย ว่าใช้เวลาไม่ถึงสี่ปี มหาจักรพรรดิมารกระดูกจะบุกมาปรากฏตัวถึงเบื้องหน้าตน!

 

พลังสมาธิของมหาจักรพรรดิมารกระดูกกวาดผ่านฉินเฟิง แต่ไม่คุ้นเคยกับกลิ่นอายของฉินเฟิง กระนั้น เมื่อเขากวาดผ่านไป๋หลี ก็สามารถจดจำได้ทันทีตั้งแต่แว่บแรก

 

“เป็นเจ้า!!!” มหาจักรพรรดิมารกระดูกเริ่มตื่นเต้น ดวงตาของเขากระพริบไหวทันใด เปลี่ยนเป็นเปลวไฟสีฟ้าครามสองดวง มันลุกไหม้ราวกับสามารถแผดเผาทุกสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้

 

มันสูญเสียมือไปเมื่อสี่ปีที่แล้ว ไม่เพียงแค่นั้น แต่ยังสูญเสียศิลานรกไปอีกด้วย สองเรื่องนี้ทำให้มหาจักรพรรดิมารกระดูกโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก แต่กำแพงอุปสรรคของมิติแห่งนี้เป็นเรื่องยากจะทำลาย เพราะสุดท้ายมีเพียงสิ่งมีชีวิตระดับต่ำสุดเท่านั้นที่สามารถเข้าออกโดยไม่ถูกปิดกั้น แม้เขาจะส่งพวกมันลงมา ทว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นก็ยังถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว ประจวบมหาจักรพรรดิมารกระดูกมีภารกิจอื่นที่ต้องทำ ดังนั้นกว่าทุกอย่างจะพร้อม เวลาล่วงเลยมาถึงจุดนี้

 

ฉินเฟิงไป๋หลี ในพริบตา เทเลพอร์ตมาถึงด้านหน้าของภูเขาพ่อแม่ลูก ทั้งคู่ยืนเด่นบนอากาศ ในระดับความสูงเดียวกันกับมหาจักรพรรดิมารกระดูก บนไหล่เขา สายตาของทั้งสองฝ่ายบรรจบกัน ทันใดนั้นเกิดชั้นพลังงานในอากาศ ก่อตัวเป็นจิตสังหาร

 

“จงมอบศิลาศักดิ์สิทธิ์แห่งความมืดมา แล้วข้าจะอนุโลมให้ศพเจ้าอยู่ในสภาพสมบูรณ์!” มหาจักรพรรดิมารกระดูกกล่าว

 

ฉินเฟิงตอบโต้เสียงทุ้มหม่น “ถ้าตอนนี้คุณยอมถอยกลับไปยังมิติที่จากมา ผมจะแสร้งทำเป็นไม่เห็นคุณ และจะยอมไว้ชีวิตคุณเช่นกัน!”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! –โอหัง!”

 

มหาจักรพรรดิมารกระดูกไม่รู้ว่าฉินเฟิงเป็นใคร ยิ่งไปกว่านั้นฉินเฟิงไม่มีกลิ่นอายของศิลานรกเลย มารกระดูกจึงคิดว่าฉินเฟิงแค่มาที่นี่เพื่อจัดการเขา หรือไม่ก็เป็นผู้ช่วยของจิ้งจอกน้อย

 

แต่ไม่ว่าจะกรณีใด ผู้ที่คิดหยุดเขา บทลงโทษคือความตาย!

 

“ฆ่ามันซะ!” มหาจักรพรรดิมารกระดูกชี้นิ้วออกไป อัศวินข้างกายเขาเริ่มกระตุกบังเหียน ม้าโครงกระดูกเบื้องล่างเริ่มตัว เสียงสายลมกรีดผ่านร่างมันฟังหวีดหวิว

 

ไม่เพียงแค่นั้น สี่กีบม้ายามควบวิ่งในอากาศ ปรากฏจิตวิญญาณแห่งไฟลุกโหม ใช้เวลาไม่กี่ลมหายใจ มันก็ทะยานมาถึงเบื้องหน้าของฉินเฟิง

 

อัศวินดำตนนี้ มีความแข็งแกร่งในเลเวล A4 ยังไม่พอ ระดับของมันยังเทียบเท่ากับสัตว์ร้ายระดับจักรพรรดิ

 

การดำรงอยู่ดังกล่าว สำหรับมนุษย์คนอื่นๆแล้ว น่าประหวั่นอย่างหาที่เปรียบมิได้ แต่สำหรับฉินเฟิง มันเป็นแค่การดำรงอยู่ที่เขาสามารถกำจัดได้ด้วยการปัดป่ายมือเพียงครั้งเดียว

 

แขนของฉินเฟิง ยกขึ้นเล็กน้อย ดวงดาราปรากฏขึ้นเบื้องหลังเขาในเวลาเดียวกัน

 

แสงวูบวาบสว่างไสว ราวกับดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ฉายพลังงานอันน่าสะพรึงกลัว ตัดผ่านความว่างเปล่า

 

ฟุฟฟฟฟ!

 

รังสีแสงตวัดผ่าน อัศวินดำระดับจักรพรรดิกรีดร้องน่าสังเวช

 

ซี่ ซี่ ซี่ ซี่!

 

เสมือนเปลวไฟระเหยก้อนน้ำแข็ง ร่างอัศวินดำละลายลงอย่างรวดเร็ว จากนั้น พลังงานน่าสะพรึงกลัวอีกชนิดหนึ่งร่วงหล่นลงจากฟากฟ้า

 

ฉินเฟิงควบคุมกำลังภายใน ประทับมันลงอย่างโหดเหี้ยม

 

บรึ้มมม!

 

เสมือนดาวเคราะห์ขนาดใหญ่เคลื่อนตกลงมา กองทัพซากศพล่มสลายลงในคราวเดียว บนเนินเขาพ่อแม่ลูก นอกเหนือจากมหาจักรพรรดิมารกระดูก ซากศพเน่าเปื่อยเลเวล C ทั้งหมดสลายหายไปในกลุ่มควัน

 

ฉินเฟิงไม่คิดเก็บสิ่งไม่มีชีวิตเหล่านี้ไว้ หากปล่อยหลุดไปหนึ่ง โอกาสเกิดการสังหารหมู่ขึ้นในเขตสามเฉิงเป็นไปได้สูงมาก

 

ขณะเดียวกัน มหาจักรพรรดิมารกระดูกไม่แม้จะเหลียวมองไปยังกองทัพซากศพที่หายไป เจ้าพวกนี้เขาสามารถอัญเชิญออกมาได้ตลอดเวลา พวกมันเป็นเพียงตัวรับกระสุนเท่านั้น

 

มหาจักรพรรดิมารกระดูกเพ่งเล็งฉินเฟิง จากนั้นยกสองมือขึ้น

 

คลิก คลิก คลิก คลิก

 

ช่วงเวลาต่อมา โครงกระดูกมหึมาปรากฏขึ้นบนอากาศบางเบา กรงเล็บแหลมโถมกดลงไปยังทิศทางของฉินเฟิง

 

หากเป็นช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ถ้าฉินเฟิงได้เห็นกรงเล็บกระดูกขนาดใหญ่เช่นนี้ เขาคงระมัดระวังตัว หวั่นเกรงว่ากรงเล็บกระดูกอาจทำให้เขาตกอยู่ในภาวะวิกฤต และการกลับมาเกิดใหม่อาจต้องสูญเปล่า

 

แต่ยามนี้ กรงเล็บกระดูกมหึมาเบื้องหน้า ในสายตาของฉินเฟิง มันช่างเปราะบางเหลือเกิน

 

ฉินเฟิงยกแขนข้างหนึ่ง ฝ่ามือหดเกร็งเป็นกำปั้น ง้างมันสุดแรง!